6

1491 Words
ตลอดทางที่ขับรถ กวินทร์คอยชำเลืองมองคนข้างๆ ที่นั่งกอดอกนิ่งไม่พูดจามองวิวด้านนอกรถ ไม่รู้ว่ามันมีอะไรดีมากกว่าใบหน้าหล่อๆ อย่างเขา “วิวข้างถนนมันมีอะไรดีกว่าหน้าคนขับรถให้เหรอครับ” นิรินได้ยินคำตัดพ้อ เธอหันไปมองหน้าคนถามอย่างช้าๆ สายตานิ่งเรียบเฉย เธอรู้สึกเหนื่อยจากการถูกกวนอารมณ์ของอีกฝ่าย “ไม่พูดฉันก็ไม่คิดว่านายเป็นใบ้หรอกนะ” นิรินหันไปมองหน้าพูดนิ่งๆ “เป็นอะไรครับ อย่าหงุดหงิดสิ ผมก็อยากให้คุณผ่อนคลายก็แค่นั้น” “ถ้านายหวังดีกับฉันจริงๆ ก็หยุดก่อกวนฉันได้แล้ว” “สิ่งที่ทำไม่ได้เรียกว่าก่อกวน มันเป็นการทำความรู้จักกันจริงจัง เบบี๋ยังไม่เคยถามผมสักครั้งเลยว่า ผมเป็นใคร พ่อแม่ ฐานะ การศึกษา นิสัย ถามสิ เราสองคนควรจะต้องทำความรู้จักกันให้มากไม่ดีกว่าเหรอ” “มันเป็นสิ่งที่ฉันจะต้องรู้จริงๆ ใช่ไหม” นิรินมองค้อนเอาจริงเธอก็เถียงไปอย่างนั้น ซึ่งที่เด็กคนนี้พูดเธอก็ควรศึกษาเอาไว้บ้างก็ดี อยากจะรู้เหมือนกันเป็นลูกใคร ท่าทางเป็นพวกคุณหนูไฮโซแน่นอน “มองขนาดนั้น คิดอะไรอยู่ สายตาเบบี๋ชวนให้คิดทะลึ่งนะ” “ทะลึ่งนะควรจะเป็นนายมากกว่าไม่ใช่ฉัน” “เบบี๋ พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกว่าผมทะลึ่ง เบบี๋ไม่รู้ตัวหรอกว่าใครกันแน่ที่ทะลึ่งตัวจริง” กวินทร์เผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย “นายพูดอย่างนี้ บอกมาเลยสิว่าฉันทะลึ่งยังไง” “รอถึงห้องก่อน” “ทำไมต้องรอถึงห้อง พูดมาเลยสิ อย่ามาทำลีลา” “งอแงจริงๆ” กวินทร์ส่ายหน้าอมยิ้ม ทั้งคู่ทะเลาะกันไปจนถึงชั้นลานจอดรถคอนโดมิเนียมส่วนตัว นิรินเปิดประตูลงจากรถเอง โดยที่เธอไม่รอให้คนอยากเอาใจเดินมาเปิดให้ เธอไม่ค่อยอินกับการที่มีผู้ชายมาปรนนิบัติราวกับเป็นเจ้าหญิง กวินทร์ส่ายหน้าให้กับความดื้อ เปิดประรถเดินตามไปคว้าต้นแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ทัน “จะไปไหน” นิรินหยุดแล้วก้มมองตรงมือที่ยึดต้นแขนเธอ “ก็เข้าห้องไง นายก็เข้าห้องนายได้แล้ว” “ไหนตกลงกันแล้วว่า จะย้ายมาห้องผม” กวินทร์เอียงคอมองหน้าส่งสายตาไม่พอใจ “เอาไว้วันอื่นค่อยย้ายไม่ได้หรือไง วันนี้ฉันเหนื่อย นายก็เข้าห้องไปพักผ่อน ฉันก็จะพักเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยกับนายมากพอแล้ว” “ไม่ได้ เบบี๋ต้องย้ายมาวันนี้ ถ้าไม่สะดวกย้ายมา ผมย้ายไปห้องเบบี๋เองก็ได้ ผมพร้อม” กวินทร์ยังยืนยันในข้อตกลง “ทำไมนายดื้อขนาดนี้” นิรินถอนหายใจออกมา “ใครกันแน่ที่ดื้อ ทั้งๆที่ตกลงกันแล้ว” กวินทร์เถียงอย่าง ไม่ยอมเช่นกัน “เอาอย่างนี้ เราสองคนค่อยๆ เรียนรู้กันไป นายกับฉันเราสองคนควรจะมีเวลาส่วนตัว ฉันไม่ก้าวก่ายชีวิตของนาย นายก็ไม่ควรก้าวก่ายชีวิตของฉัน หนึ่งอาทิตย์เราสองคนจะต้องมีเวลาเป็นของตัวเองคนละสองวัน โดยที่อีกฝ่ายห้ามเข้ามายุ่งวุ่นวาย” ในเมื่อจะต้องศึกษาเธอก็ขอกำหนดกฎบัญญัติฉบับนิรินขึ้นมาก่อน “สองวันไม่ได้ ผมให้หนึ่งวัน เวลาส่วนตัวจริงๆแล้วหากคบกันมันต้องแชร์นิสัยความชอบไม่ชอบ ไม่ใช่เอาแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ทำแบบนี้ไม่มีทางทีความรักจะไปรอด” “สอง/หนึ่ง/สอง” กวินทร์เท้าเอวเงยหน้ามองขึ้นไปบนเพดานหลับตา และสิ่งที่พบตรงหน้าคือ ความว่างเปล่า อีกแล้ว ทำแบบนี้อีกแล้วหนีเก่งฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ส่วนคนที่หนีกลับห้องของตัวเองได้สำเร็จหันกลับไปมองประตูด้วยความสะใจ “ยังไงฉันก็ฉลาดกว่านายแน่นอน” นิรินยกยิ้มอารมณ์ดี คนที่ได้กลับมายังห้องตัวเอง ความรู้สึกสดชื่นร่าเริง เดินไปเปิดเพลงให้เข้าจังหวะหมุนวนไปรอบห้อง ถอดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้นอย่างอารมณ์ดี ความสุขที่ส่งไปยังห้องที่ติดกันมองความเคลื่อนไหวด้วยสายตาของความหมั่นเขี้ยว ร่างกายขาวเนียนที่กำลังเต้นไปรอบห้องอยากจะเปิดประตูเข้าไปจัดการปราบความแสบให้เข็ด แต่ก็อย่างว่าค่อยๆลุกทีละคืบ เขาเองก็อยากจะศึกษาว่าอีกฝ่ายมีกิจวัตรประจำวันทำอะไรบ้าง คนฉลาดยังไงก็ฉลาดวันยังค่ำ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ที่ คนในห้องนั้นไล่ให้ไปเรียนอยู่บ่อยๆ “ไม่คิดที่จะศึกษากันบ้างเลยหรือไง” กวินทร์พูดกับผู้หญิงที่อยู่ห้องข้างๆ เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ คนที่นอนหลับสนิทรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกอะไรบางอย่างรัด ฝ่ามือลูบไปตามเรียวขามันร้อนวูบวาบ นี่เธอฝันหรือเปล่า แม้จะพยายามถามหาสาเหตุคนง่วงก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมาดู สภาพตอนนี้ฝันหรือเรื่องจริง “อือ…”ร่างของคนนอนหลับกำลังกระสับกระส่ายไปมา โดยมีร่างของเงาปรารถนาคร่อมทับอยู่ด้านบน คำสัญญาที่ให้ไว้สองเดือนเขาจะไม่ทำอะไร ในตำสัญญาเขาไม่ได้เหมารวมไปถึงภายนอก ภายนอกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ แม้มันจะนำมาซึ่งความอึดอัดตรงจุดกระสันความปรารถนา เอาวะ! เปลี่ยนจากมือเขาเป็นมือเล็กยังดี กวินทร์จ้องคนที่นอนหลับด้วยสายตาเร่าร้อน เขานำมือเล็กกุมไปตรงจุดที่มันผงาดประกาศศักดา เพียงแค่มือทำไมมันเสียวได้ขนาดนี้ ใจอยากจะหมุดเข้าไปภายในมากก็ตาม แม้จะไม่ใช่คนดี เต็มร้อย ขอแค่เจ็ดสิบก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับผู้ชาย มือที่กุมความแข็งแกร่งขยับขึ้นลง เสียงครางคำรามบ่งบอกถึงจุดเสียว ใบหน้าของกวินทร์มันเริ่มจะทนไม่ไหว ริมฝีปากกัดเม้ม “อ่าห์! เสียวซิบ” เพียงแค่มือเล็กๆ ทำเอากวินทร์เหงื่อแตกพยายามระงับความปรารถนา เมื่อมันเสียวจนถึงจุดต้องปลดปล่อย น้ำขาวขุ่นพุ่งไปตรงใบหน้าของคนนอนหลับ นิรินรู้สึกเหมือนมีน้ำอะไรเปรอะตรงหน้า ดวงตาที่หลับสนิทลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นว่าใครกำลังคร่อมร่างของเธออยู่ “ไอ้บ้า! นายกำลังทำอะไร” นิรินลุกขึ้นผลักร่างของคนบุกรุกห้องของเธอ ไอ้เด็กคนนี้มันเข้าห้องเอได้ยังไง “อย่าพึ่งโวยวาย เบบี๋ ผมกำลังทาเซรั่มให้เบบี๋อยู่นะครับ ให้ผมทาให้ใบหน้าเนียนใสก่อน มันเป็นเซรั่มสูตรพิเศษที่เพื่อนผมกำลังทำวิจัยมันขึ้นมา” “เซรั่ม!” นิรินมองด้วยสายตาไม่เชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูด กวินทร์พลิกร่างลงไปนอนข้างๆ ด้วยที่เขาหยิบผ้าห่มติดมือมาด้วย เพื่อปกปิดร่องรอยหลักฐานอะไรบางอย่าง มือค่อยๆ ดึงกางเกงขึ้น “เซรั่มอะไรเนี่ย! ทำไมมันแปลก”นิรินเอามือจับเซรั่มขึ้นมาดมมันเป็นเนื้อครีมขาวขุ่นเป็นเมือก กวินทร์ลุกขึ้นจับมือที่กำลังยกขึ้นพิสูจน์ทาไปทั่วใบหน้า ค่อยๆ บรรจงทาอย่างอ่อนโยน “เห็นไหม เค้าอุตส่าห์เป็นห่วงกลัวเบบี๋หน้าจะไม่ใส ไปตามหาเซรั่มดีๆ มาให้เบบี๋” กวินทร์ทาไปอมยิ้มด้วยความสุข ภายในท่องคาถา จงรักจงหลง โอมหลงเยอะๆ “ไม่ต้องฉันทาเอง นั่งเฉยๆไปเลย” นิรินลงจากเตียงไปตรงหน้ากระจกเอียงใบหน้าซ้ายขวา เซรั่มอะไรทำไม่ซึมเข้าผิวไวขนาดนี้ หน้าตึงมาก “ใช้อีกสักสามสี่ครั้ง ใสเนีย สาวๆ ต้องมาเรียกร้องหาสูตรจากเบบี๋แน่นอน” กวินทร์ยังเนียนไม่เลิก “ไม่รู้เลยนะว่า นายมีเพื่อนทำของพวกนี้ด้วย” นิรินเอียงใบหน้าส่องกระจกมองความเปลี่ยนแปลง “ผมพึ่งคิดขึ้นมาได้ไม่นานก็เลยอยากจะลองกับเบบี๋ก่อนเป็นคนแรก” “อ้าว! ไหนเมื่อกี้นายพูดว่าเพื่อน” “ถ้าพูดว่าผมทำเบบี๋จะกล้าใช้หรือไง” “ถ้าเป็นของนาย ฉันคงไม่ใช้ ฉันไปล้างหน้าดีกว่า” นิรินทำท่าจะเดินไปห้องน้ำ มือใหญ่รีบคว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ ดึงร่างให้กลับสู่อ้อมแขแกร่ง “นายจะทำอะไร สัญญาแล้วไม่ใช่ว่าจะไม่ทำอะไร” “ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่นอนกอดเฉยๆ แค่นี้เอง” กวินทร์ทำเสียงอ้อนใบหน้าคลอเคลียราวกับเป็นแมวตัวเล็กๆ “เด็กทำน่ารัก นายทำน่าตบ” มือเล็กผลักใบหน้าที่กำลัง คลอเคลียให้ห่าง แต่ก็ยอมนอนไปด้วยกันจนถึงเช้าไม่ได้ขัดขืน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD