เช้าวันรุ่งขึ้น
แมวน้ำตรงดิ่งไปยังบ้านคุณนายพราวฟ้า เธอมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนคุณนายพราวฟ้าประเคนทุกอย่างให้เธอเป็นว่าเล่น เช่นเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาหมาดๆ
เมื่อเช้าตรู่ที่ถูกส่งถึงหน้าบ้านของเธอ ถึงจะมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าก็ยอมเซ็นรับไว้แต่โดยดี เพราะพนักงานที่ส่งรถยื่นโน้ตข้อความที่คุณนายพราวฟ้าฝากมาไว้ให้เธอ รับไว้นะ หนูจะได้มีรถใช้ไปไหนมาไหน ถ้าหนูปฏิเสธป้าจะยึดที่คืน
ข้อความที่เธออ่านแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคอ โฉนดที่ดินยังอยู่ที่คุณนายพราวฟ้า จะได้คืนในวันแต่งงานซึ่งนั้นก็อีกไม่นาน เธอเลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจรับทุกอย่างที่คุณนายประเคนให้ เพราะทุกครั้งมักจะมีข้อความหรือคำพูดแบบนี้ผ่านหูเธอตลอดทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธมันเลยสักครั้ง
วนาลีขับรถมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่งได้มาออกไปด้านนอกพร้อมน้องชายที่ติดสอยห้อยตามเธอมาด้วย เมื่อขับเข้าไปถึงหน้าบ้านคุณนายขายังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถ ก็มีเสียงลอยละล่องมาตามลม ขนลุกซู่ทันที ในใจเธอได้แต่คิดคิด โดนเข้าให้แล้วแมวน้ำ กลางวันแสกๆเลยเหรอ หรือว่านางตานีที่คุณป้าชอบพูดถึงจะมีอยู่จริง ก่อนที่ความคิดเธอจะเตลิดไปมากกว่านั้น เธอหันหน้ากลับไปมอง ดวงตากลมหรี่ลงเล็กน้อย
“แมวววววน้ำ”เสียงเรียกดังสนั่น ทำให้คนที่กำลังตื่นกลัวตกใจถอยหลังล้มหน้าหงายหลังเธอล้มหน้าหงายไม่เหลือชิ้นดี เสียงหัวเราะก็ดังลั่นเข้าประสาทหูคนที่รู้ตัวว่าโดนกลั่นแกล้ง เธอได้แต่กำมือแน่นกัดฟันด้วยความโกรธ อยากจะลุกขึ้นไปหยุมหัวเขาสักที แต่เจ้ากรรมเธอคงล้มแรงไป แค่จะเอี้ยวตัวพยุงตัวเองขึ้นยังไม่ไหว พนาเมื่อเห็นคนตรงหน้ามีท่าทีเงียบผิดปกติ เขาจึงหยุดหัวเราะเอียงตัวมองเธอ
“เป็นอะไร ล้มแค่นี้เองทำไมไม่ลุก หรืออยากจะนั่งเป็นผีเจ้าที่เฝ้าหน้าบ้านฉัน”
“ไม่ต้องมายุ่งฉันสะดวกจะนั่งตรงนี้”
“สะดวกจะนั่งตรงนี้หรือลุกไม่ไหวกันแน่ ให้ฉันช่วยไหมฉันเป็นคนมีน้ำใจนะ”
“เหอะ! อย่างนายเหรอจะมีน้ำใจ ให้ฉันเชื่อควายยังดีกว่าเชื่อนาย”
“ปากยังดีอยู่แสดงว่ายังไม่ใกล้ตาย นั้นฉันไปละ ถ้าเธออยากจะนั่งเฝ้าหน้าบ้านฉันก็ตามใจ”
“เดี๋ยว!”แมวน้ำยอมลดศักดิ์ศรีของเธอลงขอให้เขาช่วยเธออีกครั้ง ลำพังจะให้ตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้ก็ยังไงอยู่
“ว่า”
“ช่วยฉันหน่อย”เสียงของเธอเอ่ยออกจากปากด้วยความแผ่วเบา หญิงสาวยอมกัดฟันขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ยินเลย”ใบหน้าของชายหนุ่มดูมีความสุขกว่าปกติ เขายกยิ้มมุมปากชอบใจ สุขใดเล่าจะเท่าวันนี้อีกแล้ว
“ช่วยพยุงฉันขึ้นหน่อยได้ไหม กล้วยไข่จ้า”เธอกัดฟันบอกเขาอีกครั้ง โอ๊ย!! ให้ตายขนลุกชะมัด ถ้าไม่จำเป็นเธอคงไม่พูดขอร้องเขาขนาดนี้ เสียหน้าชะมัด อดทนไว้แมวน้ำอย่าให้ถึงทีเธอบ้าง
เขาส่งมือหนาให้เธออย่างไม่ลังเล ถึงแม้รอยยิ้มเย้ยหยันจะผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลานั้น อย่างน้อยก็ถือว่าคนอย่างเขายังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง
“อะ!...”เธอขอคำชมเมื่อกี้คืน เพราะเขาปล่อยเธอให้ล้มนั่งลงไปอีกครั้ง
“เธอคิดว่าฉันจะช่วยเธอจริงเหรอ”
เขานั่งลงข้างเธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก เธอไม่น่าหลงเชื่อคนตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ โทสะถูกกดเอาไว้แต่มันคงจะอยู่ได้ไม่นานถ้าเขายังลอยหน้าลอยตาไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเขาคือต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเจ็บจนลุกไม่ขึ้นแบบนี้
“ไม่เป็นไร นายเข้าบ้านเถอะเดี๋ยวคงมีใครที่เขาใจดีมาช่วยฉันเองแหละ”เธอแสยะยิ้มอย่างหัวเสีย
“เจ็บจริงเหรอ??”
“ฉันแค่สำออยไปงั้น นายไปเถอะ”
ชายหนุ่มคิดว่าหญิงสาวคงแกล้งให้เขาช่วย ทว่าสีหน้าของเธอตอนนี้ที่แสดงออกมานั้นเหมือนเขาจะคิดผิด
“พี่…ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นครับ คุณป้าให้มาตาม”ฉลามที่สงสัยว่าทำไมพี่สาวถึงไม่เดินตามเข้าไปในบ้านสักทีเลยเดินกลับออกมาตาม
“ฉลามช่วยพี่หน่อยสิ พี่ลื่นนะ”ในเมื่อคนใจดำไม่มีท่าทีจะช่วยเหลือ แล้วทำไมเธอจะต้องไปพึ่งพาเขาอีก
“เจ็บมากไหมครับ”
“โอ๊ย!”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้น เธอไม่อยากจะร้องดังนัก เดี๋ยวคนตรงหน้าจะหาว่าเธอสำออยเอาได้ จึงกัดฟันฝืนเดินให้น้องชายพยุงพาเข้าไปด้านในตัวบ้าน
“หนูแมวน้ำเป็นอะไรไปลูก”
“หนูลื่นล้ม ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”เธอจงใจโกหก หากจะพูดความจริงว่าเธอโดนกลั่นแกล้งจากคนที่ยืนอยู่มุมห้อง ก็ดูจะเป็นการเสียหน้าที่เธอดันไปพลาดท่าเสียทีให้เขา
“ไม่เป็นไรแน่นะ ไปโรงพยาบาลไหม”
“ค่า ไม่เป็นไร”
“มาทำไมที่บ้านฉันแต่เช้า หรือเธอคิดถึงว่าที่ผัวไม่ไหวจนต้องวิ่งแจ้นมา”เหลือทนจริง ๆ ข่าวลือที่เธอได้ยินมาประปรายคงไม่ผิดสินะ
ชายหนุ่มรูปงามลูกชายคุณนายพราวฟ้าที่เรียกได้ว่าร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน ภายใต้รูปหน้าที่ชวนหลงใหลกลับเลี้ยงหมาไว้ในปากจนพาให้หญิงสาวที่อยากเข้าหาต้องถอยหนี
ตอนแรกที่เธอได้ยินเรื่องนี้จากตลาดแทบไม่เชื่อหูว่าเขาจะร้ายเบอร์นั้น แต่ทว่าเมื่อได้เจอกับตัวทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นผิดทั้งเพ แต่สิ่งที่คนอื่นพูดต่างหากคือสิ่งที่ถูก
วนาลีเอารอยยิ้มเข้าสู้ อยู่ต่อหน้าคุณนายพราวฟ้าเธอต้องกดโทสะในใจไว้เสียก่อน ถ้าระเบิดออกมาตอนนี้จากที่เธอได้รับความเอ็นดู มีหวังคุณนายพราวฟ้าอาจจะเกลียดเธอก็ได้ที่ทำร้ายลูกชายเขาเข้าให้
“ฉันไม่ได้วิ่งแจ้นมาหายนาย ฉันมาหาคุณป้าต่างหาก”
“ทำไม กลัวไม่ได้สมบัติจนต้องวิ่งแจ้นมาเอาใจแม่ฉันถึงบ้านเลยเหรอ”ทนไว้ ทนไว้แมวน้ำ ถึงแม้เธอจะอยากพุ่งเข้าไปบีบคอเขามากแค่ไหนก็อดทนไว้นะ
“ไอ้ไข่ทำไมไปว่าน้องแบบนั้น”
“ก็มันเรื่องจริงหนิแม่ ว่าที่ลูกสะใภ้แม่หน้าเงินจะตาย ถ้าเราไม่มีเงินยัยแมวน้ำคงไม่วิ่งแจ้นมาบ้านเราทุกวัน”
“มันจะมากไปแล้วนะ”เธอระงับโทสะที่มีไว้ไม่อยู่ มันพร้อมระเบิดแล้วเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่ดูถูกเธอสารพัด
“ไม่เห็นมาก ฉันพูดเรื่องจริง”ก็จริงอย่างที่เขาพูด เธอยอมรับข้อเสนอแต่งงานกับเขาก็เพราะเงิน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะกล้วยไข่ แม่ไม่เคยสอนให้แกดูถูกคน แกทำมากเกินไปแล้วนะ”
“แม่ก็ดีแต่เข้าข้างเธอ อยู่ดี ๆเธอก็กลับมาทั้งที่หายไปตั้งหลายปีไม่เคยโผล่หัวมาที่นี่ด้วยซ้ำ แต่พอมาไม่กี่วันก็ได้เป็นว่าที่ลูกสะใภ้คุณนายพราวฟ้า มันดูง่ายไปหน่อยไหม”เขาจงใจพูดใส่หน้าเธอ
วาจาร้ายกาจที่มาพร้อมกับความเกรี้ยวกราด สร้างความเจ็บปวดให้หญิงสาวตรงหน้าไม่น้อย สิ่งที่ชายหนุ่มพูดมันจริงทุกอย่าง แต่เขาไม่เห็นต้องพูดจากับเธอแรงขนาดนี้
“ไอ้ไข่!!”คุณนายพราวฟ้าเรียกลูกชายเสียงแข็ง เธอรู้ว่าลูกชายปากร้ายแค่ไหนแต่ไม่คิดว่าจะร้ายได้ขนาดนี้
“ไปดงกล้วยของแกไป กลับไปคิดให้ดีว่าสิ่งที่แกพูดออกมามันสมควรไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า หนูว่าจะกลับแล้ว”
“จะรีบไปไหนล่ะ”เขาคว้าแขนเธอไว้ บีบแน่นขึ้น
“ไม่อยู่คุยกับแม่ฉันเรื่องสมบัติก่อนเหรอว่าหลังเราแต่งงานกันเธอจะได้อะไรบ้าง หรือว่าคุยกันไว้แล้วฉันได้ข่าวมาว่ามรดกทั้งหมดจะเป็นของเธอหนิ”
“คุณพนาค่ะ ฉันไม่ได้หวังสมบัติอะไรของคุณ และถ้าคุณห่วงมันมากก็กอดมันไว้ให้แน่นๆนะคะ”เธอทำท่าจะเดินออกไป
“หึ! ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”
“อะไรนะ!”
“ถ้าฉันอ้วนเหมือนเมื่อก่อนเธอจะแต่งงานกับฉันไหม”
คำพูดของชายหนุ่มดูถากถางแฝงไปด้วยความเศร้า ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาก็ไม่มั่นใจในตัวเองอีกเลย ไม่แม้แต่จะเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน เกลียดสายตาคนอื่นที่มองมาจนทำให้เขาเก็บตัวอยู่ในบ้านหลายสัปดาห์
หลังจากนั้นเขาฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อลดปมด้อยภายในใจที่มีอยู่ ทว่าถึงแม้เขาจะเปลี่ยนภายนอกไปแค่ไหนแต่ภายในใจเขาก็บอบช้ำอยู่ดี