bc

รักร้ายพี่ชายข้างบ้าน Nc 20+

book_age18+
3.8K
FOLLOW
17.3K
READ
family
HE
forced
goodgirl
bxg
kicking
campus
like
intro-logo
Blurb

‘ความรัก’ มักเดินทางมาพร้อมกับ ‘ความไม่รู้’ และเพราะความไม่รู้ที่ยากจะเข้าใจได้นั่นแหละที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยามที่เราตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก... จุดเริ่มต้นความรักของคนเราในหลายๆ ความสัมพันธ์ผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายอาจจะสมหวังหรืออาจจะผิดหวังก็ได้... แต่สำหรับฉันมันยังไม่ทันได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป............

chap-preview
Free preview
Chapter 1 จุดเริ่มต้น
‘ความรัก’ มักเดินทางมาพร้อมกับ ‘ความไม่รู้’ และเพราะความไม่รู้ที่ยากจะเข้าใจได้นั่นแหละที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยามที่เราตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก...  จุดเริ่มต้นความรักของคนเราในหลายๆ ความสัมพันธ์ผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายอาจจะสมหวังหรืออาจจะผิดหวังก็ได้...  แต่สำหรับฉันมันยังไม่ทันได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป....                                 ช่วงที่ฉันเรียนอยู่ ม.4 ในวัย 16 ปี ฉันเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองตกหลุมรักพี่ชายข้างบ้านเข้าให้อย่างที่ถอนตัวไม่ขึ้นเลยหละ แต่จริงๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกรักเขาตั้งแต่เด็กแล้วด้วยซ้ำไป แต่คงเพราะในตอนนั้นฉันยังเด็กมากก็เลยไม่ค่อยเข้าใจในความรู้สึกนั้นสักเท่าไร แต่พอรู้ตัวว่ารัก...ทุกอย่างกลับสายไปเพราะพี่เขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ...                บ้านของฉันกับพี่เขาอยู่ติดกันเพียงแค่กำแพงกั้น แต่บ้านของพวกเรานั้นกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง... บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดกับบ้านของฉันนั้นมีกำแพงสูงจนไม่สามารถมองเห็นอีกฝั่งหนึ่งได้จากด้านล่างแต่ก็ยังมองเห็นได้บ้างถ้าอยู่ชั้นสองน่ะนะ ส่วนบ้านของฉันเป็นเพียงบ้านสองชั้นธรรมดาๆ เท่านั้น ฉันมักแอบมองพี่เขาจากระเบียงหลังห้องเสมอ เพราะว่าห้องของพี่เขากับห้องของฉันอยู่ฝั่งเดียวกับกำแพง พี่เขามักออกมายืนรับลมหลังห้องของตัวเองส่วนฉันก็ออกไปตากผ้าหรือนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียงเป็นประจำ จากกิจวัตที่ทำเป็นประจำอยู่ในทุกๆ วัน... จากที่ไม่คิดอะไร จนเกิดเป็นความชอบและกลายเป็นความรักในที่สุด....                 พี่เธียร์ คือชื่อของเขาคนที่ฉันแอบรัก พี่เธียร์มีฝาแฝดชื่อว่าพี่ธูร์ พี่เธียร์เขาเป็นแฝดน้องส่วนพี่ธูร์เป็นแฝดพี่ แรกๆ ฉันก็แยกพวกเขาไม่ออกแต่เพราะพวกเราอยู่บ้านติดกันตั้งแต่เด็กแถมเจอกันบ่อยๆ และค่อนข้างสนิทกันเพราะคุณย่าของพี่เขามักจะชอบทำขนมแล้วเอาฝากฉันกับแม่เป็นประจำและพวกพี่เขาก็จะตามคุณย่ามาด้วยเสมอจนทำให้ฉันเริ่มแยกพวกเขาออกในที่สุด                พี่เธียร์ เป็นคนเงียบๆ ติดจะเย็นชาแต่เขาก็มักจะมีรอยยิ้มอบอุ่นให้ฉันเสมอ ต่างจากพี่ธูร์ที่ยิ้มเก่ง พูดเก่ง อารมณ์ดีแถมยังใจดีกับฉันเสมออีกด้วย... ในวันที่พวกเขาต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศตอนนั้นฉันเพิ่งจะขึ้นม.ปลายมีเพียงพี่ธูร์เท่านั้นที่เดินมาบอกลาฉันที่บ้านส่วนพี่เธียร์เขาหายเงียบไปเลย ไม่มีคำลาใดๆ ทั้งสิ้น ฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้จากไปโดยไม่ลาอะไรสักคำ ตอนนั้นฉันเฝ้าคิดถึงเขาอยู่ทุกวันและพร่ำบอกตัวเองทุกวันว่าให้เลิกรักผู้ชายใจร้ายอย่างเขาได้แล้ว....                 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมา 6 ปีแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทลัยปี 3 คณะบริหารธุรกิจ เออ...ลืมแนะนำตัวเองไปเลย ฉันชื่อ ไอริณ ค่ะ อายุ 21 ปีเต็ม ผิวขาวส่วนสูง 160ซม. ก็ไม่จัดว่าเตี้ยนะ ถึงแม้ว่าพี่ชายของฉัน พี่อาร์ต มักจะบอกว่าฉันเตี้ยก็เหอะ แต่ก็นะ...ก็พี่ชายฉันน่ะตัวสูง 180ซม. ได้มั้งก็เลยชอบข่มฉันอยู่บ่อยๆ แต่ฉันก็ว่าฉันน่ะมาตรฐานหญิงไทยอยู่นะ ฉันอยู่กรุงเทพฯ กับแม่แล้วก็ป้าบัวซึ่งเป็นแม่บ้านที่ตามแม่ฉันมาจากเชียงใหม่ ก่อนหน้าที่ฉันจะเข้ามหาวิทยาลัยพี่อาร์ตก็อยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันนี่แหละค่ะ แต่พอพี่ชายเรียนจบก็เลยกลับไปอยู่เชียงใหม่กับพ่อเพื่อช่วยพ่อดูไร่สตรอว์เบอร์รี่และสวนผลไม้ของครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเราเด็กๆ ครอบครัวเราก็อยู่กันพร้อมหน้าที่กรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ จนเมื่อหลายปีก่อนคุณปู่ของฉันเสีย พ่อก็เลยต้องกลับไปดูแลไร่ต่อจากท่านส่วนแม่ท่านเลือกที่จะอยู่กรุงเทพฯ กับลูกๆ แทนแต่แม่ก็บินไปเชียงใหม่แทบทุกอาทิตย์เพียงเพราะพ่อบอกว่าคิดถึง เป็นไงหละพ่อแม่ฉันหวานกันไม่เกรงใจลูกเลย   ส่วนพี่อาร์ตพอกลับไปอยู่เชียงใหม่แล้วก็นานๆ ทีถึงจะลงมาเยี่ยมฉันที่กรุงเทพฯ แต่จะว่ามาเยี่ยมก็ไม่ถูกเพราะดูท่าจะมาเที่ยวหาเพื่อนของพี่เขามากกว่าเพราะแทบอยู่ไม่ติดบ้านเลยจนโดนแม่บ่นเป็นประจำ....  และนี่แหละค่ะคือเรื่องราวเริ่มต้นความรักของฉัน ความรักที่จบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม.... “ไอลูก! สายแล้วนะไม่ไปเรียนหรือไง?” เสียงแม่ตะโกนขึ้นมาเรียกฉันที่ยังแต่งตัวโอ้เอ้อยู่ในห้องนอน “ค่ะแม่ เสร็จแล้วคร้า” ฉันคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กพร้อมกับกระเป๋าผ้าที่มีหนังสือเรียนของวันนี้แล้วรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง พอลงมาถึงก็เห็นแม่กำลังเตรียมอาหารเช้ารอไว้อยู่แล้วพร้อมกับป้าบัวที่กำลังวุ่นกันอยู่ในครัวกับแม่ด้วย “หอมจังค่ะ วันนี้มีอะไรกินค่ะ” วางของไว้ด้านนอกก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวภายในห้องครัว “ข้าวต้มกุ้งค่ะลูกสาว” แม่หันมายิ้มให้พร้อมกับวางชามข้าวต้มลงตรงหน้าฉัน “ขอบคุณค่ะ แล้วนี่กำลังจะทำขนมกันเหรอค่ะ?” ฉันเองก็ฉีกยิ้มกว้างให้ท่านก่อนจะจัดการกับอาหารเช้าตรงหน้า  “ใช่ วันนี้แม่มีออร์เดอร์ที่ต้องส่งช่วงบ่ายนิดหน่อยน่ะ” แม่ฉันอยู่บ้านเฉยๆ ไม่เป็นหรอกค่ะ ตอนนี้ท่านมีอาชีพเสริมหรือจะเรียกว่างานอดิเรกก็ได้คือการทำขนมขาย เป็นพวกขนมอบซะส่วนใหญ่โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นพวกผลไม้สดและอบแห้งที่ส่งตรงจากไร่ของครอบครัวฉันที่เชียงใหม่ แต่ว่าเราไม่มีหน้าร้านหรอกนะค่ะเน้นขายในเพจในไอจีเท่านั้น ทำตามออเดอร์ที่สั่งจองล่วงหน้า ส่วนฉันก็มีบ้างที่ช่วยเป็นลูกมือถ้าว่างจากการเรียนและจากการบ้าน   พอกินข้าวเช้าเสร็จฉันก็ออกจากบ้านตรงไปมหาวิทยาลัยทันที  ฉันเลือกเดินทางด้วยรถประจำทาง จริงๆ ที่บ้านก็มีรถให้ใช้แต่เพราะฉันขับรถไม่แข็งเลยเลือกใช้รถสาธารณะแทน พอมาถึงมหาลัยเดินเข้าตึกคณะก็เห็นเพื่อนสาวนั่งรออยู่แล้ว “ไอ!! ทางนี้!!” มะนาว เพื่อนสาวสุดแซ่บของฉันกำลังนั่งเม้าท์มอยอยู่กับ แพรดาว เพื่อนรักของฉันอีกคนอยู่ใต้ตึกคณะ พอพวกนั้นเห็นฉันก็พากันโบกไม้โบกมือเรียกทันที ฉันรีบก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปหาพวกมันก่อนจะนั่งลงข้างๆ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเรียนพวกเราเลยพากันนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย “ยังไงจร้า เมื่อวานเห็นพี่วินไปส่งบ้านไม่ใช่เหรอ? คบกันแล้วว่างั้น?” มะนาวเอียงคอมองฉันน้ำเสียงออกแนวแซวอย่างเห็นได้ชัด พี่วิน เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแห่งคณะวิศวะ พี่เขาอยู่ปี 4 แล้วและก็คอยตามห่วงใยฉันอยู่ตลอดแม้เจ้าตัวจะไม่เคยบอกว่าจีบหรือชอบก็เหอะแต่ฉันก็รู้จุดประสงค์ของเขาดี เขาเป็นผู้ชายอัธยาสัยดี ยิ้มเก่ง หน้าตาดีเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนมหาวิทยาลัยแต่ไม่ใช่กับฉันหรอกค่ะ เพราะฉันรู้ตัวดีว่าในใจของฉันมันมีใครบางคนอยู่ในนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะพยายามบอกตัวเองว่าลืมเขาได้แล้วก็ตาม.... ฉันส่ายหัวน้อยๆ เพื่อไล่ความคิดของตัวเองก่อนจะเอ่ยตอบเพื่อนรักไป “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ พี่เขาแค่แวะไปส่งเฉยๆ” “พี่เขาขยันหยอดเช้าหยอดเย็นขนาดนี้เมิงยังไม่ใจอ่อนอีกเหรอว่ะ? เขาตามจีบมาเป็นปีแล้วนะเว้ย  เป็นฉันนะยอมเป็นแฟนพี่เขาไปตั้งนานแล้วอ่ะ หล่อ นิสัยดี อบอุ่น ....น่ารักอ่ะ” มะนาวทำหน้าเพ้อฝันมือสองข้างกุมเข้าหากันพร้อมกับสายตาเปล่งประกาย “ให้มันน้อยๆ หน่อยเหอะน่าไอ้มะนาว” แพรดาวว่าพลางส่ายหัวไปมากับความบ้าผู้ชายของเพื่อน ฉันเองก็ขำท่าทางของมะนาวเหมือนกัน จากนั้นพวกเราก็พากันขึ้นเรียนเมื่อถึงเวลา...    วันนี้ฉันมีเรียนแค่สองวิชาแต่เป็นสองวิชาที่แสนจะมหาโหดทำเอาฉันแทบหมดพลัง เพราะเริ่มต้นคลาสตั้งแต่เก้าโมงเช้า กว่าจะจบคลาสสุดท้ายก็ปาเข้าไปบ่ายสี่โมงเย็นเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่ฉันที่หมดพลังมะนาวเองก็ด้วย มันโอดครวญทันทีที่หมดเวลาเรียน “โอ้ยยย งานเยอะอีกแล้ว ทำไมอาจารย์ชอบสั่งแต่รายงานนะ” คิ้วเรียวสวยของมะนาวย่นเข้าหากันทันทีเมื่อพูดถึงรายงานที่เพิ่งจะได้รับมอบหมายจากวิชาสุดท้ายที่เรียนของวันนี้ “ยังไม่ชินอีกรึไง” ฉันว่าพลางก้มมองดูเอกสารในมือไปด้วย                 ตอนนี้พวกเราพากันมานั่งอยู่ตรงโต๊ะใต้ต้นไม้ภายในลานกิจกรรมข้างตึกคณะเพราะพวกเรามีนัดกับน้องรหัสว่าจะเอาเอกสารเรื่องเรียนที่สรุปไว้รวมถึงแนวข้อสอบที่เคยได้รับมาตอนอยู่ปี 2 มาให้น้องๆ เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะสอบกลางภาคแล้ว ติ้ง!! แต่พอนั่งคุยกันไปสักพักระหว่างรอน้องรหัสเสียงข้อความไลน์ของฉันก็ดังขึ้น พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นเป็นข้อความของคนไกล ...พี่ธูร์... แฝดพี่ของพี่เธียร์ เขามักจะส่งข้อความมาคุยกับฉันเสมอ ตั้งแต่พวกพี่เขาไปเรียนต่อก็มีแต่พี่ธูร์นี่แหละที่ยังติดต่อหาฉันอยู่ตลอดไม่เหมือนกับแฝดน้องของเขาที่หายเข้ากลีบเมฆไปเลย พี่ธูร์มักจะส่งรูปสวยๆ ตามสถานที่ต่างๆ ที่พวกเขาไปเที่ยวกันแต่ส่วนใหญ่จะเป็นรูปวิวซะมากกว่า แต่ก็มีบ้างที่ส่งรูปของเขามาให้ดูและในเฟรมมักจะถ่ายติดพี่เธียร์จากด้านหลังมาด้วย พี่ธูร์คงตั้งใจถ่ายให้ฉันเห็นเขาด้วยนั่นแหละ  ฉันยังแอบคิดเลยว่าพี่ธูร์อาจจะรู้ว่าฉันคิดยังไงกับพี่เธียร์แต่ฉันก็ไม่เคยแสดงออกหรือบอกพวกเขาไปเลยสักครั้ง พี่ธูร์ : น้องไอ ทำอะไรอยู่ครับ ไอริณ : อยู่มหาวิทยาลัยค่ะ พี่ธูร์มีอะไรหรือเปล่าค่ะ? พี่ธูร์ : เปล่าครับแค่ถามเฉยๆ....  พี่ธูร์ : ไอ.... อีกอาทิตย์นึงพวกพี่จะกลับไทยแล้วนะครับ ฉันอ่านข้อความของพี่ธูร์แล้วนิ่งไป เพียงแค่ข้อความของพี่ธูร์ก็ทำเอาฉันใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ...พวกเขากำลังจะกลับมา...   พี่ธูร์ : เป็นอะไรทำไมเงียบไปหละครับ หรือไม่คิดถึงพวกพี่ หึๆ ไอริณ :  คิดถึงสิค่ะ... คิดถึงพี่ธูร์มากเลย อย่าลืมของฝากน้องนะค่ะ  ^_^ ส่งข้อความกลับไปพร้อมกับสติ๊กเกอร์ยิ้ม พี่ธูร์ : คิดถึงแค่พี่คนเดียวเหรอครับ? แล้วอีกคนหละ? ไอริณ : อีกคนไม่คิดถึงหรอกค่ะ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร... พิมพ์ตอบพี่ธูร์ไปแต่ใจก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาเหมือนกัน ...ทำไมจะจำไม่ได้หละ จำได้ดีเลยหละคนใจร้ายคนนั้นน่ะ... พี่ธูร์ : พี่จะพยายามเชื่อละกันนะครับ เอาไว้พี่จะซื้อของไปฝากนะ อยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม? ไอริณ : ถ้าพี่ซื้อของที่ไออยากได้มันก็ไม่เรียกว่าของฝากสิค่ะ ฮ่าๆ พี่ธูร์ : ก็จริง ฮ่าๆ  ....โอเคครับเดี๋ยวพี่ไปหาซื้อของฝากให้เราดีกว่า ไอริณ : ขอบคุณนะค่ะพี่ชาย ^_^ พี่ธูร์ : เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นทำขนมไว้รอพี่แทนได้ไหม ไอริณ : โอเคค่ะ ^_^ คุยกับพี่ธูร์เสร็จก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าพอดีกับที่น้องรหัสของพวกเราเดินมาถึงพอดี น้องรหัสของฉันเป็นผู้ชายค่ะชื่อว่า องศา  ส่วนน้องของพวกมะนาวกับแพรดาวเป็นน้องผู้หญิง องศาเป็นผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีจัดว่าหล่อเลยหละแต่นิสัยออกจะติดกวนๆ ไปซะหน่อยแต่รวมๆ แล้วก็น่ารักดี ฉันกับองศาเราค่อนข้างสนิทกันคุยกันได้ทุกเรื่องจนบางครั้งก็มีผู้หญิงที่ชอบหมอนี่เข้าใจผิดว่าพวกเราเป็นแฟนกันแล้วเข้ามาหาเรื่องฉัน แต่ก็เข้าทางองศามันเลยหละเพราะมันใช้ฉันเป็นไม้กันหมา เอ้ย! กันผู้หญิง ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายกับมัน “พี่ไอ! ผมมีเรื่องจะถาม... พี่กับพี่วินคบกันแล้วเหรอ??” องศาที่เพิ่งเข้ามาแล้วหย่อนตัวลงนั่งตรงข้ามฉันพร้อมกับจ้องหน้าฉันเขม็ง “ถามอะไรของแก! ฉันกับพี่วินนี่นะ? ทำไม...มีอะไรเหรอ?” ไม่ตอบคำถามมัน แต่ถามคำถามมันกลับแทน ทำเอาคนตรงหน้าขมวดคิ้วเลยทีเดียว “เปล่าครับ พอดีผมเห็นในไอจีพี่เขาน่ะ มีรูปพี่ไออยู่ด้วยนะ... พี่วินเขาเพิ่งโพสเมื่อชั่วโมงที่แล้วเองแถมตอนนี้ยังมีคอมเมนท์ถล่มทลายเลยหละ”  “จริงเหรอ!” เป็นเสียงของมะนาวที่ออกอาการตกใจมากกว่าฉันซะอีกพลางหยิบโทรศัพท์ของตัวขึ้นมาก่อนจะกดเข้าไอจีของพี่วินแล้วมันก็ทำตาโตขึ้นกว่าเดิม “ไอ้ไอ!! พี่วินแม่งโคตรแมน ประกาศตัวชัดเจนมาก” ว่าแล้วมันก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดู  ในไอจีของพี่เขาเป็นรูปทีเผลอด้านข้างของฉันที่กำลังยิ้มสดใสอยู่กับพวกเพื่อนแต่ด้านหลังมันเบลอเลยเห็นแต่ฉันที่ชัดเจนอยู่ในรูปนั้นแม้จะเป็นรูปที่ถ่ายจากมุมไกลๆ ก็เหอะ พร้อมกับแคปชั่น ...ขอแค่ได้มองก็พอครับ... เป็นแคปชั่นเรียกแขกมากค่ะ! เรียกมาให้ฉันนี่แหละ ส่งสัยชีวิตฉันได้ไม่เป็นสุขแน่นอนเพราะดูจากคอมเมนท์ใต้รูปแล้วถึงแม้ส่วนใหญ่จะเข้ามาแซวพี่วินก็จริงแต่ก็มีไม่น้อยที่เข้ามาถามหาว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร...   ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีอยากจะโทรไปหาเขาตอนนี้เลยแต่ก็ชั่งใจไว้ไม่โทรน่าจะดีกว่า ทำเป็นไม่รู้เรื่องเดี๋ยวอะไรๆ มันก็คงหายไปเอง “สรุปยังไงครับ?!!” องศายังคงจ้องฉันเขม็ง “ก็ไม่ยังไง ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขา แล้วแกจะมาถามซักไซ้ฉันทำไมเนี้ย?” “เปล๊า....” มันตอบปฎิเสธเสียงสูงก่อนจะเฉไฉมองไปทางอื่น ฉันจึงหรี่ตามององศาด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้มีหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันภายในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ไม่รู้ทำไมพี่ธูร์ถึงได้รู้เรื่องด้วย พี่เขามักจะส่งข้อความมาถามเสมอถึงแม้จะไม่ได้ถามตรงๆ แต่คำถามของพี่ธูร์ก็สอดคล้องกับเรื่องราวที่ฉันประสบณ์อยู่ในตอนนั้นตลอดเลย แต่พอฉันถามว่าเขารู้ได้ยังไงเขาก็บอกมาแค่ว่าเขาเดาเอา คนอะไรจะเดาได้เก่งขนาดนั้น? หรือว่ามีใครคอยรายงานเขากันแน่นะ?  “มองผมทำไม อยากกินผมเหรอ? เสียใจด้วยครับผมยังมีสาวๆ ต่อคิวอีกเยอะ ฮ่าๆ” ดูเอาเถอะค่ะคำพูดคำจาของมัน พร้อมกับยิ้มกวนมาให้ด้วย “คร้าพ่อคนหล่อ” ฉันเบ้ปากใส่องศาทันที หมั่นไส้ในความมั่นหน้าของน้องรหัสตัวเอง “แล้วจะเอาไงต่อ พี่เขาออกตัวแรงขนาดนี้” แพรดาวถามฉันขึ้นมาพร้อมกับมะนาวที่จ้องหน้ารอฟังคำตอบอยู่ด้วยเหมือนกัน “ไม่รู้ว่ะ เอาไว้ค่อยคิดละกัน ตอนนี้ก็อยู่เฉยๆ ไปก่อน ฉันไม่ได้สนใจอะไรเขาอยู่แล้ว เดี๋ยวเรื่องมันก็คงเงียบไปเองนั่นแหละ...... มั้งนะ” เว้นวรรคนิดนึงเพราะก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องจะเงียบจริงไหม                พวกเรานั่งคุยกันต่ออีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน จริงๆ องศากับเพื่อนของฉันอาสาจะไปส่งฉันที่บ้านแต่ฉันปฏิเสธไปเพราะทางกลับบ้านพวกนั้นมันคนละทางกับบ้านของฉันแล้วอีกอย่างก็เกรงใจพวกมันด้วย ฉันกลับรถเมล์สะดวกกว่าเยอะ กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ค่ำพอดีเพราะวันนี้เป็นศุกร์แถมเวลานี้รถก็ติดอีกด้วย พอมาถึงบ้านก็เห็นแม่กับป้าบัวกำลังอบคุกกี้กันอยู่เลยเดินเข้าไปหา “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะป้าบัว” ไหว้ทั้งสองท่านก่อนจะเดินเข้าไปกอดแม่พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วแอบหยิบขนมเข้าปากไปชิ้นนึง “ที่มาอ้อนแม่เพราะจะมาแอบกินขนมใช่ไหมเนี้ย” “แหะๆ โดนจับได้ตลอดเลย” ฉันยิ้มกว้างให้แม่ก่อนจะเดินไปช่วยป้าบัวจัดคุกกี้ใส่กล่อง  “พรุ่งนี้มีออเดอร์เยอะเหรอค่ะ?” ว่าพลางกวาดสายตามองดูกล่องคุกกี้ที่แพ็คเสร็จแล้วส่วนหนึ่ง ดูจากสายตาน่าจะประมาณห้าสิบกล่องได้ “ใช่จ้ะ พรุ่งนี้ลูกค้าเขานัดมาเอาของที่บ้านแต่ดีหน่อยที่เขาสั่งแค่คุกกี้ ถ้าสั่งเค้กด้วยแม่คงทำไม่ทัน” แม่ว่ายิ้มๆ ก่อนจะเริ่มอบขนมต่อ  ฉันนั่งช่วยป้าบัวจัดคุกกี้ใส่กล่องใสทรงสวยพร้อมกับผูกริบบิ้นสีสวยและติดสติ๊กเกอร์ร้านของเราลงไปด้วย    แม่ดูมีความสุขมากเวลาที่ท่านได้ทำขนมคงเป็นเพราะตอนที่ฉันกับพี่อาร์ตยังเด็กพ่อกับแม่เปิดร้านอาหารในกรุงเทพฯ แล้วยังมีขายขนมหวานด้วยพวกเค้กต่างๆ รวมถึงคุกกี้ต่างๆ ด้วย แต่พอพ่อต้องไปดูแลไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่เชียงใหม่พวกท่านเลยตัดสินใจเซ้งร้านอาหารให้คนอื่นไปเพราะลำพังแม่คนเดียวที่ยังอยู่กรุงเทพฯ คงดูแลไม่ไหว ช่วงนั้นฉันจำได้ดีว่าพวกท่านเศร้ามากแค่ไหนเพราะพ่อเคยบอกว่าร้านนี้เป็นธุรกิจแรกที่พวกท่านตั้งใจทำมันขึ้นมา แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ต้องยอมปล่อยมันไป ช่วงนั้นแม่ของฉันบ่นอยู่ตลอดว่าเบื่อ ฉันเลยเสนอไอเดียร์ให้แม่ลองทำขนมขายผ่านเพจดูและมันก็ได้ผลดีด้วย แม่ฉันดูมีความสุขขึ้นเยอะแต่มันจะขัดใจพ่ออยู่นิดหน่อยเพราะท่านไม่อยากให้แม่ทำงานอยากให้อยู่บ้านเฉยๆ ดูแลฉันก็พอ พ่อรักแม่แหละฉันรู้ดี อิอิ....  “แม่ค่ะ... พี่ธูร์บอกว่าอีกอาทิตย์นึงพี่เขาจะกลับมาแล้วนะค่ะ” ฉันพูดออกไปแต่มือก็ยังทำงานตรงหน้าต่อไม่ได้หยุด แต่คนเป็นแม่พอได้ยินแบบนั้นก็ชะงัดมือไปครู่นึงเพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องราวของสองหนุ่มฝาแฝดข้างบ้านมันกวนใจลูกสาวของเธอมานานแค่ไหนถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าลูกสาวมีใจให้กับใครก็ตาม “อ้าว แล้วเธียร์ไม่กลับมาด้วยเหรอ?” แม่เอ่ยถามออกมาคงเพราะฉันพูดถึงแค่พี่ธูร์นั่นแหละ ฉันชะงัดมือแป๊ปนึงก่อนจะตอบแม่เสียงเรียบ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ หนูไม่ได้คุยกับเขา” เสียงหวานราบเรียบเจือปนความเศร้าเล็กน้อย ในใจยังคงคิดถึงแต่เขาแม้จะพยายามปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม “แต่เขาเป็นพี่น้องกันนี่ค่ะ ก็น่าจะกลับมาพร้อมกันนะหนูว่า” ว่าพลางยิ้มกว้างให้แม่เพื่อกลบกลื่นความเศร้าของตัวเอง “แล้วก็พี่ธูร์ขอให้ทำขนมไว้ให้ด้วย แต่หนูไม่รู้จะทำอะไรดี แม่กับป้าบัวว่าหนูควรทำอะไรไว้ให้พี่เขาดีค่ะ?” “ป้าว่าทำเค้กช้อกโกแลตดีไหม ป้าจำได้ว่าคุณธูร์น่ะชอบกินเค้กเห็นเวลาคุณกิ่งทำไปฝากทีไรเขาก็กินหมดทุกที แต่คุณเธีรย์ป้าไม่รู้ว่าเขาชอบกินอะไร หนูไอรู้รึเปล่าลูก?” ป้าบัวเสนอความคิดขึ้นมาแม่ฉันเองก็พลางพยักหน้าเห็นด้วยแถมยังถามฉันถึงพี่เธียร์อีก ฉันยิ่งไม่อยากได้ยินชื่อของเขาอยู่ “หนูไม่รู้หรอกค่ะป้าบัว รายนั้นชอบอย่างเดียวคงเป็นเหล้าอ่ะค่ะ” ว่ายิ้มๆ  ก็มันคือเรื่องจริงนี่นาเห็นเขาชอบไปดื่มกับเพื่อนของเขาตลอดอ่ะ  “เรานี่นะ!” แม่ดุฉันมาทีนึ่งแต่ไม่ได้จริงจังอะไร                ฉันนั่งช่วยแม่ทำงานต่อจนเสร็จดูเวลาอีกทีก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว ช่วยแม่กับป้าบัวเก็บของทำความสะอาดจากนั้นก็จัดกล่องคุกกี้ใส่ถุงกระดาษตามรายชื่อออเดอร์ของลูกค้า แต่เอ๊ะ? ทำไมชื่อนี้มันคุ้นๆ สั่งตั้งสามสิบกล่องแน่ะ “นาวิน วชิรหัตถ์” ฉันอ่านชื่อบนกระดาษออเดอร์เบาๆ พลางย่นคิ้วไปด้วย รู้สึกคุ้นมากแต่นึกไม่ออกว่าใคร แต่ก็ช่างเหอะ ส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะแปะกระดาษออเดอร์ลงไปบนถุงกระดาษ จากนั้นก็ยกไปวางไว้บนโต๊ะข้างประตูบ้านเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพรุ่งนี้                พอช่วยแม่เสร็จก็ขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวนอนแต่ก่อนที่จะนอนก็คุยกับเพื่อนในไลน์กลุ่มนิดหน่อย วันนี้มะนาวมันออกไปเที่ยวก็เลยไลน์มาชวนฉันกับแพรดาวด้วย จริงๆ มันส่งมาตั้งแต่ก่อนสองทุ่มแต่ฉันเพิ่งจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เลยตอบมันไปว่า ...ไม่ไป... แล้วมะนาวก็ตอบกลับมาทันทีว่าพรุ่งนี้ห้ามเบี้ยวเพราะถ้าเบี้ยวมันจะโกรธ ดูเอาเถอะค่ะเพื่อนฉัน... จบบทสนทนาพวกเราก็แยกย้ายกัน ฉันเดินออกไปยืนที่ระเบียงหลังห้องเพื่อรับลม แม้ยามค่ำคืนแต่เมืองหลวงก็ไม่เคยหลับไหลแสงไฟยังคงสาดส่อง เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าก็ไม่เห็นแม้ดวงดาว....  สายลมเย็นพัดผ่านจนต้องกระชับสองมือเล็กกอดตัวเองเอาไว้พลางสายตาก็หันไปมองระเบียงห้องของใครอีกคนที่มันว่างเปล่ามาหกปีแล้ว ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ ออกมาแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องนอน.... เช้าวันต่อมา.....                วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ฉันก็ตื่นเช้าอยู่ดีเพราะยังมีอะไรให้ทำเยอะ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาชั้นล่างก่อนจะเดินไปหาแม่ที่อยู่ในครัว แม่กำลังทำข้าวเช้าอยู่กับป้าบัวเหมือนเคย “อ้าว ตื่นแล้วเหรอลูก” “ค่ะ วันนี้ทำอะไรกินค่ะ” “เช้านี้มีผัดผักรวมมิตร ไข่เจียว แล้วก็กระเพาหมูสับใส่ถั่วฝักยาวของโปรดลูก อ้อ! แล้วก็แกงจืดเต้าหู้หมูสับด้วย” “โหหห! เราอยู่กันแค่สามคนนะค่ะ ทำไมทำเยอะจัง” ฉันว่ายิ้มๆ “พอดีเมื่อวานคุณย่าปราณีท่านเอาแกงส้มมาฝากแม่ วันนี้แม่ก็เลยทำแกงจืดกะจะเอาไปฝากท่านจ้ะ” “อ๋อ ค่ะ” ฉันพยักหน้างึกงักก่อนจะเดินไปตักข้าวแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ คุณย่าปราณีที่แม่พูดถึงคือคุณย่าของพี่ธูร์กับพี่เธียร์ ท่านเป็นคนใจดีมากชอบเอากับข้าวแล้วก็ขนมมาฝากบ้านฉันอยู่บ่อยๆ แถมท่านยังเดินเอามาให้เองอีกต่างหากทั้งๆ ที่ที่บ้านของท่านมีแม่บ้านอยู่เต็มไปหมดแต่ท่านก็ยังมาเอง ท่านชอบมานั่งคุยกับแม่ของฉันเป็นประจำคงเพราะที่บ้านหลังใหญ่นั้นมีแค่ท่านกับคุณพ่อของพี่แฝดอยู่กันแค่สองคนหละมั้ง ท่านคงคิดถึงหลานชายแหละ....  ก่อนจะกินข้าวเช้าแม่กับป้าบัวก็เอาแกงจืดใส่กล่องทัพเพอร์แวร์แล้วก็พากันเดินไปบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ข้างบ้านเพื่อเอาแกงจืดไปให้คุณย่าปราณี โดยปล่อยให้ฉันกินข้าวอยู่คนเดียว พอกินเข้าเช้าเสร็จฉันก็เก็บส่วนของตัวเองแล้วออกมารดน้ำต้นไม้ดอกไม้อยู่หน้าบ้านแต่ไม่ลืมที่จะเอาเสื้อผ้าไปใส่เครื่องซักผ้าไว้ก่อน  รดน้ำต้นไม้เพลินๆ ไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงกดกริ่งดังขึ้นจากหน้าบ้านทำให้ต้องละสายตามองไปยังรั้วสีขาวหน้าบ้านแทน แต่พอเห็นคนที่ยืนยิ้มอยู่ทำเอาสายยางรดน้ำเกือบหลุดมือเลย “พี่วิน!” อุทานเรียกชื่อของคนที่ยืนอยู่เบาๆ ก่อนจะปิดน้ำแล้วเดินเข้าไปหาเขา “สวัสดีค่ะพี่วิน รู้ได้ไงค่ะว่าบ้านไออยู่ที่นี่?” ย่นคิ้วถามคนตรงหน้าทันที ปกติเวลาที่เขาอาสามาส่งฉันที่บ้านฉันก็มักจะให้เขาส่งแค่ป้ายรถเมล์ที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่านั้น และให้เหตุผลว่าซอยบ้านฉันมันแคบกลับรถยากซึ่งเขาก็ยอมแต่โดยดี “สวัสดีครับ พี่ไม่รู้ว่านี่บ้านน้องไอ พอดีคุณแม่ของพี่ฝากให้พี่สั่งคุกกี้ให้น่ะครับ ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของน้องไอเลย” ว่าพลางส่งยิ้มหวานแววตาดูตื่นเต้นส่งมาให้ฉัน ฉันเองก็ได้ยิ้มแหย่ๆ ไปให้เขา  ...บ้าเอ้ย! อุตสาห์เลี่ยงไม่ให้เขามาส่งที่บ้านแต่ดันบังเอิญมาเป็นลูกค้าขนมของแม่ซะงั้น... “อ้าว สวัสดีค่ะ ใช่คุณนาวินที่โทรมาบอกว่าจะมารับของหรือเปล่าค่ะ?” แม่กับป้าบัวที่เดินกลับมาจากบ้านหลังใหญ่เอ่ยถามแขกทันที “สวัสดีครับ ใช่ครับผมนาวินที่สั่งคุกกี้ไว้สามสิบกล่องน่ะครับ” พอเขาอธิบายแค่นั้นแหละฉันนึกขึ้นมาได้ทันทีว่าไอ้ชื่อลูกค้าที่ฉันคุ้นๆ ว่าเหมือนเคยรู้จักมันเป็นชื่อของใคร  “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญค่ะ” แม่ว่าพลางเปิดประตูรั้วแล้วเชิญพี่วินเข้ามาในเขตบ้านด้วย  “ไอ  ไปหยิบถุงคุกกี้ให้แม่ทีสิลูก” “ค่ะ” ฉันเดินเข้าไปหยิบถุงกระดาษใบใหญ่สองถุงแล้วเดินออกมาหาแม่แต่พี่วินที่เห็นฉันถือถุงใบใหญ่อยู่ก็รีบวิ่งเข้ามาช่วย “เดี๋ยวพี่ถือเองดีกว่าครับ มันหนัก” ว่าแล้วก็ดึงถุงไปถือเองก่อนจะเดินกลับไปหยุดยืนตรงหน้าแม่ของฉัน มาถึงตอนนี้แม่ของฉันกับป้าบัวก็มีคำถามในแววตาทันที “เออ แม่ค่ะป้าบัวค่ะ คือนี่...พี่วินค่ะรุ่นพี่ที่มหาลัยหนูเอง...  แล้วนี่ก็แม่ของไอกับป้าบัวค่ะ” ฉันจำใจต้องแนะนำให้พวกเขาได้รู้จักกันก่อนที่จะมีใครเอ่ยถาม แล้วทุกคนก็พยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจพร้อมรอยยิ้มแต่รอยยิ้มของพี่วินดูเจื่อนๆ “อ้อ รู้จักกันนี่เอง” แม่ว่าพลางยิ้มๆ “ครับ... ถ้าไงวันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับพอดีคุณแม่ของผมรออยู่ครับ แล้วก็ค่าของผมโอนเข้าบัญชีแล้วรบกวนคุณน้าเช็คว่ายอดถูกต้องหรือเปล่าด้วยนะครับ แล้ววันหลังผมจะมาอุดหนุนใหม่นะครับ” พี่วินไหว้แม่ของฉันกับป้าบัวก่อนจะหันมาหาฉัน “พี่กลับก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันเองก็ยิ้มให้เขาบางๆ                พอพี่วินกลับออกไปทุกคนก็หันมามองฉันพร้อมกับสายตาตั้งคำถาม กดดันกันสุดๆ ไปเลยสินะ แต่จู่ๆ ฉันก็เหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งที่ขับผ่านแล้วชะลอตรงหน้าบ้านแต่เพียงแค่ครู่เดียวก็ขับผ่านไปฉันจึงไม่ได้สนใจอะไร ก่อนที่จะหันมาหาแม่กับป้าบัวอีกครั้ง “คนนี้ใช่ไหมที่หนูเคยเล่าให้แม่ฟังว่าพี่เขามาส่งที่ป้ายรถเมล์บ่อยๆ” “ค่ะ แต่หนูไม่คิดเลยว่าพี่เขาจะบังเอิญมาเป็นลูกค้าของเราเนี้ย อุตส่าห์หนีมาได้ตั้งนาน” ฉันย่นคิ้วเข้าหากัน “ไม่ได้ชอบเขาก็บอกเขาไปตรงๆ สิลูก อย่าทำเหมือนให้ความหวังใคร เพราะการเจ็บจากความรักน่ะมันไม่สนุกหรอกนะ”  “ค่ะแม่... หนูก็พยายามบอกเขาอยู่ตลอดแต่ดูเหมือนเขาจะไม่พยายามเข้าใจ แต่ต่อไปคงต้องจริงจังมากกว่านี้แล้วหละค่ะ” ฉันถอนหายใจหนักๆ ออกมาก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านกับแม่......

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ไฟรักซาตาน

read
53.9K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
12.2K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
11.0K
bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
6.6K
bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1.4K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1.1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.4K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook