ตอนที่สาม
“มึงมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าจะให้กูไปขอผู้หญิงคนนี้”เสียงเข้มดุดันขัดจังหวะการกินข้าวเช้าของคนที่กำลังตื่นเต้น ทำให้ไอศูรย์ต้องละสายตาจากจานข้าวเพื่อมองหน้าผู้เป็นพ่อ
“ครับ ผมอยากได้เธอเป็นแม่ของลูก”
“แต่จากที่กูอ่านประวัติของเธอ เส้นทางของครอบครัวเรามันต่างกัน มึงมั่นใจนะว่าจะไม่ทำให้งานของเรามีปัญหา”ใครจะกล้ามีปัญหากับมาเฟียใหญ่อย่างพวกเขากัน หากใครมีปัญหาก็ยิงทิ้งอย่าให้เหลือ
ไอศูรย์ผู้มั่นใจในตัวตนความเป็นมาเฟียของครอบครัวคิด เขาถูกฝึกให้เย็นชาและเลือดเย็นตั้งแต่เด็กจึงไม่ใช่คนที่กลัวอะไรง่ายๆและความอยู่เหนือกฎหมายของครอบครัวนั้น ทำให้ผู้เป็นพ่อนึกกลัวหากต้องเกี่ยวดองกับครอบครัวนายทหารยศใหญ่ที่มีชื่อเสียงด้านความซื่อตรง ใครๆต่างชื่นชมว่าคนผู้นี้ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
ถึงอย่างนั้นพื้นเพครอบครัวนี้ก็น่าสงสัยไม่น้อย เป็นนายทหารเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะหากไม่รับสินบน แต่ลูกสาวกับเมียกลับใช้เงินฟุ่มเฟือยราวกับครอบครัวร่ำรวย
“ผมจะทำให้ไม่มีปัญหาครับ พ่อไม่ต้องห่วง”
“ถ้ามึงมั่นใจกูก็จะไปขอให้”
บ้านพักนายทหารยศใหญ่
รถหรูหลายคันจอดเทียบรั้วบ้าน ชายชุดดำเดินลงจากรถด้วยความรีบเร่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เป็นนาย สงครามนายใหญ่แก๊งมาเฟียก้าวขาลงจากรถตามด้วยลูกชาย ทั้งคู่เดินตรงไปรอหน้ารั้วบ้านเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มกดกริ่ง
นายทหารหนุ่มเดินออกมาจากสวนชะเง้อมองผู้มาใหม่ สายฉีดน้ำที่อยู่ในมือร่วงหล่นเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ เขารีบเร่งตรงมาที่รั้วเพื่อถามไถ่
“มะ…มาหาใครครับ”เอ่ยด้วยความตื่นกลัว รังสีความน่ากลัวมันแผ่ซ่านไปทั่วทำให้นายทหารหนุ่มหายใจติดขัด
“เจ้าของบ้านอยู่ไหม”บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยถาม
“อยู่…อยู่ครับ”
“เปิดประตู”เสียงเข้มออกคำสั่ง
“ผมต้องไปรายงานให้ท่านนายพลทราบก่อน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ…”
“ใครมาน่ะพลทหาร”เสียงเข้มตะโกนถามจากตัวบ้าน ทำให้นายทหารต้องรีบวิ่งเข้าไปรายงาน
“มาหาใคร”นายพลเอ่ยถามผู้มาเยือน
“จะไม่เปิดประตูให้เราก่อนเหรอ”
“บอกสิ่งที่ต้องการมาก่อน ผมจะเปิดประตูให้”
“กูมาที่นี่เพื่อขอลูกสาวมึง”
“ลูกสาว? หมายถึงคนไหน”
“คนไหนอะไร มึงไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวเหรอ”
“ใช่! ผมมีลูกสาวคนเดียว”ใบหน้าเรียบฉายแววตื่นตระหนกยามเอ่ยถึงลูกสาวอีกคนที่ไร้ตัวตน
“เปิดประตู”สงครามสั่งเสียงเข้มอีกครั้ง
ประตูรั้วถูกเปิดออก นายพลเดินนำเข้าไปในบ้านอย่างไม่เต็มใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่ยืนอยู่คือใคร แก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจนใครก็แตะต้องพวกเขาไม่ได้ พวกเขาอยู่เหนือกฎหมายเพียงแค่เพราะมีเงินและความน่ากลัวจนเป็นที่กล่าวขานไปทั่ว
“ไหนล่ะลูกสาว”
“ไปตามจีนมาหน่อย”
“ครับท่าน”ไม่นานหญิงสาวที่ถูกให้ไปตามก็เดินลงมาจากชั้นสองพร้อมผู้เป็นแม่
“ใครเหรอลูก”
“มันเป็นคนที่ตามจีบหนูอยู่”เธอกัดฟันตอบมารดา
“ทำไมพวกเขาดูน่ากลัวแบบนั้นล่ะ ไม่ใช่ว่าลูกไปติดหนี้พวกมันหรอกนะ”ผู้เป็นแม่กระซิบถามระหว่างทางเดิน
“ไม่ใช่แม่”
“มาที่นี่ทำไมไม่ทราบ ออกไป!!”เสียงแหลมออกปากไล่
“ลูกคุณนี่ปากดีนัก สงสัยไม่อยากมีปากไว้กินข้าว”สงครามไม่ชอบกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า จากรูปถ่ายที่เขาได้รับก็พอเดาได้ว่าเธอเป็นคนยังไง ไม่รู้ว่าลูกชายเขาโดนของหรืออะไรถึงได้ไปชอบผู้หญิงแบบนี้
“มันจะมากเกินไปแล้ว ไหนคุณบอกว่าจะมาขอลูกสาวผม”
“ใจเย็นก่อนนะครับทั้งคู่เลย”
“จีน ผมพาพ่อมาขอคุณแต่งงาน เรามานั่งคุยเรื่องสินสอดกันมั้ย”
“ใครจะแต่งกับแกไม่ทราบ ขี้เหร่อย่างแกแค่อยู่ใกล้ฉันก็ขยะแขยงแล้ว”แค่พูดเธอก็ขนลุก
“ไปตามอีขวัญมา ได้ข่าวว่ามันกลับมาแล้ว”เสียงแหลมตะคอกบอกพลทหาร
“ครับๆ”เขาออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่เขาต้องมารับใช้บ้านนี้
“มันจะมากไปแล้วนะ มึงกล้าดียังไงมาว่าลูกชายกู”
“ก็มันเรื่องจริง ลูกชายคุณหน้าตาแย่ยิ่งกว่าคนใช้ที่บ้านฉันอีก ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หน้าด้านหน้าทนทั้งที่ฉันก็ปฏิเสธไปแล้วหลายครั้ง”
“มึง”กระบอกปืนเคลือบเงาสีดำชี้ไปทางหญิงสาวปากดีที่ด่าลูกชายของเขา เช่นเดียวกับนายทหารยศใหญ่เขาจ่อปืนที่ซ่อนไว้ไปที่ขมับของมาเฟียใหญ่ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ชักปืนออกมาเช่นกันเมื่อเห็นท่าไม่ดี
“หยุด!!”ไอศูรย์ที่ทนไม่ไหวสั่งทุกคนในห้องเสียงแข็ง
“วางปืนลงดีกว่าท่านนายพลคุณก็รู้ว่าเราคนเยอะกว่า”
“พ่อค่ะ”ขวัญนรีที่เข้ามาพร้อมถือถาดแก้วน้ำมารับแขก หลังได้รับการบอกกล่าวจากพลทหารรับใช้ของบ้าน เธอวางถาดลง ไปยืนหน้าพี่สาวของตน
ไอศูรย์จ้องมองหญิงสาวผู้มาใหม่ เธอเป็นลูกสาวของบ้านนี้เหรอ ทำไมสิ่งที่เขาให้บอดี้การ์ดคนสนิทสืบมาเกี่ยวกับครอบครัวนี้ถึงไม่มีเธออยู่ในนั้น
“คุณก็บอกให้พ่อคุณวางก่อนสิ”
“พ่อครับ”มาเฟียใหญ่ยอมลดปืนลง ยัดมันเก็บเข้าที่ก่อนจะนั่งลงด้วยหน้าเฉยชาไม่สบอารมณ์ที่โดนขัดใจ
“เรามาใจเย็นแล้วคุยกันต่อเถอะ”
“นี่แกยังจะคุยต่ออีกเหรอ ต่อให้แกจะขนเงินมาเป็นกอง ฉันก็ไม่แต่ง เก็บเงินของแกไปทำหน้าใหม่ซะไป”
ไอศูรย์กำมือแน่น เขาเหลืออดกับคำดูถูกเหยียดหยามสารพัดจากผู้หญิงคนนี้ เขาไม่หล่อขนาดนั้นเลยเหรอเธอถึงรังเกียจเขานัก
“ถ้าแกจะแต่ง ก็แต่งกับอีขวัญสิ ได้กันแล้วไม่ใช่เหรอ ดูเหมาะกันดีนะผีเน่ากับผ้าขี้ริ้ว”
“อะไรนะ!!”นายพลใหญ่หยัดกายลุกขึ้น ปรายตามองบุตรสาวอีกคนที่ก้มหน้างุดอยู่
“จริงหรือเปล่าขวัญ”
“หนู…”เธอได้แต่ยืนก้มหน้าก้มตาพูดไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตอนนี้คือคนในคืนนั้น
“บอกไปสิว่าแกขายให้มัน”
“หนูเปล่านะคะพ่อ”เธอพยายามอธิบายว่ามันไม่เป็นความจริง แต่ใช่ว่าผู้เป็นพ่อจะฟังเหตุผล ตอนนี้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่ลูกคนนี้ทำตัวเหมือนแม่มันไม่มีผิด
“นางลูกไม่รักดี ฉันสอนให้แกไปเร่ขายตัวให้ผู้ชายรึไง”ไม้เรียวอันยาวที่ถูกหยิบออกมาจากที่ซ่อนฟาดลงบนร่างกายนุ่มนิ่มของขวัญนรี เธอไม่ขัดขืนแต่อย่างใด ได้แต่หลั่งน้ำตารับความเจ็บปวด
จารวีเบ้ปากมองหญิงสาวที่ได้รับความเจ็บปวดแล้วรู้สึกพอใจ ขณะที่ไอศูรย์จ้องมองผู้หญิงทั้งสองสลับไปมา