chapter 5 เพื่อนกัน เขาจูบกันได้ด้วยหรอ

1367 Words
Chapter 5 เพื่อนกัน..... เขาจูบกันได้ด้วยหรอ "จูบ..." "เพื่อนกัน...เขาจูบกันได้ด้วยหรอ" พลอยนิรา เอ่ยถามเสียงเบาหวิว แม้ในใจ จะเอนเอียงไปทางคำพูดเขาแล้วเกินกว่าครึ่ง "ก็ยกเว้น..มึงกลับกู" "ว่าไง....ความคิดถึงของมึง มันมากแค่ไหนพลอย" นัยเนตรอำพันกดต่ำ มองจ้องเสี้ยวหน้าคนตัวเล็กที่หัวคิ้วเรียวยังยับย่นอยู่ไม่คลาย ยิ่งเธอสงสัย เขายิ่งนึกสนุก..และอยากให้เธอตั้งหาคำตอบของคำถามนั้นด้วยตัวเอง "หมอก....ถ้าพลอยจูบหมอกจริงๆ ...เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ใช่ไหม" คนตัวเล็กยังคงเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง นัยน์ตาสีอ่อนเจือไปความความลังเลแกมสับสนในสิ่งที่กำลังเลือกจะทำ "เหมือนเดิม?" "อืม" เสียงทุ้มต่ำทวนประโยคที่กระแทกใจซ้ำก่อนจะขานรับในลำคอ พลอยนิราไม่รีรอ ไม่รั้งรอที่จะปล่อยโอกาสนี้ไปอีก ลำแขนเล็กรั้งรำคอหนาเข้าหาตัว ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่ม จะแนบลงบนแก้มสากเบาๆ เมฆินทร์ชะงักหางตาคมเบิกกว้างขึ้น ร่างหนาผละหนีีสำผัสที่อุกอาจนั้นอย่างรวดเร็ว "แบบนี้ใช่ไหม" เสียงแหบหวิวเอ่ยถาม พรางมองจดจ้อง เครื่องหน้าหล่อของคนตรงหน้า สองแขนเรียวดึงรั้งปลายนิ้วอุ่นใว้ ราวกลับกลัวเจ้าของมันจะหายไป "โง่" "จูบห่าอะไรของมึง" ตาเฉี่ยวหรี่ลงมอง กล่าวโทษ เครื่องหน้าคมที่ยังแดงซ่านจากเมื่อครู่ขรึมเข้มลง ราวคนพึ่งถูกขัดใจ "งั้น..สอนพลอยหน่อย" "ได้ไหม" คนตัวเล็กยอกย้อน แกมขอความเห็นใจ และประโยคนั่น ทำให้คนโตกว่าเผลอมุมปากกระตุกเมื่อถูกเธอปีนเกลียวอีกรอบ "จะเล่นก็เอาแค่พอดี" "ยั่วกูมาก.....มึงรับไม่ไหวหลอกพลอย " สุรเสียงแข็งกระด้างเอ่ยในสิ่งที่เขารู้สึก ลำคอหนาเกร็งค้าง ขืนตัวออกจากแรงพันธนาการที่แผ่วเบาราวปุยนุ่น พลอยนิรามองนิ่ง สองกลีบปากร่างบนเม้มกันแน่น รับกันกับเรียวแขน ที่ออกแรงรั้งเขาใว้มากกว่าเดิม "จะทำอะไร?" เมฆินทร์ถามย้ำ ด้วยท่าทีจริงจัง "บอกแล้วไง...ว่าคิดถึง" พลอยนิราเอ่ยเสียงแผ่ว "เพื่อนกัน เขาคิดถึงแบบมึงรึไงพลอย" "หรือมึงคิดถึงคนอื่น แบบนี้" "ทำกลับคนอื่น เหมือนที่ทำกลับกู" เสียงทุ้มต้ำเอ่ยกระด้างหู ใบหน้าที่เคยขาวซีดค่อยๆ ซับสีเลือดจางๆ จนแดงเถือกจรดแนวลำคอ ผิวกายที่เพิ่งเย็นเยียบไปเมื่อครู่ระอุไอร้อนขึ้นมาอีกรอบ พลอยนิรา มองคนตรงหน้าด้วยสายตาแห่งความไม่เข้าใจ และยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะเอ่ยปากถาม แขนเรียวเล็กกลับถูกสะบัดออก อย่างไม่ทันตั้งตัว จนร่างบอบบางเซถลาออกไปประทะโต้ะทำงานของเขา "หมอก.." สุรเสียงหวานเอ่ยแหบพร่า แววตาสีอ่อนเว้าวอน หากแต่คนที่ได้รับมัน กลับไม่แยแสความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมาเลยสักนิด นัยน์ตาเฉี่ยวคม มองจับจ้องเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวนิ่งนาน ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ จะหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้อดีตคนสนิทจมอยู่กลังพวังค์ที่เดิม "ไม่ใช่พลอยที่ทิ้งหมอก...หมอกต่างหาก ที่ทิ้งพลอย" "หมอกเอง ที่ไม่เลือกพลอย" เสียงหวานเบาหวิวดั่งคนลมหายใจขาดห้วง นัยน์ตาสีอ่อนแดงฉาน ปรือมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ด้วยจังหว่ะลมหายใจที่เริ่มแผ่วลง "บางที....การไม่กลับมาเจอกัน มันจะดีกลับเรามากกว่ารึปล่าวหมอก....มันคงดีกว่า ถ้าหมอก ไม่ต้องทนเห็นหน้าพลอยอีก" หลังมือขาวยกขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำสีใสที่เปียกชื้นสองพวงแก้ม ร่างเล็กทรุดลงนั่งกลับพื้น ก่อนจะสะอื้นให้ ถ่ายเททุกสิ่งที่อดกลั้น สองแขนที่เคยโอบรัดเขายกขึ้นกระชับกอดตัวเอง จมดิ่งอยู่กลับความเศร้าซึมในใจอีกหลายนาที ไม่ต่างจากเขา ร่างสูงใหญ่ เหยียดแผ่นหลังตรง เอนพิงเบาะนวมราคาแพง มือหนาหมุนควงแก้วทรงเหลี่ยมช้าๆ สองนัยน์ตาจับจ้อง ไปยังจอ แอลอีดีขนาดใหญ่ที่ยังมีเธอนั่งอยู่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป "แล้วทำไมไม่ทำให้ได้อย่างที่พูดวะ!" "เสนอหน้ากลับมาทำห่าอะไร" เสียงต่ำสบถแผ่วเบา ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในมือกรอกลงคอจนหมดในคราวเดียว ตีสามสิบสี่นาที แฟ้มเอกสารขนาดย่อม ถูกจัดวางใว้จนเป็นระเบียบ พลอยนิรา เอนกายพิงพนักเก้าอี้สีทึมก่อนจะยกมือกดคลึงขมับขับไล่อาการปวดศีรษะที่เกาะกินร่างกายเธอมาสักระยะ ดวงตาสีอ่อนปรือขึ้นมองนาฬิกาแขวนพนังตรงหน้า ก่อนทอดถอนลมหายใจเบาๆ "เหนื่อยจัง" "เมื่อไหร่...ทุกอย่าง จะจบลงสักที" "ตึ๊ง!" เสียงแจ้งเตือนดังกังวานเรียกสติคนตัวเล็กอีกครั้ง พลอยนิราหลุบสายตาลงมอง หน้าจอมือถือเครื่องเดิม ช้าๆ ก่อนที่รอยยิ้มจางๆ จะปรากฏขึ้นกลางดวงหน้า "วันเงินเดือนออกสินะ" "ยุ่งจนลืมไปเลย" แม้จะเอ่ยออกไปอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงพลอยนิราไม่อาจจำได้ด้วยซ้ำ ว่าเงินเดือนของเธอ ออกวันที่เท่าไร เพราะแต่ละงานที่เธอทำรายละเอียดปลีกย่อยมันมากเหลือเกิน ปลายนิ้วเล็ก เลือกกดโอนเงินแทบทั้งหมดที่เธอมี ไปยังเลขบัญชีเดิมๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา เมื่อยอดเงินที่เหลือเพียงไม่กี่พันบาทปรากฏต่อสายตา "สามพัน" "หนักจังเลยเดือนนี้" ไม่ใช่ความน้อยอกน้อยใจในโชคชะตา หากแต่เป็นเสียงที่เปร่งออกมาสะท้อนความรู้สึกเพียงเท่านั้น พลอยนิราไม่เคยโทษอะไร หรือใคร ที่ทำให้ชีวิตทั้งครอบครัวของเธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หากจะโทษจริงๆ ....ก็คงเป็น เวรกรรมละมั้ง ใครจะคิด...ว่าชีวิตคนเราจะพลิกผันได้ราวกลับแค่กลับฝ่ามือ ปีที่แล้ว เงินเท่านี้ เทียบไม่ได้กลับค่าข้าวมื้อเดียวของเธอด้วยซ้ำ....ปีนี้ เงินในจำนวนเท่ากัน กลับถูกใช้เป็นค่าใช้จ่ายของเธอทั้งเดือน "ฝู่ว" ทรวงอกกระเพื่อมสั่นยามเจ้าของมันพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ร่างบอบบางเหยียดกายผ่ายผอมขับไล่ความเมื่อยอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะรวบคว้ากระเป๋าถือสีเดียวกลับชุด เดินออกมารอรถประจำทางที่จุดเดิม "คิดว่าจะไม่ทันซะแล้ว....ยังมีโชคอยู่บ้างสินะเรา" ปากกระจับสีสดแย้มยิ้มปลอบใจตัวเองแม้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย มือขาวเรียวยกโบกสะบัด เรียกรถประจำทางสีคล่ำครึ ก่อนจะรีบสับฝีท้าวก้าวขึ้นรถทันทีที่มันเทียบจอดข้างฟุตบาท และด้วยเพราะเป็นเวลาเกือบรุ่งสาง ผู้โดยสาร จึงบางตากว่าปกติ หรือเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีเพื่อนร่วมทางแล้วด้วยซ้ำ พลอยนิราเรียนรู้สกิลการเอาตัวรอด หลังจากใช้ชีวิตธรรมดาๆ มาร่วมสองปี ร่างบอบบางเลือกทิ้งสะโพกลงนั่งตำแหน่งที่ไกล้พลขับที่สุด ก่อนที่หัวทุยจะเอนซบลงแพงเหล็กที่่่่่่เริ่มหลุดล่อนไปตามกาลเวลาอิงแอบไอเย็นที่พัดโชยมาโกรกหน้าเบาๆ "ต้องหางานเพิ่มอีกไหมนะ" "ถ้ามีสักที่ ที่ให้เงินเดือนมากพอก็คงดี" "ซวยอะไรนักนะพลอย จบมาตั้งหลายปี ยังหางานดีๆ ทำอย่างคนอื่นเขาไม่ได้เลย ฮื่อ" ลมหายใจอันเหนื่อยอ่อน ถูกผ่อนออกมาอีกครั้ง แม้ในหัวจะพยายามไม่คิด แต่มันก็ผุดขึ้นมาเองจนได้ ความลำบากที่ผ่านเข้ามาทดสอบเธอหลายครั้ง ทำให้ คุณหนู ที่เคยสดใส ค่อยๆ หม่นหมองลงช้าๆ .....จนถึงวันนี้ พลอยนิราจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเอง ยิ้มออก ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่...นานแล้วมั้ง...นานจริงๆ พวกเอง ฝาก แวะไปเยี่ยมพี่สิงห์กันด้วยเดี๋ยวเฮียน้อยใจ😁
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD