[Chapter 18] The Wizard

2732 Words
"เกิดอะไรขึ้นน่ะสตีล?" ฉันรีบวิ่งออกจากห้องโดยที่ยังไม่ได้ตอบคำถามของนีโอ หวังว่าเฮนรี่จะดวงดีพอที่ยังไม่ได้ขึ้นรถ ถ้านี่เป็นฝีมือของคนในองค์ ฉันเชื่อได้เลยว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้เฮนรี่รอดไปได้หรอก ฉันวิ่งไปถึงลานจอดรถหน้าโรงพยาบาล ไม่เห็นอะไรนอกจากกลุ่มควันที่โหมเข้าหน้าจนทำฉันแสบตา "เฮนรี่!" ฉันตะโกนเรียกชื่อเขาและแทรกตัวผ่านฝูงชนที่กำลังยืนมุงเหตุการณ์ มองไม่เห็นอะไรนอกจากเปลวเพลิง ฉันจึงหันมองฝูงชนอีกกลุ่มที่ยืนถัดไปประมาณห้าสิบเมตร มีใครบางคนนอนอยู่ ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างเฮนรี่ไว้และใช้มือตบแก้มเขาเบาๆ "ฉันตายรึยัง?" เฮนรี่มองเศษกระจกที่ปักขาขวา โชคดีเป็นบ้า "ได้ยินรึเปล่า?” ฉันลองดีดนิ้วเรียก แต่เฮนรี่แทบไม่ตอบสนอง ฉันพลิกใบหน้าอีกฝั่งที่มองไม่เห็น ใบหน้าของเฮนรี่มีรอยถลอกและรอยไหม้เล็กๆ อาจเกิดจากแรงระเบิดทำให้ร่างเขาลอยกระทบพื้น ฉันมองเสื้อที่ด้านหลังมีรอยขาดและตัดสินพลิกตัวเขากลับมา มีแผลที่เกิดจากสะเก็ดระเบิดอยู่เป็นวงกว้าง บางแผลยังมีเศษเหล็กฝังอยู่ด้านใน "ที่ดาดฟ้า..." เฮนรี่พยายามเปล่งเสียงพูด "อะไรนะ?" เฮนรี่ไม่พูดอะไรมากกว่านั้นและยกมือชี้ไปยังดาดฟ้าของโรงพยาบาล ฉันจึงปล่อยร่างของเฮนรี่ลงและรอจนหน่วยปฐมพยาบาลมาถึง จากนั้นจึงเดินกลับไปที่ตึก ขึ้นลิฟท์อย่างใจเย็นพร้อมกับปืนเก็บเสียงที่ซ่อนไว้ใต้รองเท้าบู้ต หวังว่าจะเจอใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ฉันพยายามออกแรงเปิดประตูดาดฟ้า แน่นอนล่ะว่าต้องมีคนล็อกไว้...ฉันจึงใช้ปืนยิงลูกบิดก่อนจะถีบประตูเต็มแรง ทุกอย่างเงียบสนิท "ออกมาสิไอ้สารเลว" ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปยังจุดที่สามารถมองเห็นลานจอดรถได้ชัดเจน การเล่นละครว่าตัวเองเป็นคนร้ายในบางครั้งทำให้สามารถฉันตามหาอะไรที่พวกสับเพร่าทำทิ้งไว้ได้ ฉันดมกลิ่น...บุหรี่ยี่ห้อถูกๆ ที่คนระดับล่างขององค์กรชอบสูบ และฉันก็หาก้นบุหรี่ที่ยังไม่มอดสนิทเจอ เสียงฝีเท้าทำให้ฉันรีบหันกลับไป หมัดที่มาจากสนับมือทำให้ร่างฉันล้มลงอย่างง่ายดาย ฉันกัดฟันกรอดและลุกขึ้น ทรงผมเซอร์ๆ ของหนุ่มขี้ยาประจำองค์กร ฉันรู้มันไม่ใช่คำที่ดีหรอก แต่เขาเป็นคนเดียวของฝ่ายตะวันตกที่สามารถใช้ยาทั้งหลายได้ราวกับพ่อมด รวมถึงชากล่อมประสาทที่ฉันเคยดื่มไปด้วย นั่นก็ฝีมือเขาเช่นกัน "เจสัน..." "ดีใจที่เจอกันอีกนะสตีล ตอนแรกฉันกะว่าจะมาจัดการไอ้หนุ่มนั่นคนเดียว แต่ดันมาเจอเธอซะได้ โลกมันกลมเธอว่างั้นมั้ย?" "ไม่กลัวพวกตำรวจจะแห่มารึไง?" "ตำรวจ...เจ้าหน้าที่ บลาๆๆ ยัดเงินซักหน่อยพวกนั้นก็ไม่มายุ่งแล้วจริงมั้ย? อีกอย่างงานนี้ใหญ่พอที่จะทำให้พวกตำรวจไม่เข้ามายุ่ง เธอไม่ต้องกังวลหรอก" "ใครจ้างนาย?" ฉันถามด้วยความสงสัย ยูกะ...ไม่หรอก เธอไม่บ้าพอที่จะวางแผนแบบนี้ "ฉันว่าเราควรจบบทสนทนากันได้แล้วล่ะ" เจสันหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมาและยิงใส่ฉันทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว เสียท่าแบบโง่ๆ ให้คนพวกนี้อีกครั้ง และฉันก็เริ่มรู้สึกชา ของเหลวบางอย่างจากเข็มที่ปักบนต้นคอซึมไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว "แกฉีดอะไรให้ฉัน?" "แค่ยากล่อมประสาท ผสมอะไรเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ได้ผลใช่มั้ยล่ะ?" ฉันเริ่มเห็นหน้าเจสันหมุนเหมือนกังหันลม ตาสีน้ำตาลคู่นั้นของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ฉันแตะเลือดที่ไหลออกจากดวงตาของฉัน เหมือนกับมองบลัดดี้แมรี่ในกระจก และสติฉันก็เริ่มกระเจิงเมื่อเห็นภาพลวงตาของอีธานอยู่ตรงหน้า เบ้าตากลวงโบ๋ของเขาพยายามจ้องมองฉัน และฉันก็พอจะรู้แล้วว่ายาของเจสันสามารถทำอะไรกับสมองได้บ้าง ฝันร้าย...ความทรงจำอันเลวร้ายที่เขายัดเยียดมันให้ฉัน อาวุธลับชั้นดีในการจะเล่นงานใครสักคน "สตีล?" ใบหน้าของนีโอที่เป็นเสียงพูดของเจสันทำให้ฉันถอยจากเขา ฉันหันไปอีกทางและได้ยินเสียงระเบิดจากรถของเฮนรี่ มองเศษซากที่กำลังพุ่งใส่ร่างของเขา ทุกอย่างที่ฉันเห็นหยุดลง แม้กระทั่งเศษเหล็กที่กำลังพุ่งไปปักที่หลังเฮนรี่ก็หยุดอยู่กลางอากาศด้วยเช่นกัน "อย่าส่งเสียง" "ไม่นะ" ฉันคิด ก่อนที่ตัวเองจะโผล่มาอยู่อีกที่หนึ่ง เสียงอันน่าขยะแขยงของคนที่เป็น ‘พ่อเลี้ยง’ ของฉันที่กำลังขึ้นคร่อมร่าง แน่นอนว่าฉันยังจำทุกอย่างได้ คืนวันอังคารนั้นในวันที่แม่ไม่อยู่บ้าน เธอปล่อยให้ฉันอยู่กับพ่อเลี้ยงเพียงลำพัง ตัวฉันในวัยสิบสองปีพยายามดิ้นต่อสู้ เขาใช้มืออุดปากฉันไว้และพยายามดึงกางเกงชั้นในของฉันออก "เลิกทำให้ชีวิตฉันยากขึ้นได้มั้ยนังเด็กเวร" ฉันสะอื้น มือหยาบแสนน่ารังเกียจนั้นลูบร่างกายฉันในขณะที่อีกข้างยังอุดปากและจมูกไว้แน่น...หายใจไม่ออก ฉันพยายามขัดขืนเขาจนถูกตบที่แก้ม ก่อนจะต่อยท้องฉันเพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะขัดขืนไม่ได้อีก เขาเลียซอกคอหวังให้ฉันเคลิ้มตามและดึงกางเกงในของฉันออกมาได้ ฉันเหลือบไปเห็นแจกันดอกป๊อบบี้ที่วางไว้ข้างเตียง ฉันจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายยื่นมือไปคว้าแจกัน ต่อสู้เหมือนที่ฉันเคยทำ "อ๊ะๆ เล่นทีเผลองั้นหรอ" ฉันเบิกตากว้าง เจสันที่คร่อมร่างฉันรับแจกันที่กำลังเหวี่ยงใส่ รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฎบนใบหน้าของเขา จากนั้นเจสันก็ใช้มือทั้งสองข้างบีบคอจนฉันเริ่มหายใจไม่ออก ฉันสู้เขาไม่ได้... "ไม่ดิ้นสิ เดี๋ยวก็จบแล้ว" คอฉันเหยียดตึง พยายามสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดเท่าที่จำทำได้ "มองฉันสิ" ฉันพยายามปัดมือเขาออก ความทรมานที่สมจริงจนเริ่มเข้าใกล้ความตาย จนในที่สุดฉันก็แยกแยะสิ่งที่เกิดขึ้นได้และรู้ว่ากำลังบีบคอตัวเองอยู่ และฉันกลับมาอยู่บนดาดฟ้าโรงพยาบาลอีกครั้ง เจสันยืนสูบบุหรี่ มองดูผลงานด้วยความภูมิใจ "ฟื้นตัวเร็วดีนี่" ฉันได้ยินเสียงของเจสัน แต่ภาพรอบตัวยังคลุมเครือ "ฉันน่าจะเพิ่มยาอีกซักหน่อยแฮะ" ฉันสูดลมหายใจ ความพยายามของฉันที่มีอยู่ในตอนแรกนั้นสูญเปล่ากับการหลุดจากฝันร้ายนั้น และฉันก็บ่อน้ำตาแตกอีกครั้ง แน่นอนว่าคราวนี้ฉันไม่ยอมให้เขามีโอกาาทำอย่างนั้นอีก "อย่าฝืนเลยสตีล ฉันไม่อยากทำร้ายเธอไปมากกว่านี้นะ" ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรฉันก็หยิบปืนเก็บเสียงที่หล่นบนพื้นขึ้นมา ฉันพยายามจับภาพที่อยู่ตรงหน้าและเล็งปืนไปที่เจสัน "เธอหยุดฉันไม่ได้หรอกสตีล" เจสันพูด ในมือของเขามีปืนติดเข็มฉีดยากระบอกเดิมพร้อมจะยิงใส่ฉัน "นายต่างหากที่หยุดฉันไม่ได้" ฉันพูด "จนกว่าลูคัสจะตาย" ฉันเล็งปากกระบอกที่หัวไหล่ซ้ายตัวเองและสูดลมหายใจ มันเจ็บ...ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นแบบนั้น แต่มันอาจจะช่วยได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ฉันตัดสินใจเหนี่ยวไกก่อนที่ประสาทสัมผัสจะตื่นตัวในทันที ฉันร้องลั่น มองเลือดที่ไหลออกจากแผลกระสุนที่ทะลุไปยังด้านหลัง "รู้มั้ย? ฉันเกลียดอะไรมากที่สุดเจสัน" ฉันใช้มือกุมแผลไว้ก่อนจะเล็งปืนไปที่เขา "ฉันเกลียดคนพูดมากแบบนาย" ฉันยิงที่ขาของเขาหนึ่งนัด และยิงใส่มือขวาที่กำลังเล็งเข็มยามาที่ฉันอีกหนึ่งนัด เจสันกรีดร้องด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด เขายังหัวเราะได้โดยไม่รู้สึกลัวอย่างที่ควรจะเป็น "ฉันยอมรับเลยนะ...เธอนี่มันตายยากและดื้อด้านจริงๆ" "ใครเป็นคนสั่งงานนี้ให้นาย"? "เธอก็รู้ว่าใคร...ลูคัส เขาบอกว่าให้ฉันสืบว่าใครอยู่ใกล้ตัวเธอบ้าง แล้วก็ให้ฉันตามจัดการพวกเขา" ฉันไม่เชื่อคำพูดของเขา การใช้ระเบิดเป็นวิธีที่โฉ่งฉ่างเกินไปและไม่ใช่สไตล์ของเจสัน และเขาอาจจะถูกสาวถึงตัวได้ง่ายมากกว่าการวางยาเฮนรี่ให้จบๆ ไป "นายโกหก...คีปเปอร์สินะที่บอกให้นายมารอที่นี่เพราะรู้ว่าฉันจะต้องขึ้นมา นายวางยาฉันแล้วส่งตัวให้พวกเขาใช่มั้ย?" "เป็นทฤษฎีที่น่าสนใจ" เจสันกุมแผลที่ขาไว้ ฉันพยายามมองรอบๆ ว่าจะมีที่ไหนที่คีปเปอร์สามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดด้านล่าง และเจสันที่อยู่บนดาดฟ้าในเวลาเดียวกันได้ และฉันก็เจอโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นที่สังเกตการณ์ของเขา เงาตะคุ่มบนนั้นทำให้ฉันคิดว่านั่นอาจจะเป็นคีปเปอร์ "นายรู้ใช่มั้ยว่าเขาจะทำยังไงกับนายถ้าเขารู้ว่านายทำงานพลาด" ฉันพูดขู่ "เขาจะฆ่านาย" ฉันจึงย่อตัวลงกระซิบกับเจสัน 'ฉันอาจจะช่วยนายได้นะ ถ้านายช่วยฉัน' แสงสะท้อนจากหน้าต่างโรงแรมทำให้ฉันรู้ว่าคีปเปอร์คิดจะทำอะไร ฉันจึงรีบก้มหลบกับขอบกำแพงก่อนที่กระสุนจะพุ่งลงพื้นจุดที่ฉันเคยยืนอยู่ เจสันแค่นหัวเราะและมองัน "ทุกอย่างมีราคาสินะ" "ใช่" ฉันตอบและมองแผลของเขา “คีปเปอร์คงลาศึกกับเราพักนึงล่ะ และฉันก็มั่นใจว่า…นายคงไม่กล้าบอกวิกโก้หรอกใช่มั้ยว่านายทำงานล้มเหลวน่ะคีปเปอร์” ฉันดึงเครื่องดักฟังที่ซ่อนอยู่ในเสื้อกั๊กของเจสันออก 'ฉันไม่ได้ล้มเหลวมาร์ตินี่ แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะทำอะไรได้บ้างกับเรื่องแบบนี้ และนายด้วยเจสัน สัญญาของเราจบเท่านี้แล้วล่ะ' สัญญาณตัดไปเท่านั้น ฉันแปลกใจ...แปลกใจที่ว่าคีปเปอร์ยอมปล่อยเป้าหมายให้รอดออกโดยไม่ฆ่าทิ้ง ฉันจึงชะโงกหน้ามองหน้าต่างของโรงแรมนั้น คีปเปอร์หายไปอย่างเงียบเชียบเหมือนที่เขาทำ "ฉันเกลียดโรงพยาบาล" ฉันและเจสันต้องเสียเวลาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นบนดาดฟ้าให้นางพยาบาลคนหนึ่งอยู่นานจนเธอยอมที่จะช่วยทำแผลให้เราสองคน ฉันโกหกเธอไปว่าเจสันเป็นสามีที่จับได้ว่าเขามีชู้ เราก็เลยทะเลาะกันเล็กน้อย "คราวหน้าคราวหลังอย่าทะเลาะกันที่นี่อีกนะคะ เจสัน" ฉันที่ทำแผลเสร็จก่อนมองพยาบาลสาวพูดกับเจสันพร้อมรอยยิ้ม เธอเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องและส่งจุ๊บบนแก้มเจสันเป็นการบอกลา จากนั้นพยาบาลสาก็เดินออกไป "ให้ตายสิ แล้วนายจะให้ฉันสร้างเรื่องโกหกทำบ้าอะไรเจสัน" "ก็เธอพูดออกไปก่อนนี่" เจสันสวมเสื้อหนังพร้อมกับหัวเราะ "...ขอโทษที่ยิงนายนะ" ฉันพูดโดยไม่สบตา "คงใช้ชีวิตลำบากน่าดู" "ช่างเถอะ ฉันเองก็สมควรโดนแบบนี้เหมือนกัน" เจสันถอนหายใจ ทำหน้าครุ่นคิดกับบางอย่าง "ดูแลตัวเองล่ะสตีล" "ฉันต้องไปแล้วล่ะ" ฉันกำลังจะลุกขึ้น แต่เจสันคว้าข้อมือฉันไว้พร้อมกับส่งบางอย่างในกำมือฉัน มันคือขวดยาฉีดขนาดสิบมิลลิลิตรสองขวดที่มีตัวยาสีเขียวและสีม่วง ฉันเงยหน้ามองเจสันด้วยความงุนงง "หาคาร์ลให้เจอแล้วฉีดไอ้นี่ให้เขา ใช้ไฟหนึ่งร้อยยี่สิบโวลต์ช็อตที่ขมับสองข้าง แค่สามวินาที แล้วเขาจะหายจากการควบคุมเอง" "เดี๋ยวนะ นายหาวิธีทำให้เขากลับมาปกติได้หรอ?" ฉันรีบกลับไปนั่งหลังจากที่เจสันพูดถึงคาร์ล "ยูกะใช้ไฟฟ้าทำให้ความทรงจำส่วนหนึ่งของเขาหายไป ส่วนยาจะช่วยให้ทั้งยูกะแล้วก็คีปเปอร์ยัดความทรงจำใหม่เข้าไปในหัวของคาร์ลง่ายขึ้น ฉีดตัวสีเขียวก่อนใช้ไฟฟ้า แล้วค่อยฉีดสีม่วง ที่เหลือก็พยายามให้คาร์ลจำทุกอย่างได้" "แล้วฉันจะหาไฟแรงขนาดนั้นมาช็อตได้ยังไง?" "ถ้าง่ายสุดก็เครื่องเปลี่ยนกระแสไฟ หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็ใช้ที่กระตุ้นหัวใจ แต่ระวังเขาตายจริงๆ ล่ะ" ความรู้เรื่องร่างกายและยาที่เจสันบอกเป็นประโยชน์มากสำหรับฉัน อย่างน้อยก็โล่งอกที่ว่าคาร์ลไม่ได้ตั้งใจอยากจะฆ่าฉัน ฉันเก็บยาทั้งสองขวดใส่กระเป๋าเสื้อยีนไว้และลุกขึ้น "ขอบใจนะเจสัน คราวนี้ฉันติดหนี้นาย" "ถือว่าไถ่บาปกับเรื่องที่ฉันทำละกัน" ฉันโบกมือลาเจสันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ถามหาเรื่องเฮนรี่ที่ประชาสัมพันธ์อยู่นานจนได้คำตอบว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มีสะเก็ดระเบิดกับเศษเหล็กฝังอยู่ที่หลังนิดหน่อย แค่นั้นก็พอจะโล่งใจแล้วล่ะว่าเขาคงจะไม่เป็นอะไรมาก ทำไมอีธานถึงไม่ดวงแข็งเหมือนคนพวกนี้บ้างนะ? ฉันเปิดประตูห้อง 812 ถัดจากชั้นที่นีโอรักษาตัวอยู่หนึ่งชั้น ฉันเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเจอเฮนรี่นอนตะแคงข้างเพราะแผลบริเวณหลัง "ไง" เฮนรี่พูดเสียงแหบ "เรียบร้อยดีมั้ย?" "ฉันจัดการแล้วล่ะ นายโอเคนะ?" "ดีขึ้นนิดหน่อย...แต่เจ็บเป็นบ้าเลย" ฉันมองสายน้ำเกลือและเครื่องบางอย่างที่เชื่อมกับข้อศอกของเขา และฉันก็สงสัยว่ามันคือมอร์ฟีนรึเปล่า "หมอให้มอร์ฟีนนายหรอ?" "ใช่ ฉันขอไว้น่ะ...ทำไมหรอ?" "ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็อยากได้มอร์ฟีนเหมือนกัน" ฉันเปิดแผลกระสุนบนหัวไหล่ซ้ายให้เฮนรี่ดู "เรื่องมันยาวน่ะ" "แล้วสรุปใครทำรถฉันพังกัน ใช่คนขององค์กรรึเปล่า?" เฮนรี่พูดเคืองๆ หลังจากรถสุดรักของเขากระจุยเป็นเศษเหล็ก "มีคนวางแผนซ้อนแผนน่ะ นายรักษาตัวไปก่อน เดี๋ยวค่อยอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น" ฉันล้มตัวลงบนโซฟาหลังจากผ่านวันที่หนัก นีโอถูกยิง เฮนรี่โดนวางระเบิด คาร์ลโดนล้างสมอง แล้วฉันก็เจ็บหนัก ตอนนี้แทบมองไม่เห็นอนาคตเลยว่าฉันจะรอดไปจนกว่าจะฆ่าลูคัสได้หรือเปล่า "ไม่กลับไปเฝ้านีโอหรอ?" เฮนรี่พยายามพูด "ป่านนี้เขาคงหลับไปแล้วล่ะ แล้วทำไมนายไม่พักซะทีเฮนรี่?" "นอนไม่หลับ เธอก็รู้นี่ อยู่กับเธอแล้วชีวิตไม่เคยน่าเบื่อเลย" "ขอโทษด้วยนะที่ฉันเป็นตัวซวยน่ะ" "ฉันรู้ แต่เธอไม่ใช่ตัวปัญหาหรอกนะสตีล" เฮนรี่จับมือฉันไว้ "เข้าใจรึเปล่าว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอ" ฉันอ้ำอึ้งไปพักนึง จนเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชายกลางคนหัวโล้นในชุดสูทสีดำและเสื้อโค้ตเปิดประตูเข้ามา ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นแบบนั้น...พวกเจ้าหน้าที่ กลิ่นกาแฟห่วยๆ และกลิ่นสบู่ราคาถูกที่เตะจมูก ฉันคุ้นเคยกับกลิ่นพวกนั้นเป็นอย่างดี "ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ เจ้าหน้าที่เฮนรี่" [End of Chapter 18]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD