ร้านชิคเก้นริง
“เฮ้อ…”
ฉันถอนหายใจรอบที่พันแปดของวันแล้ว หลังจากกลับออกมาจากสตูดิโอ ฉันก็ตรงมาสถานที่ทำงานซึ่งก็คือร้านชิคเก้นริง หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือร้านขายไก่ทอดนั่นแหละ ฉันทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่มาปีกว่าแล้วล่ะ อย่าถามว่าก่อนหน้านี้ฉันทำงานอะไรมาบ้าง เพราะมันเยอะจนนับไม่ถ้วนเลยล่ะ เอาแค่ปัจจุบันที่ฉันกำลังทำอยู่นี่ก็เยอะจนไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว ตั้งแต่งานพากย์เสียง พนักงานร้านชิคเก้นริง และยังมีครูสอนพิเศษช่วงเสาร์อาทิตย์อีกนะ มันก็เยอะพอตัวเลยทีเดียว
มาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า ฉันชื่อ ‘ลิลลา’ สาวน้อยหน้าใสวัยละอ่อน ฉันเรียนอยู่ปีสุดท้ายของคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุและโทรทัศน์ มหาวิทยาลัย S ฉันเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน มีน้องชายจอมเกเรอยู่หนึ่งคนชื่อ ‘ซิลเลอร์’ หมอนี่เรียนอยู่ปีสาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับฉันนี่แหละ เป็นน้องชายที่ไม่เคยเห็นฉันเป็นพี่สาวเลยสักครั้ง แถมยังชอบทำตัวเป็นพี่ชายฉันซะส่วนมากอีกต่างหาก
ข้ามเรื่องของซิลเลอร์ไปก่อน มาสนใจเรื่องบทพากย์บทใหม่ที่ฉันเพิ่งได้รับมาดีกว่า อย่างที่รู้ ๆ กันนั่นแหละ ฉันไม่สันทัดเรื่องสยิวกิ้วพวกนั้นเลยสักนิด แล้วก่อนหน้านี้ฉันแอบเปิดบทแรก ๆ อ่านดูแล้วนะ โอ้วแม่เจ้า! ลิลลาจะเป็นลมค่ะ! ทำไมต้องอี๊สอ๊ากันตั้งแต่ต้นเรื่องเลยเนี่ย! แล้วอี๊สอ๊าอย่างเดียวไม่พอนะ ทำไมต้องให้ฉันส่งเสียงสยิว ๆ แบบนั้นด้วยล่ะ!
ฉันจะทำยังไงดี… บอกหน่อยซิว่าลิลลาคนงามจะต้องทำอย่างไรดี อ๊ากกกกกก!
ปึก!
“อุ๊ยแหก ๆ ๆ!” ฉันร้องเสียงหลงด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อจู่ ๆ ถูกมือของใครคนหนึ่งคว้าไหล่ทั้งสองข้าง ฉันลืมตัวไปสนิทเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่หน้าเคาร์เตอร์แถมเสียงอุทานของฉันเมื่อครู่มันก็ดังจนลูกค้าในร้านหันมาสนใจเป็นตาเดียว
น่าอายอีกแล้วลิลลา ฉันละอยากจะบ้าตาย!
“เฮ้ยแก ทำไมต้องตกใจโอเว่อร์ขนาดนี้เนี่ย ขวัญอ่อนจริงนะ” น้ำเสียงห้าว ๆ ติดเซ็กซี่เล็ก ๆ ดังมาจากด้านหลัง และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกแต่เป็น ‘โบอิ้ง’ เจ้าของฝ่ามือปริศนาเมื่อกี้ยังไงกันล่ะ!
“โธ่… โบอิ้ง! แกเล่นบ้าอะไรเนี่ย! ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วนะ!”
“แหม ๆ ก็เห็นแกใจลอยตั้งแต่เริ่มงานแล้วอ่ะ ถามจริงเหอะ มีอะไรให้คิดนักหนาเนี่ย” โบอิ้งขยับตัวออกมายืนขนาบข้างกับฉัน ยัยนี่เป็นผู้หญิงรูปร่างเล็กกะทัดรัดคล้าย ๆ กับฉันเลย หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย ที่สำคัญบ้านมันรวยมาก! แต่ก็ยังมาทำงานพาร์ทไทม์เป็นเพื่อนฉันด้วยเหตุผลที่ว่า… เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน
ถามจริง… มันเกี่ยวไหมเนี่ย! แต่ก็เอาเถอะ เพราะโบอิ้งเป็นมากกว่าเพื่อนของฉัน เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งคิดลึกไปไกลว่าพวกเราเป็นเลสเบี้ยนกันนะ มันไม่ใช่! ฉันหมายถึงว่าโบอิ้งกับฉันสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว พอเข้ามหาวิทยาลัยพวกเราก็เลือกเรียนด้วยกัน เรียกได้ว่าไปไหนไปกัน สมกับคอนเซ็ปเพื่อนไม่เคยทิ้งกันจริง ๆ!
“ก็เรื่องบทใหม่นั่นแหละแก ฉันจะทำยังไงดีอ่ะโบ ฉันไม่เคยมีประสบการณ์พวกนั้นเลยนะ ไม่รู้จะไปหาฟิลลิ่งพวกนั้นมาจากไหน”
ฉันปรับทุกข์สีหน้าเศร้าสลด ชีวิตมันน่าเศร้าจริง ๆ ฉันก็แค่สาวน้อยวัยใสที่กลายสภาพเป็นมนุษย์พาร์ทไทม์เท่านั้นเองนะ ฉันต้องหาเงินมาใช้จ่ายจุนเจือในครอบครัว ฉันมีพ่อซึ่งตอนนี้ท่านกำลังถือศีลอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ส่วนแม่ก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ฉันอายุสิบขวบ และมีน้องชายที่ชอบทำตัวเกเรต่อยตีชาวบ้านไปทั่วจนฉันเข้าออกห้องฝ่ายปกครองของมหาวิทยาลัยเป็นว่าเล่นเลย
“เอ่อ… ฉันก็อยากจะแนะนำแกนะลิล แต่ไม่รู้ว่าแกจะกล้าพอหรือเปล่า”
“หืม? แกจะแนะนำอะไรฉันอ่ะ ไหน ๆ บอกมาเลย ๆ ฉันจะทำทุกอย่างเลยนะโบ เพื่อสร้างฟิลลิ่งอันสุดสยิวนั่น”
“คือ…” โบอิ้งทำสีหน้าลำบากใจ แถมยังหน้าแดงเรื่ออีกต่างหาก มันสอดส่ายสายตามองรอบตัวเล็กน้อยก่อนจะขยับเข้ามากระซิบกระซาบเสียงเบา “ลองเปิดหนังอีโรติคดูสิแก มันอาจจะช่วยได้นะ”
“หาาา!! เปิดหนังอีโรติค!!”
คราวนี้ฉันแหกปากลั่นร้านเลยล่ะ ซึ่งสายตาของลูกค้าทั้งหนุ่มสาวเด็กเล็กเด็กน้อยรวมไปถึงมนุษย์ลุงมนุษย์ป้าทั้งหลายพากันหันพรึบมามองฉันเป็นตาเดียว โบอิ้งรีบตะครุบปากฉันแน่น มันส่งสายตาอาฆาตมาให้ฉันด้วย
“แกจะแหกปากทำไมเนี่ยลิลลา อายคนอื่นบ้างไหมหะ!”
“อื้อ ๆ” ฉันพยายามแกะมือบางออกจากริมฝีปากตัวเอง สายตาก็เหลือบไปเห็นลูกค้าคนหนึ่งกำลังมองตรงมาทางนี้ ฉันเบิกตากว้างเล็กน้อยเพราะไม่ทันสังเกตเห็นเลยสักนิดว่าเขาคนนั้นเข้ามานั่งในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ “ปล่อยมือออกก่อน โอ๊ยหายใจไม่ออก!”
“ยัยบ้าเอ๊ย แกทำให้คนอื่นมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ อีกแล้วนะ!”
“โธ่ ๆ ฉันขอโทษ ฉันตกใจนี่หว่า” ฉันหอบหายใจเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาคนนั้นอีกครั้ง “เออว่าแต่… นั่นมันขุนทัพไม่ใช่เหรอ? เขาเข้ามานั่งในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ไหน… อ้อ… หมอนั่นเข้ามาตั้งแต่ตอนที่แกยืนเหม่อแล้วละยัยบ๊อง ฉันเป็นคนรับออเดอร์เขาเอง” โบอิ้งมองตามสายตาฉันไปก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ แล้วหันกลับมาจัดการออเดอร์ตรงหน้าต่อ
“แปลกจัง… ไหนเขาบอกว่ามีธุระไง” ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่ยัยเพื่อนรักกลับได้ยินอีก
“หืม… แกว่าไงนะ”
“หะ? อ้อเปล่า ๆ ไม่มีอะไร” ฉันบอกปัดแล้วช่วยโบอิ้งจัดออเดอร์ไก่ทอดร้อน ๆ พร้อมน้ำอัดลมเต็มแก้ว เมื่อส่งออเดอร์ให้ลูกค้าเสร็จโบอิ้งก็หันกลับมาหาฉันอีกครั้ง
“แล้วตกลงเรื่องที่ฉันแนะนำแกจะว่าไงล่ะ”
“เห้ย! แกจะบ้าเหรอโบอิ้ง จะให้ฉันนั่งดูหนังอีโรติกเนี่ยนะ! อึ้ยยย! แค่คิดก็ขนลุกแล้วอ่ะ! มันน่ากลัวเกินไปสำหรับสาวน้อยวัยใสอย่างฉันนะ” ฉันพูดพลางทำท่าขนลุกขนพองประกอบ โบอิ้งถอนหายใจแรง ๆ พร้อมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ
“ความจริงแกกับฉันก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ อายุยี่สิบสองแล้วนะยัยลิล จะจบปริญญาอยู่แล้วเนี่ย! ทำไมชอบมโนว่าตัวเองยังอยู่มอปลายตลอดเลยห๊ะ”
“ก็แหม… อายุมันก็เพียงตัวเลขป่ะแก หน้าตาพวกเรายังสวยใสวัยมัธยมอยู่เลยนะ”
“พอ ๆ ฉันขี้เกียจจะเถียงกับเด็กน้อยอย่างแกแล้ว เอาอย่างนี้ คืนนี้แกไปนอนค้างที่บ้านฉันแล้วกัน แล้วฉันจะหาหนังแนว ๆ นั้นให้แกดู” โบอิ้งบอกแกมสั่งด้วยสีหน้าจริงจัง เวลายัยนี่เผด็จการขึ้นมาก็น่ากลัวใช่หยอกนะเนี่ย ฉันเคยขัดคำสั่งนางได้ซะที่ไหนกันล่ะ!
“เอางั้นเหรอ… มันน่ากลัวนะแก”
“ยัยบ้า! หนังอีโรติกนะไม่ใช่หนังผี! มาน่ากงน่ากลัว วู้!”
ก็มันน่ากลัวจริง ๆ นี่ เกิดมาฉันไม่เคยพบเคยเจอมันเลยนะ เคยเปิดเว็บแบบผ่าน ๆ แล้วมีภาพลามกอนาจารเด้งขึ้นมาเหมือนกัน ตอนนั้นหัวใจแทบจะวายแน่ะ! แค่คิดก็อยากจะเป็นลมล้มตึงแล้ววว!
“ฉันปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมอ่ะ!”
“แน่นอน คืนนี้เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยยัยหนูน้อยลิลลา”