EP.27 #ผีเสื้อกับงู

1079 Words
วาโยเข้ามานั่งในร้านสักในเย็นวันต่อมา ควันหลงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้เธอ มันคือแบบรอยสักที่เธอเอามาเป็นตัวอย่างให้เขาดูเมื่อวาน แต่มันถูกดัดแปลงแตกต่างไปจากเดิม มันดู… สวยกว่าเดิมมาก “นี่อะไรคะ?” “แบบรอยสักของเธอ ฉันลองออกแบบให้ใหม่” พี่ควันทำเธอแปลกใจมาก ๆ เมื่อวานเขาทำท่าเหมือนไม่เห็นด้วยที่เธอเลือกลายนี้ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับไปออกแบบมาให้เธอใหม่ แถมยังสวยมากกว่าเดิมมาก ๆ ด้วย “นี่คือ… ผีเสื้องั้นเหรอ?” ภาพวาดรอยสักบนแผ่นกระดาษมีขนาดเท่าฝ่ามือของเธอ สิ่งที่เด่นสะดุดตาก็คือผีเสื้อแสนสวยตัวหนึ่งกำลังกางปีกบินอยู่เหนือดอกกุหลาบซึ่งถูกเลื้อยพันด้วยงูตัวหนึ่งจนกลีบดอกบางกลีบช้ำและร่วงโรยลงโดยมีสายลมพัดพลิ้วกลีบเหล่านั้น มันเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ เหมาะสมกับการสักให้ผู้หญิงจริง ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอ “ฉันคิดว่ารูปงูพันดอกไม้ที่เธอเลือกมาตอนแรกมันดุดันเกินไป ไม่เข้ากับเธอ” “พี่เลยเพิ่มผีเสื้อเข้าไปเพราะคิดว่าผีเสื้อมันเข้ากับฉันงั้นเหรอ” เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาสุกสกาว สีหน้าบ่งบอกว่าพอใจกับแบบวาดนี้มาก คนถูกมองหลุบตาลงจัดเก็บอุปกรณ์ในมือต่อไป “ถ้าไม่ชอบ ฉันวาดให้ใหม่ได้” “ใครว่าไม่ชอบละคะ! โยชอบมาก ๆ เลยต่างหาก นี่มันสวยเกินคาดด้วยซ้ำ” วาโยเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขา มองพี่ควันของเธอด้วยสีหน้าชื่นชม เธอคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่ชอบผู้ชายคนนี้ สิ่งที่เขาเป็นมันดึงดูดเธอจนถอนตัวไม่ไหวแล้ว นับวันก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น และมากขึ้น ควันหลงเหลือบตามองผู้หญิงตรงหน้า สีหน้าและแววตาของเธอแสดงออกถึงความชมชอบเขาอย่างไม่ปิดบัง ความรู้สึกดูแคลนผุดขึ้น ริมฝีปากหนาบิดยิ้มเย็นชา เธอก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่คลั่งไคล้หลงใหลเขาเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอก น่ารำคาญสิ้นดี… “โยจะสักลายนี้ค่ะ โยชอบความหมายของมัน” เขาชะงักนิ่ง เงยหน้ามองเธออีกครั้ง “ความหมาย?” “ก็ความหมายของรอยสักนี้ไงคะ” เธอชูกระดาษในมือขึ้นและชี้ไปที่ผีเสื้อ “ผีเสื้อตัวนี้ก็คือโย” ก่อนเลื่อนลงมาชี้ที่งู “ส่วนงูตัวนี้ก็คือพี่ควัน” เธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่? ควันหลงจ้องเธอเพื่อรอฟังคำพูดต่อไป แต่ดูเหมือนเธอเพิ่งคิดอะไรได้ วาโยเก็บกระดาษแล้วเดินกลับมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม “แล้วเราจะเริ่มสักกันเมื่อไหร่ดีคะ โยต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง” อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องแบบนี้เลย? “ถ้าเธอโอเคกับแบบนี้แล้ว ที่เหลือก็แค่ดราฟแบบนั่นลงบนผิวเธอ” “หมายถึงวาดลงบนผิวโย?” ควันหลงมองเธอด้วยแววตาเรียบนิ่งโดยไม่ได้ตอบอะไร เขาหยิบกระดาษดราฟลายออกมาวางบนโต๊ะและวางกระดาษต้นแบบทับลงไป วาโยมองขั้นตอนการทำงานของเขาจึงเริ่มเข้าใจมากขึ้น “อ้อ ต้องใช้กระดาษดราฟลายสินะ” เธอเกือบลืมขั้นตอนเริ่มต้นของการสักไปได้ยังไงกันเนี่ย ทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งหาข้อมูลมาแท้ ๆ “ไปนั่งรอ เดี๋ยววันนี้ดราฟลายไว้เลย พรุ่งนี้ค่อยเริ่มสัก” เขาออกคำสั่งขณะมือเริ่มร่างเส้นลงบนกระดาษดราฟ “งั้นโยต้องถอดเสื้อรอเลยไหมคะ” เธอทำท่าจะปลดเข็มกลัดกระดุมนักศึกษา มือที่กำลังร่างเส้นชะงักกึกหันมองทันที จริงสิ เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย… ยุ่งยากฉิบ “ไม่ต้อง พรุ่งนี้ใส่เสื้อเชิ้ตมาด้วย ค่อยดราฟแล้วเริ่มสักพรุ่งนี้” “ทำไมคะ ดราฟวันนี้เลยก็ได้นี่ เสื้อนักศึกษาก็มีกระดุมหน้าเหมือนเสื้อเชิ้ตนั่นแหละ” เธอไม่เห็นเข้าใจเลยว่ามันต่างกันยังไง “ไม่ได้ วันนี้เธอกลับไปซะ พรุ่งนี้ตอนเย็นค่อยมาใหม่” น้ำเสียงเขาฟังดูหงุดหงิดหน่อย ๆ ต่างจากสีหน้าราบเรียบที่แสดงออกมา “แต่ว่า…” “ล็อกประตูให้ฉันด้วย” โอเค… เขาไล่เธอง่าย ๆ แบบนี้เลย! หลังวาโยกลับไปไม่นานไฟในร้านสักดับลงพร้อมกับร่างสูงเดินออกมาจากร้าน เขาเดินไปตามทางลานจอดรถ ระหว่างทางเดินมีร้านรวงขายของมากมาย ปกติเขาไม่เคยใส่ใจจะมอง ทว่าวันนี้สายตากลับชะงักหยุดตรงร้านขายเสื้อผ้าร้านหนึ่ง สายตาคมจ้องมองผ้าคลุมไหล่ผืนหนึ่งบนตัวหุ่นโชว์หน้าร้าน จู่ ๆ ภาพร่างบางกำลังก้มหน้าปลดเข็มกลัดกระดุมนักศึกษาแวบเข้ามาในหัว ริมฝีปากหนาเหยียดเป็นเส้นตรง สีหน้าเย็นยะเยือกขึ้นกว่าเดิม เขาก้าวเข้าหาร้านนั้นโดยไม่ต้องคิด เจ้าของร้านสาววัยยี่สิบต้น ๆ หันมองลูกค้าหนุ่มสุดหล่อด้วยสีหน้าตื่นตะลึงอึ้งเล็กน้อย ร้านของเธอขายเสื้อผ้าผู้หญิงจึงไม่ค่อยมีลูกค้าผู้ชายสักเท่าไหร่ แถมลูกค้าคนนี้ก็หล่อมากซะด้วย เธอรีบออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “สนใจเสื้อผ้าชุดไหนดีคะ” “ผ้าคลุมไหล่นั่น” เขาชี้ไปทางผ้าคลุมไหล่บนตัวหุ่นโชว์โดยไม่ชายตามองเจ้าของร้านเลยสักนิด “อ้อ ผ้าคลุมผืนนี้หรือคะ นี่เป็นผืนสุดท้ายของทางร้านแล้ว เดี๋ยวลดราคาพิเศษให้เลยค่ะ” เธอปลดผ้าคลุมออกเดินกลับเข้ามาในร้าน หลังพับใส่ถุงเรียบร้อยจึงนำกลับมายื่นส่งให้เขา “ปกติขายสี่ร้อยห้าสิบบาท ลดให้เหลือสี่ร้อยบาทแล้วกันค่ะ” มือหนาหยิบแบงค์สีม่วงออกจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้เจ้าของร้านและรับถุงมาถือก่อนหมุนตัวเดินออกมา เสียงเจ้าของร้านตะโกนเรียกตามหลัง “เอ๊ะ เดี๋ยวสิคุณ รอเงินทอนก่อนสิคะ” “ไม่ต้องทอน” น้ำเสียงเย็นชาตอบโดยไม่หันกลับมามอง ท่าทางเหมือนคุณชายบ้านรวยผู้ไม่สนใจใครนั้นทำให้เจ้าของร้านอดนึกอิจฉาผู้หญิงเจ้าของผ้าคลุมไหล่ผืนนั้นในใจไม่ได้ ได้รับความใส่ใจจากคนแบบนั้น… ควรอิจฉาน่ะถูกแล้ว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD