5.อดีตที่ย้อนกลับมา

1697 Words
หญิงสาวเม้มปากแน่น ความทรงจำเก่าๆที่ทั้งเจ็บและขมขื่นถาโถมเข้ามาในหัว เขาเป็นผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยรักสุดหัวใจ แต่กลับเลือกจะเดินจากไปอย่างไม่ไยดี ปล่อยให้เธอจมดิ่งอยู่กับน้ำตาและความผิดหวังจนเกิดความผิดพลาดกับเจษ “ไม่มีอะไรต้องอธิบายแล้วกฤต ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว” “แต่สำหรับฉัน…มันยังไม่จบ” เขาก้าวเข้ามาใกล้เธอ ดวงตาคู่นั้นฉายแววจริงจัง “ฉันยังรักยิ้มอยู่ รักมากกว่าที่ผ่านมาเสียอีก” หัวใจหนูยิ้มสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด แต่ทันใดนั้น เสียงกระแทกของรองเท้ากับพื้นก็ดังขึ้นข้างหลัง ก่อนที่น้ำเสียงเย็นชาปนดูถูกจะดังแทรกเข้ามา “หึ..ก็สมกับเป็นผู้หญิงอย่างมึงจริงๆนั่นแหละยิ้ม หนีจากผู้ชายคนหนึ่งก็มาหาผู้ชายอีกคน” หนูยิ้มแทบหยุดหายใจเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับ'เจษ' ที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล แววตาของเขาเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน กฤตหันมามองอย่างไม่พอใจทันที “มึงเป็นใคร มาพูดกับยิ้มแบบนี้ได้ยังไง?” เจษหัวเราะหยันในลำคอ “กูเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญตรงที่กูรู้จัก...ผู้หญิงคนนี้ดีกว่ามึงแน่” คำพูดนั้นแทงทะลุเข้าไปในใจหนูยิ้มอย่างจัง เธอรีบเอ่ยเสียงสั่น “เจษ! พอเถอะ ยิ้มขอร้อง” แต่เขากลับหันมามองเธอด้วยสายตาเกลียดชัง “ทำไม จะให้กูปิดปากไว้แล้วปล่อยให้มึงทำหน้าใสซื่อ ไปหลอกล่อผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ? อย่าฝันไปเลยยิ้ม” กฤตสีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “มึงกำลังพูดจาดูถูกยิ้มเกินไปแล้วนะ!” “หึ…” เจษยักไหล่ไม่แยแส “กูก็พูดความจริงทั้งนั้นนี่ ไม่เชื่อก็คอยดูไปสิว่าอีกไม่นานมึงก็จะรู้เอง ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ต่างอะไรจากของใช้แล้วทิ้ง” น้ำตาร้อนๆเอ่อคลอในดวงตาหนูยิ้ม เธอกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซิบ พยายามหันหลังเดินหนีทั้งที่หัวใจปวดร้าวแทบขาด แต่เสียงของเจษก็ยังตามมาแทงใจเธอซ้ำ “จำไว้หนูยิ้ม…ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกนี้พร้อมจะเชื่อมึง แต่กูจะไม่มีวันเชื่อ ผู้หญิงต่ำๆแบบมึงเด็ดขาด!” เสียงนั้นดังก้องสะท้อนในหูของเธอไม่หยุด ความกดดันบีบคั้นหัวใจราวกับถูกกำลังมองจากทุกคนรอบข้าง ทั้งที่มีเพียงสามคนยืนอยู่ตรงนั้น กฤตรีบตามไปจับข้อมือเธอไว้แน่น “ยิ้มอย่าฟังคำที่เขาพูดเลยนะ เชื่อฉันสิฉันไม่สนว่าใครจะพูดยังไง ฉันแค่อยากดูแลเธออีกครั้ง ได้มั้ย” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาทั้งน้ำตาคลอ ความเจ็บปวดจากปัจจุบันปะปนกับอดีตที่ยังไม่เคยลืม ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกักขังอยู่ในวงล้อมของความผิดพลาด ที่ไม่มีทางหนี และนั่นคือการเริ่มต้นของความกดดันครั้งใหม่ เมื่ออดีตรักเก่า กับความผิดบาปที่เธอไม่อาจพูดออกมา กำลังจะมาบรรจบกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แสงแดดบ่ายคล้อยส่องลอดกระจกหน้าต่างร้านกาแฟเข้ามา กลายเป็นเงาอุ่นนุ่มตัดกับบรรยากาศข้างใน ที่กำลังเต็มไปด้วยความอึดอัดในใจของหนูยิ้ม หญิงสาวนั่งก้มหน้าลง มือน้อยๆสั่นระริกกุมแก้วกาแฟที่เริ่มเย็นชืดไว้ ราวกับจะใช้มันเป็นที่พึ่งทางใจ ตรงข้ามกับเธอคือ'กฤต'อดีตแฟนหนุ่มที่เคยทิ้งรอยแผลไว้ในหัวใจอย่างเจ็บปวด เขายังเหมือนเดิม…ใบหน้าคมเข้ม บุคลิกมั่นใจ แต่สายตาที่ทอดมองมาคราวนี้กลับมีแววอ่อนลง จนหนูยิ้มใจเต้นแรงราวกับกำลังถูกดึงย้อนกลับไป ในวันที่เคยหลงรักเขา “ยิ้ม…ให้โอกาสเราสักครั้งได้ไหม” กฤตเอ่ยเสียงเรียบ แต่เต็มไปด้วยความกดดัน “ที่ผ่านมาเราอาจโง่ เราอาจเห็นแก่ตัว แต่ตอนนี้เราอยากแก้ไข เราอยากมีเธออยู่ข้างๆเหมือนเดิม” หนูยิ้มกำมือแน่น ความเจ็บปวดในใจยังสดใหม่จนแทบไม่อาจหายใจโล่งได้ ไม่ใช่เพราะกฤตเท่านั้น แต่เพราะคืนนั้น เธอพลั้งพลาดกับคนที่ไม่ควรพลาดที่สุดในชีวิต 'เจษ'แฟนของเพื่อนรัก ความรู้สึกผิดกำลังกัดกินหัวใจทุกวินาที เธอจึงปล่อยให้คำพูดของกฤตลอยวนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนเป็นทางหนีชั่วคราว “กฤต…นายทำร้ายฉันมากนะ” เสียงหนูยิ้มสั่นเครือ ดวงตาสั่นไหวราวกับจะหลั่งน้ำตาออกมาได้ทุกเมื่อ “แล้วนายก็หายไป ไม่เคยสนใจเลยว่าฉันจะเจ็บแค่ไหน…” กฤตสบตาเธออย่างจริงจัง “เราผิด เรายอมรับ แต่ตอนนี้เราอยากเริ่มใหม่ อยากพิสูจน์ว่าเรายังรักเธออยู่ ยิ้ม…แค่เธอบอกว่าให้โอกาส เราจะทำทุกอย่างให้เธอเชื่อใจอีกครั้ง” คำว่า'รัก'จากปากเขา เหมือนคมมีดบาดซ้ำกับความสับสนในใจหนูยิ้ม เธอไม่ได้อยากกลับไป แต่ก็ไม่ได้อยากจมอยู่กับความผิดบาปเรื่องคืนนั้น ที่เจษตราหน้าไว้ทุกคำ ทุกคำด่าที่แหลมคมยังสะกิดหัวใจไม่หยุด “ผู้หญิงอย่างเธอมันก็แค่ของต่ำ อย่าคิดว่าฉันจะลืมคืนเลวๆแบบนั้นได้!” เสียงของเจษดังขึ้นในความทรงจำ ทำให้หนูยิ้มก้มหน้าหลบสายตากฤตทันที น้ำตาไหลเงียบๆโดยไม่รู้ตัว “ยิ้ม…เธอร้องไห้ทำไม” กฤตเอื้อมมือมาแตะหลังมือเธอเบาๆ “เธอไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปนี้เราจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว” หนูยิ้มสะดุ้งรีบชักมือกลับทันที เธอไม่พร้อมให้ใครแตะต้องร่างกายเลยตอนนี้ ภาพเรือนร่างของเจษในคืนนั้น ยังตราตรึงในความทรงจำของเธออย่างชัดเจน มันคือบาดแผลที่เธอไม่อาจลบออกได้ “ฉัน…ฉันไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงกฤต” เธอพยายามฝืนยิ้มจางๆ ทั้งที่เสียงสั่น “บางทีการให้โอกาสอาจนายอาจเป็นสิ่งที่ฉันควรทำก็ได้ อย่างน้อยมันอาจจะทำให้ฉันลืมเรื่องบางอย่างไปได้” กฤตยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ “ยิ้ม…ขอบใจนะที่ยังไม่ปิดประตูใส่หน้าเรา เราสัญญาว่าจะไม่ทำพลาดอีก” แต่ในขณะที่คำพูดหวานนั้นพรั่งพรูเข้าหู หนูยิ้มกลับรู้สึกเหมือนกำลังโกหกตัวเอง กำลังเลือก'ที่พึ่ง'เพียงเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับบาปที่ติดตัวอยู่ ทว่า…โลกไม่ได้ใจดีกับเธอเสมอไป เพียงแค่ไม่กี่นาทีถัดมา เงาสูงใหญ่ของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูร้านกาแฟ ร่างหนาที่คุ้นเคยเดินเข้ามาอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น เจษ! สายตาคมกริบของเขาตรึงหนูยิ้มไว้ทันที และรอยยิ้มเยาะที่ปรากฏมุมปากก็แทบทำให้เธอหายใจไม่ออก “อ๋อ…หนีมาเจอกับแฟนเก่า” เจษเอ่ยเสียงหยัน ขณะก้าวเข้ามายืนค้ำโต๊ะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ “แบบนี้นี่เอง ถึงได้ทำตัวเป็นนางฟ้าแสนดีใส่แพรวตลอดเวลา ที่แท้ก็ปกปิดนิสัยต่ำๆนี่เอง ” หนูยิ้มหน้าเสีย รีบยกมือปาดน้ำตา “เจษ นายพูดอะไรของนาย!” “ก็พูดความจริงไง!” เขากระแทกเสียงใส่ ดวงตาคมกริบตวัดไปมองกฤตที่ลุกขึ้นยืนอย่างไม่เกรงกลัว “แล้วนี่ใครวะ? แฟนเก่าที่เขี่ยมึงทิ้งหรอยิ้ม? หรือว่าเป็นของตายที่รอให้มึงเรียกมาใช้ซ้ำๆ?” “หยุดพูดจาแบบนั้นกับหนูยิ้มนะ มึงไม่มีสิทธิ์มาดูถูกหนูยิ้มแบบนี้” “สิทธิ์เหรอ?” เจษหัวเราะเยาะจนลมหายใจแรง สะท้อนความโกรธ “กูมีสิทธิ์มากกว่าใครทั้งนั้น!” หนูยิ้มหน้าเสียใจเต้นแรงราวกับจะขาดหาย เธอกลัวว่าเจษจะเผลอหลุดปากเรื่องคืนนั้นออกมา เธอไม่ได้กลัวว่ามันจะทำร้ายกฤต แต่กลัวว่าความจริงนั้นมันจะทำลายชีวิตเธอ และมิตรภาพกับแพรวมากกว่า “เจษ…อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ” หนูยิ้มเสียงสั่นพยายามห้าม ก่อนจะรีบพูดต่อ “ฉัน…ฉันแค่นั่งคุยกับกฤต ไม่มีอะไรแบบที่นายคิด” “ไม่มีอะไร?” เขาแค่นหัวเราะเย็นชา “ตลกว่ะยิ้ม!ผู้หญิงอย่างมึง มันมีอะไรซ่อนอยู่เยอะกว่าที่คนอื่นเห็นซะอีก” คำพูดนั้นเหมือนคมมีดที่กรีดลึกเข้าไปในใจซ้ำๆ ทำให้หนูยิ้มตัวสั่น เธอหายใจติดขัดจนต้องก้มหน้าซ่อนน้ำตา บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยแรงกดดัน กฤตก้าวเข้ามายืนบังหนูยิ้ม “ถ้ามึงคิดจะใช้คำพูดต่ำๆแบบนี้ แนะนำให้ออกไปจากตรงนี้ซะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน” เจษปรายตามองกฤตแล้วหัวเราะหยันอีกครั้ง “อดทน? หึ…ผู้ชายที่เคยทิ้งผู้หญิงอย่างกับขยะ กลับมายืนทำตัวเป็นฮีโร่ มันก็ตลกไม่ต่างกันหรอก” ทุกคำพูดของเจษยิ่งทำให้หนูยิ้มแทบจะจมดิน ความลับเมื่อคืนกำลังกลายเป็นระเบิดเวลา ที่พร้อมจะทำลายเธอทุกเมื่อ และแม้เธอจะพยายามหนีมาหากฤตเพื่อใช้เป็นที่พึ่ง แต่เจษก็ยังตามมาบีบคั้น กดดัน และไม่ยอมปล่อยให้เธอหายใจอย่างสงบเลยสักนาทีเดียว เธอตัดสินใจวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที อากาศเช้าของวันใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนจะสดชื่น แต่สำหรับหนูยิ้มกลับหนักอึ้งราวกับหายใจไม่ทั่วปอด ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอเผลอเปิดโอกาสให้กฤต แฟนเก่าที่กลับมาขอคืนดีได้เข้ามาใกล้อีกครั้ง มันทำให้หัวใจเธอสั่นไหวระคนสับสน แท้จริงเธอไม่ได้รักเขาอีกแล้ว แต่เพราะความอึดอัดกดดันจากเจษที่จ้องจะเหยียบย่ำ ทำร้าย และลากเธอลงเหวอยู่ทุกวัน ทำให้หนูยิ้มเลือกจะหนีไปหาความสงบแม้เพียงเสี้ยวนาทีจากกฤต แต่ความจริงคือ... เธอกำลังหลอกตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD