“อึ๊ก! ข้างใน อ..งื้ออ~” ความอุ่นแผ่ซ่านหลั่งไหลเข้าไปยังช่องทางอันบีบรัดแน่นเมื่อสัมผัสถึงของเหลวที่หลั่งเข้าไปข้างใน ร่างทั้งสองส่งเสียงหอบเหงื่อไหลท่วมเมื่อได้ปลดปล่อยความอึดอัดที่อดกลั้นเอาไว้มาเนิ่นนาน ริมฝีปากทั้งสองเคลื่อนหากันและจมด้วยจูบแสนเร่าร้อนอีกครั้ง ค่อย ๆ คว้านเกี่ยวลิ้นร้อนเล็ก ๆ จวนผละจากกัน
“เมอลิเซน..กระหม่อมอยา-” นิ้วชี้กดเบา ๆ ยังริมฝีปากของอัลฟ่าหนุ่มผู้ถูกสะกดด้วยกลิ่นอันหอมหวานจากปลายนิ้วเรียวงามของอีกฝ่าย
“เราก็ไม่ได้บอกว่าอยากจบแค่รอบเดียวนี่~”
‘โอเมก้าเนี่ย...เซ็กซ์สุดยอดไปเลยแฮะ..’
หลังจากเสพสมกันในครั้งแรกก็เริ่มมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามติดมาเรื่อย ๆ ภายในห้องสุดแสนจะเร่าร้อน
ข้อมือเล็กถูกผูกมัดด้วยสายวัดขนาดยาว นอนหมอบชันเข่าอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ขณะบั้นท้ายถูกกระแทกกระทั้นควงเอวสอดขยับคว้านเข้าไปยังช่องทางที่เริ่มบวมแดง ไม่ว่าจังหวะกระแทกแกนกายเข้าไปน้ำรักสีขาวก็ล้นทะลักออกมาจากปลายช่องหรือแม้แต่ขยับออกมาก็ตามที
“อ..อ๊ะ! มากกว่านี้..เราต้องการมากกว่านี้ อ..อื้อออ~”
“กระหม่อม..อยากทำพันธะกับพระองค์เหลือเกิน..”
“กัดสิ.. กัดมาเถอะ..เราบอกแล้วว่าให้ทำตามใจ ฮึก!”
อัลฟ่าหนุ่มไม่รีรอที่จะเผยคมเขี้ยวของเขากัดลงไปบริเวณหลังคอสีขาวที่ถึงแม้ว่าจะมีร่องรอยของพันธะองค์จักรพรรดิก็ตามที ไม่ว่าจะถูกผู้อื่นทำรอยมากขนาดไหน ไม่นานมันก็จะหายไปและเหลือไว้เฉพาะร่องรอยการกัดของผู้เป็นเจ้าของตัวจริงเท่านั้น
หยาดเลือดค่อย ๆ ไหลรินออกมาจากรอยแผลถูกกัด ทั้งขนาดใหญ่เด่นหราอยู่บริเวณหลังคออย่างสวยงามแม้ว่าเพียงข้ามคืนมันก็จะหายไปไม่อาจรั้งเอาไว้ได้
มือหนาจับกดขย้ำสะโพกบีบจนแน่นและกระแทกเอวของเขาเข้าไปข้างในช่องทางที่ลื่นไปด้วยน้ำของเขาขณะอีกฝ่ายยกสะโพกตอบ ขยับเอวเล็ก ๆ สวนเข้าไปเพื่อรับแรงกระแทกยิ่งทวีคูณ
“อ..อ๊ะ! อร้างงส์~ สุดยอด.. เหมือนจะเสร็จอีกแล้ว! ซี้ดดดด~” ว่าแล้วก็ยิ่งแอ่นสะโพกยั่วอีกฝ่ายเข้าไปอีก “อ๋ะ!” ฝ่ามือหนาฟาดเข้าไปที่บั้นท้ายนุ่ม ๆ จนแดงก่ำ “อื้อออ~ แบบนั้น..แบบนั้นแหละ ตบเข้าไปอีก เราจะ..เสร็จ”
“เพียะ!!”
มือขนาดตบเข้าไปยังบั้นท้ายอีกครั้งตามคำร้องขอ แต่แล้วในทันทีทันใดปลายแกนที่กระตุกสั่นเสียดสีเข้ากับผ้าปูเตียง ก็หลั่งน้ำนมขาวขุ่นทะลักออกมาเพียงแค่ถูกกระตุ้นด้วยการตบเข้าไปยังลูกพีชแดง ๆ นั่น
ร่างบางฟุบหมอบใบหน้าลงไปกับหมอนขนเป็ดใบนุ่มและกัดริมฝีปากจนเริ่มห้อเลือด ระหว่างนั้นเองแท่งแกนที่กระแทกเข้ามาอย่างไม่ยั้งมือก็เริ่มบดกายเข้าไปถี่ข้างในจนสุดแรง
“ฝ..ฝ่าบาท! ..อ๊ะ!” ความร้อนระอุพุ่งทะลักเข้าไปยังช่องทางสีแดงฉ่ำ ทั้งสองครวญครางเสียงหลงราวกับร่างกายนั้นเชื่อมเข้าหากันจนไม่อาจรั้งออก ปลายแกนยาวค่อย ๆ ดันถอยออกมาเมื่อส่วนหัวได้หลุดพ้นจากช่องทางขมิบสั่นเล็ก ๆ จากปากทางนั่น น้ำรักสีขาวขุ่นที่อยู่ภายในจนไร้ที่ว่างก็ไหลทะลักออกมาจนหมด
ใช้เวลากว่าหลายชั่วโมงที่ทั้งคู่ได้อยู่ร่วมกันภายในห้องนั้นเพียงสองต่อสอง ประตูห้องที่ปิดสนิทจึงเปิดออกพร้อมกลิ่นฟีโรโมนคลุ้งกระจายหลังจากอบอวลอยู่ด้านใน สายตาของเหล่าสาวใช้ผู้ยืนรออยู่ด้านนอกพากันจ้องไปยังช่างตัดชุดหนุ่มผู้ก้าวออกมาทั้งยังมีกลิ่นฟีโรโมนของราชินีติดตัวอีกด้วย
ใบหน้าของพวกหล่อนแดงก่ำ ไม่จำเป็นต้องดูช่างตัดชุดแต่พวกเขานั้นรับรู้ได้ตั้งแต่เสียงอีโรติกที่ดังกระหึ่มผ่านประตูออกมาตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย
“เห็นแล้วก็เงียบปากไว้ด้วยล่ะ เรายังไม่อยากตัดหัวใครประจานหรอกนะ”
ร่างบางก้าวออกมาจากประตูห้อง ทั้งยังสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นจนเผยให้เห็นเนื้อตัวแดงจ้ำหรือรอยกัดจากตัณหารักอันร้อนแรงที่พวกเขาพึ่งได้กระทำมันลงไป
“เพคะ! หม่อมฉันจะปิดปากให้สนิท!”
มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เมอลิเซนริเริ่มที่จะทำเรื่องแบบนั้น เมื่อถัดจากนั้นหนึ่งวัน องค์จักรพรรดินีก็เริ่มกระทำเรื่องอันเร่าร้อนจนเป็นที่เล่ากันปากต่อปากภายในราชวังส่วนตัว
“อื้ออ~ อ..อืมมม~ อ้ะ!”
ปากอมแท่งร้อนขยับเข้าออกและดูดเลียมันราวกับของหวานพร้อมกับมือค่อย ๆ ค้ำลงบนที่นั่งทำจากไม้เถาชั้นดี ขยับแอ่นสะโพกเล็ก ๆ เพื่อให้ทหารองครักษ์หนุ่มได้ขย้ำและกระแทกแท่งเอ็นเข้าไปในช่องทางเพื่อเติมเต็มความใคร่อันยิ่งทวีคูณมากกว่าครั้งก่อน
“ฝ..ฝ่าบาท~ อึก..อ๊ะ! ปากของพระองค์ทั้งร้อนแล้วก็นุ่ม..กระหม่อมรู้สึกดี อ..อ๊ะ!”
“อ..อื้มม~ อือ ๆ อึก! อ๊ะ!” ริมฝีปากผละออกจากแกนอุ่น ๆ จังหวะนั้นน้ำขาวขุ่นก็หลั่งทะลักออกมาจนเปรอะใบหน้าอันเลอโฉม “อ..อ๊ะ ๆ อ..อื้อออ~ ไอ้นั่นของนาย ก็อร่อยเหมือนกัน..”
สายตายั่วยวนจ้องไปยังทหารหนุ่มผิวแทนที่พึ่งอมแท่งเนื้อเข้าไป สะโพกเล็กค่อย ๆ ยกแกนของทหารอีกคนผู้สอดใส่เข้ามา เจ้าของนัยน์ตาสองสีขยับขึ้นนั่งลงบนตักทหารหนุ่มผิวขาวและถ่างขาเชื้อเชิญทหารองครักษ์ผิวแทนให้สอดใส่มัน
“เอาสิ อยากลองหรือเปล่าว่าปากเรากับรูแน่น ๆ นี่แบบไหนนายชอบมากกว่ากัน”
“กระหม่อมชอบทั้งสอง อึก! อ๊ะ~” ใส่แท่งเอ็นสีแทนกระแทกเข้ามาในรูชมพูอันเต็มไปด้วยน้ำหวานของทหารอีกฝ่าย กระแทกกระทั้นให้รูนั้นบวมแดงจนต้องร้องลั่น
“อื้อ! อร้างงงส์~ ย..ใหญ่ไปแล้ว มันแน่นมากเลย อ..อ๊ะ!”
“แล้วของกระหม่อมล่ะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์มิชอบหรือ?” องครักษ์ผิวขาวเอ่ยถามด้วยความน้อยใจเล็ก ๆ
“ของนายไม่ได้ใหญ่..แต่มันยาวจนเข้าไปจนสุด เวลากระแทกเข้าไปตรงจุดกระสันมันรู้สึกดีสุด ๆ อ..งื้ออ~ เราชอบมันมากเลย”
มือเรียวเล็กชักแกนกายที่ยาวสมคำร่ำลือนั่น ริมฝีปากก็เคลื่อนจูบเพื่อเป็นการปลอบไม่ให้ต้องน้อยใจ เสียงครางลั่นระงมไปทั่วทั้งสวน ณ ที่นั่งริมน้ำใต้ร่มโดยมีทั้งสองทหารองครักษ์หนุ่มผู้กำลังทำหน้าที่เติมเต็มองค์จักรพรรดินีผู้โหยหาความเร่าร้อน
ฝีเท้าของหญิงสาวเดินหลงเข้ามาด้านใน เธอได้ยินเสียงครางลั่นระงมทั้งสวนจนสะดุ้งตกใจ ท่าทางสอดรู้ไล่ตามไปยังเสียงที่ดังมาจากสวน ณ ที่พักส่วนพระองค์แถวริมน้ำ เมื่อพบกับสิ่งไม่คาดคิด เธอก็เผลอส่งเสียงร้องด้วยความตกใจจนต้องรีบหลบเข้าไปยังพุ่มหญ้า ใบหน้าแดงก่ำพยายามแอบมองจากไกล ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบนั้นไม่ได้คลาดไป เมื่อรับรู้ว่าเสียงร้องอันอ่อนหวานดูสุขสมกับตัณหาในกามนั้นคือของผู้ใด หัวใจของเธอเต้นระรัว แต่แล้วก็สะดุ้งตกใจเมื่อสบตาเข้ากับสายตาของเมอลิเซนผู้จ้องมองมาทางเธอเข้า
“อ..อ๊ะ ๆ แรงอีก! ซี้ดดด~ ของนายมัน..ใหญ่ เราชอบ นั่นแหละ เข้ามาอีก อ..อ๊าส์!”
หล่อนฟังเสียงร้องครางขณะหัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น เมื่อกลิ่นฟีโรโมนที่คลุ้งไปทั่วทั้งสวนเริ่มมีอิทธิพลกระตุ้นให้เธออาจพลั้งเผลอ เธอรีบคลานออกไปจากตรงนั้นด้วยความรีบร้อนเพื่อกลับไปยังวังหลัก ขณะที่เมอลิเซนเมื่อสบตาเข้ากับหญิงสาวเขาก็รับรู้ได้ทันที
‘ยัยนั่น..เป็นเมียน้อยจักรพรรดิ? ก็คงจะคาบข่าวไปฟ้องแล้วนั่นแหละ’
“ฝ่าบาทเพคะ..องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้ทรงมาร่วมเสวยพระกระยาหารค่ำเพคะ”
ไม่ทันได้พ้นวันหลังจากเสร็จกิจและกลับมาพักในห้อง พึ่งยกก้นลงนั่งบนเก้าอี้ได้ไม่ทันไรก็ได้รับคำสั่งให้เรียกพบในทันที
“ฉันไม่ไป นาร์ซิสซา”
“อ..องค์จักรพรรดิทรงตรัสว่า หากพระองค์ไม่ทรงเข้าร่วม องค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้พาตัวองค์ชายเชอร์รีสไปห้อง..ข..ขังลืมเพคะ”
“....เชอร์รีส.. ไอ้เวรเอ๊ย!”
พอรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังข่มขู่ด้วยการเอาลูกชายเข้ามาเกี่ยวข้อง สีหน้าของเมอลิเซนก็เริ่มเดือดจนเลือดขึ้นหน้าในทันที
‘ไอ้เวรนี่ พอทำท่าจะต่อต้านก็เอาลูกชายมาขู่ อยากตายหรือไงวะ’
ฝีเท้ารีบตรงไปยังห้องทานอาหารดังกล่าว แค่หยุดอยู่หน้าประตูบรรยากาศเมื่อวันก่อนที่พึ่งทะเลาะกันไปเพราะเรื่องภรรยาน้อยก็ฉายภาพขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง
ประตูขนาดใหญ่เปิดกว้าง เหล่าภรรยาน้อยต่างจ้องมายังองค์จักรพรรดินีผู้อยู่ตรงหน้า ว่าแล้วชายหนุ่มก็ไล่สายตาจ้องไปยังผู้หญิงหนึ่งในภรรยาน้อยตัวต้นเหตุที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ องค์จักรพรรดิ เมื่อสบตาหล่อนก็รีบหันใบหน้าหนีในทันที
“เรื่องจริงรึที่ราชินีทำเช่นนี้?”
“ไหน ๆ ก็มีนกคาบข่าวมาบอกแล้วนี่ ถ้าเราบอกว่าจริงล่ะ”
“กล้าทำเช่นนี้ได้ยังไง! เจ้ากล้าทำเรื่องเสื่อมเสียแก่ราชวงศ์ได้ยังไงเมอลิเซน!”
“ถ้ากลัวเสื่อมเสียมากนักก็หย่าเลยสิ มันจะไปยากตรงไหนกัน มันจะไปอะไรกันนักกันหนารึ? พระองค์ก็มีภรรยาน้อยไว้ประดับตั้งห้าคน ทำไมเราจะทำไม่ได้? เราพูดแล้วนะว่าถ้าเราทำอะไรที่ทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียท่านก็อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ในเมื่อท่านเลือกคำตอบเช่นนั้นเอง!”
“อย่าเอาเรื่องหย่ามาพูดเวลาโต๊ะอาหาร!”
“เราจะไปทำกับใครที่ไหนมันไม่เกี่ยวกับท่าน ฝ่าบาท!” เมอลิเซนตะโกนเสียงดังลั่น เมื่อนั้นก็ปล่อยกลิ่นฟีโรโมนคลุ้งไปทั่วจนทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในห้องอาหารรับผลกระทบจากกลิ่นฟีโรโมนนั่นไปด้วย
“เมอลิเซน!”
“เราจะปล่อยกลิ่นยั่วใครแล้วมันจะทำไม?”
“ออกไปให้หมด!” จักรพรรดิควอนซีเรียสตะโกนไล่ผู้คนที่อยู่ภายในห้องอาหารเสียงลั่น “เราบอกให้ออกไปให้หมด!” เมื่อนั้นเหล่าทหารทั้งคนรับใช้แม้กระทั่งภรรยาน้อยก็รีบกรูกันออกไปด้วยความกลัวของน้ำเสียงอันตะโกนก้อง
เมอลิเซนตั้งท่าเดินจากเมื่อควอนซีเรียสเอ่ยปากไล่ แต่แล้วจู่ ๆ ร่างกายก็เกิดอาการสั่นหัวใจเต้นระรัวเมื่อช่องทางเริ่มหลั่งน้ำออกมา มันเป็นผลกระทบจากฟีโรโมนที่ถูกปล่อยโดยอัลฟ่าผู้เป็นคู่ครอง ชายหนุ่มไล่สายตาจ้องไปยังควอนซีเรียสที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ รังสีฟีโรโมนของอีกฝ่ายก็ยิ่งรุนแรงจนทำให้ร่างกายอ่อนแรงจนล้มฟุบลงไป
‘แม่งเอ๊ย แค่ได้กลิ่นก็จะเสร็จอยู่แล้ว...นี่เหรอ? ..กลิ่นของอัลฟ่าที่ผูกพันธะ’
ร่างแกร่งตรงหน้าคว้าเข้าดึงแขนฉุดรั้งให้อีกฝ่ายลุกขึ้นไปตามแรงดึงของตน เหวี่ยงขึ้นไปบนโต๊ะแล้วกดร่างเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ควอนซีเรียสยิ่งส่งกลิ่นฟีโรโมนกระตุ้นมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการข่ม สีหน้าของอีกฝ่ายก็เริ่มแดงก่ำรับรู้ได้ถึงช่องทางเริ่มเหนอะหนะเมื่อถูกกระตุ้นด้วยคู่ของตนเอง นิ้วมือเรียวยาวบรรจงถูลงบริเวณช่องทางระหว่างเนื้อผ้านั้นเบา ๆ ราวกับจะสอดใส่นิ้วเข้าไปทั้งแบบนั้น
“เจ้าเป็นของเราเมอลิเซน จดจำกลิ่นนี่และรอยกัดของเราเอาไว้ให้ดี”
“อึก..ฮ่า ๆ .. แล้วมันทำไม? ... คีพลุคจักรพรรดิไม่ไหวแล้วหรือ? พอดีว่ารูของเรามันร่านเพราะของขาดสามีไม่สนใจ มันก็ต้องหาอะไรมาใส่เข้าไปสิ”
“เลิกพูดจาไม่รู้ความเสียที! ทำไมถึงได้กลายเป็นเช่นนี้กัน...ทั้งที่แต่ก่อนเจ้าทั้งอ่อนโยนและแสนดี ทั้งงดงามไร้มลทิน แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้กล้าต่อปากต่อคำกระทำต่ำช้า!”
“ก็เพราะใครกันล่ะ! อึก!” ร่างกายเริ่มกระตุกสั่น มันยิ่งเรียกร้องให้คนตรงหน้านั้นสอดใส่ของใหญ่ที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงนั่นเสียตอนนี้แม้ใจของเขาจะอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตายตกก็ตาม
“..ก็ได้..ถ้ารูนั่นมันเหงามากนัก เราจะปิดปากรูนั่นซะ”
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ คิดถูกแล้วหรือที่พระองค์จะทรงวางแผนยึดอำนาจทรราชจักรวรรดิเฮเลสสเตเฟอร์จริง ๆ”
อัศวินหนุ่มกล่าว ขณะเดินไล่ตามองค์จักรพรรดิหนุ่มรูปงามร่างหนาผู้กำลังเดินนำหน้าออกไปจนกระทั่งเข้ามายังห้องทำงานขนาดใหญ่ที่มีกระดานแผนผังราวกับวางแผนบางอย่าง
“อืม..ไม่รู้สิ เพราะเฮเลสสเตเฟอร์ปกครองดินแดนถึงสามแผ่นดินซึ่งแน่นอนว่าถ้ายึดครองได้สำเร็จ โรสเรดดีมอนเดอร์ก็จะกลายเป็นจักรวรรดิมหาอำนาจเพียงผู้เดียวมิใช่หรือ?”
เรือนผมสีเงินสว่างกระทบกับแสงแดดจากดวงอาทิตย์ส่องรอดผ่านจากทางหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ใบหน้าที่ไม่ว่าใครเห็นก็เป็นต้องหลงใหลในนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลส่องประกายราวกับเพรชเม็ดงามคู่นั้น
“แต่ก็ใช่ว่าจะเข้ายืดไปได้ง่าย ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ...”
“ใช่ เพราะว่าเป็นเช่นนั้นยังไงล่ะ” ร่างสูงเผยยิ้มตอบ แต่แล้วจากเรือนผมสีเงินสว่างก็ค่อย ๆ แปลเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท นัยน์ตาจากเดิมทีเป็นสีฟ้าน้ำทะเลอันงดงามก็ได้กลายเป็นสีน้ำเงินทึบ
“เราถึงได้จะแฝงตัวเข้าไปใกล้ชิดราชวงศ์สักหน่อย...”