ตอนที่ 1
ลุงหมอนิสัยไม่ดี
“ดูแลร้านดี ๆ นะ ห้ามหยุมหัวลูกค้า ท่องเอาไว้ว่า ลูกค้าคือพระเจ้า เข้าใจไหม”
แสนกล้าบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะกลัวว่าแสนรักจะทำให้ร้านกาแฟของเมียเขาเสียชื่อ
“เข้าใจค่า” แสนรักรับคำด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เธอมองค้อนพี่ชาย แล้วหันไปบอกพี่สะใภ้ว่า “พี่ฉัตรไม่ต้องห่วงนะคะ รักสัญญาด้วยเกียรติของพยาบาลสาวพราวเสน่ห์วัยยี่สิบสองว่า จะดูแลร้านของพี่ฉัตรเป็นอย่างดี และจะเอาใจใส่ลูกค้า จะให้บริการด้วยใจใสสะอาดบริสุทธิ์ดุจสำลีฆ่าเชื้อในห้องผ่าตัดค่ะ”
กมลฉัตรยิ้มขำ แต่แสนกล้าถอนหายใจ เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่า เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่จ้างน้องสาวมาเฝ้าร้าน
“ฉัตร... เราปิดร้านดีไหม”
“ไม่ต้องหรอก น้องรักทำได้อยู่แล้ว มีตาหวานเป็นลูกมือด้วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก หรือถ้ามีปัญหา ไม่เข้าใจตรงไหน น้องรักโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”
“รับทราบค่ะ คุณพี่สะใภ้คนสวย”
“รับทราบค่ะ หม่ามี้” ตาหวาน วัย 7 ขวบยืนเคียงข้างอารัก เด็กน้อยรับปากด้วยน้ำเสียงสดใส วันนี้โรงเรียนหยุดเป็นกรณีพิเศษ เด็กหญิงกมลเนตร นักเรียนชั้น ป. 2 จึงไม่ได้ไปโรงเรียน และพอรู้ว่าอารักจะมาดูแลร้านในวันนี้ ยัยหนูก็ดีใจใหญ่ เพราะจะได้อยู่กับอารักทั้งวัน
คาเฟ่ตาหวาน เป็นคาเฟ่ที่อยู่ในอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ กมลฉัตรเป็นคนสร้างมันขึ้นมา หลังจากที่เธอลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพ ฯ กลับมาอยู่บ้าน เพื่อดูแลยายของเธอ พ่อกับแม่ของเธอเสียชีวิตก่อนตาหวานจะลืมตาดูโลก พวกท่านเลยไม่มีโอกาสได้เห็นร้านที่ก่อตั้งโดยลูกสาวคนเดียวของพวกท่าน จริง ๆ ก็ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่ก่อร่างสร้างร้านนี้ขึ้นมา เพราะหลังจากที่ไฟไหม้ร้านเมื่อหลายปีก่อน คนที่ออกเงินค่าทำร้านขึ้นมาใหม่คือแสนกล้า... อดีตเพื่อนสนิทที่เลื่อนขั้นมาเป็นสามีของเธอ
กมลฉัตรกับแสนกล้าแต่งงานกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แสนกล้าย้ายมาอยู่บ้านกับเมีย บ้านของพวกเขาอยู่หลังร้าน อยู่บนที่ดินผืนเดียวกัน
แสนกล้ากับแสนรักเป็นลูกของกำนันไสวกับแม่ก้าน บ้านของพวกเขาอยู่หมู่บ้านถัดไป หากมาจากตัวอำเภอต้องขับรถผ่านคาเฟ่ตาหวานก่อนไปถึงบ้านของพวกเขา
ด้วยความที่แสนกล้าอายุมากกว่าน้องสาว 10 ปี ถึงแม้น้องจะได้รับการบรรจุเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลประจำอำเภอนี้แล้ว แต่ในสายตาเขา แสนรักก็ยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม เขาเลยไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร
“พี่แสนทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิ รักโตแล้วจริง ๆ นะ แล้วก็มีตาหวานอยู่ด้วย ไหนจะแม่ใหญ่นวลที่ทำงานอยู่แปลงผักหลังบ้านโน่นอีก ถ้ามีปัญหา รักวิ่งไปหาแม่ใหญ่นวลก็ได้”
แม่ใหญ่นวลคือยายของกมลฉัตร ท่านอายุมากแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงดี ยังทำงานอยู่ที่แปลงผักหลังบ้านทุกวัน แต่ไม่ได้ขุดแปลงผัก ไม่ได้หิ้วถังน้ำรดน้ำผักแล้ว เพราะกมลฉัตรจ้างคนมาช่วยดูแล แม่ใหญ่นวลเลยได้ทำแค่ถอนหญ้าในแปลงผักกับตัดผักรอแม่ค้ามารับไปขาย
“งั้นก็ฝากร้านด้วยก็แล้วกัน พี่กับฉัตรจะรีบไปรีบกลับ”
“ไม่ต้องรีบหรอกน่า ขับรถสบาย ๆ ชิลล์ ๆ เถอะ แสนรักคนนี้จะดูแลคาเฟ่ตาหวานให้ดีที่สุด บ๊ายบายตาตั้ม ซื้อขนมมาฝากอารักด้วยนะคะ ตาหวานบ๊ายบาย น้องสิคะ”
“บ๊ายบายตาตั้ม ดูแลหม่ามี้กับป๊ะป๋าดี ๆ นะ”
ตาหวานโบกมือบ๊ายบายตาตั้ม... เด็กชายกมลภพ น้องชายวัย 3 ขวบของเธอ
เจ้าหนูตาตั้มยกมือป้อม ๆ ขึ้นมาบ๊ายบายพี่สาวกับอารัก มืออีกข้างจับมือป๊ะป๋าไว้ไม่ยอมปล่อย
“บ๊ายบายครับ พี่ตาหวาน บ๊ายบายครับ อารัก ผมจะซื้อขนมมาฝากเยอะ ๆ นะครับ”
แสนกล้ามองหน้าน้องสาวและสั่งเสียงเข้มว่า
“ห้ามหาเรื่องลูกค้านะ”
“รู้แล้วค่า พี่แสนไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ทันนัดหรอก ไปสิ ๆ”
แสนรักรุนหลังพี่ชายให้ออกจากร้าน ตาหวานรีบเปิดประตูรอ สองคนอาหลานทำงานเป็นทีม
แสนกล้ากับกมลฉัตรมีนัดเอาขนมและเค้กของร้านไปเสนอให้คาเฟ่ร้านใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ ก่อนที่ร้านนั้นจะตัดสินใจสั่งซื้อประจำ ตาหวานขออยู่เป็นเพื่อนอารัก ส่วนตาตั้มติดป๊ะป๋ามาก เด็กน้อยจึงขอไปด้วย
…
“เอาล่ะ ทีนี้เราสองคนต้องแบ่งหน้าที่กันทำ”
“ค่ะ” ตาหวานพยักหน้ารับ ผมเปียสองข้างขยับไหวไปตามจังหวะพยักหน้า
“อาจะเป็นคนชงกาแฟ ส่วนตาหวานเป็นคนต้อนรับลูกค้า โอเคไหมคะ”
“โอเคค่ะ” เด็กหญิงพยักหน้ารับท่าทางขึงขัง
คุณอาคนสวยก้มลงเล็กน้อย ยกมือขวาขึ้นมาตรงหน้า ยัยหนูของอารักก็ยกมือขึ้นมาแปะมือกัน ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนจะแยกย้ายไปประจำที่
แสนรักเดินอ้อมไปยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ ตาหวานเดินไปนั่งที่เก้าอี้ใกล้ประตูหน้าร้าน
คุณอากับคุณหลานช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง ลูกค้าก็มาเรื่อย ๆ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี กระทั่งถึงช่วงบ่าย