ตอนที่ 1 ระบบมิติสมุนไพรหมอเทวดา
หลังจัดการความทรงจำของร่างเดิมได้แล้ว ถังมี่ก็ลุกขึ้นจากเตียงนอน เตียงไม้เนื้อแข็งหากเทียบกับยุคปัจจุบันก็จะดูวินเทจเป็นอย่างมาก แต่หากยุค 80 นี้ มันก็ดูเป็นของใหม่ จะว่าไปก็สมฐานะของหัวหน้าหมอทหารอย่างสามีเจ้าของร่างเดิมนั่นแหละ
เธอเดินวนดูรอบห้อง รูปผู้นำแผ่นใหญ่ติดหราบนผนังห้อง ย้ำเตือนให้แน่ชัดว่า นี่คือปี 1980 อย่างแท้จริง ให้ตายเถอะ เธอทะลุมิติมาแล้วจริง ๆ
"นะ น้าสะ สะใภ้" ในขณะที่ถังมี่กำลังยื่นมือไปจับผ้าม่านหน้าต่าง ลวดลายพิมพ์นิยมสีแดงลายดอกช่อเล็ก ๆ ดูเหมือนในซีรีส์ก็จะมีแบบนี้ตลอด
แต่ช่างหัวผ้าม่านก่อน เพราะตอนนี้สายตาของเธอกำลังมองไปที่เด็กชายตัวน้อย หัวโตพุงโลที่ยืนหลบมุมตัวสั่น
“นะ น้าสะใภ้ ปะ ปะ เป็นผี หรือปะ เป็นคนครับ” เด็กคนนี้ใครกัน อ้อใช่ จากหน้าต่างข้อความที่ขึ้นมาบนอากาศ
เด็กคนนี้ชื่อหลี่ตงหยาง ลูกชายเพียงคนเดียวของหลี่อี้ฝาน มีแม่ชื่ออู๋ชิงซวง หรือก็คือแม่หม้ายผัวตาย ที่หวังเคลมน้องผัวตนเอง เนื้อหาในนิยายได้เขียนเอาไว้ว่า
อู๋ชิงซวงเป็นศัตรูหัวใจหมายเลขสองรองจากนางเอกหวังไป่ลู่ อดีตคู่หมั้นของหลี่อี้หมิงพระเอกของเรื่อง และแม่เด็กคนนี้ก็คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ถังมี่ถูกฆ่าตาย ทว่าเด็กคนนี้กลับน่าสงสารเหลือเกิน ประเมินจากสายตา เด็กน้อยคนนี้เป็นโรคขาดสารอาหารอย่างรุนแรง แต่เพราะอะไรหลี่อี้หมิงถึงไม่รู้
“สวัสดี เสี่ยวตงหยางใช่หรือเปล่าจ๊ะ” ดูเหมือนคำพูดของเธอจะดูโง่ไปสักหน่อย เพราะตอนนี้เด็กน้อยมีสีหน้าตกใจจนดวงตาเบิกโพลง
“เอ่อ...คือว่าน้าปวดหัวมาก ความจำก็สับสนนิดหน่อย เสี่ยวตงหยางไม่ต้องกลัวนะ น้าไม่ทำอะไรหรอก และน้าก็ไม่ใช่ผีด้วย ยังไม่ตายไม่เชื่อมาจับดู”
“ตะ แต่ เมื่อ เมื่อกี้ นะ น้าไม่หายใจ”
“มีที่ไหนกัน เสี่ยวตงหยางดูผิดแล้วจ้ะ” เด็กน้อยยังคงมีสีหน้าหวาดหวั่น นั่นเพราะเมื่อก่อนเจ้าของร่างเดิมไม่ชอบอู๋ชิงซวง ก็เลยพาลมาลงลูกไปด้วย น่าสงสารก็แต่เด็กตนนี้
หากจะว่าไปแล้ว ก็มีเพียงหลี่อี้หมิงที่รักหลี่ตงหยาง สายเลือดที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของพี่ชายด้วยใจจริง ทว่างานในหน่วยแพทย์ของกองพันกลับเยอะมาก จนบางครั้งไม่มีเวลาดูแล อีกอย่างหลี่อี้หมิงเองก็เหนื่อยกายเหนื่อยใจจนแทบไม่กลับมาพักที่บ้านพักทหารหลังนี้
แต่ก่อนที่จะทันได้หลอกล่อเด็กน้อยให้หายกลัว เธอก็ได้ยินเสียงร้องจากท้องของเด็กชายเสียก่อน หลี่ตงหยางดูเขินอายเป็นอย่างมาก เขารีบวิ่งออกไปนอกห้อง คงจะไปหาอะไรกิน
ถังมี่ส่ายหัวพลางยิ้มแห้ง ๆ ไม่ได้สนใจอีก เธอเดินสำรวจในห้องอีกรอบ แต่เมื่อเดินผ่านกระจกบานหนึ่ง ปลายหางตาคล้ายเห็นตัวประหลาดอยู่ในนั้น หญิงสาวรีบก้าวขาถอยหลังกลับมา ค่อย ๆ กลั้นใจหันหน้าไปมอง แต่แล้วภาพในกระจกก็ทำให้เธอกรีดร้องลั่นบ้าน
“กรี๊ด!...”
“นะ น้าซาสะใภ้ เป็นอา อาไรครับ” มีเพียงเสี่ยวตงหยางที่วิ่งกลับเข้ามาด้วยสีหน้าตกอกตกใจ
“มะ...ไม่มีอะไรจ้ะ น้าตกใจหนูน่ะ” หนูประหลาดในคณะงิ้วด้วย ให้ตายถังมี่ เธอไม่สนิทกับเครื่องสำอางเหรอ ทำไมถึงแต่งหน้าเหมือนนกแก้วนกขุนทองขนาดนี้ เปลือกตาบนสีฟ้า เปลือกตาชั้นล่างสีม่วง แก้มสีชมพูแปร๊ด ปากสีแดงเหมือนเลือด คิ้วบางเหมือนพยาธิเส้นด้าย นี่มันหน้าคนจริงหรือเปล่า!
“เสี่ยวตงหยางไปกินอาหารมาแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง”
“ผะ ผมกะ กิน น้ำระ รองท้องครับ มะ มะมื้ออาหารต้องรอ”
“กินน้ำรองท้อง”
“โอ๊ยหิวยังต้องรออะไรอีก เสี่ยวตงหยางรอน้าสะใภ้สักครู่ เดี๋ยวน้าสะใภ้ทำอาหารให้กิน ของรองท้องที่แท้จริงไม่ใช่น้ำ” อย่างไรเธอก็ต้องทำลายความมั่นคงของใบหน้าเสียก่อน ไม่ไหว จะออกไปพบเจอผู้คนด้วยสภาพนางเอกงิ้วแบบนี้ไม่ได้
นอกจากไม่สวยแล้วผิวยังจะเสียอีกด้วย ให้ตายเถอะ ถังมี่ปวดเฮด
หลี่ตงหยางอ้าปากคล้ายจะพูดอะไร แต่ก็หุบปากลง เพราะตอนนี้ถังลี่เข้าไปจัดการล้างหน้าตนเอง จนไม่เหลือเครื่องสำอางแม้แต่น้อย ครั้นมองตนเองในกระจก เธอก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
อายุยังน้อยจะแต่งหน้าเหมือนแม่เล้าไปทำไม มันต้องเปลือยหน้าทาลิปมันบาง ๆ แบบนี้ถึงจะสวยสมวัย ยังดีนะที่ผิวหน้ายังไม่หยาบกร้าน ไม่อย่างนั้นเสียดายของแย่
“เอาละเด็กน้อย ไปกินรองท้องกัน”
เสี่ยวตงหยางมองแผ่นหลังน้าสะใภ้ที่เดินออกไปอย่างสงสัย แต่นอกเหนือจากความสงสัย เด็กน้อยก็คล้ายจะแปลกตาไปบ้าง แต่กลับนึกไม่ออกว่าแปลกตรงไหน
ถังมี่เดินเข้ามาในห้องครัว เธอเหลียวมองทุกซอกทุกมุมก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่พอจะทำอาหารได้เลย นอกจากข้าวสารในไหที่ใกล้จะหมด และผักกาดขาวเหี่ยว ๆ สองสามต้น หญิงสาวกอดอก สอดสายตาไปทั่ว แต่แล้วในหัวกลับมีข้อความบางอย่างขึ้นมา
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบ มิติสมุนไพรหมอเทวดา ผูกมัดกับผู้ใช้งานถังมี่ ต่อจากนี้ไประบบขอเรียกว่าโฮสต์”
ข้อความนั้นปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงคล้ายเสียงเอไอในความคิดของเธอ ถังมี่ขมวดคิ้วก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ
“อะไรกันเนี่ย ระบบอะไร”
‘ปลดล็อกระบบ ยืนยันการใช้งาน’
เสียงไร้ที่มาดังขึ้นก่อนที่เบื้องหน้าจะปรากฏหน้าจอโปร่งใส ตัวอักษรสีฟ้า รอให้กดยืนยัน สวรรค์!! นี่มันระบบติดตัว ที่มักมีในนิยายข้ามมิติใช่หรือไม่
“ยืนยันการใช้งาน” ในเมื่อมีระบบการโกง ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ในชาติก่อน เธอก็เล่นซีรีส์เกี่ยวกับระบบมาแล้ว ไม่มีอะไรยากหรอก
แต่ทว่าเมื่อเจ้าระบบสมองกล เริ่มพูดต่อไป อะไรที่คิดว่าง่าย ก็ไม่ง่ายแล้วแม่จ๋า ทำไมในซีรีส์ที่เธอเล่นมันมีคะแนนให้แลกของ แต่นี่ไม่เห็นมีหน้าต่างของให้เลย
‘พลังงานปัจจุบัน 100/100 ใช้สำหรับการเข้าไปในมิติและปลูกสมุนไพรคะแนนประสบการณ์ปัจจุบัน ศูนย์ สกิลปัจจุบัน ไม่มี”
“โอ๊ย...งง! อะไรคือพลังงานปัจจุบัน อะไรคือคะแนนประสบการณ์ มีแบบแลกของมาเลยได้ไหม”
‘จะแลกของได้ก็ต่อเมื่อโฮสต์ทำภารกิจทำเร็ว เพื่อเป็นการเข้าใจง่าย ๆ ระบบขออนุญาตอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ก่อนการใช้งาน’
เจ้าระบบสมองกลเอไอเริ่มอธิบายอย่างช้า ๆ ว่า
‘เริ่มต้นใช้งานระบบมิติสมุนไพรหมอเทวดา โฮสต์มีพลังงานสำหรับเข้ามิติหนึ่งร้อยเต็ม และทุกครั้งที่โฮสต์เข้าสู่มิติ พลังงานจะถูกหักออกไป หากพลังงานเหลือศูนย์ โฮสต์จะไม่สามารถเข้ามิติได้อีก แต่ไม่ต้องกังวล โฮสต์สามารถทำภารกิจเพื่อฟื้นฟูพลังงานได้’
ถังมี่กวาดสายตาอ่านข้อความที่ปรากฏในความคิดอย่างละเอียด คะแนนประสบการณ์และสกิล ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคย แต่คำอธิบายที่ตามมาทำให้เธอเริ่มเข้าใจขึ้นมา
‘ส่วนคะแนนประสบการณ์นั้นมาจากภารกิจที่ทำสำเร็จ’ เสียงของระบบอธิบายต่อ
‘ยิ่งภารกิจมีความยากและท้าทายมากเท่าไร คะแนนที่จะได้รับก็ยิ่งสูงเท่านั้น คะแนนเหล่านี้เปรียบเสมือนก้าวแรกที่จะนำโฮสต์ไปสู่การพัฒนาที่สูงขึ้น’
ถังมี่พยักหน้าเล็กน้อย เธอพอจะนึกภาพออกว่า คะแนนเหล่านี้คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสามารถของเธอที่เพิ่มขึ้น ส่วนสกิลนั้นระบบอธิบายว่า
เปรียบเสมือนความสามารถพิเศษที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเมื่อคะแนนประสบการณ์ของโฮสต์ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
หญิงสาวจินตนาการถึงความสามารถต่าง ๆ ที่เธออาจจะได้รับในอนาคต เช่น สกิลในการจำแนกสมุนไพรหายาก หรือสกิลในการปรุงยาที่ซับซ้อน มันเหมือนกับเกมที่เธอเคยเล่นในยุคปัจจุบันนั้นเอง
“หมายถึงฉันต้องเก็บเลเวล เหมือนในเกมใช่ไหม”
‘โฮสต์เข้าใจถูกต้องแล้ว’
เธอเหลือบมองไปที่วัตถุดิบในครัวอีกครั้ง ก่อนจะหันมามองจอสีฟ้าตรงหน้า
“ตอนนี้ฉันต้องการเข้าไปดูมิติของฉันจะทำยังไง”
ทันใดนั้น หน้าต่างระบบโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ มีแผนผังของมิติที่ว่างเปล่าปรากฏอยู่ และที่มุมล่างมีปุ่มที่เขียนว่า ‘เข้าสู่มิติ’ และ ‘คลังสมุนไพร’
ถังมี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงเด็กชายตัวผอมพุงโตที่เธอเพิ่งเจอ
“ถ้าเป็นสมุนไพร บางทีฉันอาจจะช่วยเขาได้ นำสมุนไพรมาปรุงอาหาร” เธอตัดสินใจลองกดปุ่มคลังสมุนไพร
ในหัวปรากฏที่ดินแปลงหนึ่ง มีบ้านหลังเล็กอยู่ตรงกลาง เธอกดเข้าไปในบ้าน ก่อนที่ดวงตาเธอจะเบิกกว้างขึ้น เข้าใจแล้ว
มิตินี้ก็คือที่ดินของปู่เธอในชาติก่อนนั่นเอง และบ้านนี่ก็เป็นบ้านที่ปู่เธออาศัยอยู่ เธอรีบเลื่อนไปดูในบ้าน กดห้องเก็บสมุไพร ภาพสมุนไพรหายากมากมายเต็มไปหมด หากแต่เธอเลือกหยิบออกมากลับติดตัวอักษรสีแดง คะแนนประสบการณ์ยังไม่สามารถใช้ได้
“เอาของที่ใช้ได้ออกมา” เอาเถอะ เอาของที่กินได้ในขณะนี้ออกมาก่อนก็แล้วกัน ส่วนเรื่องประสบการณ์อะไรนี่ก็เอาไว้ก่อน ปู่เธอเป็นศาสตราจารย์หมอสมุนไพรของจีน ยังต้องกลัวไม่มีของดี ๆ ให้ใช้อีกเหรอ