@ H TO O CLUB
“เฌอเบลที่นี่มันโคตร” เจนนิสตะโกนแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะด้วยท่าทางเซ็กซี่ เฌอเบลก็สนุกไม่ต่างกัน สองสาวเหมือนได้ออกมาปลดปล่อย
“สนุกมาก” เฌอเบลตะโกนบอกเพื่อน
เพื่อนๆ ของเจนนิสส่งแก้วเครื่องดื่มให้เธอส่วนเฌอเบลเธอขอไม่ดื่มเพราะต้องขับรถ
“เจนนิส ฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ” เฌอเบลพูดข้างๆ หูเพื่อให้เพื่อนรับรู้
“ไปสิฉันไปด้วยฉันก็ปวดฉี่เหมือนกัน” เจนนิสจับมือเฌอเบลเดินจูงเลี่ยงผู้คนเดินออกมาเข้าห้องน้ำ เฌอเบลเดินเข้าห้องน้ำห้องที่ว่างไปก่อน เธอทำธุระเสร็จออกมายืนรอเจนนิสแถวๆ หน้าห้องน้ำ
เฌอเบลเปิดโทรศัพท์ดูนั้นดูนี้ไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอเพื่อน
“เฌอเบล” เสียงทุ้มเรียกเธอ
คนตัวเล็กหันไปมองตามเสียงเรียก พี่มาร์วิน
“เบลมากับใครเหรอ”
“มากับเจนนิสแล้วก็กลุ่มเพื่อนของเจนนิสค่ะ”
“ดีใจที่เจอนะ นั่งอยู่โซนไหนกันครับ”
“แดนซ์กันอยู่ด้านในค่ะ”
“แล้วมายืนรอเพื่อนงั้นเหรอ”
“ค่ะ”
“ไปหาที่นั่งคุยกันหน่อยไหม เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่กลุ่มเพื่อนเราเอง”
“เจนนิสอยู่ในห้องน้ำค่ะ เบลไม่อยากให้เจนนิสเดินกลับไปคนเดียว เพราะเธอดื่มเริ่มเมาแล้วด้วยค่ะ”
“แล้วเบลไม่ดื่มเหรอ” มาร์วินถามต่อเพราะอยากชวนเธอคุยดีใจที่ได้เจอกันด้วย
“ไม่ค่ะ เบลต้องขับรถ”
“งั้นพรุ่งนี้พี่ไปหาที่คณะได้ไหม”
เฌอเบลไม่ทันที่จะได้ตอบรับรึปฏิเสธเขา เจนนิส กับปันปันเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมๆ กัน
ปันปันมองเฌอเบลอย่างไม่พอใจนัก เธอแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ชอบหน้าเธอจริงๆ
“มาร์วินไปกันเถอะ” ปันปันเดินมาจับแขนมาร์วินออกแรงดึงให้คนตัวโตเดินไปกับเธอ
เจนนิสรีบเดินมาหาเฌอเบล
“เบลแกคุยกับพี่เขาอยู่เหรอเมื่อกี้”
“อืม! พี่เขามาทักน่ะ”
“ดูๆ เหมือนยัยพี่ปันปันจะไม่พอใจแกนะ”
“ช่างเถอะ เราไปกันเถอะนี่แกเมารึยังเจนนิส”
“มึนๆ นิดๆ ยังไหว”
สองคนเดินออกมาตามทางเดิน และมองออกไปด้านนอกตรงกระจกใส เห็นปันปันยืนคุยอยู่กับมาร์วิน
“แกหยุดก่อน” เจนนิสดึงแขนเฌอเบลให้หยุดเดิน “แกดูนั้นฉันว่ายัยพี่ตัวปั่นคงพูดอะไรถึงแกอยู่แน่ๆ วันนี้ฉันขอเสียมารยาทหน่อยแล้วกันฉันจะไปแอบฟัง”
หมับ!
เฌอเบลรีบดึงแขนเพื่อนไว้ พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ต้องมาเลยเฌอเบล ยัยนั่นต้องว่าอะไรแกแน่ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าจะพูดอะไรใส่ร้ายแกอีก” เจนนิสเปิดประตูและเดินย่องเบาๆ ออกไปนั่งลงแถวๆ พุ่มไม้ เฌอเบลด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเลยต้องรีบตามไปด้วย สองคนนั่งกันอยู่เงียบๆ พยายามเงี่ยหูฟังบทสนทนาของปันปันกับมาร์วิน
“วินวันนี้ได้ข่าวว่านายตามเด็กนั่นไปทั่วมหาลัย คือนายตั้งใจจะจีบ เฌอเบลจริงๆ ใช่ไหม”
เจนนิสได้ยินแบบนั้นรีบสะกิดเฌอเบล อยากจะตบเข่าให้ดังฉาด แบบว่าคิดไว้แล้วไม่มีผิด ยัยตัวปั่นพูดถึงเฌอเบลจริงๆ ด้วย
มาร์วินเงียบไม่ได้ตอบอะไร ยืนสูบบุหรี่ของเขาไปเรื่อยๆ
“วินปันขอได้ไหม ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เฌอเบล ปันไม่ชอบมันวินไม่รู้เหรอ ปันอกหักแทบบ้ากินไม่ได้นอนไม่หลับก็เพราะเฌอเบล วินนายเป็นเพื่อนฉันนะ เฌอเบลมันแย่งแฟนฉัน มันอ่อยจนแฟนฉันมาบอกเลิกฉัน แล้วนายจะไปจีบมันต่อเนี่ยนะ ถ้านายยังจะไปยุ่งกับเฌอเบลนายกับฉันขาดกันเลยดีไหมวิน”
“ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ละปันปัน ฉันไม่เคยรู้นะว่าเฌอเบลคือคนที่แย่งแฟนเธอ แฟนเธอไปจีบคนอื่นนะที่ฉันรู้”
“ก็ฉันบอกนายอยู่นี่ไง ความจริงต้นเรื่องคือเฌอเบล”
“แต่ฉันเห็นแฟนเธอไปคบกับรุ่นน้องคณะแพทย์ไม่ใช่เหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเฌอเบล”
“ก็เฌอเบลมันเป็นพวกโรคจิตไง ชอบอ่อยแฟนชาวบ้าน พอเขาเลิกกันก็สมใจตัวเอง แถมเชิดใส่ ทำตัวเหมือนสูงส่งใครก็ไม่คู่ควรกับตัวเอง ไม่ได้อยากคบกับใคร แค่อ่อยเล่นๆ เป็นพวกชอบหลงตัวเองน่ะ มาร์วินนายต้องรู้ทันยัยเด็กนั้นนะ ฉันทนเห็นนายเป็นหนึ่งในผู้ชายเป็นฝูงที่คอยตามจีบยัยนั้นไม่ได้หรอกนะ”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกปันปัน ฉันเป็นพวกเล่นมาก็เล่นกลับอยู่แล้วเธอก็รู้ อย่างฉันไม่มีผู้หญิงคนไหนปั่นหัวฉันเล่นได้หรอก เธออย่ากังวลไปเลย” คนตัวสูงพูดจบก็โยนก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบก้นบุหรี่ขยี้ด้วยปลายเท้าหนัก เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาในร้าน ปันปันเดินตามเขามาด้วย
เฌอเบลกับเจนนิส ค่อยๆ ย่องออกมาจากต้นไม่ จูงมือกันเดินไปอีกทาง
“น่าโมโหจริงๆ ฉันหายเมาเลยนะเฌอเบล อยากตบปากอีพี่จอมปั่นนั้นจริงๆ เก่งมากเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวเนี่ย” เจนนิสกระฟัดกระเฟียดโกรธแทนเฌอเบลเอามากๆ
เฌอเบลได้แต่ยืนเงียบ คำพูดของพี่มาร์วินต่างหากที่ดังก้องอยู่ในหัว ฉันไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาแบบนั้นคือเขาเชื่อเพื่อนเขารึเปล่า แต่ได้ยินแล้วฉันรู้สึกไม่ดีเลย
“เฌอเบลฉันได้ยินที่พี่มาร์วินพูดเมื่อกี้แล้วใจไม่ค่อยดีเลย ฉันว่าแกอย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ ฉันรู้สึกกลัวพี่เขายังไงไม่รู้” เจนนิสเตือน
“อืม! ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน” เฌอเบลรับคำเพื่อนเสียงเบา
วันต่อมา
@คณะบริหารธุรกิจ
เฌอเบลนั่งดูเอกสารรายงานของเธออยู่ที่ใต้ตึกคณะ
ปันปันเดินตรงมาหาเธอ สีหน้าบ่งบอกว่าตั้งใจจะมาหาเรื่อง นักศึกษาที่เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้นพอเห็นเหตุการณ์แบบนั้น ก็หยุดยืนดูกันอย่างสนใจ
“เฌอเบล เธอยุ่งกับแฟนฉันไปแล้ว กับเพื่อนฉันเว้นไว้สักคนได้ไหม มาร์วินน่ะ เขาเป็นเพื่อนฉัน”
“ฉันไม่เคยยุ่งกับแฟนพี่ เลิกเข้าใจผิดฉันสักทีนะคะ และเลิกพูดใส่ร้ายฉันไปทั่วด้วย ถ้าพี่ยังไม่หยุด ฉันจะจัดการเรื่องนี้ด้วยกฎหมาย ข้อหาที่พี่ทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้าพี่เอาแต่กล่าวหากันแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับฉันเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาพี่เอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าพี่บอกว่าฉันแย่งแฟนพี่จริงไหนละคะหลักฐาน แล้วมีใครเห็นฉันควงกับแฟนพี่ไปไหนมาไหนบ้างรึเปล่า มีแชทที่ฉันแอบคุยกับแฟนพี่บ้างไหม เอามาโชว์หน่อยสิคะ ไม่ใช่กล่าวหากันลอยๆ แบบนี้ ที่ฉันไม่ตอบโต้อะไรก่อนหน้านี้ก็เพราะเห็นว่าแฟนพี่เขามีแฟนใหม่ไปแล้ว พี่คงเลิกเข้าใจผิดฉันได้แล้ว แต่นี่อะไรพี่ยังปล่อยข่าวหาเรื่องฉันไม่เลิก ฉันยอมรับนะคะว่าแฟนพี่มาตามจีบฉัน แต่ฉันก็ปฏิเสธเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนเขาจะไปจีบใครต่อแล้วคบกันจริงจังมันก็ไม่ควรเกี่ยวกับฉันแล้วรึเปล่าค่ะพี่ ฉันก็ยังงงว่าทำไมพี่ถึงได้ตามหาเรื่องฉันไม่เลิก แทนที่จะไปหาเรื่องแฟนที่นอกใจตัวเอง” เฌอเบลทำตามที่รับปากกับเจนนิสไว้ว่าจะพูดบ้าง จะไม่เงียบอีกต่อไป
“นี่เฌอเบลเธอคิดว่าฉันโง่รึไง ถึงรู้ไม่ทันเธอ ถ้าฉันไม่จับได้และพูดประจานเธอมีเหรอที่เธอจะไม่คบกับเขา”
“ไม่คบค่ะ อย่างฉันสามารถหาแฟนเป็นของตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วงฉันไม่จำเป็นต้องแย่งแฟนใครแน่ๆ ถ้าพี่ลองคิดดีๆ มองฉันสิคะ ว่าฉันจำเป็นอะไรที่ต้องไปเที่ยวแย่งแฟนใคร”
“อ๋อ! แล้วที่พี่ตามมาหวงเพื่อนพี่อีกคน ฉันไม่ยุ่งกับเขาก็ได้ ถ้าพี่จะหวงเขาขนาดนั้น เอาเป็นว่าพี่มาร์วินเพื่อนหวงมาก เบลไม่ยุ่งก็ได้ค่ะ เชิญหวงกันตามสบาย”
เฌอเบลพูดจบก็เก็บหนังสือและหยิบกระเป๋าของเธอเดินขึ้นตึกเรียนไป ปล่อยให้ปันปันยืนโมโหจนตัวสั่นอยู่แบบนั้น ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของทุกคนที่ได้มารับฟังเรื่องราวทั้งหมด ที่เธอไม่เคยพูดแก้ตัวให้ตัวเองเลย วันนี้เป็นครั้งแรก
“ช่างแม่งรุ่นพี่ก็รุ่นพี่เถอะ ฉันก็ไม่สนแล้วเหมือนกันหาเรื่องฉันเองนะ”
หลังเลิกเรียน
เฌอเบลเดินมาที่จอดรถของเธอ มาร์วินเดินตรงมาหา
“ทำไมหาตัว เจอยากจัง”
“พี่มีอะไรเหรอคะ”
“ทำไมถามแบบนั้น พี่ต้องอยากเจอเบลบ่อยๆ อยู่แล้วสิ ไปทานข้าวกันไหมวันนี้ว่างรึยัง”
“เบลไม่ว่างค่ะ” เธอเปิดประตูรถเหมือนจะรีบกลับ
“เบลเดี๋ยวก่อน แล้วพี่โทรหาได้ไหม”
“พี่มาร์วินอย่าโทรเลยค่ะ เบลยังไม่อยากคุยกับใคร”
“เบลเป็นอะไรไป เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เบลยังไม่พร้อมคุยกับใครจริงๆ ค่ะ ขอตัวนะคะ”
หมับ!
มาร์วินจับแขนเล็กไว้ อย่างไม่อยากจะยอมแพ้
“เฌอเบลเป็นอะไร ถ้ามีอะไรเบลถามพี่ได้ พี่ยินดีตอบเบลทุกคำถาม”
“เบลยังไม่อยากคุยตอนนี้จริงๆ ค่ะพี่มาร์วิน”
มาร์วินยอมปล่อยมือจากแขนเธอ
เฌอเบลขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของเธอและขับออกไปทันที