“นอนไม่หลับเหรอลูก” มาลาตีถามลูกสาวที่นอนพลิกตัวไปมา
“แม่จ๋าคุณลุงกำนันเขาชอบแม่จ๋าเหรอคะ แล้วเขาจะมาเป็นพ่อใหม่ของเอิร์นเหรอคะ” เสียงเล็กถามแม่เบาๆเพราะไม่อยากมีพ่อใหม่ถึงไม่เคยเจอพ่อมาเป็นสิบปีแต่เธอก็เห็นพ่อตามข่าวสังคมซึ่งแม่ไม่เคยปิดบังและเพื่อนๆก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นลูกสิริภพไฮโซคนดังเป็นหลานของมรว.ภูวเดช แม่บอกเสมอว่าพ่อแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้จึงเลิกกันและแม่ก็พาเธอมาอยู่กับตายายหากเธอโตขึ้นอยากเจอพ่อแม่ก็ไม่ห้ามแต่พ่อไม่เคยมาหาเธอแล้วทำไมจะต้องอยากเจอด้วยเธอมีตายายน้าชายน้าสะใภ้ใจดีและน้องทั้งสองก็พอแล้ว
“แม่ไม่รู้จ้ะ เอิร์นฟังแม่นะลูก แม่รักลูกมากส่วนเรื่องจะมีสามีใหม่แม่ไม่เคยคิดแม่มีแค่เอิร์นก็พอแล้ว เราอยู่กันสองคนแม่ลูกดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจ้ะ” คนเป็นแม่ตอบลูกสาวอย่างอ่อนโยนและยืนยันกับลูกสาวว่าจะไม่แต่งงานใหม่
“ใช่ค่ะแม่จ๋าเราอยู่ด้วยกัน เอิร์นจะอยู่กับแม่จ๋าจะตั้งใจเรียนแล้วทำงานเลี้ยงแม่จ๋ากับตาจ๋า ยายจ๋าและน้าเติมน้านุชกับน้องๆค่ะ” เด็กหญิงให้คำมั่นกับแม่ว่าจะตั้งใจเรียน
“เก่งมากลูก ทีนี้จะนอนหลับได้หรือยังจ้ะ” มาลาตีถามลูกสาวกอดร่างเล็กไว้อย่างรักใคร่
“ค่ะแม่จ๋า ” สิริยากรตอบแม่แล้วหลับตาลงอย่างสบายใจเมื่อรู้ว่าแม่ไม่คิดจะมีพ่อใหม่ให้เธอและไม่ได้คิดถึงพ่อแท้ๆเช่นกัน
มาลาตีลูบหลังลูกสาวไปมากล่อมนอนและคิดไปถึงอดีตสามีตอนนี้เขาคงมีความสุขดีถึงเธอจะไม่สนใจข่าวของเขาแต่ก็มีข่าวสังคมให้เห็นตลอดคิดแล้วถอนหายใจ อย่างน้อยเธอก็จากมาอย่างมีศักดิ์ศรียอมหย่าโดยไม่เรียกร้องอะไรแม้พ่อแม่สามีจะเอาเงินฟาดหัวเธอก็ฉีกเช็คทิ้งต่อหน้าทุกคนในครอบครัวของเขาและเมียน้อยเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่งั้นเธอคงเป็นเหมือนนางเอกในละครน้ำเน่าหลังข่าวที่ถูกพ่อแม่สามีกดขี่ข่มเหง มาลาตีคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วปลงก่อนจะหลับไปอย่างมีความสุข
ที่กรุงเทพ
บ้านหลังใหญ่หรูหรากลางเมืองย่านสีลมของหม่อมราชวงค์ภูวเดช ทรัพย์มงคล ที่ได้รับมรดกที่พ่อแม่ยกให้สิบไร่มีมูลค่ากว่าพันล้านแต่ไม่ได้มีแค่บ้านของท่าน ยังมีบ้านของลูกชายทั้งสองอยู่ในบริเวรเดียวกันในและตอนนี้กำลังเฟื่องฟู่เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซื้อขาที่ดินกำลังบูมจึงทยอยขายที่ดินในมือได้กำไรมากมาย
“จะไปไหนคะคุณอิน” เปรมมาถามสามีที่เลิกงานกลับมาบ้านแล้วแต่งตัวออกไปอีก
“นัดดื่มสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่นน่ะ แล้วคุณไม่ไปไหนเหรอวันนี้” สิริภพถามภรรยาที่อยู่ไม่ติดบ้านเข้าสังคมออกงานตลอดไม่สนใจลูกเต้าปล่อยให้อยู่กับพี่เลี้ยงและเขาเองก็มีงานเยอะก็ไม่มีเวลาดูแลลูกพอพูดเรื่อนี้ทีไรก็ทะเลาะกันทุกครั้ง
“ทำไมคุณไม่บอกก่อนล่ะ เปรมจะได้ไปด้วย”
“พวกนั้นมันนัดกระทันหันน่ะสิ เอาไว้คราวหน้าละกัน แล้วนี่ลูกไปไหนกันหมดล่ะ”
“เล่นอยู่ในห้องมั้ง” เปรมมาพูดด้วยความไม่พอใจที่สามีไม่ให้ความสนใจเธอผิดกับตอนที่แอบคบกัน เธอรู้ว่าเขาเลี้ยงผู้หญิงไว้คนหนึ่งและมีลูกด้วยแต่ไม่รู้ว่าทั้งสองจดทะเบียนสมรสกัน ในยุคนั้นสิรภพเนื้อหอมและเขาเหมาะสมกับเธอมากที่สุดจึงเข้าทางแม่ของเขาเอาอกเอาใจซื้อของฝากราคาแพง จนเธอท้องพอสิริภพรู้ก็โวยวายว่าเธอไม่ป้องกันแล้วเธอก็บอกแม่ของเขาท่านก็จัดการให้จนผู้หญิงคนนั้นยอมหย่าและเธอก็ได้แต่งงานกับเขาสมใจแต่ชีวิตรักก็ลุ่มๆดอนๆเพราะเขาบ้างานแล้วยังแอบมีเล็กมีน้อยและเธอก็ตีแตกกระเจิงทุกคน
“ผมไปนะอาจจะกลับดึก”
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าคุณพาผู้หญิงคนอื่นไปด้วย” เปรมมาพูดกับสามีที่นัดเจอเพื่อนสังสรรคก็มีทั้งดื่มและเล่นไพ่
“ไม่มีหรอก มีแต่เพื่อนน่ะ” เขาไม่ได้นัดสาวแต่เพื่อนจ้างพริ้นตี้สายเอ็นไว้เรียบร้อยซึ่งน้องนางทั้งหลายก็ใจถึงหากถูกใจก็เปิดห้องจัดการได้เลยซึ่งช่วงหลังพวกเขาก็จะนัดเจอกันทุกเดือน
เปรมมามองตามสามีเดินออกไปจากบ้านเธอก็เดินไปดูลูกสาวลูกชายทั้งสองที่เล่นในห้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลส่วนพ่อแม่ของสามีก็ไปงานเลี้ยงที่มีได้เกือบทุกวัน
“ว้ายย..” เปรมมาร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็มีตุ๊กตาบาร์บี้ลอยมาปะทะอก
“คุณแม่/คุณเปรม” สิรินทรากับสิริภาพและพี่เลี้ยงของคุณหนูทั้งสองก็ร้องออกมาพร้อมกันแล้วนั่งกองกันเป็นกระจุก
“นี่มัยอะไรกันยัยอิม ตาแอมป์ เล่นอะไรกันแล้วทำไมแกไม่ดูแลลูกฉันห๊านังพัน” เปรมมาเอ็ดลูกสาวลูกชายและพี่เลี้ยงที่ไม่ดูแลลูกของเธอ
“คือว่า”
“อิมขอโทษค่ะคุณแม่” สิรินทรายกมือไหว้แม่แล้วทำใจกล้าเดินไปหาแม่อย่างกล้าๆกลัวๆ
“แอมป์ขอโทษค้าบคุณแม่” เมื่อพี่สาวเดินไปหาแม่สิริภาพก็เดินตามไป
“ทำไมไม่เล่นกันดีๆล่ะลูก จะโยนข้าวของทำไม” เปรมมามองลูกทั้งสองที่ยกมือไหว้ขอโทษแล้วทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเข้ามากอดขาเธอ
“ก็นายแอมป์ยั่วโมโหอิมก่อนค่ะ”
“ก็พี่อิมว่าเขาเป็นตุ๊ดก่อนนะ” สิริภาพบอกแม่
“อิมไปว่าน้องแบบนั้นได้ยังไงกันลูก ต่อไปอย่าล้อน้องแบบนี้อีกนะแล้วอย่าปาข้าวของด้วยไม่งั้นแม่จะลงโทษทั้งสองคนเลย” เปรมมาบอกลูกรักของเธอทั้งสองที่เธอเลี้ยงดูอย่างดีลูกสาวเรียนโรงเรียนสตรีชื่อดังลูกชายก็เรียนโรงเรียนชายชื่อดังที่ลูกท่านหลานเธอทั้งหลายเรียน
“ค่ะ/ค้าบคุณแม่” สองพี่น้องยิ้มออกเมื่อแม่ไม่ทำโทษ
“แกพาคุณอิมกับคุณแอมป์ไปอาบน้ำแล้วพาลงมากินข้าวด้วยนะ” เปรมมาบอกพี่เลี้ยงซึ่งมีหลายคนแต่ละคนก็อ่อยสาวมีของเธอจึงไล่ออกแล้วให้พันสาลูกสาวแม่ครัวมาเป็นพี่เลี้ยงเพราะพันสาไม่สวยนั่นเอง ส่วนเรื่องเรียนเธอก็ให้เรียนพิเศษและบางครั้งก็สอนการบ้านบ้างหากไม่ได้ออกงาน
“ค่ะคุณเปรม ไปอาบน้ำค่ะคุณหนูอิมคุณหนูแอมป์” พันสาบอกคุณหนู่ทั้งสองแล้วจับมือสิริภาพเดินตามสรินทราขึ้นไปชั้นสองเพื่ออาบน้ำก่อนที่จะถูกเจ้านายด่า
เปรมสุดามองตามลูกๆเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นแล้วเธอก็เดินไปที่สระสั่งให้แม่บ้านเปิดไวน์มาให้นั่งดื่มคนเดียวคิดถึงความหลังที่ผ่านมา หากเธอไม่พลาดท้องกับรณรัตก่อนที่จะมีความสัมพันธ์กับสิริภาพในเวลาใกล้กัน สิรินทราก็คงไม่มีพ่อและอาจไม่ได้เกิดมาเธอกับรณรัตเคยคบกันตอนไปเรียนเมืองนอกก่อนจะเลิกกันต่างก็มีคนใหม่ผ่านไปหลายปีพอเธอเรียนจบก็กลับมาเมืองไทยเจกันในงานปาร์ตี้ก็รื้อความสัมพันธ์กันเล่นๆแค่ครั้งเดียวเพราะรณรัตแต่งงานแล้ว นั่นทำให้เธอพลาดเพราะเมาจึงไม่ได้ป้องกันและโชคดีของสิรินทราที่ได้เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์เป็นทายาทของสิริภพนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง
สิริภพไปถึงงานเลี้ยงก็ทักทายเพื่อนๆหลังจากนั้นทุกคนก็จับกลุ่มกันเล่นไพ่และดื่มไปด้วยมีพริ้นตี้สายเอ็นระดับตัวท็อปมาบริการนั่งประกบป้อนเหล้าไวน์เอาใจหนุ่มใหญ่ทั้งหลายเพื่อเงินทีจ้างมาราคาสูงเพราะสาวๆกลุ่มนี้ใจถึงหากเงินถึง
“คุณอินขาวันนี้มือขึ้นนะคะ” ต้นหอมสาวสายเอ็นตัวแม่ที่เรียกค่าตัวได้คืนละห้าหมื่นถึงแสนแล้วแต่ว่าลูกค้าต้องกรระดับไหนตั้งแต่เจอสิริภพเขาก็เรียกหาเธอบ่อยและใจถึงกว่าคนอื่น
“เพราะต้นหอมเป็นนางกวักของฉันไง นี่รางวัลของเธอ” สิริภพงค์หยิบแบงค์พันห้าใบยัดใส่นมของสาวสายเอ็นแล้วบีบอย่างแรงด้วยความหมั่นเขี้ยว
“คุณอินอ่ะ” ต้นหอมตีมือของหนุ่มใหญ่เบาๆอย่างมีจริตจะกร้าน
“คราวหน้าฉันจองต้นหอมบ้างนะอิน เผื่อจะมือขึ้นบ้าง” เพื่อนของของสิริภพพูดขึ้นยิ้มๆ
“แกต้องถามต้นหอมเอง”
“คุณอินใจดีแบบนี้ต้นหอมก็ต้องเลือกคุณอินสิคะ” พริ้นตี้สาวสวยพูดไปมือก็ลูบไล้ต้นขาของหนุ่มใหญ่ไฟแรงไปมา
“นั่งนานฉันชักจะเมื่อยแล้ววะ ต้นหอมไปเตรียมน้ำมันนวดรอฉันนะเดี่ยวฉันตามไป” สิริภพบอกสาวสายเอ็นเพราะเขาครั่นเนื้อครั่นตัวอยากให้พริ้นตี้สาวนวดให้จะแย่
“ค่ะคุณอิน แล้วรีบตามไปนะคะ” ต้นหอมพูดจบก็บีบเป้ากางเกงที่อาวุธของเขาให้ตื่นตัวก่อนจะลุกออกไปจากห้องพักเพื่อไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วถอดเสื้อผ้าเตรียมตัวนวดให้เขา
“อะไรกันวะอิน แกจะเอาเร็วไปมั้ยยังไม่เที่ยงคืนเลยนะเพื่อน” นับพันว่าเพื่อนที่วันนี้มือขึ้นแต่แพ้ทางพริ้นตี้สาว
“นั่งสิวะอิน หรือเมียที่บ้านไม่ทำการบ้านวะ”
“เปล่าหรอก วันนี้เบื่อๆนะ” สิริภพตอบเพื่อนเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลูกสาวคนโตของเขากับอดีตภรรยาที่หย่ากันไปสิบปีกว่าและไม่เคยเจอกันอีกเลย ตอนหย่ากันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเพราะเขามีเปรมมาแต่เวลาผ่านไปทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุขคือมาลาตี ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรและอยู่ในที่ๆเขาให้อยู่ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเวลากลับบ้านก็จะเอาอกเอาใจเตรียมน้ำเย็น อาหารเครื่องดื่ม และน้ำอุ่นและเสื้อผ้าให้เขาแต่เปรมมาไม่เคยทำบอกว่าเป็นหน้าที่ของคนใช้
“อย่าบอกนะว่าเบื่อเมีย”
“หรือแกยังคิดถึงเมียเก่าอยู่วะ ป่านนี้ลูกสาวแกคงโตแล้วนะ” สุจินพูดขึ้นเพราะเขาเคยจีบมาลาตีแข่งกับสิริภพแต่เพื่อนของเขามันปากหวานและหล่อกว่าจึงยอมถอยให้เพื่อน
“สิบกว่าปีแล้ว”
“แกไม่เคยเจอลูกเลยเหรอวะอิน” อาวุธเพื่อนอีกคนถามขึ้น
“ไม่เคยเจอเลยและไม่รู้ด้วยว่าอยู่ที่ไหน”
“ใจดำจังเลยว่ะ นั่นลูกนะอินถึงแกจะเลิกกับตีแต่หนูเอิร์นเป็นลูกแกนะ ถ้ารู้ว่าแกจะไม่สนใจตีกับลูกแบบนี้ฉันคงยื่นมือไปช่วยตีแล้ว” สุจินว่าเพื่อนปกติไม่คุยกันเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและพวกเขาก็เพิ่งกลับมารวมตัวกันได้ไม่นาน
“มึงจ้องจะตีท้ายครัวกูตลอดเลยสิไอ้จิน” สิริภพวางไพ่ในมือแล้วถามเพื่อนอย่างไม่พอใจถึงเขาจะเลิกกับมาลาตีแต่เพื่อนก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับอดีตภรรยาของเขา
“ทำไม มึงหวงเหรอวะไอ้อิน”
“เฮ้ยอะไรกันวะ พอๆจะมาทะเลาะอะไรกันเรื่องมันเก่าเป็นสิบปีแล้วนะเว้ย มึงจะไปนวดไปนาบก็ไปเลยไอ้อิน ส่วนมึงก็ดื่มไปไม่งั้นก็พาน้องปรายไปเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะห้องโน้น” นับพันห้ามเพื่อนที่ทะเลาะกันเพราะเรื่องอดีตทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับมาลาตี
“กูกลับดีกว่า ฝากมึงจัดการต้นหอมด้วยนะไอ้นับ” สิริภพพูดดจบก็ลุกขึ้นกวาดเงินใส่กระเป๋าและยื่นเงินฝากเพื่อนไปให้พริ้นตี้สาวอีกหนึ่งหมื่นแล้วเดินออกไปจากห้องสวีทที่พวกเขาจัดปาร์ตี้กัน
“มึงก็พูดเรื่องเก่าทำไมวะไอ้จิน”
“ก็กูสงสารตีกับหลานไงวะ แม่งไอ้อินมันใจดำมากเลยกูอยากพูดด้วยซ้ำว่าหมามันยังรักลูกของมัน...” สุจินหยุดพูดแล้วถอนหายใจ
“มันเรื่องของไอ้อินใช่มั้ยวะ ปล่อยไปเถอะอย่าไปยุ่งกับมันเลยปานนี้เมียเก่ามันอาจจะมีผัวใหม่ไปแล้วก็ได้ ตกลงจะเล่นไพ่ต่อหรือจะเล่นกับสาวๆวะ” อาวุธถามเพื่อน
“เล่นกับสาวๆดีกว่า คืนนี้กลับบ้านเร็วหน่อยเมียจะได้ดีใจ” นับพันพูดจบพวกเขาก็แยกย้ายกันพาสาวๆเข้าไปเล่นกันในห้อง เมื่อเสร็จภารกิจก็แยกย้ายกันกลับบ้านนใครบ้านมัน
สิริภพก็หัวเสียเมื่อเพื่อนยังจ้องตีท้ายครัวของเขาถึงแม้จะเลิกกับมาลาตีไปแล้วแต่เขาก็ยังหวงทั้งที่ไม่เคยหวนกลับไปดูดำดูดีลูกเลย เมื่อกลับถึงบ้านห้าทุ่มกว่าก็พร้อมกับพ่อแม่ของเขาที่กลับจากงานเลี้ยงพอดี เมื่อลงจากรถก็รอท่านทั้งสองเพื่อเดินเข้าบ้านด้วยกัน
“ไปไหนมาตาอิน” สรัลพรลงจากรถก็ถามลูกชายที่จอดรถก่อนหน้าเธอไม่ถึงห้านาที
“ไปกินข้าวกับเพื่อนมาครับ แล้วคุณแม่กับคุณพ่อไปงานเลี้ยงมาเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็เหมือนทุกครั้งนั่นแหละ แต่ละคนก็พูดถึงแต่เรื่องตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาลอวดกันแล้วแกก็อย่าบ้างานให้มากนักนะ มีเวลาก็อยู่ดูแลลูกๆของแกด้วยตอนนี้เด็กๆกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อต้องเอาใจใส่ให้มาก” มรว.ภูวเดชสอนลูกชายที่ไม่มีเวลาดูแลลูกๆเอาแต่ทำงานแม้จะมีแม่คอยดูแลแต่ลูกสะใภ้ของเขาก้ไม่ค่อยสนใจลูกเช่นกันก็มีแต่เขากับภรรยาที่ดูแลหลานสาวหลานชายทั้งสอง
“ครับคุณพ่อ”
“แม่ว่าก่อนเปิดเทอมพาหนูอิมกับตาแอมป์ไปเที่ยวทะเลกันดีมั้ย แม่จะได้บอกให้คนเฝ้าบ้านทำความสะอาดบ้านรอ”
“ก็ได้ครับคุณแม่ ไปเสาร์อาทิตหน้าก็ได้ผมว่าง” สิริภพตอบแม่แล้วเขาก็เดินเลยขึ้นไปชั้นสองก่อนท่าน
“ฉันสงสารหลานจริงๆนะคุณชาย พ่อก็บ้างานแม่ก็เอาแต่ออกสังคมไม่มีเวลาดูแล” สรัลพรพูดแล้วถอดหายใจ
“จะทำยังไงได้ล่ะคุณรัล เราก็ช่วยเลี้ยงดูอบรมหลานแทนพ่อแม่ละกัน” คุณชายภูวเดชก็ไม่รู้จะทำยังไงเช่นกันนอกจากช่วยดูแลหลานทั้งสองและลืมไปว่ายังมี่หลานสาวคนโตอีกคนที่พวกเขาไม่ยอมรับ
“ไปนอนกันเถอะค่ะคุณชาย” จรัลพรพูดกับสามีแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่ออาบน้ำพักผ่อน
สิริภพเดินเข้าไปในห้องนอนของลูกทั้งสองที่นอนด้วยกันแต่แบ่งคนละฝั่ง เพราะยังไม่โตพอที่จะให้นอนคนเดียวแล้วคิดถึงลูกสาวคนโต น้องเอิร์นหรือเด็กหญิงสิริยากรตอนนี้อายุสิบสามปีแล้วสิ ซึ่งเขาเป็นคนตั้งชื่อให้ลูกสาวและอดีตภรรยาตั้งชื่อเล่น สิบปีแล้วที่เขาได้เจอป่านนี้ลูกสาวกับอดีตภรรยาจะเป็นยังไงบ้าง มันจะสายไปมั้ยที่เขาจะติดตามหาและให้ความช่วยเหลือก่อนจะเดินไปที่ห้องนอนของเขากับภรรยา
“กลับมาแล้วเหรอคะ” เปรมมาลืมตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องมองสามีที่เดินเข้ามา
“อื่อ..” สิริภพมองภรรยานอนบนเตียงแล้วเดินเลยไปเข้าห้องน้ำเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งลงตะกร้าก่อนจะนอนแช่น้ำอุ่น
“มีอะไร” สิริภพมองภรรยาที่อยู่ในชุดนอนซีทรูสีดำมองเห็นร่างกายอวบอิ่มขาวโพลนตัดกับชุดนอนแต่เขากลับไม่มีอารมณ์เพราะในหัวคิดเรื่องภรรยาเก่ากับลูก
“ก็มาดูคุณอาบน้ำน่ะ มีอะไรให้ช่วยมั้ย” เปรมมาถามสามียิ้มยั่วยวนเดินมาใกล้แล้วจับขอบอ่างโน้มตัวก้มลงจนสองเต้าลอยอยู่ตรงหน้า
“วันนี้ผมเหนื่อยนะเปรมคงไม่ไหว”
“หรือว่าคุณไปเอากับใครมาคะอินถึงได้เหนื่อย” เปรมมายืนขึ้นมองสามีด้วยความไม่พอใจ
“ผมจะไปเอากับใครล่ะเปรม แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้วจะเหมือนคุณได้ยังไงวันๆเอาแต่ออกงานช้อปปิ้ง” สิริภพตอบภรรยาด้วยท่าทางเฉื่อยชา
“ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะอิน ไหนจะดูแลลูกอีกและคุณบอกว่าเหนื่อยแต่ออกไปดื่มกับเพื่อนได้พออยู่กับเมียไม่มีอารมณ์แล้วคุณจะให้ฉันคิดยังไงคะ” เปรมมาเริ่มเสียงดังด้วยความไม่พอใจที่สามีปฏิเสธทั้งที่เธอยังสาวสวยและเซ็กซี่ถึงขนาดไม่ยอมให้ลูกทั้งสองกินนมแม่เพราะกลัวทรวงอกเสียทรงอ้างว่าน้ำนมไม่มี
“อย่ามาหาเรื่องชวนทะเลาะนะเปรม ผมเหนื่อยจริงๆถ้าคุณจะเอาก็ปลุกมันเองละกัน” ปกติเรื่องนี้เขาไม่เคยขาดทั้งภรรยาและสาวๆเขาบริการถึงใจทุกคนแต่วันนี้เขาไม่มีอารมณ์จริงขนาดพริ้นตี้สาวสุดเอ็กซ์เขายังทิ้งมาได้
“เพราะคุณกินอีพริ้นตี้พวกนั้นมาใช่มั้นอิน กลิ่นน้ำหอมยังติดเสื้อคุณอยู่ ใช่มั้ยอินคุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงอิน ไอ้บ้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” เปรมมาหยิบขึ้นมาดูก็ได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดเสื้อสามีก็ขว้างเสื้อใส่หน้าเจ้าของแล้วทุบตีเขาด้วยความโกรธ
“เปรมหยุดนะ ผมบอกให้หยุดไงเปรมเป็นบ้าไปแล้วหรือไงห๊า..” สิริภพตวาดใส่ภรรยาเพราะครั้งนี้เขาไม่ได้นอนกับใคร
“คุณว่าฉันบ้าเหรออิน ไอ้คนมักมากคุณจะไม่หยุดใช่มั้ยไอ้บ้า” เปรมมาว่าสามีที่ยังมีผู้หญิงไปเรื่อยๆถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันไม่มีทางเขาจะยอมรับ
“ผมไม่ได้จริงจังกับใครนะเปรม คุณก็รู้ดีนี่ขนาดตีเขายังไม่จู้จี้ตามจิกผมเหมือนเลย” สิริภพพูดเปรียบเทียบภรรยาเก่ากับภรรยาใหม่ทำเอาอารมณ์ของเปรมมาปรี้ดขึ้นมาทันทีเมื่อถูกเปรียบเทียบกับเมียเก่าของเขาที่ไม่มีอะไรเทียบเธอได้เลยไม่ว่าจะการศึกษาหน้าตาชื่อเสียงและฐานะร่ำรวย
“กรี้ดดด....” เปรมมากรีดร้องเสียงดังด้วยความโกรธสามีก่อนจะถลาไปตบตีอย่างบ้าคลั่ง
“เปรมมา..หยุดนะฉันบอกให้หยุดโธ่เว้ย..” สิริภพตวาดใส่ภรรยาที่กรี้ดเสียงดังลั่นห้องน้ำจนเขาแสบแก้วหูยกมือปัดป้องก่อนจะกระชากลงมาในอ่างอาบน้ำเพื่อหยุดความบ้าคลั่งล็อคตัวไว้
“ปล่อยฉันนะไอ้ผัวบ้า ฉันบอกให้ปล้อย ปล่อยฉัน...” เปรมมาร้องด่าสามีและบอกให้ปล่อย
“ถ้าไม่สงบสติอารมณ์ก็ไม่ต้องมาคุยกัน” สิริภพพูดเสียงดังก่อนจะปล่อยตัวภรรยาแล้วลุกขึ้นออกจากจากอ่างอาบน้ำไปล้างตัวใต้ฝักบัวแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันเอวหนาเดินออกไปจากห้องน้ำปล่อยภรรยานั่งฮัดฮัดด่าว่าเขาอยู่ในอ่าง
เปรมมาโกรธสามีมากครั้งนี้เธอถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่ด่าทอบตบตีเขาด้วยความโมโหและโกรธปกติเธอไม่เคยเช็คเสื้อผ้าของเขาแต่ครั้งนี้มันตระหงิดใจที่เขาปฏิเสธมีความสัมพันธ์กับเธอก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำสระผมใต้ฝักบัวจนเสร็จก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่เดินออกไปจากห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดนอนเสร็จก็เดินไปที่เตียงเห็นสามีนอนอยู่จึงเดินออกจากห้องไปนอนกับลูกทั้งสอง
วันถัดมาสิริภพก็ตื่นมาตามเวลาปกติเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงไปทานอาหารเช้าแล้วออกไปทำงานเหมือนทุกวันจึงไม่ได้เจอลูกๆทั้งสองที่พี่เลี้ยงพาลงมาทานอาหารเช้า
“สวัสดีค่ะคุณปู่คุณย่า” เด็กน้อยทั้งสองยกมือไหว้สวัสดีปู่ย่า
“สวัสดีลูก มาทานข้าวเร็วลูกแล้วนี่แม่เปรมยังไม่ลงมาอีกเหรอพัน” สรัลพรถามถึงลูกสะใภ้ที่วันนี้ลงมาสาย
“ยังค่ะคุณท่าน คุณเปรมบอกว่าปวดหัวขอนอนพักก่อนคะ” พันตอบเจ้านายตามที่เปรมมาบอก
“งั้นหายาหาข้าวไปให้หน่อยนะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันดูแลให้เอง”
“ค่ะคุณผู้หญิง” พินรับคำสั่งเจ้านายแล้วเดินออกไปจากห้องอาหารเพื่อเตรียมอาหารและยาไปให้เจ้านายสาว
“ลำเจียกบอกเด็กตักข้าวต้มให้หลานฉันหน่อย” สรัลพรบอกแม่บ้านที่ยืนดูแลความเรียบร้อนในโต้ะอาหารให้เจ้านาย
“ค่ะคุณท่าน” ลำเจียกเดินหายออกไปจากห้องอาหารอีกคนเพื่อจัดอาหารเช้ามาให้คุณหนูทั้งสอง
“น้องอิมกับน้องแอมป์อยากไปเทียวทะเลมั้ยลูก” คุณชายภูวเดชถามหลานน้อยทั้งสองที่ตาโตขึ้นมาทันทีแล้วยิ้ม
“แอมป์อยากไปมากครับคุณปู่”
“อิมก็อยากไปค่า คุณปู่คุณย่าจะพาอิมไปเที่ยวทะเลจริงเหรอคะ” สิรทราถามปู่ย่าด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้ไปเที่ยวทะเล
“จริงสิลูก เสาร์อาทิตย์หน้าคุณปู่กับย่าและคุณพ่อคุณแม่จะพาน้องอิมกับน้องแอมป์ไปเที่ยวทะเลนะลูก” สรัลพรตอบหลานทั้งสอง
“เย้ๆๆ..อิมจะไปเที่ยวทะเล”
“ไชโยแอมป์จะได้ไปเล่นน้ำทะเลแล้ว..”
คุณชายภูวเดชมองหน้าภรรยาแล้วยิ้มเมื่อเห็นหลานทั้งสองมีความสุขซึ่งท่านกับภรรยาช่วยเติมเต็มในส่วนที่หลานขาดทั้งรักและตามใจทุกอย่างแล้วกลับลืมหลานสาวอีกคนไปอย่างใจร้ายใจดำที่สุด
ที่บ้านของนายเกียรติ
รถรับส่งนักเรียนก็มาจอดในเวลาสิบเจ็ดนาฬิกากว่าปกกติก็จะมาถึงก่อนสิบเจ็ดนาฬิกาแล้วเด็กหญิงสิริยากรก็ลงจากรถตู้รับส่งประจำของคนในหมู่บ้านไปโรงเรียนประจำอำเภอที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณสิบกิโลเมตรและเพิ่งไปเรียนได้สองเดือน เมื่อเธอเรียนจบป.6 โรงเรียนประจำหมู่บ้านแล้วไปเข้าม.1โรงเรียนในอำเภอ