อันนาโหยหาแก่นกายที่แข็งชันและใหญ่เกินขนาดทั่วไปของพิงมานานมากแล้ว ช่วงหลังมานี้เขามักจะปฏิเสธหล่อนเสมอทว่าวันนี้กลับดูเหมือนชายหนุ่มกำลังเปิดโอกาสให้หล่อนได้สมปรารถนา
"โอวส์ อืมม..." เสียงครางของพิงบ่งบอกว่าเธอทำให้เขาพอใจได้เป็นอย่างมาก พิงดันศีรษะของอันนาเข้าออกอย่างเอาแต่ใจก่อนจะเกร็งกระตุกถี่เพื่อปลดปล่อยน้ำคาวรักใส่ปากของเธอทุกหยาดหยด
"อ่าส์ อืม!" หลังจากถึงจุดหมายแล้วพิงก็ดึงแก่นกายของตนออกจากปากของเลขาสาวอย่างไม่แยแส เขาไม่ได้มองหน้าหล่อนที่กำลังคลั่งไคล้ดื่มกินน้ำรักของตน พิงหยิบบุหรี่บนโต๊ะขึ้นมาจุดไฟดูดและหย่อนตัวนั่งบนโซฟา อันนาเดินเข้ามานั่งคร่อมร่างพิงในสภาพเปลือยเปล่า หล่อนยกก้นขึ้นเล็กน้อย มือเรียวชักรูดแก่นกายของพิงก่อนจะค่อยๆถูไถไปกับกลีบเนื้ออวบอูมของตน
"หยุด! ไปหยิบถุงยางมา" พิงพูดพลางเป่าควันบุหรี่ออกจากปาก เขาไม่สนใจสีหน้ากระเง้ากระงอดของคู่นอนเลยแม้แต่น้อย
"เลิกใส่ไม่ได้หรือคะ"
"เธอก็รู้ว่าว่าคำๆนี้มันทำให้ฉันอารมณ์เสีย!" พิงดันร่างบางของเลขาสาวให้ลงไปนั่งบนโซฟา เขาลุกพรวดจากโซฟาและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างไว้
"ทำไมคะ เรา..."
"ฉันอยากจบความสัมพันธ์นี้ จะเอาเท่าไหร่?" พิงจุดบุหรี่มวลที่สองหลังจากถามจบ
"หมายความว่ายังไงคะ?"
"เธอรู้ความหมายดีอยู่แล้ว ทำไมต้องถามซ้ำให้ฉันอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม"
"ที่ผ่านมานาพยายามดูแลแล้วก็เอาใจคุณทุกอย่าง แต่ทำไมคุณถึงบอกเลิกนาเอาง่ายๆแบบนี้ล่ะคะ?"
"เธอกล้าใช้คำว่าบอกเลิกหรอ? แล้วใครที่มันอ้าขาให้ฉันบนโต๊ะทำงานจนได้มาขึ้นเตียงกับฉัน ในฐานะคู่นอนก็ยอม!" พิงรื้อฟื้นคำพูดที่เลขาสาวเคยตกลงกับตนไว้ และนั่นทำให้หล่อนเงียบไป
"แต่นา...นารักคุณนะคะ"
"หึ! นั่นแหละยิ่งต้องจบ ฉันไม่ได้รักเธอ!" พิงไม่ต้องการยืดเยื้อและเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาสวมเสื้อผ้าและเดินออกจากคอนโดไปทันที
เช้าวันถัดมา
คฤหาสน์ภูริทราธร
"นายน้อยคะ นายน้อยคะ" เสียงเรียกของแม่นมไม่ได้ทำให้หม่อมหลวงสรันตรีดึงสติของตนเองกลับมาได้ หญิงสาวยังคงคิดถึงรสจูบอันร้อนแรงของพิงที่อาจหาญประทับไว้บนริมฝีปากของเธอเมื่อคืนนี้
"คนบ้า!" เธอเปล่งเสียงพูดออกมาอย่างลืมตัว
"ว่านมหรือคะ?" มือนุ่มนิ่มของเเม่นมขยับไปวางบนแขนเรียวของหญิงสาวทำให้เธอดึงสติกลับมาได้
"คะ? เปล่าค่ะ ฟาไม่ได้ว่าคุณนมนะคะ ฟากำลังคิดทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องเรียนผสมกันไปหมดเลยค่ะ" นายน้อยแก้ตัวด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
"งั้นก็เลิกคิดค่ะ อะไรที่มันหนักเกินไปก็วางลงบ้าง ทำให้ตัวเองมีความสุขนั่นคือหน้าที่ของนายน้อยนะคะ" แม่นมแนะนำและอบรมสั่งสอนเธอเช่นนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต
"เจ้าค่ะแม่นม งั้นฟาขอตัวก่อนนะคะ วันนี้ต้องพาคุณอาไปเยี่ยมน้องพราวค่ะ" ร่างบางสวมกอดแม่นมด้วยความรักก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถที่เตรียมรออยู่แล้ว
บ้านฤตินาฏวรนันท์
"วันนี้วันหยุด แม่ตาฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นแกอยู่บ้าน ปกติได้ข่าวว่านอนกกแม่เลขาอยู่คอนโดไม่ใช่รึ" มารดาช่างประชดประชันบุตรชายคนรอง
"เฮียเพลิงครับ ใครที่เอาเรื่องนี้มาพูดให้คุณแม่ฟังในทางที่ผิดๆแบบนี้ กรุณาไล่ออกให้ผมด้วยนะครับ ผมไม่เคยนอนกกผู้หญิงคนไหนนอกจากแม่ครับ" พิงพูดเสียงเรียบโดยไม่สนใจอารมณ์ของมารดาก่อนจะก้มลงไปอ่านหนังสือของตนเองต่อ
"งั้นก็คงต้องไล่เลขาแกออกแล้วล่ะ เพราะจะมีใครที่กล้าไปป่าวประกาศว่าได้ขึ้นเตียงกับแก นอกจากว่าแกจะนอนกับผู้หญิงในออฟฟิศหลายคน" เพลิงรู้เรื่องนี้ดี เขาเองก็ไม่ชอบเวลาได้ยินพนักงานเอาเรื่องนี้ไปพูด แต่ก็อยากให้พิงจัดการเองจะดีกว่า
"ผู้หญิงดีๆอย่างหนูฟาดันไม่ชอบ ชอบเด็ดดอกไม้ริมทางมาดมเล่นเหมือนพี่แกไม่มีผิด!" พราวตะวันสะดุ้งเล็กน้อยกับคำพูดของแม่สามี เธอหันไปมองเพลิงด้วยสายตาคาดโทษ
"นั่นมันอดีตครับคุณแม่ ตอนนี้ผมมีเมียแล้ว รักเมียคนเดียวด้วยครับ" เพลิงขยับเข้าไปสวมกอดภรรยาเพราะกลัวว่าเธอจะไม่พอใจที่มารดาพูดเมื่อครู่
"แม่ขอโทษจ๊ะ นั่นมันเรื่องในอดีตของตาเพลิง แต่เป็นเรื่องปัจจุบันของตาพิง" คุณดุจดาริกาส่งสายตาดุดันมายังพิง
"ผมไม่ได้มั่วผู้หญิงนะครับ ไม่ได้ใช้ผู้หญิงเปลืองด้วย แต่หนูฟาอะไรของคุณแม่นั่นน่ะ เขามีแฟนแล้วไม่ใช่หรือครับ คุณแม่จะให้ผมแต่งงานกับเขาได้ยังไง" พิงปิดหนังสือลงด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ พี่ฟายังไม่มีแฟนค่ะ และไม่เคยมีแฟนด้วย ถ้าหมายถึงพี่ดริสเขาสนิทกันแบบพี่น้องค่ะ พี่ฟาบอกว่าไม่ได้ชอบพี่ดริสแล้วก็ไม่อยากแต่งงานกับใครด้วยค่ะ" พราวตะวันไม่ได้ต้องการให้พิงกับลูกพี่ลูกน้องของเธอชอบพอกัน แต่เธอจำเป็นต้องแก้ต่างเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด
"แล้วผู้หญิงที่แกบอกว่าชอบล่ะ ตามหาเขาเจอหรือยัง?" เพลิงจำได้ว่าพิงเคยบอกตนเช่นนั้น แต่ก็ดูเหมือนน้องชายของตนจะไปติดเลขาสาวอยู่พักหนึ่งจนเขาเองก็เกือบลืมเรื่องนี้ไป
"เจอแล้วครับ แต่เขาเป็นผู้หญิงที่ดูสง่างามและเหย่อหยิ่งแต่ภายนอก เมื่อได้สัมผัสแล้วจึงรู้ว่าปากร้ายไม่เบา แถมมือหนักอีกต่างหาก" พิงพูดพลางครุ่นคิดถึงรสจูบเมื่อคืนที่เขายังคงถวิลหา กลิ่นน้ำหอมของหม่อมหลวงสรันตรีเหมือนยังคงติดกายเขาอยู่
"พูดแบบนี้แสดงว่าโดนตบมาแล้ว งั้นผู้หญิงคนนี้ก็ถือว่าผ่าน เพราะว่าผู้หญิงตบแก แต่แกมานั่งพร่ำเพ้อถึงเขาอยู่แบบนี้ แสดงว่าแกชอบเขามาก" เพลิงรู้ทันน้องชาย
"ผมพร่ำเพ้อตรงไหนครับ"
"อาการแกมันฟ้อง"
"ชักอยากจะเห็นว่าที่แฟนคุณพิงแล้วสิคะ" พราวตะวันส่งยิ้มให้กันกับเพลิงอย่างมีเลศนัย
"งั้นคุณพราวก็คงต้องช่วยผมแล้วล่ะครับ" พิงบอกพราวตะวัน ทันใดนั้นคนรับใช้ก็เดินเข้ามาพอดี
"หม่อมราชวงศ์แพรวดาวกับหม่อมหลวงสรันตรีมาเยี่ยมคุณหนูพราวค่ะ" เพียงแค่ได้ยินชื่อของนายน้อยหัวใจของพิงกลับเต้นแรงราวกับเสียงกลอง เขายกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเองเบาๆด้วยความรู้สึกประหม่า