ไร่สุขสันต์
“นอนในห้องข้างล่างนี่นะ ถ้าไม่จำเป็น…ไม่ต้องขึ้นไปข้างบนมันไม่ใช่ที่ของเธอ” ปึ่ก!! วางกระเป๋าใบขนาดย่อมลงกับพื้นห้องที่เพิ่งเปิดเข้ามาใหม่ คำพูดห่างเหินไร้เยื่อใยแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่คิดที่จะสานต่อ ไม่ว่าการที่รมิดาเดินทางมาในครั้งนี้จะมาเพราะอยากร่วมงานของลักษมีจริงๆ หรือมาด้วยเรื่องอื่นก็ตาม
รมิดาแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าโกรธสามีเก่า แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอต้องการกลับมาอยู่กับเขาแบบสามีภรรยา อยากอยู่อย่างสุขสบายในไร่กว้าง มีเงินมีทองให้ใช้ไม่ขาดมือ ไม่ใช่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ กับสามีใหม่ในตอนนี้ที่เอาแต่เล่นยาไปวันๆ “แล้วแฟนคุณล่ะ นอนที่ไหน”
ฉันยิ้ม “ปริมนอนกับพี่เหนือข้างบนน่ะค่ะ คุณตามสบายนะคะ ทำตัวเหมือนกับอยู่บ้านตัวเอง…แต่ฉันให้แค่ข้างล่างนะ ข้างบนไม่อนุญาตเพราะมันเป็นพื้นที่กิจกรรมของฉันกับพี่เหนือ คงไม่ต้องอธิบายนะคะว่ากิจกรรมอะไร” ^^ ฉันผู้ซึ่งไม่เคยขึ้นชั้นสองยิ้มแบบมั่นหน้า รู้สึกได้ว่ารอบเอวตัวเองกำลังถูกมือหยาบๆ กอดเอาไว้…จั๊กจี้แต่ก็ แหะๆ
“ทุเรศ”
“สงบปากสงบคำของเธอหน่อยนะริน” เจ้าของบ้านลูบเอวเล็กนั้นจนเพลินมือ ก่อนจะก้มบอกคนสวยข้างกาย “ปริมจะออกไปข้างนอกกับพี่อยู่รึเปล่า” กำหนดการของเขายังคงเหมือนเดิมคือไปโรงแรมเพื่อดูงานของน้องสาว ที่สำคัญคือต้องไปถามน้องให้มันชัดๆ ว่าเธอได้เชิญรมิดามาจริงไหม
ฉันพยักหน้า “ไปสิคะ ปริมจะออกไปซื้อกางเกงขาสั้น ว่าแต่พี่เหนือล็อคห้องนอนของเรารึยังเอ่ย ปริมกลัวกระเป๋าของปริมจะหาย” เงยหน้ามองคนหล่อตัวใหญ่แต่ไม่ใช่แฟนของเธอ
“ล็อคแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้วนมาเฝ้า”
ฉันตาโตกับคนงานของพี่เหนือ วนมันเป็นคนพาฉันมาที่นี่นะคะ ถ้ามันปากมากว่าฉันกับพี่เค้าไม่ได้เป็นอะไรกันล่ะ…ฉันกะพริบตาปริบๆ แต่ก็นั่นล่ะ ลืมไปว่ามันไม่ใช่ปัญหาของฉันนี่นะ
“ไปเถอะเดี๋ยวจะมืด” เหนือตะวันรั้งเอวบางให้เดินไปยังหน้าบ้านโดยทิ้งเมียเก่าไว้ตรงนั้น ในหูได้ยินเสียงกรีดร้องออกมา จนเขาต้องส่ายหน้า หากไม่เห็นแก่ลูก เขาคงไม่ยอมให้รมิดาได้มีโอกาสเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกแล้ว ไหนจะเรื่องวุ่นที่ต้องขอให้เจ้าสาวของคนอื่นมาทำหน้าที่แฟนนี่อีกล่ะ ‘บ้าเสียยิ่งกว่าบ้าอีก วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย’ เหนือตะวันพาคนรัก? เดินมาหยุดตรงบ้านพักคนงานที่รายล้อมอยู่ทางด้านขวาของบ้านใหญ่ ก่อนจะเคาะประตูเรียก “ไอ้วน ออกมาหากู” ก่อกๆๆ “ไอ้วน”
“คร้าบๆ”
เสียงด้านในตอบรับและเปิดประตูออกมา ฉันยืนฟังพวกเขาคุยกันโดยที่คุณเหนือตะวันหรือพี่เหนืออะไรนั่นยังคงกอดเอวฉันอยู่ วนดูสงสัยในขณะที่ฉันยิ้มและจับมือของเจ้านายเขาไว้อย่างนั้น ^^
“นี่” วนชี้เจ้าสาวที่เขาจำได้ว่าพาเธอนั่งรถมาด้วยกันจนถึงเชียงใหม่แบบงงๆ “แฟนนาย”
“เออ!! แฟนกู เพิ่งได้กันเมื่อเช้า จบนะ” ชี้หน้าไอ้วน “แล้วมึง รีบไปเฝ้าบ้านให้กูด้วย จำไว้ว่าอย่าให้อะไรหายเด็ดขาดไม่งั้นกูจะหักเงินเดือนมึงแทนค่าของที่หายนั่นล่ะ”
“อะไรจะหายล่ะครับนาย กล้องวงจรปิดติดแม้กระทั่งในห้องน้ำ สบู่รึจะหาย” เบ้หน้า
“ไม่ต้องมาย้อนกู ไปได้แล้ว ถ้ารินถามก็แค่บอกว่ากูรักแฟนกูมาก แค่นั้น” เหนือตะวันบอกไปส่งๆ
วนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อ่อ ที่แท้เมียเก่าไม่รักดีมานี่เอง” ทำท่าโอเค “หายห่วงครับนาย ว่าแต่แฟนใหม่คนสวยของนายชื่ออะไรนะครับ”
“ชื่อปริมค่ะ” ฉันยิ้ม
“ครับ คุณปริม รักกันมาครึ่งปีแล้ว หนีตามกันมาในชุดแต่งงานเหรอวะ” วนเดินออกไปทางบ้านใหญ่ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไปเพียงหนึ่งร้อยเมตรทันที
“หนีตามกันห่าอะไร” เหนือตะวันยืนหัวเสีย
“คริคริ” ฉันผู้ตามสถานการณ์เก่ง หัวเราะเบาๆ “ที่จริงไม่ต้องหลอกลูกน้องคุณแบบนั้นก็ได้นี่คะ” พยายามแกะมือหนาที่ยังกอดเอวของฉันออก แต่ดูท่าคุณเขาจะไม่ยอมง่ายๆ
“เอาแบบนี้ล่ะ จะหลอกทั้งทีก็หลอกให้มันครบทุกคนเลย ป่ะ” รั้งช่วงเอวของคนข้างกายไปข้างหน้า
“ปล่อยสิคะ คุณจะกอดทำไมอีก ฉันเดินเองได้”
“เรียกพี่นั่นสิ” ยังคงไม่ปล่อยมือ “รู้ว่าเดินได้แต่กอดน่ะดีแล้ว สำคัญคืออย่าห่วงเลยพี่ไม่เคยคิดอะไรกับเมียคนอื่นหรอก”
ฉันแค่เดินไปตามแรงรั้งของเขา ตามสบายเถอะค่ะ ขอแค่อำนวยความสะดวกอย่างที่ว่าให้ได้ก็แล้วกัน ที่เหลือก็ถือซะว่าฉันหลงมาเล่นสนุกกับคุณนะ คุณหนุ่มเหนือรูปหล่อ
&&&&
บนรถส่วนตัวที่กำลังวิ่งอยู่
“เอาล่ะ เรามาคุยกันแบบเปิดอกนะ พี่มีน้องสาวที่แต่งงานเมื่ออาทิตย์ก่อนและกำลังจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่กำลังอยู่ในช่วงไปเที่ยวรอบโลก อย่างที่เห็นนั่นล่ะ รมิดาคือเมียเก่าเมื่อหกปีก่อน เราเรียนจบมาด้วยกันแต่ไม่ได้แต่งงาน เรามีลูกด้วยกันคือน้องมะนาว แต่สุดท้ายคือจบไม่สวยอย่างที่ปริมรู้”
“ส่วนปริม พ่อกับแม่ท่านก็เสียไปนานแล้ว ตอนนี้ปริมร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านชาบู คุณอย่าสนใจเลย แค่ตอนนี้ดูแลกันดีๆ ก็พอค่ะ” ^^ “เราเป็นแค่แฟนชั่วคราว ไม่ต้องรู้รายละเอียดอะไรมากก็ได้นะคะ” เดี๋ยวฉันก็ไปแล้วนี่นะ จะต้องถามประวัติอะไรกับเจ้าสาวของคนอื่นอย่างฉันอีก
“นั่นสินะ เอาเป็นว่าอย่าลืมเรียกว่าพี่ให้ชินปากด้วย”
ฉันมองเขาที่ก็หันมามองฉันในตอนที่เราจอดรถตรงทางแยกเพื่อรอข้ามฝั่ง ฉันมองเขาเหมือน ดูเหมือนเขาจะรอ งั้นก็ “ค่ะ พี่เหนือ” ยิ้ม ^^
เจ้าของชื่อหันหน้ากลับไปมองถนน ลึกๆ เขาพอใจที่เจ้าสาวหลงทางคนนี้เข้าใจอะไรง่าย ก็หวังว่าหลังจากงานของน้องสาวของเขาจบลง เมียเก่าจะกลับเข้ากรุงไปเสียที พอๆ กับสาวสวยสุดๆ ข้างกายที่กลับไปพร้อมกัน...นั่นก็ต้องรอดูว่าเขาทำถนนหนทางกันเสร็จรึยังนั่นล่ะ
&&&&
ร้านขายเสื้อผ้าสตรี LADY
เป็นธรรมดาของคนสวยที่เวลาไปไหนมักจะมีแต่คนมอง คงไม่ต่างกับเจ้าสาวหลงทางในชุดฟุตบอลของเขาในตอนนี้ ถามว่าดีไหมที่ตัวเองกลายเป็นคนถือของและจ่ายเงิน...หึ มันก็ดีไปอีกแบบ ‘ถือเสียว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เขาคงจะจำเอาไว้จนวันตาย’
“พี่เหนือคะ ตัวนี้ดีมั้ย” ฉันพยายามหยิบกางเกงตัวที่ราคาไม่สูงมากให้เขาดู เชื่อเถอะว่าเขาคงจะเป็นคนจ่ายเงินให้ทั้งหมดเหมือนเดิม ตัวฉันซึ่งยังต้องหาเงินใช้ด้วยตัวเองย่อมรู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ดี ว่ามันมีความสำคัญ ดังนั้นเสื้อผ้าทุกตัวก่อนจะซื้อฉันจะต้องถามเขาก่อนทุกครั้ง
เจ้าของชื่อ มองกางเกงขาสั้นสีดำลายสก็อตแล้ววิเคราะห์ ใจจริงอยากจะบอกว่า ‘หุ่นอย่างเธอใส่อะไรก็สวย’ แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกไปนอกจากคำว่า “ดีสิ เอาสักสามตัวก็ได้” พูดไปก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะเปย์หนักมาก เขาเห็นเปรมิกายิ้มหวานแล้วส่งกางเกงคละสีสามตัวให้พนักงานที่เดินตามก้นต้อยๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่โซนของชุดชั้นใน อึ่ก!! อะไรมันคงจะง่ายถ้าหล่อนไม่หยิบจีสตริงขึ้นมาน่ะนะ “ให้พี่ไปรอตรงแคชเชียร์ดีกว่ามั้ย” เหนือตะวันออกตัว ก่อนจะมอง เอ่อ...สีม่วง อึ่ก! ...สีดำ อึ่ก!
“ไม่เป็นไรค่ะ รอตรงนี้ก็ได้ ปริมเอาแค่สี่ชุดเอง” ฉันส่งชั้นในลูกไม้ใส่ตะกร้าสินค้าที่พนักงานถือ
หากมองไม่ผิด หล่อนหยิบเสื้อในไซส์ 38 ‘กูอยากจะบ้า’ ตัวหล่อนเล็กแค่นี้ ‘ทำไมอะไรๆ มันดูล้นไปหมดวะ’ บทสรุปตอนไปจ่ายเงินนี่คือหลักหมื่น ถ้ากลับบ้านที่กรุงเทพ คงจะเอาชุดพวกนี้กลับไปด้วยงั้นสิ...นั่นล่ะ ถ้าเปรมิกาไม่เอากลับไปด้วยแล้วใครจะอยู่ใส่?
เมื่อซื้อของเสร็จ ฉันจึงเดินตามแฟนกำมะลอไปขึ้นรถ อย่างน้อยวันนี้ก็หมดไปอีกวันแล้ว จำได้ว่าวันงานคืออีกสองวันหลังจากนี้ ไม่แน่ว่าพี่เขาอาจจะไม่ให้ฉันไปด้วย แต่ถ้าให้ไป ชุดฉันล่ะคะ? “พี่เหนือจะให้ปริมไปงานเลี้ยงของน้องสาวพี่มั้ยคะ” อันที่จริงแล้วฉันให้เขาพามาซื้อชุดลำลองแค่สามสี่ชุด แต่ทุกคนมาดูตอนนี้สิคะ มันเกินเป้าหมายไปหมดเลยนะ
“ต้องไปด้วยสิ”
“ปริมไม่มีชุดนะ เราไปหาเช่าแถวนี้กันดีมั้ย” ประหยัดดีด้วยนะ อีกอย่างคือมันไม่ใช่งานสำคัญอะไรสำหรับฉัน จะใส่ยังไงก็ได้ไหม รองเท้าส้นสูงคู่เดิมก็มีอยู่ เว้นเสียแต่คุณเจ้าของเรื่องโกหกนั่นล่ะจะยัดเยียดอะไรมาให้ฉันอีก
เหนือตะวันมองคนสวยแต่ไม่ใช่คนของเขาแล้วคิดตามคำพูดนั้น ถ้าเช่า...ตัวเขาซึ่งเป็นถึงลูกชายเจ้าของไร่ผลไม้มากกว่าสองร้อยไร่กับห้องแถวให้เช่ามากกว่าห้าร้อยห้องที่น้องสาวเขาดูแลอยู่มันจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่นรึเปล่า ถึงแม้ตอนนี้เปรมิกาจะเป็นแค่แฟนหลอกๆ ของเขาก็เถอะ คนอื่นไม่รู้เรื่องก็จะคิดว่าเขาให้แฟนใส่ชุดอะไรน่ะสิ “ซื้อเอาใหม่ก็ได้ ถือว่าฉันให้เป็นของขวัญที่ช่วยงาน”