ตอนที่ 1 เนื้อคู่ (1)
วันหนึ่งของฤดูร้อน ปี ค.ศ. 2050
ภายในคอนโดหรูใจกลางของเมืองฉงชิ่ง มหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนที่แสนเจริญรุ่งเรือง นี่คือเมืองท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างตัวเมืองกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
หญิงสาววัยทำงานใส่แว่นตาหนาเตอะกำลังนั่งวุ่นอยู่กับยอดขายสินค้าของตัวเองในเว็บไซต์ออนไลน์ ยอดสั่งซื้อของเดือนนี้เยอะกว่าเดือนที่ผ่านมามาก เธอกังวลว่าสินค้าในสต๊อกไม่รู้ว่าจะมีเพียงพอส่งให้ลูกค้าได้ทันกำหนดหรือไม่ จึงคิดว่าคงต้องสั่งของมาเก็บไว้เพิ่มเสียแล้ว
จางอี้ถิงเปิดหน้าอีเมลขึ้นมา แล้วส่งคำสั่งซื้อไปที่บริษัทที่ผลิตสินค้าให้เธอเป็นประจำทันที พิมพ์ข้อความรายละเอียดต่าง ๆ เสร็จ ตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนสินค้าที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว คำสั่งซื้อก็ถูกส่งออกไปทันทีที่คลิกนิ้วลงที่แป้นพิมพ์
“เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว” หญิงสาวพูดพร้อมปิดพับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของตัวเองลงช้า ๆ อย่างทะนุถนอม เพราะเจ้าสิ่งนี้อายุอานามก็หลายปีแล้ว มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่ตอนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ เลย
ตอนนั้นเพราะโลกออนไลน์เป็นโลกที่ได้เปรียบ ใคร ๆ ก็อยากทำงานอยู่กับบ้านจึงต้องซื้อเป็นรางวัลให้ตัวเอง ไม่คิดว่าความคิดชั่ววูบที่ยังไม่อยากสมัครงานบริษัททั่วไปเหมือนคนอื่น ๆ อยากลองขายของออนไลน์ดูเล่น ๆ แต่กลับกลายเป็นอาชีพจริงจังมาจนถึงตอนนี้
เสียงดูดฝุ่นดังมาจากห้องนอนขนาดกลางอยู่สักพักก็เงียบลง หญิงวัยกลางคนเดินออกมาพร้อมหิ้วเครื่องดูดฝุ่นออกมาด้วย เพื่อที่จะไปทำความสะอาดห้องอื่นต่อ
“คุณจาง ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ งั้นป้าขอดูดฝุ่นห้องนี้หน่อยนะ” ป้าหวังแม่บ้านประจำอาคารพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าหญิงสาวเจ้าของห้องลุกออกมาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้ว
หญิงวัยกลางคนเงยหน้ายิ้มให้จางอี้ถิงก่อนจะแซวว่า “คุณจางทำงานหนักอย่างนี้ระวังจะไม่มีเวลามีแฟนนะคะ”
“โธ่ป้าหวัง ไม่มีแฟนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยค่ะ” จางอี้ถิงตอบพร้อมกับมุ่ยปากเล็กน้อย เธออายุปาเข้าไปเกือบจะเลขสามแล้ว แต่ไม่เคยมีแฟนเลย นี่เป็นปมในชีวิตที่ไม่ค่อยอยากพูดถึงสักเท่าไหร่
“ป้าคิดว่าคุณจางต้องมีปมอะไรแน่ ๆ เลยค่ะ ถึงทำให้ไม่อยากมีแฟน” ป้าหวังพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกังวลจริง ๆ
เธอเห็นหญิงสาวคนนี้มานาน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาที่ตึกนี้ก็ไม่เคยเห็นเธอพาผู้ชายมาที่ห้องสักครั้ง จะว่าเจ้าของห้องสาวไม่สวยก็ไม่ใช่ กลับตรงกันข้าม เธอทั้งสวยทั้งเก่ง แต่น่าแปลกที่ไม่มีคนรักเสียที
“ไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ ป้าหวังคิดมากไปหรือเปล่า” จางอี้ถิงกล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก เรื่องฟงเรื่องแฟนเรื่องความรักอะไรกัน ถึงเวลาจะมีก็มีเอง แม้จะไม่มีเธอเองก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น
ทุกวันนี้มีงานสบาย ๆ ได้เงินไม่ต้องเหนื่อยออกไปทำนอกบ้าน ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร แม้จะเหงาบ้างบางครั้ง แต่รวม ๆ คือชีวิตดี๊ดี...
..............
เสียงข้อความเข้าดังขึ้น จางอี้ถิงจึงเดินที่โต๊ะที่ตัวเองวางโทรศัพท์มือถือไว้ แล้วสไลด์หน้าจอเปิดข้อความขึ้นมา เป็นข้อความจากเสี่ยวเพ่ยหลิงหลิงเพื่อนสนิทของเธอเอง
“ที่ไหน”
“กี่โมง”
“เช้าจัง ตื่นไม่ไหว”
“โอเค”
“...”
ที่จริงแล้วจางอี้ถิงไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงหรือคำทำนายสักเท่าไหร่ เธอมีความคิดว่าชีวิตคนเราขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเอง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็เพราะว่าเสี่ยวเพ่ยหลิงเป็นคนชอบดูดวงมาก ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็จะต้องมีการดูดวงเพื่อเสริมความมั่นใจก่อนเสมอ และจะต้องลากเธอไปด้วยทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันเสี่ยวเพ่ยหลิงจองหมอดูแม่น ๆ เอาไว้ให้แล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนรักมีเรื่องอะไรที่ตัดสินใจไม่ได้จนต้องไปพึ่งพาคำพูดคนอื่นอีก
แต่ว่ามันก็ใช่เรื่องเสียหายอะไรในเมื่อก็แค่จ่ายเงินไม่เท่าไหร่ ก็สามารถเสริมความมั่นใจในการตัดสินใจทำบางอย่างได้ อีกทั้งช่วงนี้ใคร ๆ ก็ทักว่าเธออายุปาเข้าไปจะสามสิบแล้วก็ยังไม่มีแฟนสักที เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เพียบพร้อมขนาดนี้ มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นของตนเอง แถมรูปร่างหน้าตาก็ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย
..............
เช้าวันต่อมาจางอี้ถิงตื่นเช้ากว่าทุกวัน เพราะต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปดูดวงกับเสี่ยวเพ่ยหลิงเพื่อนสาวที่สนิทที่สุด เธอจะแต่งหน้าอย่างลวก ๆ ก็ไม่ได้เพราะค่านิยมของสาวจีนยุคนี้นั้นถ้าไม่สวยจะไม่ออกจากบ้าน แม้ว่าเบ้าหน้าและผิวจะดีแค่ไหน แต่ก็ต้องเติมแต่งให้ดูเหมือนไม่แต่งซึ่งไม่ง่ายเลย กว่าจะจัดการตัวเองเสร็จก็ปาไปเกือบชั่วโมง
วันนี้เธอไม่อยากขับรถไปเอง เพราะว่าหงหยาต้งก็ไม่ได้ไกลมาก นั่งรถไฟฟ้าไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว และไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถอีกด้วย หรือหากจะพอมีที่จอดรถก็มักจะอยู่ไกลแสนไกลจากเป้าหมายที่ต้องไปในวันนี้ นั่นแน่นอนว่าต้องเดินจนเหนื่อยทีเดียว รถสาธารณะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“จาง อี้ ถิง แกมาเก้าโมงพอดีเป๊ะ” เสี่ยวเพ่ยหลิงเรียกชื่อเพื่อนสนิทเน้น ๆ พลางเบ้ปากให้เพื่อนคนนี้ที่ไม่ชอบตื่นเช้า
“รีบไปเถอะ” จางอี้ถิงบอกอย่างเนือย ๆ นี่ยอมตื่นเช้ากว่าปกติก็ดีเท่าไหร่แล้ว แถมมาตรงเวลาไม่ได้มาสาย แต่คนบางคนยังทำหน้าเหมือนจะไม่พอใจอีก
สองสาวมาถึงร้านหมอดู ตามคิวแล้วเสี่ยวเพ่ยหลิงจะได้ดูก่อน ดวงของหญิงสาวนั้นไม่ได้มีอะไรมาก หมอดูเพียงทักว่าเธอควรจะเปลี่ยนงานเท่านั้น เพราะงานที่ทำอยู่อาจจะทำให้เสียสุขภาพหากยังดึงดันจะทำอยู่ร่างกายก็จะเสียหายไปมากกว่านี้
จางอี้ถิงคิดในใจว่าถ้าทำนายแบบนี้ตนเองก็ทำนายทายทักได้เหมือนกัน ก็ในเมื่อเสี่ยวเพ่ยหลิงทำงานดึกแทบทุกวัน แล้วมันจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพของเธอได้อย่างไร แต่ก็นะ จะพูดออกไปก็จะทำให้เพื่อนสนิทไม่สบายใจเปล่า ๆ ฟังหูไว้หูเพื่อความสบายใจไหน ๆ ก็เสียเงินแล้ว
“เนื้อคู่ของคุณยังไม่เกิดนะ เพราะว่าคุณหนีเขามาเกิดก่อน” ถึงตาจางอี้ถิงหมอดูก็พิจารณาวันเดือนปีเกิดของเธออยู่นาน ก่อนจะขมวดคิ้วแน่นราวกับกำลังขบคิดบางอย่างอย่างจริงจัง ซึ่งต่างจากการดูดวงให้เพื่อนของเธอเมื่อครู่มาก