Chapter 8 หมูกะทะ

4154 Words
[ เธียร์ ] ผมขับรถกลับเข้าบ้านตัวเอง จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมตั้งใจจะออกไปดูร้านกาแฟของตัวเองเพราะวันนี้จะมีของมาลงที่ร้านเพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดร้านในอาทิตย์หน้า แล้วไอ้ธูร์มันก็ไม่ว่างเพราะมันต้องเข้าไปหาพ่อที่บริษัทเหมือนช่วงนี้พ่อจะมีงานอะไรให้มันช่วยทำ เห็นช่วงนี้มันเข้าบริษัทบ่อยๆ แต่กว่ามันจะยอมเข้าไปก็บ่นแล้วบ่นอีกจนผมรำคาญ แต่พอขับรถออกจากบ้านผมก็เห็นไอริณเดินอยู่ข้างทางผมจึงเปลี่ยนแผนโทรไปหาผู้จัดการร้านให้ช่วยดูงานวันนี้แทนส่วนตัวผมเองก็ไปอยู่กับไอริณแทน ไม่รู้หรอกครับว่าเธอจะไปไหนแต่แค่อยากไปส่ง ไหนๆ ก็ตั้งใจจะเดินหน้าแล้วเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยละกัน.... ผมเดินตลาดกับไอริณอยู่นานมากน่าจะประมาณเกือบสองชั่วโมงได้ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงเวลาได้ช้อปปิ้งไม่ว่าจะเป็นที่ไหนพวกเธอก็พร้อมที่จะลืมเวลากันไปเลยจริงๆ..... ผมเดินเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นใครเลยเดินขึ้นไปบนห้องนอนแทน ตั้งใจจะอาบน้ำด้วยก็ไอริณเล่นพาผมเดินซะรอบตลาดเลย ทำเอาผมเหงื่อชุ่มไปหมด “ไปไหนมาว่ะ?” ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับไอ้ธูร์ที่เดินเข้ามา ปกติพวกผมจะไม่ล็อคประตูห้องอยู่แล้วแต่ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะเคาะก่อนแต่กับพี่ชายผมมันไม่เคยเคาะเลย ทีหลังผมคงต้องล็อคประตูซะแล้วหละ “ไปซื้อของกับไอมา” ตอบมันไปพร้อมกับถอดเสื้อออกด้วย “มึงนี่มันร้าย รีบไปไหมว่ะ” มันว่ายิ้มๆ พร้อมกับเดินไปนั่งลงบนโซฟาชุดเล็กภายในห้องนอนของผม “เออ กูรีบ ช้าได้ไงหมารอคาบเพียบ” “ไอ้สัส ทีก่อนหน้านี้หละเล่นตัวมาตอนนี้เสือกหวงน้อง” ไอ้ธูร์ว่ายิ้มๆ “เรื่องของกู! แล้วมึงมีอะไรเข้ามาห้องกูทำไม” “เปล่า ก็กูกลับมาจากบริษัทแล้วไม่เห็นใครอยู่บ้าน คุณย่าก็ออกไปทำธุระกับไอ้องศา” “อ้าว องศามาด้วยเหรอ” “อื้ม...” “งั้นก็ดี วันนี้จะได้พามันไปเปิดตัวเลย กูไม่อยากโกหกไอไปนานกว่านี้เดี๋ยวมารู้เรื่องทีหลังจะโกรธเอาอีก อยากเคลียร์ทุกอย่างก่อนจะเดินหน้าจริงๆ จังๆ ซะที” “แล้วแต่มึงเลย แต่มึงแน่ใจนะว่าน้องจะไม่โกรธอ่ะถ้าบอกตอนนี้” “ไม่แน่ใจ.... แต่ถึงจะโกรธก็ไม่ได้โกรธกูคนเดียวป่าวมีมึงกับไอ้องศาด้วย ฮ่าๆ” “ไอ้สัส!!” “ฮ่าๆๆ .... เออ! น้ากิ่งฝากมาชวนเมิงไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะวันนี้เห็นว่าจะทำหมูกะทะกัน เห็นบอกว่าเพื่อนไอริณจะมาหาที่บ้าน” “อืม.... ก็ดีกูกำลังหิวเลย” “เออ!! มึงออกไปได้แล้วไปกูจะอาบน้ำ” “รีบไล่กูจัง!” ไอธูร์มองค้อนผมทีนึงแต่ผมไม่ได้สนใจมันก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควรแต่พอออกมาก็ไม่เห็นไอ้ธูร์แล้ว ผมจึงเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว จัดการแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปชั้นล่าง เห็นไอ้ธูร์กับไอ้องศากำลังนั่งคุยอยู่กับคุณย่าที่โซฟากลางบ้าน “อ้าวเฮีย หวัดดีครับ” องศาหันมามองผมพร้อมเอ่ยทักทายก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง “อืม” ผมก็ตอบมันไปแค่นั้น “เอาละสามหนุ่มคุยกันไปละกัน ย่าไปข้างบนละนะ” พอผมมาถึงคุณย่าก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนด้านบนพวกผมสามคนก็เลยต้องพาคุณย่าเดินขึ้นไปบนชั้นสอง... จริงๆ ผมกับไอ้ธูร์อยากให้คุณย่าย้ายลงมาอยู่ห้องด้านล่างเพราะไม่อยากให้ท่านเดินขึ้นลงบันไดกลัวจะเกิดอุบัติเหตุแต่คุณย่าไม่ยอม ท่านบอกว่าท่านชอบออกไปยืนรับลมตอนเช้าที่ระเบียงดังนั้นก็เลยไม่มีใครกล้าขัดใจท่าน แต่อีกหน่อยก็คงต้องบังคับกันนั่นแหละครับเพื่อความปลอดภัยของท่าน พอส่งคุณย่าเสร็จพวกผมก็พากันเดินลงมาชั้นล่างตามเดิม “องศาเย็นนี้มีไปไหนหรือเปล่า?” ผมหันไปถามองศาที่มันกำลังจะเล่นเกมส์อยู่กับไอ้ธูร์ “ไม่นะเฮีย มีไรป่าวครับ?” ตอบกลับผมแต่ตามันจ้องหน้าจอโทรศัพท์แบบไม่ละสายตาเลย “ดี! เย็นนี้ไปบ้านไอกัน” “ห๊ะ!!” สิ้นเสียงของผมไอ้องศาถึงกับตกใจอ้าปากค้าง คงเพราะมันกลัวไอริณจะโกรธถ้าเธอรู้ว่ามันรู้จักกับพวกผมและเป็นคนส่งข่าวของเธอให้ไอ้ธูร์กับผมรู้มาโดยตลอด “มึงจะตกใจทำไม?” ไอ้ธูร์เองก็ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมามองไอ้องศาหน้านิ่งๆ “ไม่ให้ตกใจได้ไง! ขืนผมไปด้วยมีหวังพี่ไอโกรธผมตายเรื่องที่ผมทำมาก่อนหน้านี้น่ะ” “มึงจะกลัวอะไร ถ้าไอจะโกรธก็โกรธไอ้เธียร์ด้วยไม่ได้โกรธมึงคนเดียว” ไอ้ธูร์ว่ายิ้มๆ แล้วหันมามองผม “ไอ้สัสมึงด้วย” ผมเองก็จ้องหน้ามันกลับเหมือนกัน แต่มันกลับหัวเราะไม่สนใจผมกับไอ้องศาพร้อมกับหันกลับไปสนใจเกมส์ในมือถือต่อ “ผมจะซวยเพราะพวกเฮียไหมเนี้ย” ไอ้องศาบ่นอุบอิบแต่ผมไม่สนใจมันพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นเกมส์กับพวกมันด้วย.... พวกผมนั่งเล่นเกมส์กันจนลืมเวลาเลยรู้ตัวอีกทีตอนที่ไอริณโทรมาจนผมต้องหลุดออกจากเกมส์แล้วยังโดนไอ้สองคนนี้ด่าอีกด้วยที่อยู่ๆ ก็ออกกลางคัน แต่พอผมโชว์เบอร์ที่โทรเข้ามาให้พวกมันดูพวกมันก็เงียบปากกันทันที “ว่าไง” “(พี่เธียร์แม่ให้โทรมาตามค่ะ)” เสียงใสของไอริณดังขึ้นมาจากปลายสาย “ไม่ได้อยากโทรมาตามพี่เองเหรอ” ขอกวนเธอหน่อยละกัน “(ใครอยากโทรค่ะ ถ้าแม่ไม่บังคับไอก็ไม่โทรหรอก)” “ครับๆ เดี๋ยวพี่เดี๋ยวนี้แหละ” ผมว่าพลางปรายตาไปมองไอ้สองคนที่นั่งยิ้มกรุ่งกริ่มมองผมอยู่ แต่ผมไม่สนใจพวกมันก่อนจะลุกเดินหนีออกจากบ้านพวกมันก็รีบวิ่งตามมาติดๆ “(ค่ะ งั้นแค่นี้นะค่ะ)” “ครับ” วางสายจากไอริณเสร็จก็พากันเดินไปบ้านข้างๆ ทันที ผม ไอ้ธูร์ ไอ้องศา เดินมาหยุดยืนหน้าประตูรั้วบ้านของไอริณ แต่จากที่อารมณ์ดีๆ ผมก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเพราะกลุ่มคนที่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่หน้าบ้านไม่ได้มีแค่ไอริณกับเพื่อนของเธอน่ะสิแต่ดันมีไอ้นาวิน รุ่นพี่ของไอริณที่คอยตามจีบเธออยู่ร่วมวงอยู่ด้วย “เอาแล้วไง....กูว่างานนี้มีเฮ” ไอ้ธูร์หันมองหน้าผมที่ตอนนี้บอกบุญไม่รับพร้อมยกยิ้มมุมปาก “ใจเย็นนะเฮีย พี่ไอไม่ได้ชอบหมอนั่นหรอก” ไอ้องศาก็ด้วยอีกคน “หึ!” แสยะยิ้มออกมาก่อนที่ไอ้ธูร์จะเป็นคนกดกริ่งจนกลุ่มคนที่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสหันมามองพวกเราเป็นตาเดียวและเป็นไอริณที่วิ่งเข้ามาหาก่อนจะเปิดประตูรั้วบ้านให้พร้อมกับจ้องหน้าองศานิ่งพลางคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันอย่างตั้งคำถาม “องศา.... แกมาได้ไง? แล้วทำไมถึงมากับพี่ธูร์พี่เธียร์ได้??” ใบหน้าหวานของเธอเต็มไปด้วยคำถาม ไอ้องศาก็หันมองหน้าผมทีหน้าไอ้ธูร์ที จนผมต้องตัดสินใจจับมือไอริณแล้วเดินเข้าบ้านแทนแต่เธอก็ไม่วายดุผม “พี่เธียร์หยุดเดี๋ยวนี้!! ไอยังคุยกับองศาไม่จบเลย” “เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังแต่ตอนนี้หิวมาก โอเคไหมครับ” “ไม่โอเคค่ะ” “แต่พี่โอเค ไปครับ” แล้วผมก็ตีมึนลากเธอเดินต่อไปจนถึงกลุ่มเพื่อนของเธอ “อ้าวธูร์ เธียร์ .... อ้าว! องศาก็มาด้วยเหรอ??... เอาเถอะมาๆ มานั่งกันตรงนี่สิลูก” น้ากิ่งแม่ของไอริณรีบลุกขึ้นแล้วจัดแจงให้พวกผมนั่งลงบนเสื่อที่ปูรอไว้อยู่แล้วแม้ท่านจะงงที่มีไอ้องศามาด้วยก็ตาม... ตรงหน้าของผมเป็นเตาหมูกระทะสามเตาเพราะคนค่อนข้างเยอะ ผมนั่งลงข้างไอริณถัดไปเป็นไอ้องศาส่วนไอ้ธูร์มันเลือกนั่งลงข้างๆ ผม พวกผมจัดแจงที่นั่งกันเรียบร้อยแต่สายตาอีกสามคู่กลับจ้องมองมายังพวกผมไม่เลิกจนไอริณต้องเป็นคนเอ่ยแนะนำออกไป “เออ...มะนาว แพรดาว... นี่พี่แฝด.. พี่ธูร์กับพี่เธียร์พี่ชายข้างบ้านของฉันเอง ที่พวกแกเห็นที่ร้านเหล้าวันนั้นน่ะ” “ค่ะ....สวัสดีค่ะพี่” ไอริณแนะนำพวกผมให้เพื่อนรู้จักส่วนเพื่อนของเธอก็พยักหน้าตอบรับ แต่ผมกับไอ้ธูร์มองหน้ากันเพราะจำไม่ได้ว่าเคยเจอสองสาวนี้ที่ไหน “ครับ” พวกผมตอบกลับสองสาวพร้อมกัน “พี่ธูร์ค่ะพี่เธียร์ค่ะ นี่มะนาวกับแพรดาวเพื่อนของไอเอง ส่วนพี่วินพวกพี่ก็รู้จักแล้วใช่ไหม” “ครับ” ผมกับไอ้ธูร์ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ไอ้นาวินมองผมกับไอ้ธูร์ไม่ละสายตาเลยคงเพราะผมนั่งข้างไอริณละมั้ง แต่ก็ดีจะได้รู้ซะทีว่าของๆ ใคร ...ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ผมก็หวง!... ท่าทางของผมทำให้ไอ้ธูร์กับไอ้องศาอมยิ้ม ไอริณเหมือนจะรู้ว่าบรรยากาศมันอึดอัดเธอเลยเลือกที่จะชวนทุกคนกินกันต่อ พวกผมเองก็ด้วย... ตลอดเวลาที่นั่งกินกันไปก็คุยกันไปแต่ส่วนมากจะเป็นเพื่อนของไอริณกับไอ้องศามากกว่าที่คุยกันผมกับไอ้ธูร์ได้แต่นั่งเงียบๆ ส่วนแม่ของไอริณกับป้าบัวก็เข้าไปทำของกินเพิ่มอยู่ในบ้านกัน “พี่จะเอาน้ำอะไรกันไหมค่ะ แต่งานนี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะค่ะเพราะไอโดนใบสั่งจากแม่ว่าห้ามดื่ม” ไอริณหันมาหาผมกับไอ้ธูร์ที่เงียบกันอยู่นานแล้วด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ผมเองก็พอจะรู้ว่าทำไมเธอถึงโดนห้ามก็คงเป็นเพราะเมื่อคืนแหละที่เธอเมาจนไม่มีสติ “สมควร!” ผมยักคิ้วให้เธอทีนึงพร้อมกับยกยิ้มให้ด้วย เธอเองก็ย่นจมูกใส่ผม “ของพี่เอาน้ำอะไรก็ได้ที่มันไม่หวานอ่ะ เพราะคนแถวนี้มันหวานอยู่แล้วกลัวจะเลี่ยนไปกว่าเดิม หึๆ” ไอ้ธูร์ได้ทีแซวผมทันทีแต่ไอริณกับทำหน้างง ผมจึงคว้ามือเธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปตรงโต๊ะที่มีถังน้ำแข็งกับน้ำอัดลมตั้งอยู่ ผมรู้ดีว่าการกระทำของผมมีนาวินจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่คนอย่างผมมีเหรอจะแคร์ “มีน้ำแดง น้ำเขียว น้ำส้ม น้ำโค้ก... พี่จะเอาน้ำอะไรดีค่ะ” ไอริณที่ตักน้ำแข็งใส่แก้วแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามผม “โค้กแล้วกันของไอ้ธูร์กับไอ้องศาด้วย” ไอ้ริณพยักหน้ารับก่อนจะเทน้ำอัดลมใส่แก้วโดยมีผมช่วยอยู่ข้างๆ “ไม่เห็นบอกเลยว่าไอ้หมอนั่นจะมาด้วย” ผมพูดเสียงเรียบ ไอริณชะงักมือไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมอีกครั้ง “พี่วินน่ะเหรอค่ะ? พอดีเขามาเอาคุกกี้ที่สั่งไว้น่ะค่ะ แม่ก็เลยชวนพี่เขาให้อยู่กินด้วยกัน” “งั้นเหรอ มันมาบ่อยสินะ” “แล้วพี่เป็นอะไร? ทำไมทำหน้าบอกบุญไม่รับแบบนี้อีกแล้ว?” คนตรงหน้าทำหน้างง ไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่ “หึ!” ผมรู้ว่าตัวเองกำลังหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ “ไม่ต้องมาทำหน้าดุใส่ไอเลย เรื่ององศายังไม่เคลียร์เลยนะค่ะ สรุปพวกพี่ไปรู้จักกับองศาได้ไง?” ไอริณเปลี่ยนเรื่องหันมาคาดคั้นผมเรื่องของไอ้องศาแทน “ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง” ว่าแล้วผมก็หยิบแก้วของผมกับไอ้ธูร์แล้วเดินกลับไปยังกลุ่มคนตรงหน้าทันที ไอรินเองก็เดินตามมาติดๆ แต่หน้าของเธอตอนนี้ก็บอกบุญไม่รับเหมือนกับผมนั่นแหละครับ คงโกรธผมแหละผมดูออก หึๆ นั่งกินกันไปนานพอสมควรผมกับไอ้ธูร์อิ่มก่อนคนแรกเพราะมันไม่ใช่ทางของพวกผมสักเท่าไรแต่ที่ยอมมานั่งอยู่ตรงนี้ก็เพราะอยากอยู่ใกล้ๆ คนข้างๆ นี่แหละครับ “พี่ธูร์กับพี่เธียร์ อิ่มแล้วเหรอค่ะ?” เพื่อนของไอริณที่ชื่อแพรดาวเอ่ยถามพวกผมพร้อมรอยยิ้ม “ครับ” ไอ้ธูร์ยิ้มตอบออกไป เธอเองก็ยิ้มตอบกลับมา ส่วนผมนั่งแกะกุ้งให้คนข้างๆ อยู่ ไอริณเธอชอบกินกุ้งมากแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะขี้เกียจแกะเพราะผมเห็นเธอแย่งกุ้งที่แกะแล้วจากจานของไอ้องศามาหลายตัวแล้ว ไอ้องศาเองก็บ่นอุบอิบจนผมต้องอาสาแกะให้เธอเอง “ว่าแต่วันนี้พี่ไม่เห็นน้องไอที่มหาลัยเลย เห็นมะนาวบอกว่าไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” นาวินที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับไอริณเอ่ยถามออกมา “ไม่ได้เป็นไรมากค่ะ แค่ไม่สบายนิดหน่อยเอง” ยิ้มหวานเชียวครับ ไม่เคยเห็นยิ้มแบบนี้ให้ผมเลย... จริงๆ ไม่ใช่ไม่สบายหรอกแต่คงจะแฮงค์ไปเรียนไม่ไหวมากกว่า “พี่ก็คิดว่าเป็นอะไรมากซะอีก ปกติเห็นเราไม่เคยขาดเรียน” นาวินยังคงชวนไอริณคุยพร้อมรอยยิ้มและสายตาหวานซึ้งจนผมถึงกับแสยะยิ้มออกมา แล้วคนข้างๆ ก็ดันยิ้มตอบเขาอีกต่างหาก “ไอริณมันอึดค่ะพี่วินมันไม่เป็นอะไรหรอก ฮ่าๆ” เพื่อนที่ชื่อมะนาวเอ่ยออกมาอีกคน จากนั้นไอริณกับเพื่อนก็พูดคุยกันไปเรื่อย “กลับไหมมึง” ไอ้ธูร์ที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่นานกระซิบถามผมเบาๆ “ยัง ขอกูดูอะไรอีกสักพักก่อน” ผมตอบกลับมันไปเสียงเรียบ แต่จู่ๆ นาวินก็หันมามองหน้าผมพร้อมกับคำถาม “พวกพี่รู้จักกับน้องไอมานานแล้วเหรอครับไม่เห็นน้องไอเคยเล่าให้ฟังเลย” คำพูดของคนตรงหน้าเหมือนกับพยายามบอกเป็นนัยๆ ว่าตัวเองสนิทกับไอริณประมาณหนึ่ง ผมปรายตาไปมองไอริณทันทีก่อนจะตอบออกไป “นานพอที่จะรู้ว่าน้องชอบอะไร.... ไม่ชอบอะไร” ท้ายๆ ประโยคผมเน้นคำพร้อมกับจ้องหน้าหมอนี่ไปด้วย หมอนี่เองมันก็นิ่งไป “งั้นเหรอครับ แล้วพี่รู้เหรอครับว่าน้องไอชอบอะไร” “เรื่องนี้คงไม่ต้องตอบหรอกมั้งครับ” ผมว่าพลางเอื้อมมือข้างหนึ่งไปโอบเอวของไอริณไว้หลวมๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สังเกตุเลยเพราะมัวแต่คุยกับเพื่อนอยู่ นาวินมองต่ำลงบริเวณเอวของไอริณที่มีมือผมกอดอยู่ก่อนจะยิ้มเจื่อน ผมกระชับกอดน้องให้แน่นขึ้นจนไอริณเหมือนจะรู้ตัวแล้วหันมามองผม “อะไรค่ะ??” เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามแต่คงยังไม่รู้สึกถึงแรงกอดของผม “เปล่า จะถามว่าอิ่มหรือยังพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมชิงตัดบททันทีเพราะนี่มันก็จะสามทุ่มอยู่แล้ว ขี้เกียจนั่งปั้นหน้าจะแย่ “ค่ะ... อิ่มแล้ว เออ! ไอมีอะไรให้พวกพี่ด้วยนะ รอแป๊ปนะค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน “เห็นไอริณมันบอกว่าพวกพี่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเหรอค่ะ พวกพี่ไปเรียนต่อกันมาเหรอค่ะ?” มะนาวเอ่ยถามขึ้น เพื่อนของไอริณคนนี้ดูเป็นคนพูดเก่งไม่เหมือนกับอีกคนที่ดูพูดน้อยแล้วก็เอาแต่มองหน้าผมยิ้มๆ “ครับ พวกพี่ไปเรียนต่อที่อังกฤษน่ะครับ” เป็นไอ้ธูร์ที่ตอบออกไป “โหหห ดีจัง หนูเองก็อยากไปเรียนต่อต่างประเทศบ้าง จะได้มีประสบการณ์ชีวิตเยอะๆ... ว่าแต่หนุ่มๆ ที่นู่นหล่อไหมพี่ ฮ่าๆ” มะนาวยิ้มกรุ่มกริ่มแต่มันก็เรียกเสียงหัวเราะจากไอ้ธูร์กับไอ้องศาได้เป็นอย่างดี “ผู้ชายพี่ไม่รู้ แต่สาวๆ อ่ะน่ารักเยอะครับ” ไอ้ธูร์เหมือนจะเข้ากันได้ดีกับมะนาว “สรุปอยากไปเรียนหรืออยากไปหาผู้ชายพี่นาวเอาดีๆ” ไอ้องศาพูดกลั่วขำมองหน้ามะนาว เธอเองก็ยักคิ้วยิ้มกรุ่มกริ่มเป็นคำตอบ... จากนั้นพวกนี้มันพากันคุยเสียงดังดูเหมือนไอ้ธูร์จะสนุกกับเพื่อนของไอริณเข้าแล้ว เพราะปกติผมไม่เห็นมันพูดเยอะแบบนี้ มะนาวนี่ปลดล็อคคำพูดมันเลยนะ... ไม่นานไอริณกับน้ากิ่งแล้วก็ป้าบัวก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับยกอะไรบางอย่างออกมาด้วย พอเดินมาใกล้ๆ ก็เห็นว่าเป็นเค้กสีสวยที่ถูกตัดแบ่งเป็นชิ้นสามเหลี่ยมกับคุกกี้เนยที่อยู่ในถาด แต่ในมือของไอริณกลับมีกล่องใสที่บรรจุเค้กช็อกโกแลตหนึ่งก้อนขนาดไม่ได้ใหญ่นักตกแต่งด้วยสตรอร์เบอร์รี่อยู่ด้านบนพร้อมกับถุงกระดาษอีกหนึ่งใบซึ่งผมไม่รู้ว่าด้านในนั้นคืออะไร “เด็กๆ ทานของหวานกันจ้ะ” น้ากิ่งยื่นถาดที่มีจากเล็กใส่เค้กสีสวยกับคุกกี้ไปให้พวกเพื่อนของไอริณ พวกสาวๆ ก็พากันหยิบเค้กสีสวยส่วนผู้ชายก็หยิบคุกกี้แทน ส่วนผมกับไอ้ธูร์ไม่ได้หยิบอะไรเพราะยังรู้สึกอิ่มกันอยู่ จนไอริณนั่งลงข้างๆ ผมเหมือนเดิมพร้อมกับยิ้มหวานแล้วยื่นกล่องเค้กช็อกโกแลตผ่านหน้าผมไปให้ไอ้ธูร์ “พี่ธูร์ค่ะ นี่ค่ะขนมที่ไอสัญญาว่าจะทำให้ตอนพี่กลับมาไทย” “ขอบคุณครับ พี่คิดว่าเราจะลืมไปแล้วซะอีก” ไอ้ธูร์ยิ้มตอบกลับ ผมเองก็รู้ครับว่าสองคนนี้มีสัญญาอะไรกันไว้ผมเลยไม่ได้อะไรมาก จนไอริณหันกลับมาจ้องหน้าผมก่อนจะยื่นถุงกระดาษในมือมาให้ “อันนี้ของพี่ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจทำหรอกนะค่ะ แต่แม่บังคับ” เธอพูดพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย ผมเองก็รับมายิ้มๆ ด้านในถุงกระดาษเป็นกล่องคุกกี้ใสที่บรรจุคุกกี้อัลมอนด์ของโปรดของผมไว้จนเต็มกล่อง พอเห็นแบบนั้นผมก็ยกมือขึ้นขยี้ผมของเธอเบาๆ “พี่ต้องขอบคุณน้ากิ่งสินะที่บังคับเราอ่ะ หืม” “แล้วแต่พี่เลยค่ะ!” ค้อนใส่ผมนิดนึง ท่าทางของเธอเรียกรอยยิ้มจากผมได้เป็นอย่างดี “แล้วของน้ององศาไม่มีเหรอครับ” จู่ๆ ไอ้องศาก็พูดแทรกบทสนทนาขึ้นมา ไอริณค่อยๆ ปรายตาไปมองมันก่อนจะพูดเสียงเรียบเฉย “มีแน่ครับ ของน้ององศาจุกๆ เลยหละ รอแป๊ปนะครับ” “โหหห! ผมกลับก่อนได้ไหม” ไอ้องศาที่เห็นรอยยิ้มเย็นเหยียบของไอริณถึงกับขอตัวกลับก่อน “นั่งอยู่เฉยๆ เลย ไอ้ตัวดี!” “ครับๆ” ดูองศามันจะเกรงใจไอริณอยู่ไม่น้อยและเหมือนทั้งคู่จะสนิทกันมาก “เออ งั้นพวกฉันกลับก่อนนะพรุ่งนี้มีเรียนเช้าแกอย่าตื่นสายน่ะเว้ย” มะนาวพูดขึ้นมาพลางมองหน้าไอริณด้วย “แล้วจะกลับยังไงเดี๋ยวฉันกับแม่ไปส่งดีกว่า” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งสองสาวนี้เอง” นาวินพูดพลางยันตัวลุกขึ้น จากนั้นไอริณกับเพื่อนก็ลุกเดินออกไปทางหน้าบ้านพร้อมกับนาวิน ส่วนพวกผมนั่งรอกันอยู่ที่เดิม เห็นพวกนั่นร่ำลากันอยู่สักพักก่อนที่จะขับรถออกไป... ไอริณเดินกลับมานั่งลงตรงข้ามผมพร้อมกับจ้องหน้าผมสลับกับไอ้องศาไปมา แต่ไหงไอ้ธูร์รอดอยู่คนเดียว? “มีอะไรจะบอกไอไหมค่ะ?” เธอจ้องหน้าผมนิ่ง “ไอ้ธูร์มึงอธิบายสิ” “อ้าว ทำไมเป็นกูหละ?” ผมไม่ปล่อยให้มันรอดคนเดียวหรอกครับ ไอริณยังคงนั่งนิ่ง “เออๆ คืองี้ครับน้องไอ... ไอ้องศามันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพวกพี่ครับ แล้วมันก็เป็นคนส่งข่าวคราวเรื่องของเราให้พวกพี่ได้รู้ตลอดเวลาที่พวกพี่อยู่ต่างประเทศน่ะ” ไอ้ธูร์เริ่มอธิบายเสียงเรียบแต่ไอริณกลับนิ่ง จนผมต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วช่วยไอ้ธูร์อีกคน “โกรธเหรอ?” ลองหยั่งเชิงถามไปก่อนเพราะดูเธอนิ่งจนหน้ากลัว “ไม่ได้โกรธค่ะ แต่แค่คิดว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไรที่มีแต่พวกพี่ที่รู้เรื่องของไอ แต่ไอกลับไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพวกพี่ จะรู้ก็แต่เรื่องของพี่ธูร์ แต่กับพี่...... ช่างมันเถอะค่ะ” ไอริณหันมามองผมนิดหน่อยเหมือนจะตัดพ้อเรื่องของผมแต่เธอก็เลือกที่จะหยุดพูดแล้วหันไปมองหน้าองศาที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ เธอ องศาพอเห็นไอริณมองตัวเองมันถึงกับถอยหลังหนีเลย “อย่ามองผมแบบนี้ครับ ผมทำตามที่เฮียสั่ง ฉะนั้นน้ององศาไม่ผิดครับ” มันว่าพลางส่ายหน้าไปมา “ตัวดีเลยแกน่ะ ทีหลังฉันจะไม่ช่วยแกเรื่องผู้หญิงของแกอีกแล้ว!!” “โหหห... อย่าใจร้ายกับน้ององศานักเลยครับ” ไอ้องศาทำท่าทางออดอ้อนได้น่าถีบมาก “ชิ!!” “อย่าโกรธมันเลยครับ พวกพี่แค่อยากรู้เรื่องของเราเท่านั้นเอง เพราะถ้าถามตรงๆ เราก็คงไม่ยอมบอก... จริงไหมครับ?” ไอ้ธูร์เอ่ยขึ้นมาแต่ก็ทำให้ไอริณนิ่งไป เธอนั่งนิ่งเหมือนใช้ความคิด “ค่ะ.... ไอไม่โกรธหรอกค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้วนี่ค่ะ” เธอยิ้มบางๆ ให้ไอ้ธูร์ แต่พอมองหน้าผมกลับหุบยิ้ม ผมเองก็พอเข้าใจแหละครับว่าทำไม “เอาหละไหนๆ ก็เข้าใจกันแล้ว งั้นเรามาช่วยกันเก็บของเหอะ ผมง่วงอยากกลับบ้านแล้ว” ไอ้องศาพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นยืน พวกผมเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับมันก่อนจะช่วยไอริณเก็บของจนเสร็จ จากนั้นไอริณก็เดินมาส่งพวกผมที่หน้าบ้าน ไอ้ธูร์กับไอ้องศาเดินนำกลับบ้านไปก่อนแต่ผมยังหยุดยืนมองหน้าไอริณ เธอเองก็มองหน้าผมงงๆ “ไม่กลับบ้านเหรอค่ะ? พี่ธูร์กับองศากลับไปแล้วนะ” “บ้านพี่อยู่แค่นี้เองปล่อยพวกมันกลับไปก่อนพี่ไม่หลงหรอก” ว่ายิ้มๆ ให้เธอพร้อมกับจ้องหน้าเธอไปด้วย “ยิ้มอะไรค่ะ?” ไอริณเหมือนสังเกตุเห็นผมที่เอาแต่ยิ้ม “ขอบคุณสำหรับคุกกี้นะ” “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ก็บอกแล้วไงค่ะว่าแม่บังคับให้ทำ” เธอว่าพลางเบือนหน้าไปทางอื่นเหมือนกำลังเขิน “งั้นเหรอ... งั้นพี่กลับละนะ... ฝันดีนะครับ” “ค่ะ.... ฝันดีค่ะ” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะเดินออกมา แอบเห็นไอริณฉีกยิ้มกว้างเชียว ตั้งแต่กลับมาเพิ่งจะเห็นเธอยิ้มกว้างให้ผมครั้งนี้ครั้งแรกเลย มันคงเป็นสัญญาณที่ดีสินะสำหรับการเดินหน้าครั้งนี้ของผม และผมก็หวังว่าเธอจะยังมีรอยยิ้มแบบนี้ให้ผมตลอดไป.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD