บทที่ 7 พระจันทร์และของหายาก (1/2)

1307 Words
“ไม่นะเคธี่ ที่นี่พระจันทร์เต็มดวงอีกรอบแล้วนะ… เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ” เอล่าทำหน้ารู้สึกผิด ร่างผู้ชายคนหนึ่งเขยิบเข้ามาแทนที่เอล่า “เคธี่เหรอ” วิลลี่ถามแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ______________________________________________________________________________________ “วิลลี่ แกมาได้ไงเนี่ย” เคธี่ “นี่แกเป็นผีเฝ้าโถส้วมเหรอ” วิลลี่มีสีหน้าตกใจและหน้าแหยไปพร้อมกัน ซึ่งเคธี่ไม่แปลกใจกับหน้าตาเหยเกของเขา เมื่อคิดว่าเธอคงทำหน้าแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเห็นหน้าใครลอยไปลอยมาในโถส้วม “ฉันยังไม่ตายโว้ย อยู่ดี ครบ 32 แค่ไม่ได้อยู่ที่โลกมนุษย์” “ฉันจะเชื่อแกได้ยังไง แกอาจจะหลอกฉันอยู่ก็ได้ นี่สินะที่มาของคำว่าผีหลอก” วิลลี่มองไปทางเคธี่ สลับกับเอล่า ตอนนี้เอล่าชะโงกหน้ามาทางอีกฝั่งของโถส้วมแล้ว “บ้าบอ เอางี้ ตอนแกมอสี่ แกเคยใส่หน้ากากไปบอกรักผู้หญิงเพราะแกเขิน สุดท้ายก็ไม่ได้คบกันเพราะผู้หญิงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกเป็นใคร พอแกปีหนึ่งแกก็ซื้อดอกไม้ไปสารภาพรักผู้หญิงถึงในหอ แต่เขินจนวิ่งหนีเข้าห้องผิด จนคนเขาคิดว่าแกบ้ากาม ตอนแก…” “พอเถอะเคธี่ ฉันเชื่อแล้ว” วิลลี่รีบพูดตัดบท เขาหน้าแดง เอล่ายิ้มขำออกมา “ฉันคิดว่าแกโดนฆ่าตายไปแล้ว” วิลลี่พึมพำ ถอนหายใจ เขาหันไปมองหน้าเอล่าด้วยความรู้สึกผิด “ที่คุณบอกว่าคุณสลับโลกกับเคธี่ แปลว่าคุณพูดเรื่องจริงสินะ ผมขอโทษนะครับที่ไม่เชื่อคุณตั้งแต่แรก” “ไม่เป็นไรเลยค่ะ” เอล่ายิ้มให้วิลลี่บางๆ รอยยิ้มแสนสวยนั้นทำให้วิลลี่พยักหน้าและอมยิ้มไปด้วย “นี่พวกเธอ…” เคธี่พึมพำมองคนทั้งคู่ที่ตอนนี้กำลังส่งสายตาขวยเขินให้กัน และไม่ได้ยินเสียงที่เคธี่พูด “เอิ่ม คือ ฉันก็ไม่อยากขัดจังหวะหรอกนะ แต่พวกเธอกำลังนั่งอยู่หน้าโถส้วม” เคธี่ย่นจมูก “โถส้วม คืออะไรเหรอ” เอล่าถามด้วยแววตาใสซื่อ วิลลี่ขมวดคิ้ว “เรากลับมาที่เรื่องพระจันทร์เต็มดวงกันก่อนดีไหม” เคธี่ยิ้มเจื่อน วิลลี่เหล่ตาใส่เคธี่ เขารู้ว่าเธอแกล้งเอล่าแน่นอน เคธี่รีบพูดต่อ “ที่นี่ยังไม่ใช่วันที่พระจันทร์เต็มดวงเลย” “แปลกจัง ตอนที่จะสลับโลกกัน พอเคธี่บอกว่าให้เวลาแค่ 3 เดือน เฟย์ก็ปรับเวลาของโลกนิยายให้เท่ากับโลกมนุษย์แล้วนะ” เอล่างุนงง “ฉันก็จำได้ว่าแบบนั้น สรุปว่าที่โน่นผ่านไป 2 เดือนแล้วเหรอ” เคธี่ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของตัวเอง “ใช่แล้ว” เคธี่หยิบสร้อยและเรียกเฟย์ออกมา แต่ทันทีที่เฟย์ปรากฏตัว ภาพของเอล่ากับวิลลี่ก็กระตุกและดับไป เฟย์ดึงพลังเวทกลับมาที่ตัวเธอ “สวัสดี ไม่เจอกันมานานนะเคธี่” เฟย์พูดเฉื่อยๆ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอเฟย์ ทำไมที่โลกมนุษย์ผ่านไป 2 เดือนแล้วล่ะ” “ฉันว่าเธอก็รู้อยู่แก่ใจนะ” เฟย์หาวออกมา บางทีเคธี่อาจจะไม่อยากยอมรับความจริง หลังจากจัดการเรื่องมรดกเสร็จ ในแต่ละวันทุกอย่างก็ผ่านไปเหมือนเดิม คำพูดเดิมๆ อาหารเดิมๆ เคธี่พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอกำลังติดลูป ลูปที่มีชีวิตที่แสนจะสะดวกสบาย เคธี่ได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น “เธอจะอยู่โลกนี้ต่อไปก็ได้นะ ฉันจะช่วยเธอเอง ยังไงลิซซี่ก็คงไม่กล้ามาทำอะไรเธอแล้วล่ะ ดังนั้น เธอจะอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุข และสุขสบายไปทั้งชีวิต เพราะถ้านิยายเรื่องนี้ไม่จบ สัญญาก็จะไม่ได้เรียกร้องให้เธอกลับไปที่โลกมนุษย์ ส่วนเอล่าต้องดีใจแน่ๆ เธอไม่ต้องห่วง” เคธี่ไม่รู้จะตอบอะไรดี ชีวิตที่สุขสบายนอนรอเธออยู่ตรงหน้า แต่เธอกลับรู้สึกว่างเปล่า เหมือนมีอะไรขาดหายไป “ยังไงดีล่ะสาวน้อย” “ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้” “งั้นเธอลองคิดดูก่อนละกันนะ ฉันไปนอนออมแรงต่อละ” เฟย์พูด และหายตัวไป เคธี่นั่งคิดกับตัวเอง ว่าอะไรคือสิ่งที่เธอต้องการแน่ๆ แน่นอนว่าเธอรักความสุขสบาย แต่การเป็นนักเขียนมันค้างคาใจเธอมาโดยตลอด เธอคิดถึงหนังสือเรื่องโรงเรียนเวทมนตร์เรื่องหนึ่งที่เธอเคยอ่าน หนังสือชุดนั้นดังไปทั่วโลก และเธอก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์ของมัน จนเคธี่เชื่อว่าพลังของเรื่องราวนั้นมีพลังมากกว่าเวทมนตร์ในเรื่องเสียอีก เธออยากมีพลังของนักเขียน และทำให้ผู้คนมีความสุข เคธี่จรดปากกาลงบนสมุดของเธอ และเริ่มเขียนเรื่องราวที่เธอชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของหนังสือ ตัวละคร หรือว่าสิ่งที่ทำให้คนจดจำ ยกตัวอย่างเช่น นกฮูกที่ส่งจดหมายได้ นางเงือกที่ตกหลุมรักเจ้าชาย เจ้าหญิงจากพระจันทร์ ผู้หญิงผมยาวบนหอคอย ตะเกียงแก้วที่ขอพรวิเศษได้ แอปเปิลมีพิษสีแดง และอื่นๆ ที่เคธี่นึกออก เธอเขียนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผล็อยหลับไป ______________________________________________________________________________________ เช้าวันต่อมาท้องฟ้าปลอดโปร่ง เคธี่ตัดสินใจมาหาสตีฟอีกครั้ง “ลูกมีเรื่องจะบอกค่ะคุณพ่อ” “ว่ามาสิ” สตีฟเงยหน้าจากกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า “คือว่าจริงๆ แล้วลิซซี่เป็นคนวางแผนฆ…” ยังไม่ทันที่เคธี่จะพูดจบ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีมืดครึ้ม และส่งเสียง ครืน ครืน ทำให้เคธี่หยุดพูดไป หลังจากนั้นเคธี่ก็ลองพยายามอีก 2-3 ครั้ง แต่เมื่อเธอเข้าใกล้สตีฟทีไร ฟ้าก็มืดครึ้มทุกครั้งจนเคธี่เปลี่ยนแผน เคธี่ใช้จังหวะที่สตีฟออกไปคุยงานกับทางพระราชวัง เธอเข้าไปในห้องของสตีฟและทิ้งจดหมายไว้เต็มห้อง จดหมายนั้นมีข้อความว่า ลิซซี่วางแผนใช้แอปเปิลฆ่าสตีฟ และเคธี่ก็รอให้สตีฟกลับมาถึงคฤหาสน์อย่างใจจดใจจ่อ เมื่อสตีฟกลับมาถึงคฤหาสน์ เคธี่ก็แอบดูสตีฟ จนเขาเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดครึ้ม เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! “อ๊าก!” เสียงร้องขอสตีฟ ดังลั่นผสมกับเสียงฟ้าผ่าในห้อง เคธี่ตกตะลึงและรีบวิ่งเข้าไปในห้องนั้น สตีฟนั่งอยู่กับพื้นเอามือกุมหัว เขาอยู่ในอาการช็อก เพราะสายฟ้าได้ผ่าฟาดทะลุเพดานคฤหาสน์ และเผาจดหมายที่เคธี่วางเอาไว้จนหมด กระดาษบางส่วนยังคงไหม้อยู่ แต่ฝนที่ตกทะลุหลังคาลงมาคอยช่วยดับไฟให้ เคธี่คิดว่าเธอควรหยุดวิธีการนี้ ก่อนที่เธอจะเป็นคนฆ่าสตีฟไปเองจริงๆ เคธี่ไม่อยากให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เธอจึงยอมจำนน และใช้แผนต่อไป เคธี่ฉีกกระดาษแผ่นหนึ่งจากสมุดของเธอออกมา ______________________________________________________________________________________ สองวันต่อมาเมื่อสตีฟใจเย็นมากขึ้น เคธี่จึงตั้งใจจะเชิญเทพพยากรณ์มาทำนายดวงให้กับสตีฟ ในตอนแรกสตีฟไม่ยอม แต่เมื่อเห็นฟ้าครึ้มๆ เขาก็ยอมทันที โดยหารู้ไม่ว่าต้นเหตุที่ฟ้าครึ้มนั้นเพราะเคธี่ไพล่หลังซ่อนจดหมายต้นเหตุเอาไว้ “คนไหนล่ะ ที่อยากให้ฉันทำนายดวง” เฟย์ในร่างเทพพยากรณ์เดินเข้ามาในบ้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD