แค่ก แค่ก สตีฟไอแบบคนหายใจไม่ออก เขาลุกขึ้นและดิ้นรนอย่างทรมาน
“กรี๊ดดด”เดอร์ซี่กับสเตซี่ประสานเสียง
สตีฟล้มตึงไปกับพื้น
กว่า 12 ชั่วโมงที่สตีฟนอนแน่นิ่งอยู่บนที่นอน หมอบอกว่าสตีฟสิ้นลมหายใจแล้ว กลางดึกคืนนั้นคนในคฤหาสน์ต่างเข้านอนด้วยอาการเศร้าสลด ยกเว้นเคธี่ที่กำลังเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องของสตีฟ เมื่อนาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่ง เคธี่ก็หยิบสร้อยเพชรออกมา
“เฟย์!” เคธี่เรียก
เฟย์ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมสายรุ้งเปล่งประกาย
“สตีฟจะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม” เคธี่ร้อนรน
“นี่เธอขอให้ฉันช่วย แต่ไม่ไว้ใจฉันเนี่ยนะ ฉันอุตส่าห์ข้ามมิติไปขอผลแอปเปิลจากนางแม่มดมาให้เชียวนะ” เฟย์เอ็ด “มันเป็นแค่ผลติดคอเท่านั้นล่ะ เดี๋ยวพอเอาออกสตีฟก็ฟื้นแล้ว”
“ฉันไว้ใจเธอ แต่ฉันจะไว้ใจแม่มดคนนั้นได้ยังไง”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันเห็นนางแม่มดปรุงแอปเปิลพิษมาไม่รู้กี่ลูป ข้างหนึ่งมีสีแดงที่เป็นพิษ ข้างหนึ่งมีสีขาวที่ไม่เป็นพิษ ยัยลูกเลี้ยงก็ได้กินข้างสีแดงตลอด แต่ก็ไม่เคยเห็นนางตายเลยจริงๆ”
“ใช่เรื่องที่มีคนแคระป้ะ”
“ใช่แล้ว เรื่องนั่นล่ะ ว่าแต่เธอจะทำยังไงกับสตีฟต่อไป”
“ก็ต้องช่วยชีวิตเขาขึ้นมาสิ และก็บอกความจริงว่าลิซซี่ตั้งใจจะฆ่าสตีฟ” เคธี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ และหัวเราะแบบนางร้าย
“ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนให้ฉันปลอมตัว และเอาแอปเปิลไปล่อขายให้ลิซซี่เนี่ยนะ”
“โอ๊ย ก็ใช่ แต่แบบนี้เราควบคุมได้ไง ถ้าปล่อยไปตามเรื่องเราก็ไม่รู้หรอกว่าสตีฟจะตายยังไง” เคธี่ขมวดคิ้ว
“เธอก็เลยฆ่าสตีฟเอง” เฟย์ปรบมือหนึ่งทีแสดงความเข้าใจ
“ฉันเปล่าซะหน่อย ฉันแค่ทดลองใจลิซซี่ดู ลิซซี่เป็นคนซื้อแอปเปิลนั่นด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันมีพิษ และก็ยังตั้งใจป้อนให้สตีฟกินอีก”
“ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะร้ายขนาดนี้”
“นางเป็นถึงแม่เลี้ยงใจร้ายของเรื่องเชียวนะ”
“ฉันหมายถึงเธอต่างหากล่ะ เคธี่”
เคธี่ยักไหล่ และเดินไปหาสตีฟ เฟย์บินตามมาด้วย ทั้งคู่มองสตีฟที่นอนตายไปด้วยคำสาป
“นี่เราต้องไปตามตัวเจ้าชายมาจุมพิตหรือเปล่านะ” เฟย์ถาม
“เอ่อ ไม่ต้องมั้ง” เคธี่คิดแล้วหน้ามุ่ย เธอไม่ได้รังเกียจชายรักชาย แต่พอคิดว่าผู้ชายที่เธอต้องไปตามจีบมาจูบกับผู้ชายที่เป็นพ่อ ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
“เห็นบางเวอร์ชันเขาบอกว่าจริงๆ แล้ว โลงแก้วที่ใส่ร่างลูกเลี้ยงมันตกกระแทกลงมา ชิ้นแอปเปิลมันก็เลยหลุดออกมาด้วย” เคธี่พูด
“งั้นเดี๋ยวฉันใช้คาถานี้แล้วกัน” เฟย์ตั้งท่าจะร่ายเวทมนตร์ แต่เคธี่ถีบสตีฟลงจากเตียงไปก่อน
ตุบ สตีฟตกลงพื้น
“นี่เธอเกลียดสตีฟใช่ไหมเนี่ย” เฟย์ตกใจ
“เปล่าซะหน่อย”
แค่ก แค่ก ตุบ สตีฟไอ และมีชิ้นแอปเปิลหลุดออกมา
“มันได้ผล” เฟย์ตื่นเต้น
เคธี่รีบวิ่งเข้าไปประคองสตีฟ สตีฟที่ฟื้นจากความตายมีสีหน้ามึนงง
“คุณพ่อคะ” เคธี่เรียก
สตีฟสะดุ้ง เขามองเคธี่หน้าตาตื่น
“ค.. เคธี่เหรอ พ่อนึกว่าพ่อตายไปแล้ว”
เคธี่ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะสตีฟก็เหมือนตายไปแล้วจริงๆ
“พ่อเห็นเส้นทางที่เป็นสีขาว แต่พ่อก็เดินไปทางนั้นไม่ได้” สตีฟพูดอย่างเหม่อลอย เขามองไปทางเฟย์พอดี “ทำไมเหมือนมีแสงสีรุ้งอยู่ตรงนั้นเลยล่ะ”
เฟย์ตาโตโบกมือปฏิเสธ พูดไม่ออกเสียงกับเคธี่ว่า “ฉันหายตัวอยู่”
“เอ่อ คุณพ่อคะ ลูกว่าคุณพ่อพักผ่อนอีกหน่อยดีไหมคะ” เคธี่รีบเปลี่ยนเรื่อง เธอรีบดึงสตีฟกลับขึ้นมานอนบนเตียง “คุณพ่อหลับไปนานมาก อาจจะทำให้ตาฝาดได้”
“พ่อหลับไปนานเท่าไหร่”
“12 ชั่วโมงได้แล้วค่ะ” เคธี่จับหมอนให้สตีฟนอนได้ถนัด
“แล้วลูกจะให้พ่อนอนอีกเนี่ยนะ”
“เอ่อ งั้นเดี๋ยวลูกไปตามหมอมาดูอาการดีกว่าค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก นี่ก็ดึกแล้วไม่ใช่เหรอ ไว้ค่อยพรุ่งนี้ก็ได้”
เคธี่พยักหน้ารับคำ สตีฟหันไปทางที่เฟย์ยืนอีกครั้ง แต่เหมือนว่าเขาไม่ได้เห็นประกายรุ้งอีก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเคธี่ พ่อจำได้ว่า พ่อกำลังกินข้าวอยู่”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วพ่อก็กินแอปเปิล” สตีฟเอามือจับคอ “พ่อติดคอ หายใจไม่ออก มันทรมานมาก จนพ่อคิดว่าพ่อต้องตายแน่ๆ เลย”
เคธี่เริ่มรู้สึกผิด
“นี่พ่อไม่ได้ตายไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ คุณพ่อฟื้นมาแล้ว”
“แล้วพ่อรอดมาได้ยังไง”
“ลูกเห็นคุณพ่อไอ แล้วแอปเปิลก็กระเด็นออกมาค่ะ” เคธี่ชี้ไปทางพื้นที่มีชิ้นแอปเปิลตกอยู่ สตีฟมองมันนิ่ง
“ตอนนั้นพ่อคิดถึงเอลลี่” สตีฟระลึกถึงช่วงเวลาก่อนตาย “และพ่อก็คิดถึงลูก” สตีฟลูบหัวเคธี่
“ตอนคุณหมอบอกว่าคุณพ่อจากไป ลูกก็เสียใจมากเลยค่ะ”
“นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ” สตีฟจับที่หลังตัวเอง “ว่าแต่ทำไมพ่อถึงปวดหลัง ปวดเอวด้วยล่ะเนี่ย อย่างกับมีใครมาถีบตกเตียง”
“เอ่อ” เคธี่ยิ้มแห้ง “สงสัยจะเป็นอาการของคนนอนมานานมั้งคะ”
“งั้นเหรอ คงแบบนั้นมั้ง” สตีฟนวดหลังตัวเอง แล้วเขาก็หยุดนวดเพราะมันดูน่าจะทำให้ระบมมากกว่า
“แล้วนี่มีลูกมาเฝ้าพ่อคนเดียวเหรอ” สตีฟมองรอบห้องอย่างผิดหวัง
“คนอื่นเข้านอนกันหมดแล้วค่ะ ทุกคนคิดว่าคุณพ่อจากไปแล้ว ส่วนลูกอยากอยู่กับคุณพ่อให้นานที่สุดค่ะ” เคธี่ทำท่าออดอ้อน แม้มันจะไม่ค่อยเป็นตัวเธอเองก็ตาม
“พ่อคงทำให้ลูกเป็นห่วงมากเลยสินะ ต่อไปพ่อจะระวังเรื่องการกินให้มากกว่านี้”
“คุณพ่อคะ ลูกไม่รู้จะพูดอย่างนี้ดีหรือเปล่า”
“พูดมาเถอะ”
“คือลูกคิดว่าคุณพ่อไม่ได้สลบไปเพียงเพราะกินแอปเปิลติดคอหรอกค่ะ”
“แปลว่าอะไร”
“ลูกคิดว่าลิซซี่เป็นคนวางยาคุณพ่อค่ะ”
เปรี้ยง! ฟ้าผ่าลั่น เคธี่สะดุ้ง และเธอขนลุกซู่เมื่อเธอเห็นสายฟ้าใหญ่ริมหน้าต่าง เธอยังจำเหตุการณ์ที่เธอทำทั้งเมืองหยุดนิ่งได้ เคธี่รีบหันไปเขย่าสตีฟ แต่ครั้งนี้สตีฟไม่ได้หยุดนิ่งไป
“เมื่อกี้ลูกว่ายังไงนะ” สตีฟตกใจ