EP.17 [เข้าชมรม]

1199 Words
‘ชมรมจิตอาสา’ ป้ายชมรมเหนือบานประตูเด่นชัดเมื่อเราสี่คนเดินมาถึงหน้าตึกขนาดสองชั้นซึ่งตั้งอยู่เกือบหลังมหาวิทยาลัย แถมยังอยู่ไกลจากตึกคณะวิศวะฯมากด้วย แสงเหนือบอกว่าเพราะชมรมนี้มีกิจกรรมที่ต้องใช้พื้นที่บ่อย ๆ เช่นการรับบริจาคสิ่งของ ทำให้สถานที่ตั้งต้องอยู่ห่างไกลจากตึกหลัก ๆ ตามที่เห็น “น่าตื่นเต้นจัง คิดไม่ถึงว่าแกจะสนใจชมรมนี้นะยัยเฌอ” เฟรย์ควงแขนฉันแล้วพาเดินตามหลังแสงเหนือและพีคเพื่อนสนิทของเขาเข้ามาด้านตึก ภายในกว้างใหญ่กว่าที่เห็นด้านนอกซะอีก แถมยังเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย “แต่จะว่าไปนะ กับแกอ่ะไม่ค่อยน่าแปลกใจ แต่กับหมอนั่นน่ะ ทำไมถึงมาเข้าชมรมนี่นะ” “แปลกตรงไหน แสงเหนือเป็นคนสนใจชมรมนี้ก่อนฉันอีกนะ” “ก็แหม ฉันคิดว่าเขาจะเข้าชมรมบาสนี่ เล่นบาสเก่งซะขนาดนั้น” นั่นสินะ… จะว่าไปมันก็แปลกอยู่แฮะ “มาสมัครเข้าชมรมครับ” ความคิดของฉันหยุดลงพลางมองไปทางแสงเหนือกับพีคที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ผู้หญิงที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้นมองพวกเราชั่วครู่ก่อนหยุดลงที่แสงเหนือแล้วทำหน้าเขินอาย เอ่อ… ช่วยเก็บอาการหน่อยก็ได้มั้งนั่น “ต้องกรอกใบสมัครอะไรไหมครับ?” “คะ… ค่ะ ๆ สะ สี่คนนะคะ” เธอคนนั้นหลุดจากภวังค์รีบตอบรับลนลาน จนในที่สุดใบสมัครทั้งสี่ใบก็มาอยู่ในมือแสงเหนือ “กรอกเสร็จแล้วจะพาไปหาประธานนะคะ” “ขอบคุณครับ” สิบห้านาทีต่อมาพวกเราถูกพาเข้ามาด้านในของชมรม ตลอดทางที่เดินผ่านได้ยินเสียงพูดคุยตามห้องต่าง ๆ สองข้างทางเป็นระยะ ๆ เธอผู้นำทางอธิบายให้ฟังว่าชมรมจิตอาสาแห่งนี้เป็นชมรมค่อนข้างใหญ่และมีสมาชิกเยอะ ทุกคนล้วนแบ่งหน้าที่ในการทำงานอย่างเป็นสัดส่วน ภายใต้การดูแลของประธานชมรม “ประธานคะ พาสมาชิกใหม่มาแล้วค่ะ” “อ้อ ขอบใจมากนะริสา เดี๋ยวพี่รับหน้าที่ต่อเองจ้ะ เธอกลับไปที่เคาน์เตอร์เถอะ” ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องด้านในสุดก็พบกับร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแบบหวาน ๆ ท่าทางดูเรียบร้อยพอสมควร เมื่อผู้หญิงที่ชื่อริสาเดินออกไปเธอก็หันมาหาพวกเราพร้อมกับรอยยิ้มใจดี “สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อเอวี่ เรียนอยู่มนุษย์ปีสี่ เป็นประธานชมรมจิตอาสานะจ๊ะ” หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จพี่เอวี่พาพวกเราเดินไปตามห้องต่าง ๆ ของชมรมพร้อมกับอธิบายระบบการทำงานภายในชมรมอย่างละเอียด พวกเราได้รู้จักกับสมาชิกคนอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาต่างคณะและต่างชั้นปี ทำให้ตอนนี้เรามีเพื่อนและพี่น้องต่างคณะมากมาย นับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดี ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเข้าชมรมนี้ “สำหรับสมาชิกใหม่ในช่วงแรก ๆ พี่จะให้รับหน้าที่คัดแยกของบริจาคไปก่อนนะ เพื่อให้พวกเธอได้ทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของสิ่งของแต่ละอย่าง ช่วงนี้ขอเวลาในการร่วมชมรมอาทิตย์ละสามครั้งอย่างต่ำนะ เพราะมีโครงการรับบริจาคอยู่ ถ้าหมดช่วงนี้ไปก็จะมีการออกค่ายต่างจังหวัด และหลังจากนั้นจะเป็นช่วงสอบซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าบ่อยก็ได้จ้ะ” เธออธิบายอย่างเข้าใจง่าย ๆ แล้วพาเรามาหยุดยืนที่ห้องโถงขนาดกลาง ภายในมีชั้นวางสิ่งของมากมาย คล้าย ๆ กับโกดังห้างสรรพสินค้า ฉันมองไล่สายตาไปรอบห้องเพื่อทำความเข้าใจ ก่อนหยุดสายตาลงที่ใบหน้าหวาน ๆ ของพี่เอวี่ เธอกำลังมองฉันแล้วยิ้ม “ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้เลยนะ” “เอ่อ ค่ะ เท่ากับว่าพวกเรามีหน้าที่คัดแยกสิ่งของภายในห้องนี้ใช่ไหมคะ แล้วยังมีคนอื่นนอกจากพวกเราสี่คนไหมคะ” “อ้อ มีจ้ะ ส่วนมากคนที่อยู่ห้องนี้จะเป็นน้องใหม่กับพวกที่ชอบโดดชมรมบ่อย ๆ จ้ะ แต่ส่วนมากจะมากันตอนเย็น ๆ ถ้าเป็นช่วงเวลานี้คงยังเรียนกันอยู่” “แล้วเราต้องเริ่มวันนี้เลยไหมคะ” ยัยเฟรย์ถามในสิ่งที่ฉันก็อยากรู้พอดี “ตามสะดวกเลยจ้ะ ถ้าพวกน้อง ๆ ว่างกันวันนี้ก็เริ่มทำกันได้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะให้รุ่นพี่ที่ดูแลส่วนนี้มาช่วยแนะนำให้นะ” “เอ่อ เอาไงดีอ่ะแก เริ่มวันนี้เลยไหม แกไม่มีงานช่วงเย็นใช่ป่ะ” ฉันพยักหน้าตอบยัยเฟรย์ มันเลยหันไปหาหนุ่ม ๆ “แล้วพวกนายว่าไงกัน พวกฉันจะทำวันนี้เลย ไหน ๆ ก็ว่างกันแล้ว” “เย็นนี้พวกเรามีนัดเล่นบาสแล้วน่ะสิ ถ้ายกเลิกต้องโดนด่าแน่ ๆ” พีคเป็นคนตอบแทน ขณะที่แสงเหนือยังมองไปรอบ ๆ ห้องเหมือนกับฉัน “ถ้างั้นเป็นพรุ่งนี้ก็ได้นะ วันนี้ก็ให้สาว ๆ เริ่มทำไปก่อน แล้วพรุ่งนี้น้องสองคนก็ช่วยสอนเพื่อนอีกที” พี่เอวี่แนะนำ ฉันกับแสงเหนือจึงมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย “ถ้างั้นวันนี้ฝากด้วยนะ ไว้พรุ่งนี้ฉันจะมาให้ช่วยสอนนะ” “อ่ะ… ได้ ๆ พวกนายไปกันเถอะ” ฉันรับปากเขาแล้วละสายตากลับมาหายัยเฟรย์ซึ่งมันกำลังทำตาเล็กตาน้อยใส่ฉันอยู่ “มองอะไรยะ” “ไม่รู้สิ บรรยากาศมันฟุ้ง ๆ” ยัยเพื่อนรักกระซิบเสียงเบา ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ปกติยัยนี่ก็เข้าใจยากอยู่ล่ะ . . . ตกเย็น “กล่องนี้ต้องเอาไปไว้ชั้นบนใช่ไหมนะ” “ไหนดูหน่อย อื้อ ใช่ ๆ เห็นพี่นัทบอกว่าอยู่ล็อกสุดท้ายชั้นบนอ่ะ” “โอเค งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปเก็บเอง” ฉันหอบกล่องขนาดกลางที่ด้านในเต็มไปด้วยถุงเท้านักเรียน เราจำเป็นต้องจัดสรรให้เป็นสัดส่วนเพื่อสะดวกเวลาขนส่ง ซึ่งตลอดหลายชั่วโมงที่ฉันกับเฟรย์ช่วยคนอื่น ๆ คัดแยกก็เริ่มเข้าที่เข้าทางและพอจำล็อกต่าง ๆ ได้บ้างแล้ว แม้จะเหนื่อยไปหน่อยแต่ก็ถือว่าสนุกดี ทุกคนที่นี่อัธยาศัยดีแถมยังเปิดเพลงฟังเพลิน ๆ เป็นบรรยากาศที่ไม่น่าเบื่อนัก เมื่อเดินมาถึงล็อกสุดท้ายฉันลากบันไดมาพาดกับชั้นวางของแล้วยกกล่องขึ้น มือหนึ่งจับบันไดแล้วเหยียบทีละขั้นจนได้ระยะจึงสอดกล่องเข้าวางในชั้น เสียงโหวกเหวกจากทางเดินหน้าล็อกดังมาไกล ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ ฉันไม่ได้สนใจแล้วหันกลับมาปัดฝุ่นออกจากมือก่อนค่อย ๆ ก้าวเท้าลงจากบันได ทว่า… ปึก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD