"ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" หม่อมหลวงสรันตรีหลบสายตาอันแหลมคมของพิง เธอทำทีจะเดินเบี่ยงหลบคนตัวสูงกำยำตรงหน้า
"เจ้าของบ้านรับแขกด้วยการเดินหนีแบบนี้หรอ?" พิงขวางทางไม่ให้เธอเดินไปเสียง่ายๆ
"ดิฉันเนื้อตัวเลอะเทอะ อีกอย่างเมื่อครู่คุณยังทำท่าจะหัวเราะเยาะฉันอยู่เลยนะคะ" หม่อมหลวงสรันตรีรับรู้ได้ว่าเขากำลังจงใจกลั่นแกล้งเธอ
"ดิฉันว่าเชิญคุณพิงไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนดีกว่านะคะ" แม่นมเห็นท่าไม่ดีจึงพูดแทรกขึ้น
"ก็ได้ครับ" พิงเห็นแก่แม่นมและเห็นว่าหญิงสาวเนื้อตัวเลอะเทอะจึงยอมที่จะไปนั่งที่ห้องรับแขกแต่โดยดี เขาปลายตามองหม่อมหลวงสรันตรีด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะเดินตามหญิงรับใช้ไปยังห้องรับแขก
คอนโดของพิง
พิงเลือกกลับมานอนที่คอนโดหลังจากส่งมารดาถึงบ้านแล้วเพราะมันใกล้ออฟฟิศมากกว่า ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทออกและทิ้งตัวนั่งบนโซฟา
"นายน้อย..." เขาพร่ำเพ้อออกมาโดยไม่รู้ตัว กลิ่นน้ำหอมของนายน้อยยังคงอบอวลอยู่บนเสื้อสูทของเขา
"บ่นอะไรคนเดียวคะ" เรือนร่างเปลือยเปล่าของ'อันนา'เลขาสาวสวยเดินออกมาจากห้องนอน หล่อนถือวิสาสะหย่อนก้นเปลือยเปล่าลงบนตักของพิง
"ฉันไม่ได้อนุญาตให้เธอมาที่นี่!" พิงไม่รู้สึกวาบหวามไปกับสิ่งเย้าอารมณ์ตรงหน้า
"นาอยากทำให้คุณมีความสุข อย่าว่านาเลยนะคะ" หล่อนถือวิสาสะถอดเนกไทของเขาและตามด้วยปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตออก อันนาตั้งใจจะบดจูบริมปากหยักได้รูปทว่าพิงเอียงตัวหลบ เขาทิ้งศีรษะลงบนพนักโซฟาเป็นการปฏิเสธการจูบกับหล่อน
"ฉันไม่เคยจูบกับผู้หญิงคนไหนหรอกนะ!" ยกเว้นพราวตะวันเท่านั้นที่เขาเคยจูบ แต่นั่นเป็นเพราะเขาต้องการให้พี่ชายเปิดเผยความรู้สึกออกมาก็เท่านั้น
แม้อันนาจะรู้สึกเสียหน้าแต่ก็ยังคงใช้เรือนร่างอรชรถูไถหน้าอกอวบอิ่มของตนกับแผงอกแกร่ง มือเรียวปลดกระดุมและรูดซิบกางเกงลงจนสุด หล่อนล้วงแก่นกายแข็งชันขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาวุธที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของพิงออกมา
"เราเลิกใช้ถุงยางอนามัยได้หรือเปล่าคะ นาจะทานยาคุมเองค่ะ" หล่อนพูดจบก็แตะปลายลิ้นร้อนลงบนปลายหัวเห็ดสีชมพูเข้ม
"หึ! ฉันไม่เคยเอากับผู้หญิงคนไหนโดยไม่ใช้ถุงยาง! คิดว่าตัวเองเป็นใคร?" พิงหงุดหงิด เขาดันศีรษะเธอออกห่างจากแก่นกายของตน
"นาอยากทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นนะคะ" หล่อนส่งแววตาอ้อนวอนมาหาเขา
"งั้นฉันจะบอกอะไรให้นะ! ที่ของฉันมันกำลังแข็ง มันไม่ได้มีอารมณ์กับเธอ! กลับไปได้แล้ว" พิงพูดจบก็หยัดกายยืนขึ้นตรงและจัดการกับซิบกางเกงของตนเอง เขาเดินเข้าไปในห้องนอนและปิดประตูกระแทกเสียงดังจนอันนาสะดุ้งโหยง
"ทำไมถึงได้ไร้หัวใจขนาดนี้ อึก ฮืออ" หล่อนร่ำไห้ออกมาก่อนจะลุกไปหยิบเสื้อผ้าของตนเองมาสวมใส่และออกจากคอนโดไปทันที
ร้านขนมหวานคุณฟา
"เหมาทั้งร้านเท่าไหร่ครับ" บุรุษรูปร่างสูงโปร่งสวมแว่นดำยืนสั่งขนมอยู่ตรงเคาร์เตอร์แคชเชียร์ ทำให้พนักงานมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไร
"คือว่า...ถ้าคุณลูกค้าจะสั่งในปริมาณมากๆต้องสั่งล่วงหน้าสามถึงเจ็ดวันค่ะ เราต้องเก็บขนมไว้ให้ลูกค้าท่านอื่นๆอย่างทั่วถึงด้วยค่ะ" พนักงานสาวอธิบายทว่าสีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" พนักงานคนหนึ่งไปตามหม่อมหลวงสรันตรีให้เดินออกมาดูเหตุการณ์หน้าร้าน
"ลูกน้องคุณไม่ยอมขายขนมให้ผม" เขาพูดเสียงดังราวกับจงใจให้ลูกค้าคนอื่นๆในร้านได้ยิน
"คุณพิง!" ชายหนุ่มดึงแว่นกันแดดออกทำให้พนักงานในร้านรวมถึงนายน้อยตกตะลึงไปตามๆกัน
"ตกลงจะขายหรือไม่ขาย?"
"คุณจะเอาขนมไปทำไมคะตั้งเยอะแยะ"
"ผมจะซื้อไปทำอะไรมันก็ก็เรื่องของผม" พิงตอบสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆ
"งั้นฉันก็ไม่ขายค่ะ" หม่อมหลวงสรันตรีเชิดหน้าตอบกลับ การกระทำของพิงแม้จะได้เสียมารยาทมากมายแต่เธอก็ไม่พอใจต่อพฤติกรรมของเขาอยู่ดี
"ทำไมถึงไม่ขาย?" พิงจ้องมองคนตรงหน้า จากแววตาเรียบเฉยตอนนี้กลับกลายเป็นดุดัน
"ฉันจะขายหรือไม่ขายมันก็เรื่องของฉัน เพราะมันเป็นขนมของฉัน!" คำพูดของหญิงสาวทำให้พิงอึ้งไปชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงเหย่อหยิ่งและสุดแสนทนงตัวเช่นหม่อมหลวงสรันตรีจะกล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาถึงเพียงนี้