บทที่ 2

2079 Words
“ แม่ครับ.. ผมเป็นตัวประหลาดจริงๆเหรอ..” “ แม่ครับ.. ถ้าเลือกได้ผมอยากไปอยู่กับแม่จังเลย ” “ แม่ครับ.. ดูเหมือนว่าเพื่อนๆจะไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่.. ” “ ไอ้ตัวประหลาด.. ” สองขาต้วยเตี้ยมอ่อนแรง.. น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไหลลงมากองรวมกันใต้ตากลม “ แล้วเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอเรา ใส่ชุดนักเรียนชายแต่ทำไมผมยาวจัง.. ประหลาด ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งในห้องกล่าวขึ้น แล้วเสียงร้องโฮ่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง.. ผมก้มหัวลงช้าช้าและกล่าวขอโทษเพื่อนๆหน้าชั้นที่กลายเป็นตัวประหลาด “ ผมขอโทษด้วยครับ ” “ พวกเธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ! ” อาจารย์สาวไม่ชอบใจในการกระทำของนักเรียนในห้อง.. นักเรียนทั้งหมดถูกสั่งให้ไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลโรงเรียนสิบรอบ อาจารย์สาวคิดว่านี่คือบทลงโทษที่สมควรแล้วต่อการดูถูกมนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน.. “ ไม่เป็นไรนะเพทาย.. เด็กวัยรุ่นเขาปากร้ายปากเสียเช่นนี้แหละ อย่าไปใส่ใจเลยนะจ๊ะ ” คาบเรียนแรกของวันนี้เป็นวิชาภาษาไทย นักเรียนมัธยมปีที่สีห้องหกใช้ห้องของนักเรียนมัธยมปีที่ห้าห้องสองเป็นห้องเรียนวิชาภาษาไทย.. เพทายนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ติดขอบหน้าต่างแถวหน้าของห้อง.. เพทายพยายามทำความรู้จักกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆตน แตาก็ไม่มีใครยอมคุยกับเพทายได้นานเกินสองนาทีเลย.. เพทายคิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองที่ผิดปกติ.. เพี๊นะ เพี๊ยะ เสียงไม้เรียวยาวตกกระทบลงกับกระดานเขียว.. อาจารย์วิชาภาษาไทยในชุดสีเหลืองอ๋อยทั้งเสื้อและกระโปรงกำลังเดินเข้ามายังกลางห้องเรียน ห้องเรียนเงียบลงทันทีที่ได้ยินเสียงตกกระทบของไม้เรียวยาว “ คนไหนเป็นหัวหน้าห้อง ทำไมยังไม่บอกเพื่อนทำความเคารพ ” อาจารย์ในชุดสีเหลืองกดเสียงลงต่ำจนดูน่ากลัว “ ห้องเรายังไม่ได้เลือกหัวหน้าห้องกันเลยค่ะอาจารย์ ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้น “ ไม่เป็นไร งั้นเรามาเลือกกันตอนนี้ก็ได้ ยังไงวันนี้ก็คาบแรก ฉันอนุโลมให้หากเราจะเลทกันสักหน่อย.. รออะไรอยู่ล่ะ เริ่มกันเลยซิ ” นักเรียนชายหญิงเริ่มเกาะกลุ่มคุยกัน มีเพทายเพียงคนเดียวที่ไม่มีใครชวนเข้าไปเสวนาด้วย “ หนุ่ม.. ” สาวสูงวัยในชุดสีเหลืองเดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะไม้นั่งเรียนของเพทาย “ ทำไมถึงยังอยู่ตรงนี้ล่ะ.. ” เด็กหนุ่มหันหน้ากลับไปตอบคำถามแต่เลือกที่จะหลบตาของคนตรงหน้า “ ผม..ไม่ค่อยปกติครับ เพื่อนไม่ค่อยอยากคุยกับผมเท่าไหร่นัก ” อาจารย์วิชาภาษาไทยรู้ได้ทันทีว่าเพทายคือเด็กที่มีอาการผิดปกติและถูกอนุญาติให้ไว้ผมยาวได้ตามที่ได้ประชุมกันมาเมื่อสองวันก่อนโรงเรียนจะเปิด “ หนุ่ม.. หนุ่มจะต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะ ถ้าเขาไม่เข้าหาเราก่อน เราก็เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อนก็ได้ เชื่อฉัน..สักวันเขาจะต้องยอมรับเธอ.. ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปซิ..ไปหาเพื่อนสักคน ” สาวสูงวัยในชุดสีเหลืองเผยรอยยิ้มสวยก่อนจะเดินกลับไปนั่งลงบนโต๊ะอาจารย์ประจำวิชาที่ตั้งอยู่หน้าห้อง ทางเพทายพยายามหายใจเข้าลึกลึกแล้วกล่อมตัวเองให้หยุดกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น.. เขากำหมัดเอาไว้แน่นแล้วถีบตัวเองลุกขึ้นมาจากเก้าอี้นั่ง.. ตัวเลือกแรกของเขาเป็นผู้หญิง เพทายมันจะเลือกผู้หญิงก่อนผู้ชายเสมอ เพราะผู้หญิงมีความอ่อนโยนและไม่ทำกริยาน่ารังเกียจเท่ากับผู้ชาย.. บรรดาเด็กเรียนหญิงที่เกาะกลุ่มกันในห้องมีไม่เยอะเท่าผู้ชาย แต่ก็มีให้เห็นอยู่ถึงสองสามกลุ่ม.. เพทายเลือกกลุ่มที่มีแค่เด็กหญิง เขาเดินต้วมเตี๊ยมไปพร้อมกับขาทั้งสองข้าง “ เธอ.. ผมขอร่วมกลุ่มด้วยได้ไหม.. เราจะไม่ทำตัวเป็นภาระพวกเธอหรอก ” เพทายยังคงเลือกไม่สบตากับคนใดแต่รวบรวมความกล้าในจิตใจแล้วพูดมันออกมา ทางเด็กสาวพยายามจะสบตากับเพทายแต่ก็ทำได้แค่มองจองเด็กหนุ่มที่เอียงหน้าหนีตน เด็กสาวตัดสินใจถามเพื่อนในกลุ่มทั้งห้าคน.. เธอใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งเลยกว่าจะหันกลับมาให้คำตอบกับเพทาย “ ได้ซิ.. แต่เธอห้ามสร้างปัญหานะ ” เพทายรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันทีที่เพื่อนนักเรียนหญิงยอมตกลงรับเขาเข้ากลุ่ม ในหัวของเพทายคิดเพียงแค่ว่า ปัญหาที่ตนจะก่อได้คือเรื่องที่สร้างความกดดันให้เด็กหนุ่มมากเกินกว่าที่ตนจะรับมือกับมันไหวเพียงเท่านั้น.. อย่างอื่นพวกเพื่อนสบายใจได้ เพทายเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว เพทายรับมือกับมันได้ แม้บางเรื่องจะเป็นเรื่องยากสำหรับเพทายอยู่บ้างก็ตาม เพื่อนใหม่ของเพทายทั้งหกคนเริ่มแนะนำตัวทีละคน เริ่มจากคนซ้าย ชื่อ “ ฟากัว ” ชื่อของเขาเพทายรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลย มันอาจฟังดูใหม่เกินไปสำหรับเพทาย ฟากัวเธอเป็นหญิงผิวขาวลูกคนจีน ครอบครัวของเธอค้าขายอาหารในย่านคนจีน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเพทายไม่ไกลนัก คนถัดมาคือ “ ยุพิน ” เธอผิวคล้ำแต่ดวงตากลมสวย แต่เธอไม่ได้บอกว่าครอบครัวของเธอทำอาชีพอะไร คนที่สามชื่อ “ แอปเปิล ” เธอดูนิ่งๆ หยิ่งๆชอบกล แม้เธอไม่ได้เล่าอะไรแต่เธอก็ไม่ได้ทำกริยาน่ารังเกียจอย่างใดใส่เพทาย คนที่สี่ชื่อ “ ปลา ” เธอมาจากต่างจังหวัด เธอคนฝั่งภาคใต้ แต่ภูมิลำเนาของเธออยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่ของเธอได้แฟนชาวต่างชาติและเปิดร้านอาหารอยู่ทางภาคใต้ แน่นอนว่าครอบครัวของปลาร่ำรวยเงินทอง ดูจากการแต่งตัวและของใช้แพงแพงนั่นแล้วไม่เอ่ยถามก็พอจะมองออกว่าเป็นอย่างไร คนที่ห้าคือ “แบมแบม ” นักเรียนที่แพทายเดินไปทักและขอเข้าร่วมกลุ่ม เป็นเด็กสาวผมสั้นประบ่า ยาวกว่าเพื่อในกลุ่มทั้งห้าอยู่เล็กน้อยและเธอดูนิสัยดี คนสุดท้ายชื่อ “ อันตา ” เธอมีสายตาที่ดุร้ายแต่นิสัยตรงกันข้ามกับสายตา เธอเป็นคนเฮฮา เป็นสายฮาสายตลกในกลุ่ม.. เพื่อนๆในกลุ่มของเพทาย เริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟังว่าตอนนี้กำลังเลือกกันอยู่ว่าจะเสนอชื่อเพื่อนคนไหนในห้องให้เป็นหัวหน้า หนึ่งในตัวเลือกนั้นมี “ พะพาย ” หนุ่มหล่อของห้อง.. หนุ่มคนนั้นผิวขาว ปากสีลมพูระเรื่อ ทรงผมรองทรงรับเข้ากับใบหน้า ดวงตากลมโต ขนตายาวสวย จนเพทายอดที่จะชำเลืองมองอยู่ห่างๆไม่ได้ เขาหล่อพอๆกับพี่ชายของเพทายเลย “ ฟากัว เชื่อกู..ส่งพะพายนี่แหละ ดีสุดแล้ว ” แอปเปิลพูดขึ้นมา “ เปิล.. เมษาก็ดีนะเว้ย ใส่แว่นหนาเตอะ น่าจะรับผิดชอบได้ดี ”ฟากัวตอบกลับแอปเปิลอย่างเรียบง่าย “ หรือส่งอีแบมแบมของเราดีไหม.. มันเรียบร้อยดี ” ยุพินเสริม “ อย่างอีแบมน่ะนะ.. หยุดเหอะ เอาพะพายนั่นแหละ ” สาวบ้านรวยพูดขึ้น “ แล้วเพทายล่ะว่าไง มองใครไว้บ้างไหม ” อันตาหันหน้ากลับมาถามแพทาย “ ทายว่า.. พะพายก็ดีนะ.. ” เพทายยังคงเอียงหน้าคุยกับเพื่อนเสมอ “ งั้นตกลงเป็นพะพายนะพวกมึง ” ตอนนี้เด็กนักเรียนแยกย้ายกันกลับมานั่งบนเก้าอี้เรียนเช่นเดิม บนกระดานมีชื่อของผู้ถูกส่งมากถึงห้าชื่อ หนึ่งในนั่นคือ “ พะแพง ” ผู้ได้คะแนนสูงสุดจากการโหวต แต่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกดีใจกับตำแหน่งหัวหน้าห้องในครั้งนี้เลย.. อาจารย์สอนวิชาภาษาไทยมองดูเข็มนาฬิกาที่เคลื่อนไปข้างหน้าบนชั้นเรียน..เธอคิดว่าเวลาเพียงสิบห้ายาทีคงสอนอะไรไม่เข้าหัวของนักเรียนเป็นแน่ เผะอจึงสั่งให้นักเรียนทำการบ้านมาส่งในคาบหน้า เด็กนักเรียนลุกขึ้นทำความเคารพและเธอก็เดินจากไป สิบห้านาทีสุดท้ายของคาบแรกกลายเป็นเด็กๆได้เวลาอิสระ ก๊อก ก๊อก เพทายเอียงหน้าหันไปดูที่มาของเสียงเคาะตรงหน้าห้อง พี่ชายของตนกำลังยืนมองหาตนอยู่.. เด็กนักเรียนในห้องหันกลับไปมองพี่ชายของเพทายพร้อมเพียงกัน ความหล่ออร่าของชายหนุ่มเปล่งประกายจนทำให้เด็กนักเรียนหญิงในห้องหวั่นไหว.. “ นั่นใครอ่า..” นักเรียนหญิงคนหนึ่งแสดงสีหน้าเคลิ้ม เหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า “ หล่อจัง ” นักเรียนหญิงอีกคนพูดขึ้นมา “ เพทาย.. เพทายอยู่ไหน ” ไพรทูรย์เรียกหาน้องชายของตน “ ทายอยู่นี่ ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วรีบวิ่งต้วมเตี้ยมออกไปหาพี่ชายที่ยืนรออยู่หน้าห้อง “ ไงเพทาย.. คาบแรกเป็นยังไงบ้าง ” เพทายยิ้มบางและเอียงหน้ามองไปที่แขนแกร่งของพี่ชายแทนการมองหน้า “ อาจารย์ให้เลือกหัวหน้าห้องและก็ให้การบ้านกลับไปทำที่บ้านน่ะทูน และทายก็มีเพื่อนแล้วตั้งหกคน.. ” ผู้เป็นพี่ชายยิ้มกว้างยกมือหนาขึ้นมาลูบหัวน้องชาย “ ทำดีมากเพืาย..พี่นึกว่าทายจะโดนเพื่อนแกล้งซะอีก ” เพทายหุบยิ้มบางแต่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา “ พี่ขออาจารย์มาเข้าห้องน้ำน่ะเลยแวะมาดูเพทายด้วยเลย ” เด็กหนุ่มพยักหัวแล้วตอบกลับพี่ชายไปว่า “ ทายโอเคน่ะทูน ” ไพรทูรย์ยกมือออกจากหัวเด็กหนุ่มแล้ววางลงบนไหล่แทน “ แล้วตอนเที่ยงให้พี่มากินข้าวด้วยไหม มีเพื่อนกินข้าวด้วยหรือเปล่า ” เด็กหนุ่มส่ายหน้าทันที “ ไม่เป็นไร เดี๋ยวทายหาเพื่อนกินข้าวเองได้ ” ไพรทูรย์แสดงสีหน้ากังวลเล็กน้อย “ พี่ไปกินกับเพื่อนได้จริงเหรอ ทายอยู่ได้แน่นะ ” เด็กหนุ่มยกมือของพี่ชายออกจากบ่า “ ทายอายุสิบหกแล้วนะทูน ” พี่ชายอดเป็นห่วงน้องชายไม่ได้แต่ก็ไปขัดความต้องการของน้องชายไม่ได้อีกเช่นกัน.. “ งั้นตอนเย็นทายรออยู่ข้างล่างตึกนะ แล้วพี่จะมารับ ” เพทายพยักหน้าตอบรับ จากนั้นไพรทูรย์ถึงวางใจและเดินลงบันไดกลับไปยังตึกที่ตนเองกำลังเรียนอยู่ “ ไอ้ทูน.. มึงไปทำอะไรตั้งนานสองนานวะ ” ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำพูดขึ้น “ ธาร กูไปหาน้องมา ” ชายผิวคล้ำขมวดคิ้วเข้าหากัน “ ไอ้เด็กข้างบ้านมึงน่ะนะทูน.. ป่านนี้แล้วมึงยังไม่เลิกดูแลมันอีกเหรอวะ มันสิบหกแล้วนะเฮ้ย ถึงมันไม่เต็มบาทแต่มันก็น่าจะดูแลตัวเองได้อยู่เปล่าวะ.. กูถามจริง มึงไม่อยากมีเวลาไปมีแฟน ไปทำอย่างอื่นบ้างเหรอวะ หรือแค่มีหนังสือ..อย่างว่า เก็บไว้ในห้องก็พอใจมึงแล้ว ” ไพรทูรย์ยกมือหนาขึ้นไปตบหัวเพื่อนผิวคล้ำ “ ลามปามน่ะมึงน่ะ กูจะมีหรือไม่มีแฟนมันก็เรื่องของกูครับเพื่อน ” ธารยกมือขึ้นลูบหัวเหม่งของตัวเอง “ ไอ้เชี้ยทูนแม่ง.. กูเจ็บนะเว้ย ” ไพรทูรย์หัวเราะเบาๆแล้วพูดขึ้นว่า “ สมน้ำหน้ามึง สมควรแล้ว ” ติ๊ด ติ๊ด แรงสั่นจากเพจเจอร์ในกระเป๋าดังขึ้น “ พี่ทูน เย็นนี้ว่างไหม.. ไปกินข้าวกัน จากจูน ” เสียงสัญญาณตามสายดังขึ้น.. เป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่าหมดคาบเรียนในช่วงเช้าแล้ว “ แบม.. วันนี้แบมกินข้าวที่ไหนเหรอ.. วันนี้เราเอา.. ” เพทายลุกจากเก้าอี้เรียนแล้วเดินไปหาเพื่อนนักเรียนคนใหม่ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยค.. “ แบมจะกินกับเพื่อนๆที่โรงอาหารน่ะทาย แบมไปก่อนนะ พวกนั้นเดินลงบันไดไม่รอแบมแล้ว.. แล้วเจอกันคาบบ่ายนะทาย ” เด็กหนุ่มเอียงหน้าแล้วยิ้มบางตอบกลับเพื่อนใหม่ แต่มือทั้งสองข้างซ่อนกล่องข้าวที่คุณยายทำให้เอาไว้ข้างหลัง..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD