เสียงเพลงดังอึกก้องกระตุกหัวใจนักท่องราตรีให้สั่นไหวตามจังหวะ สถานเริงรมย์มีระดับถูกเนรมิตให้เป็นพื้นที่ไพรเวทสำหรับนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาสตรีนางยั่วทั้งหลายอยู่ในขณะนี้
“คืนนี้… เราไปต่อกันไหมคะ?”
นางแบบสาวสุดเอ็กซ์ลูบไล้วงหน้าคมคร้ามพลางยิ้มยั่ว นัยน์ตา
สีน้ำตาลเข้มจดจ้องสมิงสาวบนตักไม่วาง อกอวบภายใต้ชุดเดรสสีแดงเพลิงแนบชิดติดอกกว้างที่ปลดกระดุมเม็ดบนออกถึงสามเม็ด เผยไรขนเซ็กซี่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม
ลิลลี่ มองแผงอกกำยำแล้วยิ่งคลั่งไคล้เขาหนักกว่าเก่า รู้สึกอยากลูบไล้จนต้องวางมือทาบบนเนื้อหนัน ออกแรงจิกเล็บเบาๆ เพื่อเย้ายวนอารมณ์ใคร่ คนถูกกระตุ้นยกยิ้มมุมปาก เขาปล่อยให้เธอลูบไล้อยู่เช่นนั้นจนกระทั่งมือเรียวเริ่มซุกซน หมายจะทักทายความแข็งขึงภายใต้กางเกงสแล็คเนื้อดี
“ไม่เอาสิคนสวย” ชายหนุ่มรีบตะครุบมือน้อยๆ เอาไว้ พลางทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“จับตอนนี้มันจะไปสนุกอะไรล่ะ จริงไหม?”
สายตาของเขาร้อนแรงเกินใคร ยิ่งใกล้ชิดเพียงลมหายใจเป่ารด ยิ่งทำให้กายสาวสั่นสะท้าน
“ไว้ไปจับต่อที่คอนโดฯ ของผมดีกว่า” น้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความต้องการไม่แพ้กัน
“ถ้าอย่างนั้น เราไปกันเลยไหมคะ?”
ลิลลี่ยกมือคล้องลำคอแกร่ง หล่อนอยากสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเขาใจแทบขาด อยากรู้ว่ามันจะเร่าร้อนสมคำร่ำลือหรือไม่
ชายหนุ่มรูปงามหยัดกายขึ้นเต็มความสูง โอบเอวดาราสาวชื่อดังก้าวเท้าออกจากผับหรูมุ่งตรงสู่คอนโดฯ ย่านใจกลางเมือง ใบหน้าสวยเฉี่ยวปรายหางตาเยาะเย้ยสตรีที่พยายามทำตัวโดดเด่นหวังเรียกร้องความสนใจจากคู่ควงของเธอ
ฝันไปเถอะ… ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น!
ภูเบศ ยืนพิงขอบหน้าต่างมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างสบายอารมณ์ ร่างกายเบาสบายเพราะความต้องการได้ถูกปลดปล่อยจนหมดสิ้น มวนบุหรี่ถูกอัดเข้าปอดไม่ยั้ง ควันขาวขุ่นลอยคลุ้งเต็มห้อง ดวงตาคมปราดมองหญิงสาวแสนสวยที่นอนคว่ำหน้าอวดแผ่นหลังขาวเนียนอยู่บนเตียงกว้างอย่างไร้ความรู้สึก ชายหนุ่มเดินไปหยิบเสื้อสูทสีดำเข้มสวมทับเสื้อเชิ้ตขาวมีระดับ ยกมือจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงนิดๆ พอให้กรอบหน้าคมคายมีเสน่ห์ ก่อนยิ้มมุมปากใส่เงาที่สะท้อนผ่านกระจกบานใส
ปิดจ๊อบไปได้อีกหนึ่งราย ดาราสาวชื่อดังผู้ซึ่งได้ฉายาว่าเป็น ‘นางฟ้าแห่งวงการบันเทิง’ ต่อหน้าสื่อและแฟนคลับเธอคือสตรีผู้อ่อนหวาน เรียบร้อยด้วยกิริยาและมารยาท แต่ใครเล่าจะรู้ว่าพอม่านแห่งการแสดงถูกปิดฉากลง
ลิลลี่ หรือ ลินลณี ก็คือดาวยั่วสวาทที่ชอบออกล่าเหยื่อดีๆ นี่เอง
ซึ่งเขาไม่ได้ใส่ใจในรสนิยมพรรณนั้น เธอจะล่าเหยื่อเข้าถ้ำมาแล้วกี่รายก็ช่าง เพราะสำหรับภูเบศ ผู้หญิงก็เปรียบเสมือนกวางน้อยแสนหวานที่เขาออกล่าเพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการทางอารมณ์ ปลดปล่อยเสร็จก็เลิกรากันไป เขาจึงเลือกสานต่อสัมพันธ์สวาทกับคนที่พร้อมวันไนต์สแตนด์เท่านั้น ไม่ผูกมัด ไม่เรียกร้องสิทธิใดๆ ที่จะก่อเกิดเป็นเรื่องราวให้ต้องปวดหัวกันในอนาคต เขาไม่ชอบวิถีชีวิตที่อยู่ในกรอบ ผู้ชายอย่างเขาชอบโผบินตามสายลม ไม่มีใครบังคับเขาได้
แต่ถึงจะใช้ชีวิตสำราญเพียงใดก็ใช่ว่าไม่เคยพลาด ชีวิตโลดโผนบนสังเวียนรักย่อมต้องเจอผู้หญิงหลากหลายรูปแบบ คนที่พูดยาก ชอบทะเยอทะยานเขาก็ผ่านมาหมดแล้วทั้งสิ้น แต่สุดท้ายเขาก็คือเขา คนอย่างภูเบศมีกฏเหล็กที่บรรดาคู่ควงต่างทราบกันดี
ไม่เบิ้ล! ไม่ซ้ำ!
กินแล้วกินเลย จำหน้าได้และไม่มีทางหวนกลับสู่รสชาติเดิม
ภูเบศวางกล่องของขวัญขนาดเล็กกะทัดรัดแต่ราคาแพงหูฉี่ตอบแทนหญิงสาวสำหรับค่ำคืนแสนวิเศษ เชื่อเถอะว่าถ้าหล่อนตื่นขึ้นมาเมื่อใด หูตานั้นต้องลุกวาวเพราะความงามล้ำค่าของต่างหูเพชรคู่นี้เป็นแน่
เนี่ยแหละเขา… นักธุรกิจค้าเพชรพลอยชื่อดังระดับโลก ผู้ชายสุดเร่าร้อนแห่งยุค บุคคลที่ถูกยกให้เป็นขวัญใจไฮโซและดารานางแบบชื่อดัง
ทั้งไทยและต่างประเทศ…
“ขอรายงานการประชุมของเมื่อวานให้ผมด่วนเลย” ร่างสูงที่เพิ่งมาถึงเอ่ยบอกเลขาฯ สาว
“ค่ะท่านประธาน” ภูเบศพยักหน้าก่อนผลักบานประตูก้าวเข้าสู่ห้องทำงานกว้างใหญ่ ชายหนุ่มถึงกับออกอาการเซ็งเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญนั่งสลอนหน้าอยู่บนโซฟาถึงสองคน
“มากันทำไมแต่เช้าวะ”
ประธานบริษัทฯ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ยกมือนวดคลึงขมับทั้งสองข้าง เนื่องจากเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย
“ได้ข่าวว่ามึงหิ้วแม่ดอกลิลลี่แห่งวงการบันเทิงไปกินที่คอนโดฯ เมื่อคืนนี้” หนุ่มหล่อหน้าตาคมเข้มตามแบบฉบับไทยแท้พูดเสียงกลั้วหัวเราะ ปริญ ยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นปฏิกิริยาวางมาดเหนือชัยของเพื่อนรัก
“ไง… รสชาติอร่อยสมคำร่ำลือไหม?” ที่ต้องถามเพราะลินลณีขึ้นชื่อเรื่องล่าแต้มไม่ต่างอะไรกับเสือสาวพราวเสน่ห์ หล่อนมีภาพลักษณ์สวยใสเพียงแค่ฉาบหน้าอยู่ในวงการบันเทิงเท่านั้น
“ก็ดี” ภูเบศตอบแบบไม่แยแส
“แสดงว่ายังไม่ถูกใจ”
ประโยคนี้เป็นของ ธนาคิม หนุ่มหล่อมาดนิ่งผู้ซึ่งไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แม้ใบหน้าของเขาจะอ่อนโยนแต่แววตากลับแข็งกระด้างและปวดร้าวในท่าที อาจเป็นเพราะธนาคิมมีอดีตแสนเลวร้ายฝังแน่นอยู่เต็มหัวใจ สิ่งเหล่านั้นหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนเพิกเฉยและมองทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยความเย็นชา
“มึงพูดอย่างกับว่าที่ผ่านมาเคยมีผู้หญิงคนไหนถูกใจมันอย่างนั้นแหละ” ปริญเกาปลายคางแล้วยิ้มนิดๆ
“ไม่รู้สิ มันอาจจะมีแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้” ธนาคิมไหวไหล่ คำพูดเป็นนัยยะยิ่งทำให้ปริญชักอยากรู้ขึ้นมาตงิดๆ
“ใครวะ” สายตาวาววับ ฝ่ายคนทิ้งระเบิดกลับนั่งนิ่ง ทำหน้าตายเหมือนไม่ได้เปล่งวาจาอันใด
“มันกวนประสาท คบกันมาตั้งนานยังไม่รู้จักนิสัยอีกเหรอวะ” ภูเบศยิ้มเยาะปริญ คนเสียรู้แยกเขี้ยวใส่ธนาคิม
บทสนทนาเป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อประตูห้องถูกเปิดกว้าง ร่างบางระหงก้าวเท้าเหยียบพื้นพรมอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอไม่ชอบสายตาหื่นกระหายของปริญยามมองมาที่ตน