EP.18 #กังวล

1126 Words
“มึง กูว่ามันแปลก ๆ นะ” กันย์หันไปขอความเห็นจากควันหลงซึ่งยังคงนั่งตักเค้กเข้าปากกินทีละคำไม่พูดไม่จา ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ “แปลกยังไงวะ” ไปป์เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว “ก็น้องเขาเพิ่งย้ายคอนโดเมื่อวานไม่ใช่เหรอวะ แล้วน้องเขาก็พูดว่ายังไม่ได้โพสต์บอกใคร ถ้าเมื่อวานน้องเขาไม่มาเคาะประตูห้องไอ้ควันพวกเราก็คงไม่รู้เรื่องที่น้องเขาย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับเราหรอก แล้วไอ้แบล็กโซลอะไรนั่นมันรู้ได้ไงวะ?” สัญชาตญาณของพวกเขามันบอกถึงความไม่ชอบมาพากล และไม่ใช่แค่กันย์ที่คิด วาโยกับพิชาก็คิดเช่นกัน . . . อีกฟากหนึ่งของคาเฟ่ “โย ฉันว่ามันไม่โอเคเลยอ่ะ แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วนะ” ทันทีที่วาโยกดปิดไลฟ์ พิชารีบจับแขนเพื่อนด้วยความกังวล “เขาอาจจะบังเอิญเห็นฉันที่คอนโดใหม่ก็ได้ หรือไม่ก็เป็นคนอาศัยอยู่ในคอนโดนั้น แกอย่าลืมสิว่าที่นั่นมีนิสิตมอเราอยู่กันเยอะนะ” วาโยพยายามคิดในทางที่ดี แม้ในใจจะรู้สึกกังวลเหมือนกัน เธอรู้ดีว่างานที่ทำอยู่มันต้องแลกมาด้วยความไม่เป็นส่วนตัว และความไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังกล้องเหล่านั้นเป็นคนประเภทไหนบ้าง ตลอดเวลาที่เธอทำงานสายนี้ เธอเจอพวกไม่ประสงค์ดีมาทุกรูปแบบ โดยเฉพาะพวกโรคจิตและพวกเกรียนคีย์บอร์ด พวกนั้นทั้งส่งข้อความหา ทั้งโทรหา ถึงขั้นสะกดรอยตาม หรือดักรอหน้าคอนโดก็เคยมี แต่ทุกคนล้วนโดนแจ้งจับไปหมดแล้ว ทว่าคนเหล่านั้นยังคงไม่หมดไป และยังคงโผล่ออกมาจากเงามืดเรื่อย ๆ Rrr… “ค่ะพี่คิน” [พี่ตามไอพีของยูซเซอร์แบล็กโซลแล้วนะ มันขึ้นพิกัดร้านเน็ตฯ แถวคอนโดใหม่เรา ตอนนี้เรายังอยู่ที่คาเฟ่หรือเปล่า เดี๋ยวพี่รีบไปหา] พี่คินเป็นคนแรกเสมอที่คอยช่วยจัดการกับคนเหล่านี้ให้วาโย เธอรู้สึกซึ้งใจเขามากจริง ๆ “โยอยู่กับพิ พี่ไม่ต้องแวะมาหรอกค่ะ โยไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เข้าเรียนแล้ว” เธอพยักหน้าให้พิชาจ่ายเงิน ทั้งสองเดินออกจากคาเฟ่ด้วยกันโดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาของผู้ชายกลุ่มหนึ่งมองตามหลัง [โอเค งั้นเย็นนี้พี่แวะไปหาที่ห้องนะ] “พี่ไม่ต้องดูร้านเหรอ วันนี้สุดสัปดาห์นะ ลูกค้าเยอะน่าดูเลย” พิชาจับแขนเพื่อนพาเดินข้ามฝั่ง หลังขึ้นรถแล้วเธอรับหน้าที่ขับรถเข้ามหาวิทยาลัยแทน ทั้งคู่มาถึงหน้าคณะในเวลาไม่ถึงสองนาที ตลอดทางวาโยคุยสายกับอคินอยู่ตลอด พยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาทิ้งร้านมาหาเธอ “โยไม่เป็นไรจริง ๆ อีกอย่างระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดนี้ก็ดีมาก ไม่มีใครตามโยได้หรอกค่ะ พี่ไม่ต้องห่วงนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติโยจะรีบโทรหาพี่ทันทีเลยโอเคไหมคะ?” [เฮ้อ เข้าใจแล้วค่ะ แต่เราต้องรับปากพี่นะว่าถ้ามีอะไรผิดปกติต้องรีบโทรหาพี่ทันทีเลย] “ได้ค่ะ อ้อ แล้วก็อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ยุนะ โยไม่อยากให้เขากังวลจนเสียงานเสียการแบบครั้งก่อนอีก” นึกไปถึงพี่ชายเธอแล้วก็อดกลุ้มใจไม่ได้ ในอดีตเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ตอนนั้นพี่ยุทิ้งงานที่บริษัทแล้วขับรถมาหาเธอที่ชลบุรีทันทีเลย เขามาจัดการเรื่องคดีความจนตามจับตัวโรคจิตคนนั้นได้ในที่สุด แต่ก็ทำให้เขาเสียการเสียงานไปหลายวัน นับแต่นั้นเธอตั้งใจไว้ว่าถ้าเรื่องมันไม่ร้ายแรงนักก็จะไม่บอกพี่ยุเด็ดขาด [พี่รู้แล้ว เราเองก็อย่าไปไหนคนเดียว รู้ไหมคะ อยู่ใกล้ ๆ พิไว้] “ค่า ๆ รับทราบแล้วค่ะ” วาโยเดินตามหลังพิชาเข้ามาใต้ตึกคณะ เพราะเธอมีผมสีบลอนด์สว่างบวกกับรูปร่างหน้าตาโดดเด่น การปรากฏตัวของเธอจึงค่อนข้างได้รับความสนใจพอสมควร พิชาจูงมือเพื่อนเดินเข้ามาในลิฟต์พลางถอนหายใจออกมาแรง ๆ “ฉันว่าแกควรหาแฟนสักคนนะโย อย่างน้อย ๆ เขาก็ช่วยเป็นไม้กันเธอจากไอ้โรคจิตพวกนั้นได้” “แกพูดเหมือนว่าที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีแฟน คดีก่อนหน้านี้ที่ฉันโดนดักรอหน้าคอนโดนั่นก็ไม่ใช่เพราะว่าไอ้โรคจิตนั่นมันหึงที่ฉันมีแฟนหรือไง แถมแฟนฉันในตอนนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลยด้วยซ้ำ” เธอยืนกอดอกทำหน้าเซ็งเมื่อต้องนึกถึงความทรงจำแย่ ๆ ในอดีต “นั่นเพราะแกไม่ได้จริงจังกับเขาไม่ใช่เหรอ แกไม่ยอมให้เขาขึ้นคอนโดแกด้วยซ้ำป่ะ คบกันประสาอะไรให้แฟนเหยียบได้แค่ลานจอดรถใต้คอนโด ฉันล่ะงงใจกับแกจริง ๆ” เธอถึงกับเถียงไม่ออก เพราะที่พิชาเหน็บแนมมันคือความจริง “ช่างเรื่องนั้นเถอะน่า เอาเป็นว่าการมีแฟนมันไม่น่าจะช่วยอะไรฉันได้แล้วกัน” “แล้วถ้าแฟนคนนั้นเป็นพี่ควันหลงล่ะ?” คำถามของพิชาชะงักร่างบางนิ่งค้างไปเสี้ยววินาที เธอหลุบตามองพื้นปกปิดความรู้สึกในแววตา “แกอย่าพูดเลย พี่ควันไม่สนใจฉันสักนิด อย่าว่าแต่เป็นแฟน ให้เขายอมคุยกับฉันก่อนเถอะ” “ก็จริงแหละ แกเพิ่งเจอเขาไม่กี่ครั้งเองด้วยนี่ แล้วยังคิดจะเข้าหาเขาต่ออีกเหรอ” ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับความเงียบของทั้งสอง หลังก้าวออกมาวาโยจึงหันไปตอบ “แน่นอนสิ ฉันชอบเขา ยังไงก็จะจีบเขาให้ได้” “ต่อให้เขาไม่เล่นด้วยเนี่ยนะ?” “น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจคนเล่า” วาโยเชิดใบหน้าสวย ๆ ขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจ ทว่าคำพูดประโยคต่อมาของพิชากลับทำให้ความมั่นใจเธอห่อเหี่ยวลง “ประเด็นคือพี่ควันไม่ใช่หินแต่เป็นก้อนน้ำแข็งพันปีเลยนะแก ยิ่งน้ำหยดลง น้ำจะยิ่งกลายเป็นน้ำแข็งล่ะสิไม่ว่า” โธ่เอ๊ย! บั่นทอนกำลังใจฉันเก่งจริง ๆ เลยยัยนี่!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD