ร่างบอบบางถูกวางลงบนฟูกนอนเนื้อนุ่มอย่างอ่อนโยนประหนึ่งเกรงว่าถ้าทิ้งน้ำหนักอีกเพียงน้อยแล้วนางจะแตกสลาย ความละเมียดละไมในท่วงท่านั้นทำเอาหัวใจของหนิงซินสั่นสะท้าน ใบหน้าขาวนวลดั่งกลีบดอกจวี๋ฮวาแดงปลั่ง เมื่อสบเข้ากับดวงตาคมลึกที่จับจ้องไม่ละสายเปรียบเปลวเพลิงอันอบอุ่นแต่เผาผลาญหัวใจให้ร้อนรุ่ม “คืนนี้ท่าน มะ..ไม่ได้นอนเรือนข้าง ๆหรอกหรือ” หลิวเซียนโน้มกายลงช้า ๆ จนลมหายใจอุ่นพร่างพรมผิวแก้มนวล กลิ่นบุรุษอันแสนคุ้นชินโอบล้อมจนหายใจติดขัด เสียงทุ้มต่ำของเขาเอื้อนเอ่ยดังขับกล่อมกลางรัตติกาล “ในเมื่อตอนนี้ ข้าเข้าใจเจ้าอย่างถ่องแท้ เหตุใดเล่าข้าจึงต้องแยกเตียงให้ไกลห่าง… สิ่งที่ผ่านมาล้วนเป็นข้าที่โง่งม หลงคิดว่าเจ้ามิได้มีใจ” หัวใจของสาวงามเต้นระรัวประหนึ่งจะทะลุอก ยามที่หยาดน้ำใสคลอเลือนบดบังแววตาอ่อนโยนของนาง สองมือเรียวสั่นไหวกลับยกขึ้นแนบพวงแก้มของบุรุษตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ราวกับกลัว

