EP.04 #น่าสนใจ

1048 Words
“สายตาทุเรศ? นั่นมันฉันหรือเธอกันแน่ เหอะ! อีกอย่างนะ เมื่อกี้ฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ป่ะ ก็แค่มองเฉย ๆ จะเป็นจะตายหรือไง” “ช่วย? เมื่อกี้เสียงที่ตะโกนนั่นคือเสียงเธอ?” เรนนี่ทำหน้าบิดเบี้ยวหนักกว่าเดิม ปกติยัยนี่ก็สวยสู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว พอทำหน้าแบบนี้ยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่ “ใช่ ฉันเป็นคนตะโกนเองแหละ ฉันช่วยเขาเอาไว้” เธอมองไปทางผู้ชายด้านหลังเรนนี่ซึ่งยังคงยืนนิ่ง เขาไม่พูดอะไร ไม่แสดงสีหน้าอะไรด้วยซ้ำ นั่นทำให้วาโยรู้สึกหงุดหงิดหน่อย ๆ เขาลืมพกปากมาด้วยหรือไง หรือกลัวว่าพูดแล้วดอกพิกุลจะร่วง? “พูดอะไรของเธอ พี่ควันแข็งแกร่งขนาดนั้นไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วยสักนิด อีกอย่างเขาคือคนที่ช่วยฉันจากไอ้พวกนักเลงนั่นต่างหากล่ะ” ว่าไงนะ… ที่พวกเขามีเรื่องกันเมื่อกี้เป็นเพราะยัยเรนนี่งั้นเหรอ? เรนนี่เห็นสีหน้านิ่งอึ้งของวาโยจึงยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ เธอหันกลับมาหาผู้ชายด้านหลัง สองมือคว้าจับแขนแกร่งเบา ๆ พลางทำน้ำเสียงออดอ้อน “พี่ควันไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เมื่อกี้เรนนี่กลัวมากเลยค่ะ ขอบคุณพี่นะคะที่ช่วยเรนนี่ ถ้าไม่ได้พี่… เรนนี่อาจจะถูกพวกมัน…” เธอก้มหน้าทำเสียงสะอื้นเบา ๆ วาโยอดจะเบะปากมองการแสดงเด็ก ๆ นั่นไม่ได้ ฟึ่บ “ฉันไม่ได้จะช่วยเธอ หลบไป มันขวางทางออก” น้ำเสียงเย็นชาสุดขั้วหัวใจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ มือหนาผลักเรนนี่ให้หลบทางก่อนเดินอ้อมมาหยุดยืนด้านข้างรถสปอร์ตคันหรูซึ่งจอดอยู่ตรงนั้น วาโยเลิกคิ้วมองเขาที่เปิดประตูขึ้นนั่งบนรถ สตาร์ทรถ และถอยรถออกจากซอง ก่อนขับพุ่งทะยานออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นของควันรถลอยอบอวลในมวลอากาศกับ… นกบางตัว “อุ๊บ… ฮ่า ๆ ๆ” ไม่ไหวแล้ว เธอกลั้นขำเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ “ขำบ้าอะไรยะ!!” เรนนี่หันมาตวาดเสียงใส่เธอหน้าแดง ดูท่าว่าจะอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีแล้วมั้ง ยัยนี่มั่นหน้ามั่นโหนกคิดว่าผู้ชายที่ชื่อควันอะไรนั่นมาช่วยเธอด้วยความเสน่หา แต่ที่ไหนได้หมอนั่นไม่ได้คิดจะช่วยเธอ แต่เพราะพวกนั้นบังเอิญขวางทางออกของรถเขาต่างหาก เขาเลยต้องเคลียร์เส้นทางออกให้รถตัวเอง “ฮ่า ๆ เดี๋ยวนะ ขอฉันหายใจแป๊บ” เธอไม่ได้หัวเราะหนักขนาดนี้นานแล้ว หัวเราะจนน้ำตาไหลอ่ะคิดดู โอ๊ย เหนื่อยชะมัด! “เธอ… ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ ห้ามยุ่งกับพี่ควันเด็ดขาด!” วาโยชะงักเล็กน้อย เธอปาดเช็ดคราบน้ำตาจากการหัวเราะอย่างหนัก เหลือบมองร่างบางตรงหน้า สายตาเรนนี่จริงจังอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอมองออกถึงความกังวลในแววตาเกลียดชังคู่นั้น “พี่ควัน?” “อะไรของเธอ!” “เธอหมายถึงพี่ควันไหนล่ะ?” รอบตัววาโยไม่เคยรู้จักใครที่ชื่อควันมาก่อน ถึงจะรู้สึกคุ้น ๆ หูอยู่บ้างก็เถอะ “ฉันก็หมายถึงพี่ควันหลงน่ะสิ!” “ควันหลง? หืม…” เธอคุ้นชื่อนี้จริง ๆ ด้วย “ก็พี่ควันหลงคนที่ขับรถออกไปเมื่อกี้ไงยะ! นี่อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้จักพี่ควันน่ะ!” เรนนี่อ้าปากเหวอมองเธอตาโต “แล้วทำไมฉันต้องรู้จักเขาด้วยล่ะ ฉันก็เพิ่งเคยเห็นหน้าเขาครั้งแรกวันนี้นี่แหละ” เธอตอบตามตรง เรนนี่อ้าปากกว้างกว่าเดิม เธอหันหน้าหนีบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่วาโยกลับได้ยินมันชัดเจน “นี่ฉันพลาดบอกชื่อพี่ควันกับศัตรูหรือเนี่ย” ริมฝีปากสีแดงสดบิดยิ้มมุมปาก นึกขอบคุณความโง่ของผู้หญิงตรงหน้าจริง ๆ เพราะเธอไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาตัวตนของผู้ชายคนนั้นแล้วไงล่ะ “ช่างเถอะ ฉันกลับบ้านดีกว่า” วาโยพูดอย่างไม่ใส่ใจ หมุนตัวเดินกลับ แต่ถูกเสียงเรียกจากด้านหลังรั้งเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน…” “มีอะไร?” เธอหันมาสบตากับเรนนี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เธอ… เธอไม่ได้สนใจพี่ควันใช่ไหม?” หืม… ถามกันตรง ๆ แบบนี้เลยเหรอ… วาโยนิ่งเงียบไปเกือบนาที เธอทำเหมือนกำลังคิดทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะมันมีคำตอบในใจอยู่แล้วไงล่ะ “เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกัน” “งั้นแปลว่าเธอไม่ได้สนใจ…” “สนใจสิ” “…!!” รอยยิ้มร้ายเผยออกมาบนใบหน้าสวย แววตาซุกซนแสนมีเสน่ห์ทอประกายวาววับราวกับเจอเรื่องสนุกสุด ๆ “พี่ควันหลงน่ะ… น่าสนใจสุด ๆ เลยล่ะ” . . . วันต่อมา “แค่ก ๆ ๆ แกว่าไงนะไอ้โย??” “ฉันจะจีบพี่ควันหลง” คำพูดสบาย ๆ ราวกับพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศของวาโยเรียกสายตาพิชากับเจเจหันมองกันแทบจะทันที วันนี้หลังจากทั้งสามคนเรียนเสร็จก็พากันมานั่งชิลที่คาเฟ่แถวมหาวิทยาลัย แล้วจู่ ๆ วาโยก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาพิชาสำลักชานมจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว “เดี๋ยวก่อนนะไอ้โย แกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่วะ” “อะไรของพวกแกเนี่ย ฉันก็พูดไปสองรอบแล้วไง มันเข้าใจยากตรงไหน” “ไม่ ๆ มันไม่ได้เข้าใจยาก แต่มันไม่เข้าใจเลยเว้ย!” “ไม่เข้าใจยังไง ก็ฉันจะจีบพี่ควันไง ฉัน-จะ-จีบ-เขา!” เธอชี้ปากตัวเองแล้วพูดทีละคำ เจเจอ้าปากค้าง ก่อนจะตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ หนึ่งทีเพื่อเรียกสติ “โอเค แกจะจีบพี่ควัน” “อ่าหะ” “ควันที่ว่าเนี่ยคือควันไหน?” “ควันหลง” “…” “ก็บอกว่าควันหลงไงเล่า!” เธอชักโมโหแล้วนะ ทำไมไอ้สองคนนี้ต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีกันด้วยอ่ะ “แกหมายถึง… ควันหลงคนนั้น…” “คนที่อยู่ปีสองเอกประติมากรรม…” “หืม… พี่ควันหลงอยู่ประติมากรรมปีสองเหรอ?” “ห๊ะ! / อ้าว!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD