ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วมองตามยัยเฟรย์ ผู้ชายร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีเทาควันบุหรี่กำลังเดินตรงมาทางนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาขับรับกับแสงแดดยามเย็น สาว ๆ รอบตัวพากันมองตามจนเหลียวหลัง แต่เขากลับไม่ได้สนใจพวกเธอสักนิด สายตาคมเข้มคู่นั่นมองตรงมาที่ฉันไม่ยอมละจนกระทั่งเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะหินอ่อนที่ฉันกับยัยเฟรย์นั่งอยู่
“วันนี้นายลงสนามด้วยเหรอเหนือ?” ฉันขมวดคิ้วถาม
“เปล่า แค่มาดูเฉย ๆ น่ะ ขอนั่งด้วยได้ไหม?” แสงเหนือตอบเรียบ ๆ สายตาเขาดูนิ่งไปกว่าทุกที
“อ้อ ได้สิ” ฉันหยิบกระเป๋าออกจากบนโต๊ะหินอ่อนฝั่งตรงข้ามเพราะคิดว่าแสงเหนือจะนั่ง แต่เปล่าเลย เขากลับเดินอ้อมมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับฉัน และแน่นอนว่าระยะห่างระหว่างเรามันจึงใกล้ชิดกันจนเรียกว่าไหล่กระทบกันเลยล่ะ
“ขอนั่งตรงนี้ด้วยนะ มันมองเห็นสนามพอดีน่ะ”
แสงเหนือยิ้มให้ฉันเหมือนปกติทุกวัน ฉันจึงพยักหน้ารับอย่างไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน
เอาจริง ๆ ถ้าพูดกันตามตรงเขาอาจเป็นเพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวของฉันเลยก็ว่าได้มั้ง
“ว่าแต่พวกเธอมานั่งเชียร์พวกรุ่นพี่เหรอ”
“อือใช่ ฉันโดนยัยนี่ลากมาน่ะ” ฉันโบ้ยไปให้ยัยเฟรย์ทันที บอกให้รู้ไว้เลยว่าฉันไม่ได้เต็มใจมานะยะ
“…เหรอ” แสงเหนือรับคำช้า ๆ ก่อนลากสายตาจากสนามมามองฉัน แววตาเขาเหมือนกำลังมีเรื่องบางอย่างในใจอยากจะถามแต่ไม่ถาม
“นายมีอะไรหรือเปล่า? มีอะไรก็ถามได้นะ หน้าตานายมันแสดงออกชัดเจนมาก”
“อ่า… โทษที” เขาเกาหัวเก้อ ๆ “คือว่า… เรื่องข่าวลือน่ะ ที่ว่าเธอคบกับหมอนั่น… ฉันหมายถึงรุ่นพี่โลกิน่ะมันจริงหรือเปล่า”
ให้ตายสิ เรื่องนี้อีกแล้วเหรอ?
ฉันถอนใจเซ็ง ๆ เมื่อโดนถามคำถามนี้อีกแล้ว และด้วยอารมณ์ขุ่น ๆ มาหลายวันติดฉันจึงตอบคำถามแสงเหนืออย่างใส่อารมณ์สุด ๆ
“ไม่ได้คบ ไม่ได้สนิท มันแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นแหละ!” ฉันเท้าคางกับโต๊ะแล้วดูดน้ำปั่นไปด้วย
ทำยังไงถึงจะลบข่าวลือบ้าบอนั่นได้นะ น่าหงุดหงิดจริง ๆ
“อ๊ะ นั่นพวกพี่ชายมาแล้ว”
ฉันเงยหน้ามองตามสายตายัยเฟรย์ บริเวณอีกฟากฝั่งของสนามปรากฏร่างสูงสี่คนในชุดเสื้อช็อปกางเกงยีนส์ ออร่าความหล่ออย่างร้ายกาจของผู้ชายกลุ่มนั้นสะกดสายตาของสาว ๆ รอบสนามได้เป็นอย่างดี และมันจะดีมากถ้าผู้ชายพวกนั้นไม่เดินตรงมาทางฉันอีกแล้ว
ให้ตายสิ… ชีวิตฉันนี่ยิ่งกว่าเซเลปอีกนะ กลายเป็นจุดสนใจแทบจะตลอดเวลาที่หายใจเลยจริง ๆ
ฉันวางแก้วน้ำปั่นลงบนโต๊ะอย่างพยายามไม่สนใจกลุ่มคนที่กำลังมาเยือน แต่แล้วก็ต้องหันไปสนใจคนข้าง ๆ แทนเมื่อเขาหยิบแก้วน้ำของฉันขึ้นมาหมุนมองด้วยความสนใจ
“สตอรว์เบอร์รี่ปั่นเหรอ ซื้อจากร้านหน้าคณะหรือเปล่า”
“อ้อ อือใช่ ร้านประจำฉันน่ะ ทำไมเหรอ” ฉันตอบอย่างงง ๆ
“ขอชิมหน่อยได้ไหม ฉันเคยซื้อจากหน้าตึกนิเทศฯแล้วมันหวานมาก แต่ยังไม่เคยลองชิมของที่ร้านนี้เลย” แสงเหนือขมวดคิ้วมองแก้วน้ำปั่นของฉันเหมือนอยากจะชิมมันจริง ๆ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะเห็นว่าเราเป็นเพื่อนกันและเขาก็ชอบสตรอว์เบอร์รี่เหมือนกับฉัน แถมบ้านเขายังมีไร่สตรอว์เบอร์รี่ด้วย อ้อ ฉันลืมบอกไปว่าแสงเหนือเป็นคนเชียงใหม่แต้ ๆ เลยนะ บ้านเขาทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ เขาเคยชวนฉันไปเที่ยวด้วยแหละ ซึ่งมันน่าสนใจโคตร ๆ เลยล่ะ
“อื้อ ลองชิมดูสิ มันไม่ค่อยหวานมากนะ กำลังอร่อยเลย” เมื่อฉันอนุญาตแสงเหนือก็ชิมทันที เขาดูดหลอดเดียวกับฉันก่อนจะทำปากจุบจิบเหมือนกำลังสัมผัสรสชาติของสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งฉันก็จ้องเขาอย่างรอลุ้นว่าเขารู้สึกยังไงกับรสชาติที่ฉันกินประจำ “เป็นยังไง อร่อยไหม?”
“หวานแฮะ”
“บ้า หวานจริงเหรอ?” ฉันจับมือแสงเหนือที่ถือแก้วน้ำอยู่เพื่อเบี่ยงหลอดมาตรงหน้าตัวเองแล้วดูดชิมรสชาติอีกครั้ง ฉันว่ามันไม่ได้หวานขนาดนั้นนะ แสงเหนือกินยังไงถึงว่าหวาน “ไม่เห็นจะหวานละ…”
ฟึ่บ!
“กินอะไรกันอยู่เหรอ น่าอร่อยดีนี่”
อยู่ ๆ แก้วน้ำปั่นในมือแสงเหนือที่มีมือฉันทาบทับอยู่ก็ถูกใครบางคนแย่งไป ฉันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือและประโยคคำถามนั้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เสียมารยาทที่สุด แย่งของคนอื่นไปหน้าตาเฉยแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย
“ทำอะไรคะรุ่นพี่ เอาแก้วน้ำฉันคืนมานะ” ฉันแบมือเพื่อทวงแก้วคืน เพิ่งสังเกตว่าพวกสี่หนุ่มเดินมาถึงที่โต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“เมื่อกี้ทำอะไรกันอ่ะ พี่เห็นนะเฌอ! เฌอให้ไอ้เวรนี่กินน้ำด้วยเหรอ?!” เป็นพี่ฌอนที่มองฉันสลับกับแสงเหนือด้วยสีหน้าถมึงทึง ฉันกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ จะอะไรกันนักหนานะ
“ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ เหนือก็แค่ขอชิมเฉย ๆ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ป่ะพี่ฌอน”
“ขอชิม?” พี่ฌอนเท้าโต๊ะแล้วโน้มหน้าลงมาหา เขาจ้องหน้าแสงเหนือด้วยสีหน้าที่นาน ๆ จะได้เห็นจากคนอย่างเขา แววตาดุดันจนน่ากลัว “คิดจะใช้ลูกไม้ตื้น ๆ หลอกจูบน้องสาวกูทางอ้อมงั้นเหรอ? อยากตายมากงั้นสินะ?”
ว่าไงนะ? หลอกจูบทางอ้อม? พี่ฌอนกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อยู่ ๆ มันก็มาคุขึ้นมา ทั้งสายตาดุดันของพี่ฌอนที่ใช้มองแสงเหนือ และสายตาเย็น ๆ จนน่าขนลุกของโลกิที่กำลังมองมาทางฉัน มันยิ่งทำให้รู้สึกกดดันแปลก ๆ จนฉันต้องเป็นฝ่ายทำลายความรู้สึกเหล่านั้นทิ้ง
“เลิกพูดบ้า ๆ เถอะน่าพี่ฌอน เหนือเป็นเพื่อนเฌอนะ แล้วก็คืนแก้วน้ำฉันด้วยค่ะรุ่นพี่” ฉันยังไม่เลิกราที่จะเอาแก้วคืน โลกิกระตุกยิ้มร้ายอย่างไม่คิดจะปิดบัง
นี่เขาลืมสวมหน้ากากเทพบุตรหรือเปล่า ปกติต่อหน้าคนเยอะ ๆ แบบนี้เขาจะไม่เผยด้านมืดของตัวเองออกมานี่