ตอนพิเศษ เมื่อซินเดอเอล่ามาที่โลกมนุษย์

1907 Words
ในตอนที่เอล่ารู้ความจริงว่าเธอเป็นแค่นางเอกในเทพนิยายเรื่อง ‘ซินเดอเอล่า’ ตอนนั้นเธอก็วนลูปอยู่ในเนื้อเรื่องเกือบพันรอบแล้ว เฟย์นางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอ ไม่อยากปรับเปลี่ยนเนื้อหาด้วยตัวคนเดียวอีกต่อไป จึงใช้เวทมนตร์ปลุกให้เอล่ารู้ความจริง เอล่าร้องไห้เสียใจไปหลายเดือน จนเมื่อเอล่าทำใจได้ เธอก็ตกลงร่วมมือกับเฟย์ช่วยกันเปลี่ยนเนื้อหาไปหลากหลายเวอร์ชัน และหลายเชื้อชาติ เวอร์ชันที่ดังที่สุดจนกลบเวอร์ชันอื่นๆ เป็นเวอร์ชันที่เธอคุยกับหนูได้ เฟย์เสกรถฟักทองให้เธอนั่งไปงานเลี้ยงเต้นรำ และยังเสกชุดสวยๆ ให้เธอพร้อมรองเท้าแก้ว เอล่าชอบรองเท้าแก้วมากจนอยากให้มีขาเพิ่มอีกสักขามาใส่รองเท้าเพิ่ม แต่เฟย์ปฏิเสธเสียงแข็ง เอล่าจึงต้องวนลูปด้วยขาทั้ง 2 ข้างเช่นเดิม ด้วยความดังของเวอร์ชันนี้ทำให้เอล่าวนลูปมาไม่รู้กี่ครั้ง และลูปนี้เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปถึงฉากที่เธอกำลังเตรียมพร้อมไปเจอเจ้าชาย “ไม่เอาแล้ว ฉันไม่ไป” เอล่าขัดขืน เธออยู่ในชุดสวยงามที่ได้รับจากเวทมนตร์ของเฟย์มาแล้ว “เอล่า เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ เธอต้องไปงานเต้นรำ และใส่รองเท้าแก้วของเธอด้วย” เฟย์บอกเอล่า และดันตัวเอล่าขึ้นรถฟักทอง ถ้าเฟย์ไม่กลัวไม้กายสิทธิ์หัก เธอคงใช้ไม้ตีก้นเอล่าไปแล้ว “ขอร้องล่ะเฟย์ ฉันไม่อยากไปงานเต้นรำแล้ว” เอล่าอ้อนวอน “แต่ถ้าเธอไม่ไป เธอก็จะไม่ได้แต่งงานกับเจ้าชายนะ” “งั้นก็ช่างเจ้าชายอัลไซเมอร์นั่นเถอะ จะเต้นด้วยกันกี่ลูปก็ไม่เคยจำหน้าฉันได้เลย รองเท้าแก้วคงเด่นกว่าหน้าฉันอีกมั้ง” “เลิกบ่นสักทีน่ะ เดี๋ยวไม่ทันเที่ยงคืน” เฟย์ปิดประตูรถม้า ม้าวิ่งออกไปทางพระราชวัง แต่เมื่อเอล่าเห็นว่าเฟย์หายตัวไปแล้ว เอล่าก็ส่งเสียงคุยกับม้าที่ช่วยลากรถฟักทอง และขอให้วิ่งเข้าสู่ป่ามิสทรี เอล่ามั่นใจว่าเฟย์คาดไม่ถึงว่าเธอจะฝึกคุยกับม้าได้แล้ว ก่อนหน้านั้นเฟย์เคยให้พรกับเธอให้คุยกับหนูในบ้านได้ เพื่อให้เหล่าหนูมาช่วยงานบ้านของเธอ แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มฝึกคุยกับสัตว์อื่นๆ ได้ อย่างเช่น นก ไก่ สุนัข จนครั้งนี้เธอแอบฝึกพูดกับม้าจนสำเร็จ เอล่านึกขอบคุณเหตุการณ์ปาร์ตี้นางฟ้าของเฟย์ ที่เอล่าต้องช่วยเฟย์แบกหน้าฟ้าขี้เมาจากเทพนิยายเรื่องอื่นกลับไปที่ประตูมิติ ทำให้เฟย์คลายมนตร์บังตาให้กับเธอ และทำให้เอล่าจำทางไปประตูมิติได้ด้วยตัวเอง เอล่าใช้สร้อยเพชรสีน้ำเงินที่บรรจุเวทมนตร์ของเฟย์ เพื่อเปิดประตูมิติออก แสงสว่างวาบไปทั่วป่า และเธอก็ก้าวเท้าที่ใส่รองเท้าแก้วออกไป และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอมาอยู่ในโลกมนุษย์สลับกับเคธี่ ______________________________________________________________________________________ ในตอนเช้าเอล่ามักจะโดนนกปลุกอยู่เสมอ และนกจะร้องว่าตื่นได้แล้ว หรือเช้าแล้วจ้า แต่เช้าวันใหม่ในโลกมนุษย์ เอล่ากลับได้ยินเสียงนกร้องว่า อุ๊ย แหก.. แหก.. แหก! เอล่าสะดุ้งตื่นพร้อมหาที่มาของเสียง เธอเปิดหน้าต่างดูก็ไม่พบนกสักตัว แต่เธอไม่แปลกใจ เพราะถ้าอยู่บนหอคอยสูงขนาดนี้ นกก็คงไม่อยากบินขึ้นมาปลุก เอล่ามองไปรอบห้องจึงพบต้นเสียง มันมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวแข็งอย่างกับเหล็ก แถมยังเปล่งแสงบอกเวลาได้อีกด้วย “ช่างเป็นนกที่แปลกประหลาด” เอล่าพึมพำ อย่างไรก็ตาม เธอตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนใหม่ “อะไรแหกเหรอคะ” เอล่าถามนกเหลี่ยม อุ๊ย แหก.. แหก.. แหก! อุ๊ย แหก.. แหก.. แหก! แต่นกเหลี่ยมยังร้องเหมือนเดิม เอล่าคิดว่านกคงบาดเจ็บ เธอสงสารจึงลูบตัวนกไปมา แล้วนกก็เงียบลงกะทันหัน เอล่าพยายามคุยกับนกอีก แต่แทนที่มันจะพูดตอบ กลับมีข้อความโผล่ขึ้นมา วิลลี่: ไง สรุปซื้ออะไรมา “เธอคุยกับฉันเหรอ” เอล่าพูดกับนกเหล็ก แต่มันยังแสดงข้อความเดิม ไม่นานก็ดับไป “อ้าว เจ้านก” เอล่าเรียก “วิลลี่” วิลลี่: ฉันมีหนังสือดีๆ อยู่ เดี๋ยวแวะเอาไปให้ “จะเอามาให้… เธอบินได้ด้วยเหรอ” เอล่าพลิกร่างไปมา แต่ไม่เห็นปีกของมันเลย “หรือว่าเธอซ่อนปีกได้แบบเฟย์” ไม่มีคำตอบใด เอล่าคิดว่ามันป่วย เพราะมันมีสายโยงติดอยู่กับผนัง และด้านหลังคงเป็นยาของนกอีกที เอล่าจึงวางลง ปล่อยให้มันพักผ่อน เอล่าอยากออกไปดูโลกภายนอกจะแย่แล้ว เธออยากถอดชุดสาวใช้ออกไปเต็มที แน่นอนว่าตอนที่เธอมาเธอใส่ชุดสวยงาม แต่พอหลังเที่ยงคืนเธอก็กลับมาใส่ชุดสาวใช้ตามเดิม และนั่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอเกลียดเที่ยงคืน เอล่าประหลาดใจกับแฟชั่นในโลกมนุษย์ เสื้อผ้าทุกชิ้นดูกระชับ แม้จะมีกระโปรงยาวบ้าง แต่มันก็ไม่ฟูฟ่องแบบโลกเทพนิยาย เอล่าใส่กระโปรงยาวตัวนั้นกับเสื้อมีปก เธอใส่รองเท้าแก้วคู่โปรด เอล่าไม่ลืมหยิบคีย์การ์ดออกมา เคธี่บอกว่ามันเป็นกุญแจเข้าออกห้อง และเธอก็เปิดประตูก้าวเท้าออกมา เอล่าพบพื้นที่ยาวออกไป มีประตูอยู่หลายบาน เอล่าไม่เคยเจอหอคอยประตูเยอะขนาดนี้มาก่อน เอล่าเห็นป้าคนหนึ่งกำลังกวาดพื้นอยู่ “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนของเคธี่ค่ะ” เอล่ายิ้มทักทาย “สวัสดีค่ะ” คุณป้าตอบ เธอมองเอล่างงๆ แล้วก็กวาดพื้นต่อไป “คือฉันจะออกจากหอคอยนี้ยังไงเหรอคะ หรือว่าที่นี่มีใครไว้ผมเปียยาวไหมคะ ฉันเคยได้ยินจากเฟย์ว่ามีคนลงหอคอยด้วยวิธีนั้น” “ก็ไม่มีนะคะ” คุณป้างงหนักกว่าเดิม “อ้าว แล้วลงไปข้างล่างกันได้ยังไงคะ” “อ๋อ คุณจะลงไปข้างล่าง ทำไมไม่ใช้ลิฟต์คะ ลิฟต์มีปัญหาเหรอ” คุณป้าเดินพาเอล่าไปที่ประตูเหล็กที่ง้างอยู่ ในนั้นมีคุณลุงคนหนึ่งกำลังไขตรงประตูเหล็กไปมา “อ้าว ลิฟต์เสียอีกแล้วเหรอ” คุณป้าถาม “ใช่ ซ่อมเสร็จพอดีเลย” คุณลุงตอบ และเมื่อเห็นเอล่าเขาก็หันมาคุยกับเธอ “คุณจะลงไปด้วยกันไหมครับ” “ค่ะ” เอล่าอารมณ์ดี แล้วก็นึกคำที่เคธี่บอกว่าอย่าให้ใครรู้ว่าเคธี่หายไป มิฉะนั้นจะวุ่นวาย เอล่าจึงพูดกับคนทั้งคู่ “เดี๋ยวฉันจะไปตลาดทำกับข้าวกินกับเคธี่ บอกคนครัวว่าไม่ต้องเตรียมเผื่อนะ” พวกเขามองหน้ากัน พยักหน้าให้กัน และยิ้มให้เอล่า เอล่าดีใจที่สาวใช้และพ่อบ้านต่างใจดีกับเธอ เมื่อเอล่าออกมาจากหอคอย และได้มองทั้งหมดเต็มๆ เธอก็เลิกเรียกมันว่าหอคอยอีกต่อไป “ว้าว! เธอรวยจังเคธี่” เอล่าเผลออุทานออกมา เอล่าไม่คิดว่าเคธี่จะรวยขนาดนี้ คฤหาสน์ของเคธี่ใหญ่กว่าคฤหาสน์ของเธอเองเสียอีก แม้การออกแบบจะเป็นเพียงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ตาม เอล่าคิดว่าคนที่นี่คงชอบรูปทรงนี้ เพราะเมื่อมองไปรอบตัว คฤหาสน์ก็เป็นทรงนี้กันหมด ______________________________________________________________________________________ หญิงคนหนึ่งบอกทางเอล่าไปซื้อวัตถุดิบอาหาร และเธอเรียกมันว่าห้าง เอล่าซื้อของและใช้บัตรเครดิตตามที่เคธี่สอนไว้เมื่อคืน เอล่าเห็นของหลายอย่างแปลกตาน่ากิน เธอจึงหยิบมาเยอะเกิน ทำให้ตอนนี้เธอเดินถือถุงกว่าสิบถุงกลับคฤหาสน์ อีกครึ่งทางเอล่าก็จะถึงที่หมายแล้ว แต่เธอดันรองเท้าหลุดหนึ่งข้าง และจังหวะที่เธอหยุดฝีเท้าถอยหลังเพื่อจะใส่รองเท้า ชายคนหนึ่งก็เดินชนเธอ พลั่ก! “โอ๊ย” เอล่าล้มลง ของทุกอย่างกระจัดกระจายหมด “ข.. ขอโทษนะคะ” เอล่าก้มหัว และรีบเก็บของ “ผมสิครับต้องขอโทษ ผมเป็นคนชนคุณต่างหาก” ผู้ชายคนนั้นช่วยเก็บของให้ เขาเก็บคีย์การ์ดของเอล่า และส่งคืนให้ “ผมกำลังจะไปคอนโดนี้พอดี ให้ผมช่วยถ…” ชายคนนั้นค้างคำพูดไว้เท่านั้น เขามองใบหน้าของเอล่าตาค้าง และอ้าปากค้าง “เอ่อ คุณคะ” เอล่าเรียกสติ “ครับ” ชายหนุ่มยังมองเอล่าราวกับฝันไป “ขอคีย์การ์ดคืนนะคะ” เอล่าหยิบคีย์การ์ดคืนมา “ขอบคุณค่ะ” เมื่อเอล่าลุกขึ้น ชายคนนั้นก็ได้สติอีกครั้ง “ให้ผมช่วยถือของไหมครับ ผมจะไปหาเพื่อนที่คอนโดนั้นพอดี” ชายคนนั้นพูดพร้อมถือของไว้ในมือแล้ว “คุณจะไปคอนโด..ฉัน” เอล่าถามซ้ำให้แน่ใจ เธอเพิ่งรู้ว่าคฤหาสน์ที่เธอเรียก มันเรียกว่าคอนโดต่างหาก “ครับ แต่ว่าผมไม่ได้คิดจะทำอะไรไม่ดีนะครับ ผมไม่ได้จะให้คุณชวนขึ้นคอนโด คือ ผมไม่ใช่ผู้ชายแบนนั้นนะครับ” ชายคนนั้นพูดรัวเร็ว และเริ่มหน้าแดง “ก็ได้ค่ะ” เอล่ายิ้มให้ ทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกัน ชายคนนี้มีผิวแทน ดวงตาสีน้ำตาล คิ้วเข้มโค้งเข้ารูปกับดวงตา และกรอบแว่นกลมของเขา จมูกโด่ง และปากบางรูปกระจับ เขามีใบหน้าหล่อเหลาทีเดียว แม้จะซ่อนอยู่หลังกรอบแว่นหนาก็ตาม เมื่อถึงหน้าคอนโด นกเหล็กของชายคนนั้นก็ร้องขึ้น แต่มันเป็นเสียงเพลงธรรมดา ไม่ใช่เสียงของนก เขาเอานกเหล็กแนบหู และบอกว่าจะรีบไป เขาสอดนกเหล็กกลับไปที่กระเป๋ากางเกงและหันมาคุยกับเอล่า “ผมส่งคุณเท่านี้นะครับ ผมต้องรีบไปแล้ว” “ได้ค่ะ” เอล่ารับถุงมาถือเองทั้งหมด “เอ่อ ผมขอไลน์คุณได้ไหมครับ” “ไลน์..” เอล่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร “ไม่มีค่ะ” “งั้นขอเบอร์ได้ไหมครับ” “เบอร์..ห้องเหรอคะ” “เบอร์มือถือสิครับ” ชายคนนั้นรีบพูด “แต่ถ้าเบอร์ห้องก็ดีเหมือนกัน” เขาพึมพำ และเริ่มหน้าแดงอีกครั้ง “ไม่มีค่ะ” ชายคนนั้นมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย เขาหยิบกระเป๋า ดึงกระดาษชิ้นเล็กๆ แผ่นหนึ่งออกมายื่นให้เอล่า “ถ้าคุณเปลี่ยนใจ ติดต่อผมได้นะครับ” เอล่ารับไว้ ในนั้นมีข้อความเขียนว่า วิลลี่ บรรณาธิการ ______________________________________________________________________________________ นักเขียน: ในโครงเรื่องหลักเราไม่ได้มีตอนของเอล่าโดยเฉพาะ แต่เรารู้สึกว่าเอล่าน่ารักจนต้องมีตอนของนางบ้าง ชอบไม่ชอบคอมเมนต์บอกกันไว้ได้นะ ตอนต่อไป: เคธี่ยิ้มเยาะลิซซี่ และหวังว่าเธอจะเข้าใจว่าเธอไม่ได้เสแสร้งเป็นคนเดียว เคธี่ก็บีบน้ำตาเป็น! ______________________________________________________________________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD