บทที่ 1 สัญญาของนางฟ้า (1/2)
“จะให้ฉันทำอะไรล่ะ ไล่ออกก็ต้องออก ยังดีที่ได้เงินชดเชย 3 เดือน” เคธี่พูดเสียงเนือยใส่ปลายสายโทรศัพท์
“บริษัทแกนี่ก็ประหลาดนะ คลิปก็ดัง คนก็ชอบ ไม่รู้มีปัญหาที่อะไร” วิลลี่ตอบสาย
“คนชอบ แต่ผู้บริหารไม่ชอบไง เขาบอกว่าคลิปแบบนี้เป็นคลิปล้อเลียนบริษัท ไม่ได้สื่อสารองค์กรอะไรเลย”
“ก็คอนเทนต์ติ๊กต่อก (t****k) เปล่าวะ จะให้เปิดสไลด์ลงคลิปนั่งอธิบายพันธกิจของบริษัทรึไง”
“ฮ่าๆ สงสัยต้องทำงั้นจริง เออ ช่างเหอะ นี่ฉันถึงร้านหนังสือละ มีอะไรจะแนะนำไหม”
“นี่แกจะเอาจริงเหรอ ถึงฉันจะเป็นบก. อยากได้ต้นฉบับดีๆ แต่ในฐานะเพื่อนสนิทของแก ฉันว่าแกไปสมัครงานด้วยดีกว่า ฉันไม่อยากให้แกเป็นนักเขียนไส้แห้ง”
“นี่แกคิดว่าหนังสือของฉันจะไม่ดังใช่ไหม” เคธี่เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เปล่า ฉันแค่อยากให้แกมีแผนสำรอง”
“ไม่เอา ฉันจะลุยให้เต็มที่ ไหนๆ ก็ได้เงินก้อนมา 3 เดือนละ ถือว่าได้โบนัสเอามาปั่นนิยายสักที ฉันจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของฉันเลย”
“โห ได้ แกทำได้แน่”
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ คุณบก.” เคธี่เน้นคำสุดท้าย
“คุณบก. อะไรล่ะ ขนลุก”
“ก็แกต้องเป็นบก. ให้ฉัน ฉันเรียกแบบนี้ก็ถูกแล้วป้ะ”
“เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้รับปากแกเลยนะ”
“คุณบก. ว่าแนวย้อนยุค ย้อนเวลา หรือตายแล้วเข้าไปสิงในโลกนิยาย แนวพวกนี้ยังฮิตกันอยู่ไหมคะ”
“ฉันไม่ใช่บก. แกโว้ย ไม่ต้องมาปรึกษาฉัน”
“ก็ต้องมีตระกูลสูงศักดิ์ มีเจ้าชาย เจ้าหญิง ดยุค ด้วยสินะ” เคธี่พูดต่อ โดยแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำตอบของวิลลี่
“เฮ้อ” วิลลี่ถอนหายใจ และตอบอย่างจำยอม “ก็ยังขายได้อยู่เรื่อยๆ นะ แกจะลองดูก็ได้”
“โอเค ขอบคุณมากค่ะ คุณบก.” เคธี่ยังเน้นคำสุดท้าย
“ฉันเป็นบก.เฉพาะกิจให้แกก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันก็ต้องทำตามเกณฑ์ของสำนักพิมพ์อยู่ดีนะ จะมายกเว้นให้เพื่อนไม่ได้
“ได้เลยค่ะ คุณบก.”
“และก็ขอเถอะ เลิกเรียกฉันแบบนั้นสักที”
“ฮ่าๆ ก็ได้ ขอบคุณมากนะ นี่ฉันถึงร้านหนังสือละ เดี๋ยวลองหาเรฟดู”
“โอเค สู้ๆ บาย”
“บาย” เคธี่บอกลาและวางสายไป เธอเดินเข้าร้านหนังสือที่เป็นร้านประจำของเธอทันที
เคธี่ตั้งใจจะหานิยาย 2-3 เรื่องที่น่าสนใจ และอาจจะได้แรงบันดาลใจสำหรับการเขียนนิยายของเธอได้ แต่เพียงไม่นานเธอก็ถือหนังสืออยู่ 6 เล่มแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหยิบเล่มต่อไป แม้ว่าเธอจะมีหนังสือในตู้ที่บ้านอีกหลายเล่ม ซึ่งมีหน้าที่แค่วางประดับอยู่บนชั้นหนังสือ และเธอแตะมันครั้งสุดท้ายตอนงานหนังสือก็ตาม
เคธี่มุ่งมั่นเลือกซื้อหนังสือใหม่ต่อไป โดยไม่ได้สังเกตว่ามีผู้ชายบางคนแอบมอง แม้ว่าเคธี่จะผมยุ่งๆ เพราะขี้เกียจหวี และตาบวมนิดหน่อยจากการร้องไห้ที่โดนบริษัทที่เธอทำงานมา 3 ปีไล่ออก แต่เธอยังดูสวยอยู่ดี เคธี่มีผมสีน้ำตาลประกายทอง หยักศกเล็กน้อย ผิวขาว จมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีดำน้ำตาลของเธอ ซ่อนความขี้เล่น ซุกซนเอาไว้ รูปร่างของเธอค่อนข้างสมส่วน ไม่ผอม ไม่อ้วน และไม่เตี้ย ไม่สูงจนเกินไป
เคธี่เดินไปถึงหมวดของนิทานเด็ก เธอเดินผ่านไปโดยไม่ได้เหลียวมอง
พลั่ก!
เคธี่ถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อไปดูที่มาของเสียง เธอพบว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งตกอยู่บนพื้น เคธี่มองสำรวจรอบๆ ก็ไม่พบว่าใครอยู่แถวนั้น เคธี่คิดว่าคงมีใครวางหนังสือไว้ไม่ดี หนังสือก็เลยตกลงมา เธอเลยตั้งใจเดินเข้าไปเก็บหนังสือให้ จังหวะที่เธอเก็บหนังสือ เธอเลยได้มองหน้าหนังสือที่เปิดค้างไว้อยู่พอดี
ในหนังสือนั้นมีภาพของหญิงสาวที่แต่งตัวสวยงาม กำลังถูกหญิงแก่ที่ถือไม้กายสิทธิ์ผลักเธอขึ้นรถฟักทอง ในหน้าหนังสือยังมีคำบรรยายสนทนาอีกด้วย
“เอล่า เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ เธอต้องไปงานเต้นรำ และใส่รองเท้าแก้วของเธอด้วย” แม่ทูนหัวบอกเอล่า และดันตัวเธอขึ้นรถฟักทอง
“ขอร้องล่ะเฟย์ ฉันไม่อยากไปงานเต้นรำแล้ว” เอล่าอ้อนวอน
“แต่ถ้าเธอไม่ไป เธอก็จะไม่ได้แต่งงานกับเจ้าชายนะ”
“งั้นก็..”
เคธี่ยังอ่านไม่จบ แต่เธอได้ยินเสียงประกาศจากร้านหนังสือว่ากำลังจะปิดแล้ว ขอให้ลูกค้าไปจ่ายชำระเงินก่อนร้านจะปิด เคธี่รู้สึกสนใจหนังสือที่เธอเพิ่งอ่านไป เธอปิดหนังสือและเดินไปจ่ายเงิน ‘ซินเดอเอล่า’ จึงกลายเป็นหนังสือที่เธอเล่มสุดท้ายที่เธอซื้อ
______________________________________________________________________________________
เคธี่กลับถึงห้องคอนโด หลังจากที่เธออาบน้ำ เธอก็ขึ้นเตียงและเปิดเรื่องซินเดอเอล่าขึ้นมาอ่าน แต่เมื่อเคธี่อ่านจนจบ เธอก็ต้องฉงนว่าไม่มีฉากและบทสนทนาแบบที่เธออ่านในร้านหนังสือ เคธี่ไล่เปิดหนังสือทุกหน้าไปอีก 2-3 รอบ แต่เธอก็ไม่เจอฉากที่เธอต้องการอ่านต่อ ฉากที่ใกล้เคียงที่สุดก็แค่เอล่าขึ้นรถฟักทองไปงานเลี้ยงเท่านั้น เคธี่แปลกใจมาก แต่เธอก็ไม่อยากจะเปิดหนังสือดูใหม่อีกรอบ เพราะตอนนี้หนังตาของเธอแทบจะปิดอยู่แล้ว เพราะเมื่อคืนก่อนเธอร้องไห้ทั้งคืน จนแทบจะไม่ได้นอน
เคธี่ลุกจากโต๊ะทำงาน เธอเดินไปเพียงสองก้าวก็ถึงเตียงของเธอ ห้องคอนโดนี้ค่อนข้างเล็กมาก ใช้การแบ่งห้องโดยการแบ่งพื้นที่เป็นโซนๆ โซนเตียงนอน โซนโต๊ะทำงานกับตู้หนังสือ มีเพียงห้องน้ำที่มีกำแพงแยกออกมาเท่านั้น ข้อดีที่เคธี่เห็นจากห้องนี้ก็มีเพียงติดกับที่ทำงานเท่านั้น เคธี่คิดว่าไหนๆ เธอก็ไม่ได้ทำงานบริษัทเดิมแล้ว เธอน่าจะลองหาคอนโดอื่นดู แล้วเคธี่ก็ผล็อยหลับไป
พั่บๆๆๆ เสียงของหนังสือซินเดอเอล่าเปิดออก ตามมาด้วยแสงสว่างวาบที่ส่องออกมาจากหนังสือ
เคธี่ไม่แน่ใจว่าเธอนอนไปนานขนาดไหน แต่เธอก็ตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามีแสงแยงตา เธอหันไปทางต้นแสง เคธี่หยีตาเพราะว่าสายตายังปรับไม่ทัน แต่ไม่นานนักเคธี่ก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นเงาสีดำค่อยๆ โผล่ออกมาจากหนังสือ เคธี่ตกใจแทบช็อก และเกือบจะกรี๊ดออกมาอยู่แล้วในตอนที่เธอเห็นเท้าของหญิงสาวที่สวมรองเท้าแก้วโผล่ออกมา