มหาวิทยาลัย
หม่อมหลวงสรันตรีเดินตรงมายังรถของพิงซึ่งจอดอยู่หน้าคณะ เธอเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถและคาดเข็มขัดนิรภัย เขาออกรถทันทีโดยปราศจากคำพูดใดๆ
"คุณต้องไปบอกผู้ใหญ่นะคะว่าไม่ต้องการแต่งงานกับฉัน" คำพูดของหม่อมหลวงสรันตรีทำให้พิงหันขวับมาหาร่างบางเพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะหันกลับไปมองถนน
"แล้วทำไมคุณไม่บอกคุณพ่อของคุณล่ะว่าไม่อยากแต่ง" พิงย้อนถาม
"ฉันบอกคุณพ่อไปแล้ว แต่คุณพ่อยื่นคำขาดว่าจะต้องแต่ง"
"ผมก็เคยบอกผู้ใหญ่ไปแล้ว แต่ก็ยังต้องแต่งอยู่ดี ตอนนี้ผมเองก็เหนื่อยที่จะปฏิเสธ" พิงพยายามเก็บอาการไม่พอใจเมื่อเธอแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากแต่งงานกับเขา
"ถ้าให้ฉันแต่งกับคุณจริงๆ ฉันจะหนีไป!" เธอสะบัดหน้าหนีเขา
"ผมมีประชุมในอีกครึ่งชั่วโมง ผมจะประชุมจนถึงห้าโมงเย็น หลังจากนั้นเราค่อยคุยกัน" พิงตัดบทเพราะไม่ได้ต้องการจะคุยเรื่องแต่งงานกับเธอ
"งั้นก็จอดรถค่ะ ในเมื่อคุณหาทางออกของปัญหาไม่ได้ฉันคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องคุยกันเรื่องนี้อีก"
"ไปรอผมที่ห้องทำงาน หลังจากผมประชุมเสร็จค่อยคุยกันว่าจะเอายังไง" พิงยืนยันคำเดิมอย่างเอาแต่ใจ
"ฉันไม่ไปค่ะ"
"ไม่ไปก็กระโดดลงรถไปสิ" พิงนึกรำคาญความดื้อรั้นของเธอจึงพูดประชดประชันออกไป
"นี่คุณ!" ใบหน้าสวยทว่าบูดบึ้งจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของพิงอย่างเอาเรื่อง
"ก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยตอนประชุมเสร็จ ไม่เข้าใจหรือยังไง" พิงหันมามองเธอด้วยแววตาเรียบเฉย ระหว่างทางที่โต้เถียงกันไปมาเขาก็ขับรถเข้ามาจอดในบริษัทเรียบร้อยแล้ว
พิงลงจากรถและเดิมอ้อมมาเปิดประตูให้ตุ๊กตาหน้ารถของเขา ร่างบางนั่งกอดอกและยังเบือนหน้าหนีเขาด้วยความไม่พอใจ
"ข้อแรกจะให้อุ้มลงไป ข้อสองจะให้จูบก่อนค่อยลง ข้อสามจะเดินลงเองดีๆ" คำขู่ของพิงทำให้หม่อมหลวงสรันตรีเอื้อมมือมาผลักบริเวณเอวของเขาให้ออกห่าง ร่างบางในชุดนักศึกษาจึงยอมเก้าลงจากรถเองแต่โดยดี
"มองอะไรคะ?" เธอถามเขาเพราะสายตาสุดแสนเย็นชาของพิงกำลังจ้องมองเธออย่างยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"มองว่าที่เมีย" คนตัวสูงพูดจบก็ถือวิสาสะดึงมือเรียวเข้าไปกุมไว้และพาเดินเข้าบริษัทไป
"นี่! ปล่อยนะ ถอนคำพูดของคุณด้วย พูดบ้าอะไรของคุณ" พิงไม่สนใจปฏิกิริยาต่อต้านของเธอ หม่อมหลวงสรันตรีสังเกตเห็นพนักงานหลายคนจ้องมองมายังตนเองจึงจำใจต้องหยุดโวยวายและเดินตามชาบหนุ่มไปเงียบๆ
"ใครกัน"
"สวยยยมาาากก แม่เจ้า นางฟ้าชัดๆ"
"เด็กท่านรองประธานหรอ?"
"น่าจะใช่ เป็นนักศึกษาแต่เบ้าหน้าดาราชัดๆ"
"แต่ท่านรองไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่เลยนะ นี่คนแรกในประวัติศาสตร์เลย"
"แล้วแม่เลขาคนโปรดนั่นล่ะ"
"ได้ข่าวว่าแม่นั่นไปอ้าขาให้ท่านรองถึงห้องทำงานไม่ใช่หรอ"
"แต่แม่เลขานั่นก็ออกจะประกาศตัวว่าเป็นอะไรกับท่านรอง"
"ถ้างั้นงานนี้ก็สนุกสิ"
การมาที่นี่ของหม่อมหลวงสรันตรีสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก พิงถือเป็นหนุ่มโสดรูปงามที่หวงความเป็นส่วนตัวเป็นที่สุด สาวๆคนไหนที่ชื่นชอบเขาจะต้องเก็บอาการไว้หากไม่อยากถูกไล่ออก เพราะเขาไม่ชอบให้พนักงานคนไหนมาเล่นหูเล่นตาด้วย นอกเสียจากเขาจะพอใจคนไหนคนนั้นถึงมีสิทธิ์ขึ้นเตียงกับเขา แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวและไม่มีวันได้ค้างคืน
"บอสคะ..." อันนาหน้าเสียเพราะเก็บอาการไม่อยู่เมื่อพิงกุมมือหญิงสาวในชุดนักศึกษา ที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็สวยสง่างามเดินตรงมายังห้องทำงาน
"ทำไมไม่ไปเตรียมประชุม" เขาถามเลขาสาวเสียงดุ มือหนาถือวิสาสะเลื่อนมือไปโอบรอบเอวบางหม่อมหลวงสรันตรีไว้ เขารั้งเธอเข้าหาลำตัวจนใบหน้าสวยซบกับแผงอกแกร่ง กลิ่นน้ำหอมของพิงทำให้นายน้อยอดมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้ ครั้งหนึ่งเธอเคยแอบชื่นชมความหล่อเหลาราวเทพบุตรของเขา และครั้งนี้เขากำลังทำให้เธอหวั่นไหวอีกครั้ง
"กะ กำลังจะไปค่ะ" อันนาปลายตามองคนในอ้อมแขนของผู้ชายที่เธอรักด้วยความเจ็บปวดก่อนจะรีบเดินตรงไปยังห้องประชุม
"ทำไมเขาดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยคะ" หม่อมหลวงสรันตรีอดถามไม่ได้เมื่อสายตาคู่นั้นของเลขาสาวจ้องมองเธอแปลกๆ
"นายน้อยไม่ชอบหน้าเขาหรือ?" พิงก้มมองคนตัวเล็กในอ้อมแขน
"บอกแล้วไงคะว่าอย่าเรียกแบบนี้" เธอหลบสายตาเย็นชา ทว่าแอบแฝงด้วยบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่สามารถหาคำตอบได้
"ถ้าไม่อยากให้เรียกแบบนี้คุณก็ต้องแทนตัวเองว่าฟา... โอเคหรือเปล่า?" พิงยื่นข้อเสนอ
"เราไม่จำเป็นต้องเจอกันบ่อยๆ จะแทนตัวเองยังไงมันก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ"
"หึ!" พิงส่ายหน้าเบาๆและดึงมือเธอให้เดินตามไปยังห้องประชุม
"เดี๋ยว! ไหนบอกจะให้รอในห้องทำงานไงคะ"
"เปลี่ยนใจ" พิงผลักบานประตูห้องประชุมเข้าไป ผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าแผนกต่างนั่งรอการประชุมกันครบทุกตำแหน่งแล้ว ทุกคนในห้องเงียบกริบเพราะรู้จักนิสัยรองประธานพิงดี ด้านอันนาที่เห็นภาพตรงหน้าก็ได้แต่กำชายประโปรงแน่นจนเนื้อตัวสั่นเทิ้มเพราะความเจ็บปวดและโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
"ผู้หญิงคนนี้คือหม่อมหลวงสรันตรี ภูริทราธร ว่าที่ภรรยาของผมครับ" คำแนะนำของพิงทำให้หม่อมหลวงสรันตรีเบิกตากว้างเพราะความตกใจ หญิงสาวตั้งสติได้ในไม่กี่วินาทีถัดมาจึงปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
การประชุมเสร็จสิ้นลงในหนึ่งชั่วโมงถัดมา พิงให้หม่อมหลวงสรันตรีนั่งเคียงข้างเขาตลอดการประชุม ตอนนี้ผู้ร่วมประชุมทั้งหมดออกจากห้องทำงานไปหมดแล้วรวมถึงอันนาด้วย
"นายน้อยหิวหรือยังครับ" แม้แววตาจะเรียบเฉยแต่คำถามของเขากลับทำให้เธอรู้สึกถึงความอ่อนโยนอันน้อยนิด
"ไม่หิวค่ะ" เธอหน้าบึ้งและยังเบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่น
"งั้นไปทำงานต่ออีกสักหน่อยค่อยออกไป ตอนนี้ห้าโมงเย็นรถกำลังติดเลย" พิงหยัดกายลุกขึ้นยืน
"คุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ"
"ทำอะไร?"
"บอกว่าฉันเป็นว่าที่ภรรยาของคุณไงคะ?"
"แล้วผมพูดผิดตรงไหน" พิงก้มมองคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งอยู่ก่อนจะละสายตาและเดินไปยังประตูทางออกโดยไม่สนใจสีหน้าของเธอ
"ไหนคุณบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับฉันไงคะ" ร่างบางรีบก้าวเท้ายาวเข้ามาขวางทางเขาไว้ พิงรั้งเอวบางมากอดไว้แนบลำตัวและบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มด้วยความโหยหา มันหนักหน่วงและเนิ่นนานกว่าที่เขาจะยอมถอนจูบออกมา
"ก็ตอนนี้อยากแต่งแล้ว" พิงบอกเธอในขณะที่ปลายจมูกโด่งยังคงถูไถกับพวงแก้มใสอย่างหลงใหล