ตอนที่ 2 ฮาริส อิมราน

2188 Words
ณ ดินแดนแถบตะวันออกกลาง อาณาจักร “โอซีเรีย”ดินแดนแถบตะวันออกกลาง ที่รายล้อมไปด้วยทะเลทรายสีทองอันกว้างใหญ่ ประกอบกับโอเอซิสกลางทะเลทรายที่สวยตรึงใจ ดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานับล้านๆ คน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับราษฎรชาวโอซีเรียเป็นจํานวนมาก รัฐโอซีเรีย หนึ่งในสามรัฐของสหรัฐบาเกลโรเนีย ที่มีเชคหรือชีคที่เราเรียกขานกันนั้น ปกครองในแต่ละรัฐ ซึ่งขึ้นตรงกับสหรัฐบาเกลโรเนีย ที่มีองค์สุลต่านปกครองสูงสุด โอซีเรียจึงเป็นอาณาจักรที่เป็นเมืองทะเลทรายในแถบตะวันออกกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาครองมาจากสหรัฐบาเกลโรเนีย คนทั่วโลกต่างหันมาสนใจอาณาจักรนี้มากขึ้นในทศวรรษนี้ เนื่องจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่มีการขุดเจาะแหล่งน้ำมันและผลิตสินค้าเกษตรกรรม ออกจำหน่ายอย่างจริงจัง รวมไปถึงอัญมณีและทองคำ รายได้มวลรวมของประเทศนี้สูงลิบลิ่ว การขายแรงงานหรือทำธุรกิจในประเทศได้อย่างง่ายดาย... ณ ปราสาทหลังใหญ่กลางเมืองโอซีเรีย “บาซิม เจ้าไปตามนายของเจ้ามาพบข้าที” เสียงชายวัยกลางคนอันทรงอำนาจดังขึ้น “เอ่อ...แต่ว่านายท่านขอรับ...นายฮาริสได้ฝากกระหม่อมแจ้งกับนายท่านไว้แล้วขอรับ...ว่าอีกสองวันนายฮาริสจะกลับมาขอรับ” บาซิมคนรับใช้มือซ้ายของนายฮาริส เอ่ยกับชีคอุซมี “แล้วนายเจ้าบอกไว้หรือไม่ว่าไปที่ใด” “กระหม่อมไม่ทราบขอรับ...นายฮาริสบอกเพียงแต่ว่า...ถ้าเสร็จธุระแล้วจะกลับมาขอรับนายท่าน” “งั้นถ้าฮาริสมาแล้ว...ให้มาพบข้าโดยเร็วที่สุด” “ขอรับนายท่าน” บาซิมเดินเลี่ยงออกไปทันที หลังจากได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายสูงสุด “ท่านพี่มีอันใดกับฮาริสหรือเจ้าคะ” “อืม...ข้ามีเรื่องที่สอบถามความจริง...กับลูกชายเจ้าหน่อยลัยลาฮ์” ชีคอุซมีเอ่ยกับภรรยาของตน “ฮาริสไปทำเรื่องไม่ดี...อะไรอีกหรือเจ้าคะท่านพี่” “ลูกชายเจ้าปฏิเสธการแต่งงานกับธิดาของชีคอัฟซา” “จริงหรือเจ้าคะท่านพี่...ฮาริสทำเรื่องใหญ่แบบนี้ได้อย่างไรกันเจ้าคะ แล้วทางชีคอัฟซา รัฐโคเชกเมียร์นั้นว่าอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านพี่” “ทางฝ่ายโน้นก็แสดงความไม่พอใจนะ...แต่ก็มีบางอย่างที่แปลกออกไป เหมือนทางชีคอัฟซาไม่โกรธ แต่กลับมีเป้าหมายใหม่ให้กับบุตรสาวไว้เรียบร้อยแล้ว แทนฮาริสของเรา” “อืม...งั้นก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรสิเจ้าคะ...ข้าคิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตซะอีก...ฮาริสโตแล้วถึงวัยที่จะต้องมีคู่ กลับปฏิเสธทุกครั้งเลย น่าหนักใจนักยิ่งนัก” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์กุมขมับทันที “ก็ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกหรือลัยลาฮ์ เจ้าเลี้ยงลูกมาแบบตามใจตั้งแต่เล็กจนโต ทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้ พอโตมาเจ้าจะบังคับสิ่งใดลูกได้อีก” “อืม...ท่านพี่ไม่ต้องต่อว่าข้าหรอกนะเจ้าคะ ข้ามีลูกชายเพียงคนเดียว ข้าก็ต้องรักและดูแลเป็นพิเศษสิเจ้าคะ” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์มองหน้าสามี และค้อนใส่วงใหญ่เลยทีเดียว...จริงอยู่นางเลี้ยงบุตรชายมาอย่างตามใจ จนฮาริสโตขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว ไม่มีใครสามารถบังคับเขาได้เลยสักครั้ง “อายุลูกชายเจ้าก็มิใช่น้อยแล้ว ใยจึงยังไม่มีคู่ เจ้าต้องจัดการหาคู่ หรือไม่งั้นก็หาสนมมาเพื่อมาตั้งท้องลูกของฮาริสให้ได้” ชีคอุซมีต้องการให้บุตรชายมีทายาทไว้สืบสกุล ถึงแม้ว่าเขาจะมีบุตรสาวอีกคน แต่เนื่องจากตนนั้นอยากให้บุตรชายสืบสายเลือดที่แท้จริง ทายาทที่เกิดจากฮาริสนั้น ย่อมเป็นสายเลือดที่เข้มข้นมากกว่า ความกังวลนี้เกิดขึ้นมานานหลายปี แต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้ง “ตอนนี้ทั้งฮาเร็มของฮาริสเอง มีสนมไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะมีทีท่าว่าฮาริสจะพึงพอใจสักราย ข้าหามานับไม่ถ้วนแล้วเจ้าค่ะท่านพี่” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์ท้อใจกับท่าทีของลูกชายนางเป็นอย่างมาก นางหาหญิงสาวที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ให้กับลูกชาย แต่ทว่าเจ้าลูกชายของนางกลับ ไม่ยอมที่ทำให้หญิงใดตั้งครรภ์ได้เลยสักคน ไม่ใช่ว่าลูกชายของนางจะผิดปกติใดๆ แต่ทว่าฮาริสนั้นเลือกอย่างที่สุด ‘ทายาทที่ลูกจะทำให้เกิดขึ้นมานั้น ต้องเกิดจากหญิงที่ลูกเห็นว่าเหมาะสมเท่านั้นท่านแม่’ ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์นึกถึงคำพูดของบุตรชายของตน “สงสัยข้าเองต้องลงมาจัดการแล้ว” ชีคอุซมีเอ่ยแบบเด็ดขาดเช่นกัน สมบัติมากมายมหาศาล ที่ไม่ต้องหาเพิ่มกินใช้ไม่รู้กี่ชาติจึงจะหมด จะตกทอดกับใครบ้าง ถ้ามีลูกแต่ไม่มีหลานสืบทอดสกุลสันติวงศ์ อีกด้านหนึ่งของคนที่ถูกเอ่ยถึง... สายตาอันคมเข้มที่ถูกปกคลุมด้วยแพขนตาหนา จมูกเป็นสันยาวได้รูป รับกับปากที่เป็นกระจับเรียวบาง ใบหน้าคมคายภายใต้ กุตราที่คลุมเส้นผมสีดำ ดวงตาสีเทาคมเข้ม ในชุดดูเราะห์สีขาว สาดสายตาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ตนได้เฝ้าดูมาเกือบนับแรมปี “อืม...อาบูเจ้าไปสืบเรื่องนั้นมา...ได้ความว่าอย่างไรบ้าง” ผู้เป็นนายเอ่ยกับลูกน้องมือขวาคนสนิท “ได้ความมาพอสมควรขอรับนาย” อาบูเปิดภาพบางอย่างให้ผู้เป็นนายดูประกอบ “ตอนนี้ทางพวกมันได้เคลื่อนไหวแล้วขอรับนาย...หน่วยข่าวกรองของเรารายงานมาว่า เดือนหน้าพวกมันนัดส่งของขอรับ” “แล้วเจ้าได้ตรวจสอบหรือไม่...ว่าเป็นที่แห่งใด” “สถานที่อยู่แถวเมืองไคเนียขอรับนาย แต่ก็อาจไม่แน่พวกมันอาจจะเปลี่ยนแปลงอีกก็เป็นได้ขอรับ” “อืม...งั้นเจ้าบอกคนของเราให้เฝ้าติดตามความคืบหน้า แล้วรายงานข้ามาเป็นระยะ อย่าได้พลาดเป็นอันขาด” “ขอรับนาย” “เออ...วันนี้ข้าจะกลับบ้านแล้ว เจ้าไปเตรียมรถให้พร้อม” “ขอรับนาย พอดีบาซิมแจ้งมาบอกกระหม่อมขอรับนาย ว่านายท่านอุซมี เรียกให้นายไปพบด่วนขอรับ” “อืม...ท่านพ่อจะมีเรื่องอันใดอีก...นอกจากเรื่องเดิม” สายตาคมของชีคหนุ่มมองไปยังพื้นทรายสีทองเหลืองอร่าม ที่ทอดไปไกลสุดลูกหูลูกตา...เขาใช้ชีวิตมาจวบจนอายุ 32 ปีแล้วท่านพ่อของเขาก็ไม่วายที่คิดจะจับเขาแต่งงานมีคู่ ทั้งที่จริงแล้วน้องสาวเขาเองก็สามารถที่จะแต่งงานและมีทายาทให้กับท่านพ่อและท่านแม่ได้ แต่ทำไมท่านถึงยังไม่ละความพยายาม ที่จะให้เขามีทายาทโดยเป็นสายเลือดของเขาเองโดยตรง ซึ่งเขาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ .................... ณ ปราสาทหลังใหญ่กลางเมืองโอซีเรีย “ฮาริส” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์เผยรอยยิ้มออกมาทันที เมื่อเห็นบุตรชายของนางเดินเข้ามาบริเวณภายในปราสาท “ครับท่านแม่” “ลูกไปไหนมาหลายวัน...ท่านพ่อเตรียมจะส่งคนไปตามลูกกลับมาแล้วรู้มั้ยฮาริส” “ท่านพ่อมีเรื่องอันใดที่จะคุยกับลูกหรือครับ...อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องนั้นอีก” ฮาริสเอ่ยกับมารดาด้วยสีหน้าอันราบเรียบ ไร้ความรู้สึกใดๆ เรื่องนี้มันไม่เคยเกินความคาดหมายของเขาเลยสักครั้ง “ลูกก็รู้อยู่แล้ว ว่าท่านพ่อทุกข์ใจเรื่องนี้ ใยลูกถึงทำเมินเฉยไปอย่างนั้นเล่าฮาริส” “อืม...เอาเป็นว่าท่านแม่จะหาใครมา ก็แล้วแต่ท่านแม่เถิดตอนนี้ลูกไม่ขัดใจอะไรอีกแล้วครับ” ฮาริสมองหน้าผู้เป็นมารดาด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดาเขาได้ แผนการลับบางอย่าง ที่เขาพึ่งรับภารกิจมาจากองค์สุลต่านในวันนี้ มันทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงจากการปฏิเสธ กลายเป็นตอบรับในทันที “จริงหรือฮาริส...แม่ยินดีเป็นอย่างมาก...ที่อย่างน้อยลูกก็พอจะเข้าใจหัวอกของพ่อและแม่” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์ยิ้มออกมา ด้วยความรู้สึกเต็มตื้น ที่วันนี้บุตรชายของนาง ก็ยอมโอนอ่อนลงไม่เหมือนครั้งก่อนๆ “ครับท่านแม่” “งั้นเดี๋ยวแม่จะให้ท่านพ่อ...ไปเจรจากับชีคอัฟซาใหม่อีกครั้ง...หวังว่าครั้งนี้ลูกจะไม่ทำให้พ่อกับแม่เสียหน้านะ” “ไม่อย่างแน่นอนครับ...ลูกเบื่อที่จะต้องขัดใจท่านพ่อกับท่านแม่แล้วครับ” ใช่...ถ้าเขาไม่แต่งงาน เขาก็ไม่มีทางที่จะทำงานบางอย่างสำเร็จแน่นอน ฮาริสเลยต้องแต่งงานเพื่อบังหน้าเท่านั้น “พี่ฮาริส” เสียงใสๆ ของหญิงสาวทำให้ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน “ฟาติน” ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์เรียกผู้เป็นลูกสาว ด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจะดูแข็งกระด้าง “น้องฟาติน...วันนี้เจ้าไม่ออกไปที่ใดหรอกหรือ” ฮาริสเอ่ยทักน้องสาวของตัวเองที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาสักพักนึงแล้ว “น้องก็ว่าจะออกไปแล้วค่ะ...พอดีเห็นฮันนาบอกว่าท่านพี่มา...น้องก็เลยแวะเข้ามาทักทายท่านพี่ซะหน่อย...ไม่คิดว่าท่านพี่กำลังคุยกับท่านแม่อยู่” ฟาตินมองหน้ามารดาของตน ด้วยความรู้สึกเกรงขามอยู่ในที เพราะเธอกับมารดานั้นเจอกันทีไร ก็เป็นอันต้องทะเลาะกันแทบจะทุกครั้ง “ลูกจะออกไปที่ใดอีกฟาติน...แม่บอกให้ลูกเรียนการบ้านการเรือนกับฮันนาบ้าง...เวลาลูกแต่งงานไป...ลูกจะได้ดูแลครอบครัวได้แม่บอกลูกเป็นร้อยๆ ครั้งใยลูกจึงเมินเฉยต่อคำพูดของแม่นักฟาติน” ท่านคุณหญิงลัยลาฮ์เริ่มมีน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้น ไม่เหมือนเวลาพูดกับบุตรชายคนโตเท่าใดนัก “ลูกไม่ชอบค่ะท่านแม่...และลูกเองก็ไม่อยากแต่งงานออกเรือนไปไหน...ไม่อยากมีทายาทสืบสกุลอะไรนั่นเลย” ฟาตินโต้ตอบกับมารดาอย่างเผ็ดร้อนเช่นกัน “ลูก! เอ่ยแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกัน” น้ำเสียงผู้เป็นแม่เริ่มดังขึ้นทุกขณะ “ท่านแม่ครับปล่อยน้องไปเถิดครับ...อย่างน้อยวันนี้ลูกเองก็ตกปากรับคำว่าจะแต่งงานกับนูรีนแล้ว...ท่านแม่ไม่ต้องบังคับน้องฟาตินนะครับ” ฮาริสพยายามโน้มน้าวมารดา ซึ่งเขาเองก็เกรงว่าน้องสาวจะโดนดุเข้าไปอีก เขาเองนั้นพอจะรู้มานานว่าท่านแม่และท่านพ่อจะรักเขามากกว่าน้องสาวนัก นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าท่านพ่อของเขาอยากให้เป็นทายาทที่นำพาสายสกุลด้วยสายเลือดที่เข้มข้นของตัวเองให้ยังคงอยู่ต่อไปนั่นเอง “ท่านพี่จะแต่งงานกับนูรีนหรือคะ” ฟาตินหันมาถามพี่ชายทันทีด้วยความตกใจ อย่างไม่คาดคิดว่าพี่ชายของนางจะตอบตกลง เธอนั้นรู้กิติศัพท์ของนูรีนเป็นอย่างดีว่าเป็นอย่างไร “ฟาตินลูกไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้” ผู้เป็นแม่ดักคอทันที เมื่อเห็นท่าทีของลูกสาว “แต่ท่านแม่คะนูรีน...นาง” “ลูกไม่ต้องพูดอันใดอีกแล้ว...ตอนนี้แม่ขอสั่งลูก ห้ามออกจากบ้านโดยเด็ดขาด...เห็นทีแม่จะต้องเอาจริงเอาจังกับลูกบ้างแล้วนะฟาติน...อายุลูกก็มิใช่น้อยแล้ว...อายุ26ปี...อีกไม่กี่ลูกก็จะแก่เกินที่จะออกเรือนแล้ว...แต่ว่าลูกช่างทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่รู้จักโตเสียจริง” “พอเถอะครับท่านแม่...ฟาตินน้องออกไปก่อนเถิด” ฮาริสห้ามมารดา และหันมาบอกน้องสาว “ก็ได้ค่ะ...ลูกจะไม่ยุ่งเรื่องของพี่ฮาริสก็ได้...แต่ว่าชีวิตของลูกเองท่านแม่ก็มายุ่งไม่ได้นะคะ...ลูกไม่ยอม” ฟาตินหันมาพูดกับมารดาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ บางครั้งมารดาของเธอก็แสดงออกชัดเจนเหลือเกิน กับความลำเอียงและความรักที่ให้ไม่เท่ากัน ฟาตินไม่เคยโกรธพี่ชาย แต่ทว่าเธอกลับโกรธท่านพ่อและท่านแม่ของตัวเอง ที่ชอบปฏิบัติกับเธอเช่นนี้ตลอดเวลา “นั่นลูกจะไปไหน...ลูกจะไปไหนไม่ได้นะฟาติน” “ท่านแม่ครับ...พอเถอะครับ” ฮาริสห้ามอีกครั้ง “ไปไหนก็ได้ค่ะ...ท่านแม่ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ ไม่ว่าลูกจะไปไหน หรือทำอะไรท่านแม่ก็ไม่เคยจะสนใจอยู่แล้ว” ฟาตินสะบัดหน้าหนี และก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจอีกต่อไป “ฟาติน!” ....................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD