บทที่ 1 เจอกันครั้งแรก

2625 Words
บทที่ 1 เจอกันครั้งแรก เช้าวันใหม่ ฟรังค์ถูกปลุกด้วยกลิ่นหอมของอาหารที่โชยเข้ามาในห้องของเขา ทุกๆวันก็จะเป็นแบบนี้ เขามีกิจวัตรประจำวันที่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกันทุกๆวัน และวันนี้ก็เป็นอีกเช่นเคย "วันนี้ทำอะไรกินอ่ะพ่อ หอมทั่วบ้านไปหมด" ฟรังค์เดินออกมาจากห้องเดินตรงไปทางห้องครัวและกล่าวทักทายพ่อของเขา "แกงจืดกับไข่เจียวเหมือนทุกวันนั่นแหละ" ฟาหันไปตอบลูกชาย "ผมรู้แล้วถามไปงั้นแหละ พ่อทำกับข้าวอย่างอื่นไม่เป็นหรอก" ฟรังค์กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เขามีความสุขที่ได้กวนประสาทพ่อเขา "ก็สองอย่างนี้แหละที่ทำให้เอ็งโตมาได้อ่ะ ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว เดี๋ยวก็ไปเรียนสาย" หลังจากนั้นฟรังค์ก็ได้อาบน้ำแต่งตัวและนั่งกินข้าวกับพ่อของเขา "เออพ่อ เมื่อคืนไปไหนมา" ฟรังค์ถามพ่อของเขาในขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าว "ไปเจอเพื่อนสมัยเรียนมา" "ห๊ะ เพื่อน ? พ่อมีเพื่อนด้วยเหรอ เห็นไม่ค่อยเข้าสังคม นึกว่าไม่มีใครคบซะอีก" "นั่นปากเหรอน่ะ ไอ้เด็กคนนี้นี่ ก็ต้องหาตังส่งควายเรียนคนเดียวจะมีเวลาพบปะใคร" ฟาตอบ "แรงนะเนี่ย ควายที่ไหนจะเรียนเก่งขนาดนี้" ฟรังค์ตอบกลับอย่างหน้าตาเฉย จนกระทั่งกินข้าวเสร็จฟาได้ขับรถไปส่งฟรังค์ที่มหาลัย ระหว่างทางฟาก็ได้พูดกับฟรังค์ "เลิกเรียนกี่โมงล่ะ วันนี้พ่อจะพาเอ็งไปเจอคน" "เจอคน เจอใคร ?" ฟรังค์ถามด้วยความสงสัย "ก็ที่เอ็งบอกพ่อว่าอยากทำงานพิเศษ พ่อหาให้ได้แล้ว" "จริงเหรอพ่อ ที่ไหน อะไร อย่างไง" ฟรังค์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะตัวเขาเองนั้นอยากช่วยพ่อเขาแบ่งเบาภาระมาตั้งนานแล้ว แต่พ่อเขานั้นไม่ยอมอยากให้เขาโฟกัสกับการเรียนมากกว่า อีกเหตุผลคือฟานั้นรักและเป็นห่วงฟรังค์มากไม่อยากให้ลูกต้องลำบากจึงไม่อยากให้ฟรังค์ต้องทำงานในขณะที่เรียนอยู่ ฟาจึงต้องทำงานหนักอย่างมากฟาเป็นวิศวกรโยธาแต่เดิมเขาทำงานกับหน่วยงานรัฐแต่ด้วยความที่เลี้ยงลูกคนเดียวลูกกำลังเรียนมหาลัย เงินเดือนที่ได้มาจึงไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงตัดสินใจลาออก เข้าทำงานกับบริษัทเอกชนที่เสนอเงินเดือนให้เขามากกว่าเกือบสองเท่าแต่ที่ทำงานนั้นต้องไปตามไซต์งานไม่อยู่กับที่ ทางพ่อแม่ของฟาปู่ย่าของฟรังค์จริงๆก็พอมีฐานะเป็นเจ้าของสวนผลไม้ดอกไม้เป็นคนรวยในจังหวัดก็ว่าได้ แต่ด้วยความที่ฟาเป็นพวกประเภทชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่อยากพึ่งพาคนอื่น เขาจึงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากพ่อแม่จนกว่าเขาจะไม่ไหวจริงๆ เขาบอกกับพ่อแม่เขาไว้ว่า " ในเมื่อเขาทำให้ฟรังค์เกิดมาได้เขาก็ต้องดูแลฟรังค์ได้” แต่ที่เขาตัดสินใจยอมให้ฟรังค์ทำงานพิเศษเพราะทนการรบเร้าของฟรังค์ไม่ไหว แต่เหตุผลหลักคือฝากให้พัตเพื่อนสนิทคนเดียวของเขาช่วยดูแลลูกชายเขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ "ที่บาร์ Infinity งานกลางคืนน่ะ" ฟาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "บาร์นั่นดังมากเลยนะพ่อเขาจะรับผมเข้าทำงานเหรอ" ฟรังค์พูดอย่างสงสัย "เจ้าของบาร์เป็นเพื่อนพ่อเอง" "จริงป่ะเนี่ย พ่ออำผมแล้วล่ะ อย่างพ่อเนี่ยนะ" "เอออย่างพ่อเนี่ยแหละ เพื่อนสนิทเลยล่ะเอ็งก็เคยเจอนะแต่สมองน้อยๆของเอ็งคงจะลืม" พูดพลางเหลือบตามองลูกชาย ฟรังค์ได้ยินดังนั้นก็มองตาขวางใส่ฟา “เหมือนพ่อหลอกด่าผมอ่ะ เจอเมื่อไหร่พ่อมั่วแล้วละ" "ตอนเอ็ง 10 ขวบได้ล่ะมั้ง" ฟาพูดอย่างน่าตาเฉย ฟรังค์ได้ฟังจึงพูดสวน "โอ้ย 10 ขวบ ไม่ลืมสิแปลก" "ช่างเถอะๆ ถึงแล้วตั้งใจเรียนเลิกเรียนก็แต่งตัวรอพ่อที่บ้าน" "จ้าๆ พ่อก็อย่าสั่งงานคนงานมาก เดี๋ยวเขาจะทุบหัวเอา ผมไปแล้ว" ฟรังค์หัวเราะเบาๆแล้วลงจากรถไป หลังจากนั้นฟาก็ได้ไปทำงาน จนกระทั่งตอนเย็น ฟาได้พาฟรังค์ไปหาพัตที่บาร์ บาร์ Infinity ทั้งคู่เดินเข้ามาที่บาร์ฟรังค์ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้มาที่นี่ ใช่ว่าฟรังค์จะไม่เคยเที่ยวเพียงแต่ บาร์นี้เป็นบาร์สำหรับคนมีเงินเท่านั้นแน่นอนว่าทุกอย่างแพงมากไม่ว่าจะอาหารหรือเครื่องดื่ม. "ไม่คิดว่าพ่อจะมีเพื่อนเป็นคนรวยขนาดนี้นะเนี่ย ผมต้องมองพ่อใหม่แล้วจริงๆนึกว่าไม่ใครคบซะอีก" ฟรังค์พูดหยอกเย้าพ่อของเขา "นิสัยปากเสียนี่เอ็งได้จากใครมา เจอเพื่อนพ่อก็ทำตัวให้ดีๆหน่อย" ทั้งคู่เดินเข้ามาถึงห้องทำงานของพัตที่อยู่ในบาร์ ปกติพัตจะออกไปนั่งด้านนอกคอยดูแลลูกค้าVIPด้วยตัวเอง แต่วันนี้เขานัดฟามาจึงคิดว่าคุยในห้องทำงานคงดีกว่า จนทั้งคู่เปิดประตูเข้ามา "มาแล้วเหรอพี่ นั่งก่อนสิ" พัตกล่าวทักทาย ก่อนจะมองสำรวจคนที่มากับฟาอย่างจริงจังและพึมพำกับตัวเองในใจ "ที่ว่าหล่อไม่เกินจริงเลยแฮะ น่าตาดีใช้ได้เลยนิ" พัตมองฟรังค์อย่างไม่ละสายตา ทางด้านฟรังค์ที่เห็นพัตก็ไม่ได้แตกต่างกันเขาพึมพำกับตัวเองในใจ "หืม เพื่อนพ่อจริงเหรอเนี่ย น่าตาดูเหมือนคนอายุ 20 กลางๆเองนะ หล่อเกินไปแล้ว" ก่อนจะกระซิบหูของฟา "พ่อๆเพื่อนจริงป่ะเนี่ยทำไมหน้าเขาดูเด็กกว่าพ่อจังล่ะ" ฟาหันไปตอบฟรังค์ "ลืมบอกเขาเป็นรุ่นน้องพ่อสามปี" ฟรังส์สวนกลับทันที "ไม่ใช่เขาดูเหมือนอายุ20กว่าๆเองนะเพื่อนพ่อเป็นแวมไพร์หรือเปล่าเนี่ยผมกลัวนะ" ฟรังค์กล่าวพลางกระตุกแขนฟา "อย่าเพ้อเจ้อ" "พัตนี่ลูกชายพี่ ตอนเจอครั้งล่าสุด 10 ขวบ ตอนนี้เป็นไงหล่อเหมือนพี่ไหม" ฟากล่าวพลางเดินไปนั่งตรงข้ามพัต ก่อนจะหันไปบอกฟรังค์ "สวัสดี..." ฟาเงียบไปก่อนจะพูดต่อ "เรียกว่าอะไรดีวะ" ฟรังค์ "ลุง" พัต "พี่" ฟา "......?" หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เงียบไป จนฟรังค์พูดขึ้นมา "ก็เพื่อนพ่ออ่ะ เรียกลุงก็ถูกแล้วไหมอ่ะ" พัตได้ฟังก็คิดขึ้นมาในใจ "ไอ้เจ้าเด็กนี่ดูแล้วร้ายไม่เบา" "อืม งั้นสวัสดีลุงเขาซะ" ฟากล่าวพลางยกยิ้มหัวเราะในใจเบาๆ เพราะเขารู้ว่าพัตไม่ชอบใจที่ฟรังค์เรียกเขาว่าลุง พัตชำเลืองมองฟา "สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆนะ" "สวัสดีครับลุง" ฟรังค์ยกมือไหว้พัต พัตรับไหว้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ฟรังค์จึงพูดต่อ "ผมมีคำถาม ถามได้ไหมครับ" ฟรังค์จ้องหน้าพัต "ถามฉันเหรอ" พัตตอบ "ครับ ลุงเป็นเพื่อนกับพ่อจริงเหรอครับ ทำไมหน้าลุงเด็กกว่าพ่อผมเยอะเลยล่ะครับแถมน่าตายังดีกว่าพ่อผมอีก" ฟรังค์พูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ พัตที่ได้ยินดังนั้นก็อดอมยิ้มไม่ได้ ฟาจึงตีฟรังค์ไปหนึ่งที " ลูกคนนี้นิ พ่อทำงานตากแดดส่วนไอ้เนี่ย" มองหน้าพัต "สำอางค์ยิ่งกว่าผู้หญิง" "เอาล่ะๆ ชื่อฟรังค์ใช่ไหมนายน่ะ" พัตถามพลางมองหน้าฟรังค์ "ครับ" "เห็นว่าเสียงดี ร้องเพลงเพราะ ?" "ก็พอได้ ดีกว่าเสียงหมาหอนนิดหน่อยครับ" ฟาหยิกขาฟรังค์เบาๆหนึ่งที "โอ้ยพ่อ ผมเจ็บนะ" "โทษทีนะพัต ลูกพี่ปากมันไม่ค่อยดี" "ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ สมัยเรียนพี่ก็ปากแบบนี้แหละครับ" พัตพูดพร้อมยกยิ้มเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่จริงใจแต่ก็มีเสน่ห์ไม่น้อยฟาจึงตอบกลับ "สมัยเรียนเราทั้งคู่ก็ปากไม่ดีพอๆกันแหละนะ จำตอนที่แซวสาวบัญชีได้ไหมล่ะ " ฟรังค์ที่เห็นทั้งคู่คุยกันถึงเรื่องเก่า "ผมขอไปเดินสำรวจได้ไหมครับ" ฟรังค์กล่าวถามพัต "ตามสบายเถอะ" พัตตอบ ฟรังค์จึงหันมาพูดกับพ่อเขา "พ่อก็รำลึกความหลังกันไปก่อนนะครับ คนแก่ก็แบบนี้แหละชอบคุยเรื่องเก่า" ฟรังค์พูดพลางหัวเราะและเดินออกไป ฟาได้แต่ส่ายหน้า "ลูกพี่นี่ก็กวนอวัยวะเบื้องล่างอยู่ไม่น้อยเลยนะ" พัตกล่าว "มันก็เหมือนพี่แหละ ยังไงก็อย่าถือสามันเลยนะ ถือซะว่ามันเป็นหลานแล้วกัน" "พูดอะไรแบบนั้นลูกพี่ก็ต้องเป็นหลานผมอยู่แล้ว ผมไม่ถือสาหรอก อย่างน้อยเจ้านั้นก็อยู่เป็น ผมคงหน้าเด็กจริงๆสินะ" พัตหัวเราะเบาๆ "ยังไงช่วงที่พี่ไม่อยู่ ฝากดูแลลูกพี่ด้วยนะ ค่าจ้างก็แล้วแต่จะให้มันล่ะกัน" "จะคอยดูๆให้แล้วกัน แต่เรื่องทำงานผมคงให้ลูกพี่เป็นนักร้องไม่ได้หรอกนะ เพราะนักร้องเยอะแล้ว ถ้าให้เป็นพนักงานเสิร์ฟไปก่อนคงไม่เป็นไรนะ” "เอาที่เอ็งเห็นว่ามันทำได้ อย่าใช้งานหนักเกินไปก็พอ" ฟาหัวเราะเบาๆ วันถัดมาฟาก็ได้เดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดคุมงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ กว่าจะได้กลับก็อีกหลายเดือน "พ่อไม่อยู่ทำตัวดีๆล่ะ มีปัญหาอะไรก็บอกลุงพัต ตั้งใจเรียนล่ะ ตั้งใจทำงาน เขาให้ทำตำแหน่งอะไรก็ทำไปก่อน ดูแลตัวเองด้วย" "รู้แล้วครับ พ่อก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าหักโหมกับงานให้มากนักล่ะ" ค่ำวันนั้นฟรังค์ก็ได้เดินทางไปที่บาร์ การทำงานวันแรกของเขา พอถึงที่บาร์เขาก็ตรงไปที่ห้องของพัต วันนี้พัตยุ่งกับการเคลียร์เอกสารจึงอยู่ในห้องทำงานอีกเช่นเคย "สวัสดีครับลุง ผมมาทำงานแล้ว วันนี้ให้ผมทำอะไรครับ" ฟรังค์กล่าวทักทายพัตใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพัตไม่ได้เงยหน้ามามองเขา " เรียกพี่ " "ห๊ะ อะไรนะครับ ?" พัตถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ "เรียกฉันว่าพี่" "ถึงลุงจะหน้าเด็กแต่อายุก็ไม่น้อยแล้วนะ ให้ผมเรียกลุงเถอะ เพื่อเป็นการเคารพ" ใบหน้าของฟรังค์ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พัตได้เงยหน้าขึ้นมามองพอเห็นรอยยิ้มของฟรังค์ก็รู้สึกใจสั่นนิดๆ พึมพำกับตัวเองในใจ "ยิ้มมีเสน่ห์ชะมัด ถ้าเราเป็นผู้หญิงคงโดนตกไปแล้วแน่ๆ ถึงจะกวนไปหน่อยก็ให้อภัยได้แหละนะ" ขณะนั้นก็มีคนเข้ามาให้ห้องพอดี "บอสเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ" คนที่มาคือ แซม ผู้จัดการของร้าน "คุณมาพอดี เด็กใหม่มาทำงานน่ะ ฝากดูแลทีครับ" แซมหันไปมองฟรังค์ ฟรังค์ผงกหัวให้แซมเล็กน้อย แซมก็ยิ้มให้ฟรังค์ ก่อนจะกล่าว "ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้" และหันไปพูดกับฟรังค์ "ไปกันครับ" ทั้งคู่กำลังเดินออกไป. "เดี๋ยว" พัตกล่าวทัก ทั้งคู่หันมา พัตได้มองไปทางฟรังค์ "อย่าไปยิ้มแบบนั้นให้ใครข้างนอกล่ะ ไม่งั้นนายคงรับมือไม่ไหว" ฟรังค์งงๆกับคำพูดพัตและเดินออกไปกับแซมที่พัตพูดหมายถึงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของฟรังค์นั้นถ้าไปยิ้มแบบนั้นให้ลูกค้าผู้หญิงล่ะก็ ลูกค้าผู้หญิงคงจะหลงกันเป็นแถบๆ พัตแค่กลัวฟรังค์จะรับมือไม่ไหว.. "ชื่ออะไรนะเรา พี่ชื่อแซมนะ เป็นผู้จัดการร้านดูท่าคงจะเด็กกว่าผมใช่ไหมครับ" แซมถามขณะกำลังพาเดินไปที่ห้องพนักงาน "ชื่อ ฟรังค์ ครับ ผมเพิ่งอายุ20เองครับ" "20 เองเหรอครับ เด็กเส้นใช่ไหมเราอ่ะ ปกติแล้วบอสจะรับพนักงานอายุ 25 ขึ้นไป" แซมพูดไปยิ้มไป ฟรังค์ไม่ได้ตอบอะไรเพียงขำแห้งๆ แซมกล่าวต่อ "โอเคฟรังค์ ทำงานเสริฟ์ได้ไหม " "ได้ครับ" ฟรังค์ตอบแซมก็ได้อธิบายต่อ "ที่บาร์เราไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย บาร์เรามีลูกค้าหลากหลาย ทั้งหญิงชายและเพศทางเลือกแต่ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงและเพศทางเลือกมากกว่า กฎข้อเดียวที่สำคัญที่สุด คือต้องบริการทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเพศไหน ไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนพวก VIP ก็มีอีกทีมบริการโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องสนใจ ทิปแยกไม่รวม ลูกค้าให้ทิปเท่าไหร่นั่นก็เป็นเงินของเราไม่เกี่ยวกับค่าจ้าง แต่บาร์ก็มีโฮสดูแลอยู่แล้ว ส่วนมากพนักงานเสริฟ์ก็ได้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าลูกค้าถูกใจก็อาจจะได้เยอะ แต่ถ้าเราไม่ขัดข้องจะเป็นโฮสก็ได้นะ น่าตาดีใช้ได้เลยนะเรา หล่อกว่าโฮสในร้านบางคนอีกได้เงินเยอะกว่าด้วยนะ เอาไหม ?" "เป็นพนักงานเสริฟ์ก่อนดีกว่าครับ ขอลองงานก่อน" "ก็ตามนั้นแหละ มีไรก็บอกพี่ วันนี้ก็ใส่ชุดนี้ไปก่อน พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่เตรียมชุดไว้ให้" หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มาส่วนกลางของบาร์แซมแนะนำให้ฟรังค์รู้จักพนักงานในร้านหลังจากนั้นก็ให้ฟรังค์รับลูกค้าทันที พัตได้เคลียร์เอกสารเสร็จแล้วก็ได้ลงมานั่งที่ประจำของเขา มองการทำงานของฟรังค์เป็นระยะ ด้วยน่าตาของฟรังค์และอัธยาศัยของเขาทำให้ลูกค้าเรียกใช้แต่เขานี่เพียงวันแรกเท่านั้นแซมที่เป็นผู้จัดการพึ่งพอใจอย่างมากโฮสบางคนตกกระป๋องเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่หันมาสนใจพนักงานเสริฟ์คนใหม่นี้มากกว่า "ดูสิมาวันแรกยังฮอตขนาดนี้ คงเป็นเด็กเสริฟ์ได้ไม่นานแล้วล่ะ" แซมกล่าวกับ ทิว ที่เป็นบาร์เทนเดอร์ "ถ้าเป็นโฮสคงจะรวยได้ไม่ถึงปี" ทิวตอบ ในขณะที่แซมพึงพอใจกับการทำงานวันแรกของฟรังค์ แต่หารู้ไม่ว่ามีอีกคนที่รู้สึกขัดหูขัดตากับการทำงานของฟรังค์ไม่น้อย ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ บอส ของพวกเขานั่นเอง พัตที่เห็นฟรังค์เข้ากับลูกค้าได้ดีแถมแจกยิ้มที่มีเสน่ห์เรี่ยราดขนาดนั้นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา จึงมองหาแซมและเรียกแซมมา "มีอะไรครับบอส" แซมกล่าว "ไปเรียกฟรังค์มา" แซมทำหน้างงๆก่อนจะไปตามฟรังค์ที่กำลังพูดคุยกับลูกค้า ฟรังค์ได้เดินมาหาเขา "มีอะไรหรือเปล่าลุง" ฟรังค์ถามด้วยความสงสัย พัตหันไปหาแซมและใช้ท่าทางบอกให้ไปได้ ตรงนั้นจึงมีแค่เขาและฟรังค์ "ผมทำอะไรผิด หรือ ทำไม่ดีอะไรตรงไหนหรือเปล่า" ฟรังค์ถามต่อ "ยืนชงเหล้าให้ฉันอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องเสริฟ์แล้ว" "เอ้าลุง ลูกค้ากำลังติดผมเลยนะจะมาว่าผมทำงานไม่คุ้มไม่ได้นะ" พัตหันไปมองหน้าฟรังค์ "นายเป็นแค่เด็กเสริฟ์ ไม่ใช่โฮสไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นอีกอย่างพ่อนายฝากนายไว้กับฉันเด็กน้อยอย่างนายจะไปรู้อะไร ลูกค้าพวกนั้นจ้องจะกินนายอยู่แล้ว พ่อนายรู้คงบ่นฉันแน่" ฟรังค์ยิ้มหวานให้พัตก่อนจะกล่าว "ก็ถ้าลูกค้าทิปหนักจะกินผม ผมก็ไม่ขัดหรอกครับหรือไม่พรุ่งนี้ผมขอเปลี่ยนเป็นโฮสแทนพนักงานเสริฟ์แล้วกัน" ฟรังค์หัวเราะเบาๆ พัตได้ยินดังนั้นก็ตะคอกฟรังค์ "ยืนอยู่ตรงนี้แหละ ชงเหล้า !!" ฟรังค์เบะปากมองบน ก่อนจะชงเหล้าให้พัต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD