บทที่ 9

1453 Words
ตอนที่สี่ ไอศูรย์ที่เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บสาหัส ฟื้นขึ้นหลังจากเขานอนสลบมาหนึ่งเดือนเต็ม แขนขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผลราวกับมัมมี่ที่หลุดออกมา “ไงเพื่อน ตื่นแล้วเหรอ” “นี่มันอะไร”เสียวอู้อี้ในลำคอทำให้หมอหนุ่มต้องเอียงหูฟังเพื่อนรักพูดใกล้ๆ “อะไร??หมายถึงมึงที่เป็นมัมมี่เหรอ โทษทีพอดีมึงบาดเจ็บเยอะเกินไป กูเลยให้พยาบาลพันแผลทั้งตัวไปเลย” “แล้วก็หยุดพูดมากด้วยเดี๋ยวปากน่าจูบที่กูปั้นจะฉีกกูขี้เกียจแก้” “ห๊ะ!!” ย้อนไปหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่ไอศูรย์จะฟื้นคืนชีพในร่างมัมมี่ “หมอคินทำไมหน้านายเป็นแบบนั้นล่ะ” “ก็แผลจากโดนสะเก็ดระเบิด มึงจะให้มันสวยรึไง” “แล้วเราไม่มีวิธีให้มันหายเหรอ ปล่อยไว้แบบนี้คงเป็นแผลเป็น นายยิ่งน้อยใจที่ผู้หญิงชอบรังเกียจหน้าตานายอยู่” “นั่นดิ มึงจะให้ลูกกูอยู่ในสภาพขี้ริ้วขี้เหร่กว่าเดิมรึไง”สงครามเอ่ยเสริมหลังยืนมองใบหน้าลูกชายที่เต็มไปด้วยแผล ยอมรับเลยว่าลูกชายของเขาไม่หล่อเหลาเหมือนคนอื่นยิ่งสภาพตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง “ก็มีนะครับ” “อะไรเหรอครับ”เจตน์บอดี้การ์ดหนุ่มตาลุกวาว รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ “ศัลยกรรมไง รับรองนายมึงหล่อเหมือนเกิดใหม่” “จริงด้วยครับนายใหญ่ เราถือโอกาสนี้ทำให้นายเหมือนเกิดใหม่ดีไหมครับ” “เอางั้นเลยเหรอวะ” “แบบนั่นแหละครับนายใหญ่ หึ! หึ!” “นี่ถ้ามึงไม่ใช่ลูกน้องคนสนิทไอ้มังกร กูคิดว่ามึงกำลังจะฆ่ามันนะ” “เรามาเริ่มกันเลยเถอะหมอก่อนนายจะฟื้น” “ไม่เอา กูไม่อยากโดนตีนไอ้มังกร” “หมอก็แค่บอกไปว่าแรงระเบิดทำให้นายเกิดใหม่” “ก็จริง เอาให้หล่อเลยนะคิน”สงครามจ้องมองลูกชายอย่างจริงจังด้วยใบหน้าเข้ม “แบบนี้เป็นไงครับนายใหญ่”เจตน์กดโทรศัพท์เครื่องหรูค้นหาหารูปพระเอกคนหนึ่งในเกาหลีที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการหากนายของเขามีหน้าตาแบบนี้สาวๆที่ไหนจะมาเมินนายของเขาได้อีก “เอาให้เหมือนคนในรูปที่ไอ้เจตน์หามา” “มึงเลือกซะหล่อเชียว ไม่กลัวนายมึงจำตัวเองไม่ได้รึไง”หมอคิระจ้องมองรูปครู่หนึ่ง ก่อนจะบ่นบอดี้การ์ดตัวดีของเพื่อนสนิท “แบบนั้นสิดี เริ่มเลยเถอะหมอ” “คนละครึ่งนะ” “อะไรหมอ!” “ถ้ากูตายมึงต้องตายด้วย” “แน่นอน เราร่วมชะตาเดียวกันแล้วหมอ อย่างน้อยเราก็มีนายใหญ่”อย่างน้อยเขาสองคนก็มีคนคอยหนุนหลังจะไปกลัวอะไร ถึงแม้จะเสียวสันหลังอยู่บ้างก็ตาม “ผมจะไปเตรียมเอกสารมาให้เซ็น คุณลุงรอก่อนนะครับ” “อืม”สงครามตอบรับ นั่งลงบนโซฟากว้างรอเซ็นเอกสารผ่าตัดครั้งนี้ จากนั้นชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงก็ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เหล่าหมอศัลยกรรมตกแต่งได้ปรึกษาและเตรียมความพร้อมเป็นที่เรียบร้อย “อย่าฆ่ากูเลยนะเพื่อน”หมอคิระกระซิบข้างหูเพื่อนสนิท ก่อนจะเริ่มลงมือผ่าตัด ใช้เวลาหลายชั่วโมงเต็มในที่สุดใบหน้าที่หมอหลายคนช่วยกันปั้นก็สำเร็จ ร่างของชายหนุ่มถูกเข็นกลับมายังห้องพักฟื้นเหมือนอย่างเคย ตอนนี้ก็รอแค่ผลที่จะออกมาเท่านั้น ปัจจุบัน “เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ”มังกรฟังไม่ชัด จะว่าไปไม่ใช่แค่ตัวที่เป็นมัมมี่ แต่ใบหน้าเขาก็ด้วยจะหันแต่ละทีตึงไปหมดแถมฟังเสียงเพื่อนรักไม่ชัดไปอีก ไหนจะตาทำไมมันถึงเปิดได้ไม่เต็มที่ก็ไม่รู้ นี่เขาบาดเจ็บหนักขนาดนี้เลยเหรอ “เปล่า กูมีตรวจคนไข้ต่อ มึงฟื้นก็ดีล่ะ”หมอคิระเดินออกจากห้องอย่างลนลาน เกือบไปแล้วเขาเกือบโดนฆ่าซะแล้ว “คุณลุงสวัสดีครับ”สงครามมาเยี่ยมลูกชายพบหมอเพื่อนสนิทลูกชายลนลานออกมาจากห้อง “หวัดดีคิน ลูกกูฟื้นยัง” “ฟื้นแล้วครับ พยายามอย่าให้มันพูดมากนะครับเดี๋ยวแผลจะฉีกถึงแม้ตอนที่มันนอนอยู่แผลจะทยอยดีขึ้นแล้วก็ตาม” “แล้วเป็นยังไงบ้างมันรู้เรื่องที่เราทำกันมั้ย” “ยังหรอกครับ ผ้าพันแผลเยอะจนกว่าจะแกะผ้าออกมันไม่มีทางรู้เลยครับ” “ดี” “เอ่อ คิน...ช่วยหาพยาบาลพิเศษให้หน่อยนะ กูต้องการคนที่ไว้ใจได้” “ให้คุณเลขาติดต่อแผนกจัดหาเลยครับคุณลุง” “แบบนั้นจะไว้ใจได้เหรอ” “ทั้งโรงพยาบาลเขาเสียวสันหลังกับห้องนี้หมดแล้วครับลุง ไม่มีใครกล้าสักคน” “ทำไม” “ลูกชายมาเฟียใหญ่มารักษาตัวทั้งที ถ้าเกิดทำผิดพลาดพวกเขาก็กลัวจะโดนเก็บ มีแค่ผมนี่แหละที่เข้าออกห้องนี้ได้” “เลขา” “ไปตามที่หมอคินบอกกูต้องการคนมาดูแลลูกชายก่อนจะกลับต่างประเทศ” “ได้ครับนาย” อีกด้านหญิงสาวยังคงไปทำงานตามปกติ จะว่าไปช่วงนี้เธอก็มีอาการแปลกๆอ่อนเพลียตลอดเวลา สงสัยคงจะพักผ่อนน้อยเป็นแน่ “เป็นอะไรขวัญ พักผ่อนน้อยเหรอดูเพลียๆนะเรา พี่บอกแล้วว่าอย่าควบกะให้เยอะ ว่าแต่เราเอาเงินไปทำอะไร”หมอนีรชาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะพยาบาลสาวควบงานหนักจนดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด “คือ…เอ่อ…ขวัญแค่ว่างน่ะค่ะหมอนิน”จะให้พูดยังไงดีล่ะ เธอเป็นพวกบ้างานหรือไม่ชอบอยู่คนเดียว จึงทำงานอย่างหนักเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง “พักผ่อนบ้างก็ได้” “นี่พวกเธอได้ข่าวยังเห็นว่าฝ่ายจัดหากำลังหาพยาบาลพิเศษไปดูแลมาเฟียที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เงินดีมากเลยนะ” “ไม่เอาอะ แกเดินผ่านห้องนั้นไม่เสียวสันหลังบ้างรึไง พวกคนชุดดำยืนเฝ้าหน้าห้องเต็มไปหมด” “ก็จริงของแก ถ้าดูแลไม่ถูกใจจะโดนฆ่ารึเปล่า” “นั่นสิ” “ของฝากมาแล้วจ้าสาวๆ”หมอธาราเดินเข้ามาพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรังถุงใหญ่ หลังจากเขาไปสัมมนามาหลายวันจึงถือโอกาสซื้อของมาฝากทุกคนโดยเฉพาะพยาบาลสาวตรงหน้า ขวัญนรีรีบยกมือบางขึ้นปิดจมูก เมื่อได้กลิ่นอะไรบางอย่างเหม็นๆออกมาจากในถุง ใช่ว่าหมอธาราจะซื้ออะไรที่เน่าเสียมาหรอกนะ “ไหนดูซิ”หมอนีรชาเปิดถุงนั้นยิ่งทำให้ขวัญนรีทนไม่ไหวจนต้องรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้เคียง อาเจียนออกมาจนหมด “เราเป็นอะไรไป ผลจากการพักผ่อนน้อยเหรอ”เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง “ขวัญอยู่รึเปล่าเป็นอะไรไหม”หมอนีรชาตามเข้ามาด้วยความเป็นห่วง “อยู่ค่ะหมอ เดี๋ยวขวัญออกไปนะคะ”หญิงสาวเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยความอ่อนเพลีย หมอนีรชาเข้าพยุงเธอไปที่หน้ากระจกเพื่อล้างมือ “โอเคไหม พี่บอกแล้วว่าอย่าโหมงานเยอะ” “โอเคแล้วค่ะ นั่งพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น”หมอนีรชาพยุงหญิงสาวออกจากห้องน้ำพาตรงไปยังห้องตรวจของเธอ “อาการเป็นยังไงบ้าง ไหนพี่ตรวจดูหน่อย”ขวัญนรีนั่งลงในห้องตรวจของคุณหมอนีรชาไม่วายมีหมอธารายืนอยู่ไม่ห่าง “ช่วงนี้มึนๆ อ่อนเพลีย แล้วเมื่อกี้ตอนได้กลิ่นอาหารที่หมอธารเอามาก็รู้สึกเหม็นคลื่นไส้ค่ะ” หมอนีรชาเลิกคิ้วขึ้นสูงอาการที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยบอกคล้ายเป็นอาการของคนที่กำลังตั้งท้องทั้งนั้น เธอแหงนหน้ามองหมอธาราซึ่งเขาคงมีความเห็นไม่ต่างจากเธอ “ประจำเดือนมารึยัง” “ยังค่ะ” “คงไม่ใช่หรอกหมอนิน ไม่ใช่ใช่ไหมคะหมอธาร ขวัญจะท้องได้ไงในเมื่อ.....”เสียงหวานหายเข้าไปในลำคอเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งนั้น “ตรวจหน่อยเถอะจะได้แน่ใจ”หมอนีรชาส่งกระบอกใส่ฉี่ให้หญิงสาว สีหน้าของเธอเครียดขึ้นทันที หลายเรื่องเข้ามาทำให้เธอเผลอลืมเรื่องคืนนั้นไป ไม่คิดว่าผลของคืนนั้นจะย้อนมาหาเธอในตอนนี้ใช้เวลาไม่นานผลแล็บก็เผยออกมาว่าเธอตั้งครรภ์ หัวใจดวงน้อยสั่นไหว น้ำตาที่อดกลั้นมาตั้งแต่เมื่อครู่ไหลออกมาจนเธอกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD