บทที่ 5 มื้ออาหารที่เป็นพิษ (1/2)

1298 Words
เคธี่เดินต่อไปในคฤหาสน์ สาวใช้ค้างอยู่ในท่าทำงานบ้าน คนครัวทำอาหารค้างไว้ ซุปที่ควรจะเดือดปุด แต่ฟองกลับนิ่งอยู่กับที่ เคธี่ออกไปจากคฤหาสน์ เธอไม่พบความเคลื่อนไหวใด คนทั้งเมืองหยุดนิ่งไปอย่างนั้น ______________________________________________________________________________________ “เฟย์” เคธี่ส่งเสียงเรียก “เฟย์ เฟย์!” “เคธี่” เสียงเฟย์ตอบอ่อนแรง “เธออยู่ไหน ฉันไม่เห็นเธอเลย” เคธี่หันมองไปทั่ว “ฉันอยู่ใกล้ๆ เธอแหละ ฉันปรากฏตัวไม่ได้ อยู่ดีๆ พลังของฉันมันก็หายวูบไป” “ทั้งเมืองหยุดนิ่งไปหมดเลย มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ” “ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอไปทำอะไรมาหรือเปล่า” “ฉันคุยกับสตีฟอยู่ แล้วอยู่ดีๆ ฟ้าก็ผ่าลงมา หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นแบบนี้ หรือว่าฉันต้องติดอยู่ในโลกนี้ นี่แผนของเธอเหรอเฟย์” เคธี่ตกใจ “ไปกันใหญ่แล้วเคธี่” เฟย์ปราม “แล้วเธอคุยอะไรกับสตีฟ” “ฉันบอกว่าฉันไม่เอาแม่เลี้ยง ตอนแรกสตีฟไม่ยอม แต่พอฉันยืนยันแบบนั้น สตีฟก็ยอม จริงๆ แล้วเขาก็ตามใจลูกอยู่เหมือนกันนะเนี่ย” “แล้วถ้าทำแบบนั้น เธอก็ไม่มีแม่เลี้ยงน่ะสิ” “ก็ใช่ ก็ดีแล้วนี่ ฉันไม่ได้อยากโดนคนใจร้ายมาบังคับทำงานบ้านสักหน่อย” “นี่เธอเป็นนักเขียนจริงหรือเปล่าเนี่ย ลองคิดดู เรื่องจะดำเนินต่อไปได้ยังไง ถ้าไม่มีค..” เฟย์เสียงหายไป “ค.. อะไรนะ ฮัลโหล เฟย์” เคธี่มองไปรอบตัวอีกครั้ง แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พลังเวทของเฟย์น่าจะหมดไปสักก่อน “นางฟ้าอะไรเนี่ย” เคธี่สบถ เคธี่คิดถึงตอนที่วิลลี่ช่วยสอนเขียนบทให้กับเธอ แล้วเธอก็คิดได้ว่าเรื่องต้องเดินด้วยความขัดแย้ง (Conflict) และแม่เลี้ยงคือจุดเปลี่ยนแรกในเรื่องซินเดอเอล่า พอขาดไปโลกก็เลยเดินต่อไม่ได้ เคธี่ถอนหายใจและกลับเข้าไปในคฤหาสน์ “ตกลงค่ะ” เคธี่พูดกับรูปปั้นสตีฟ และทำให้สตีฟกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง “เมื่อกี้ลูกพูดว่าอะไรนะ” “ตกลงค่ะ ลูกยอมให้คุณพ่อแต่งงานกับลิซซี่” “ขอบคุณนะลูกรัก” สตีฟคว้าเคธี่ไปกอด “เย่” เสียงดังจากนอกประตู “ใครน่ะ” สตีฟถาม สเตซี่ค่อยๆ เปิดประตูเข้ามา สามแม่ลูกยิ้มเคอะเขิน ลิซซี่เดินเข้ามาในห้อง “ขอบคุณนะ หนูเคธี่” ลิซซี่ยิ้มหวานหยดให้ ก่อนจะเข้าไปจูบกับสตีฟ เคธี่แอบกลอกตาอยู่คนเดียว ______________________________________________________________________________________ งานแต่งงานถูกจัดอย่างเรียบง่ายที่สุด ลิซซี่บอกว่าเธอไม่อยากเรื่องมาก แต่เคธี่ค่อนข้างมั่นใจว่าลิซซี่อยากรีบแต่งงานมากกว่า ในอาหารเย็นหลังจบพิธีวิวาห์ ลิซซี่ก็นั่งก็ทานข้าวพร้อมกับทุกคนตามเดิม เพียงแต่ตอนนี้เธอเป็นนายหญิงคนใหม่ของบ้าน “แบบนี้ฉันก็ต้องไปอยู่ห้องของนายหญิงใช่ไหมคะ” ลิซซี่พูดเสียงหวาน ห้องของนายหญิงไม่ใช่ห้องไว้พักผ่อนธรรมดา แต่มันเป็นการแสดงอำนาจในบ้าน โดยเป็นอำนาจอันดับที่สองรองจากนายใหญ่ และตั้งแต่เอลลี่จากไป เคธี่ก็ย้ายไปอยู่ห้องนั้นแทน สตีฟมองเคธี่สลับกับลิซซี่ ทั้งสาวใช้ และพ่อบ้านต่างรอฟังคำตอบของสตีฟ “ยังไงมันก็เป็นห้องนายหญิงของบ้าน ลูกกลับไปอยู่ห้องเดิมของลูกได้ไหม” สตีฟถามเคธี่ “ได้สิคะ” เคธี่ตอบรับ และซ่อนความรู้สึกไม่ดีเอาไว้ “อ้อ อีกอย่าง” ลิซซี่ทำเป็นคิดได้ “ฉันจำได้ว่าคุณเคยบอกว่าถ้าเราแต่งงานกัน ฉันจะขอของขวัญได้หนึ่งชิ้นใช่ไหมคะ” “ของขวัญเหรอ” สตีฟดูงุนงง แต่เขาก็ไม่ได้ขัดอะไร “คุณอยากได้อะไรล่ะ” “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วค่ะ ว่าสัญลักษณ์ของนายหญิงของบ้านนี้ คือเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่สวยงาม จนขนาดราชวงศ์ยอมแบ่งพื้นที่ในวังเพื่อขอซื้อมัน” ลิซซี่ยิ้มหวานหยดย้อยให้สตีฟ “ฉันขอเพชรสีน้ำเงินได้ไหมคะ” “ไม่ได้นะคะ คุณแม่ให้ลูกแล้ว” เคธี่โพล่งขึ้นมา “เอ่อ คุณขออย่างอื่นได้ไหม” สตีฟถาม “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงขออะไรที่มากไป ไม่เหมาะกับสถานะของตัวเอง” ลิซซี่ตีหน้าเศร้า เธอลุกขึ้นและเดินมาหาเคธี่ “ฉันจะรอวันที่เธอยอมรับฉันด้วยใจจริงนะ” สาวใช้มองหน้ากัน และซุบซิบกันด้วยสายตา เคธี่ดูเป็นคนใจแคบขึ้นมาทันที แต่เคธี่ไม่ยอมให้ลิซซี่เล่นละครอยู่ฝ่ายเดียว “สัญลักษณ์ของนายหญิงต้องเหมาะกับลิซซี่อยู่แล้วล่ะค่ะ” เคธี่บีบน้ำตา จับมือของลิซซี่เอาไว้ “คุณแม่ให้สร้อยเอาไว้และบอกว่ามันเป็นเครื่องหมายความรักของคุณพ่อและคุณแม่ ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ของนายหญิงเลยค่ะ ขอโทษที่ทำให้ลิซซี่เสียความรู้สึกนะคะ เดี๋ยวฉันไปเอาสร้อยมาให้” เคธี่ทำท่าจะเดินออกไป “โถ่ คุณหนู” หัวหน้าสาวใช้เดินเข้ามาปลอบโยนเคธี่ สาวใช้ที่เหลือต่างสงสารเธอไม่แพ้กัน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงมันจะเป็นของต่างหน้าชิ้นเดียวของคุณแม่ แต่เพื่ออำนาจ และสนองความต้องการของนายหญิงคนใหม่ ฉันทำได้ค่ะ” เคธี่พูดกับหัวหน้าสาวใช้ แต่เสียงสะอื้นดังของเธอเหมือนคุยกับคนทั้งคฤหาสน์มากกว่า เคธี่ปาดน้ำตา แม้ในใจของเธอจะสะใจที่ได้แซะลิซซี่ “ไม่ต้องหรอกเคธี่ หนูเก็บไว้เถอะ” ลิซซี่ยิ้มให้ แม้จะส่งสายตากินเลือดกินเนื้อกลับมาให้เคธี่ก็ตาม “ขอบคุณนะคะ” เคธี่จับมือลิซซี่ “คุณช่างมีเมตตาจริงๆ” เคธี่นึกขอบคุณวิชาแอคติ้งที่เธอเคยลงเรียนสมัยอยู่มหาวิทยาลัย เคธี่ยิ้มเยาะลิซซี่ และหวังว่าเธอจะเข้าใจว่าเธอไม่ได้เสแสร้งเป็นคนเดียว เคธี่ก็บีบน้ำตาเป็น! ______________________________________________________________________________________ “ฮ่าฮ่าฮ่า” เฟย์หัวเราะชอบใจ “ฉันอยากเห็นหน้าของลิซซี่จริงๆ” “ฉันไม่เคยยึดสร้อยกลับมาอยู่กับฉันได้เลย” เอล่าตื่นเต้น “นี่ก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นล่ะน่า” เคธี่บอกยิ้มๆ วันนี้พระจันทร์ขึ้นเต็มดวง ทั้งสามจึงมาคุยกันตามนัดหมาย เคธี่กับเฟย์อยู่แม่น้ำใกล้คฤหาสน์เหมือนเดิม “ฉันขอโทษนะ ฉันไปยืนข้างแม่น้ำที่พระจันทร์ขึ้นไม่ได้ พอฉันไปยืน คุณวิ.. เอ่อ ก็มีคนหาว่าฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันก็เลยกลับมาที่ห้อง” เอล่าบอกหงอยๆ “ไม่เป็นไรสาวน้อย พวกเธอก็คุยกันเร็วหน่อย เดี๋ยวเวทฉันจะหมดไปสักก่อน” เฟย์พูดน้ำเสียงชิลๆ “ว่าแต่เอล่า เธอคุยอยู่ตรงไหนเนี่ย มุมมันแปลกๆ นะ” เคธี่ถาม “บ่อน้ำส่วนตัวของเธอยังไงเคธี่ ถึงจะเล็กไปหน่อย แต่ก็สะดวกดีจริงๆ” เอล่าในท่าชะโงกบอกเคธี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เดี๋ยวนะ บ่อน้ำส่วนตัวอะไร เอล่า ไหนเธอลองเขยิบออกไปก่อน ฉันขอดูแบล็คกราว” พอเอล่าเขยิบตัวออกไป เคธี่เห็นโคมไฟด้านบนที่คุ้นเคย กระจกกับอ่างล้างหน้าที่เธอไว้แปรงฟันทุกวัน นี่มันห้องน้ำของเธอชัดๆ “อย่าบอกนะว่า ที่เธอชะโงกคุยอยู่ คือ…” เคธี่หวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริง “คือ โถส้วม!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD