ครืด…
แรงสั่นจากโทรศัพท์บนโต๊ะเรียกสายตาคมหลุบมอง เขาหยิบมาเปิดดูแจ้งเตือนก่อนจะปัดทิ้งอย่างไม่สนใจไยดีแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ใบหน้ายังคงเรียบนิ่งไร้อารมณ์มองตรงไปทางหน้าคลาสเรียน ฟังอาจารย์บรรยายต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วันนี้อาจารย์จะให้นักศึกษาจับคู่ทำงานปั้นชิ้นใหม่นะคะ รายละเอียดอยู่ในชีตนี้แล้ว กำหนดส่งคือหนึ่งเดือนหลังจากนี้ เอาล่ะค่ะ เริ่มจับคู่กันอย่างอิสระได้เลย” หลังสิ้นสุดคำสั่ง ภายในคลาสเรียนปรากฏเสียงพูดคุยดังขึ้น ทุกคนต่างจับคู่กันทำงาน ทว่ามีเพียงชายร่างสูงคนหนึ่งที่ยังคงนั่งอยู่กับที่ไม่ลุกไปไหนและไม่พูดคุยกับใคร บรรยากาศรอบตัวเขาแผ่กลิ่นอายอึมครึมออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แม้ว่าหน้าตาของเขาจะดึงดูดหัวใจสาว ๆ แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามาทักทายเลยสักคน
ความจริงก่อนหน้านี้เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งใจกล้าเข้ามาทักทายเขา แต่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นพูดอะไรจึงถูกเขามองด้วยแววตาเย็นยะเยือก จากนั้นเธอก็ไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้เขาอีกเลย รวมถึงคนอื่น ๆ ในคลาสด้วย
ควันหลงถอนหายใจเบา ๆ เขาชินแล้วกับการถูกคนรอบข้างมองด้วยสายตาแบบนี้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้เกลียด กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวาย เขาไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่ชอบความวุ่นวายน่าปวดหัว ถ้าไม่ติดว่าต้องมาเรียนให้จบ ๆ ไป ป่านนี้เขาคงหมกตัวอยู่แต่ในร้านสักของเขาไม่ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันแล้ว
“เอาล่ะ หมดเวลาแล้วค่ะนักศึกษา จับคู่กันครบแล้วใช่ไหม?”
“เอ่อ อาจารย์คะ …คือเขาไม่มีคู่อ่ะค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทุกสายตาพร้อมใจกันมองมาที่ร่างสูงหลังห้องทันที
“อ้าว อย่างนั้นเหรอ แต่อาจารย์จำได้ว่าคลาสนี้มีนักศึกษาครบจำนวนคู่นะ มีใครยังไม่มาเรียนหรือเปล่า?”
“อ้อ มีค่ะ อ๊ะนั่นไง ยัยเอิงมาแล้ว”
ทุกสายตาพากันเปลี่ยนจากร่างสูงหลังห้องไปมองร่างเล็กที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงหน้าประตูห้อง เธอขยับแว่นสายตาเล็กน้อยพลางหอบหายใจมองทุกคนด้วยสายตางุนงงที่จู่ ๆ ตกเป็นเป้าสายตา แค่เธอมาสายต้องมองกันขนาดนี้เลยเหรอ?
หรือว่าเธอพลาดเรื่องสำคัญอะไรไป…
“โอเค งั้นก็ครบคนแล้ว เธอคู่กับเขาก็แล้วกัน เลิกคลาสได้” อาจารย์พูดจบก็เดินออกจากห้องผ่านร่างบางที่ยังมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า
ฟึ่บ
ร่างสูงลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาทุกคนในห้องเช่นกัน เขาเก็บชีตใส่เป้แล้วสะพายไหล่เดินผ่านร่างบางไปอีกคน
อย่างที่บอกว่าเขาไม่ได้สนใจใครเลย ไม่ใส่ใจด้วยว่าต้องทำงานคู่กับใคร แค่ทำ ๆ ให้เสร็จแล้วส่งตามกำหนดก็พอ ที่เหลือจะยังไงก็ช่าง
.
.
.
ห้องอาหารส่วนกลาง
“เออพวกมึง เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วพวกมึงจะไปไหนกันต่อป่ะ”
ไปป์ถามขึ้นขณะทุกคนกำลังนั่งทานมื้อกลางวันภายในห้องอาหารส่วนกลางของมหาวิทยาลัย วันนี้ฉลามกับเฟียไม่ได้อยู่ด้วยเพราะสองคนนั้นเรียนเอกเคมี จึงไม่ค่อยมีเวลาพักตรงกัน ต่างจากไปป์กับกันย์ที่เรียนคณะศิลปกรรมเหมือนกับควันหลง ทั้งสามคนจึงรวมกลุ่มกันกินข้าวด้วยกันเป็นประจำ
“กลับร้าน มีนัดกับลูกค้า” ควันหลงตอบเสียงไร้อารมณ์ แรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์ทำเขาชะงักเล็กน้อยก่อนหยิบมันขึ้นมาดู คิ้วเข้มเลิกขึ้น ใบหน้าที่ปกติเรียบเฉยปรากฏริ้วอารมณ์จาง ๆ
เขาจำได้ว่าปัดทิ้งไปแล้วนี่… แล้วทำไมมันขึ้นแจ้งเตือนซ้ำอีกวะ…
“มีไรวะ?” กันย์สังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของเพื่อนจึงชะโงกหน้าดูตามนิสัยขี้เผือก “หืม… มีสาวฟอลโล่ไอจี?”
“ใครวะ ๆ” ไปป์หูผึ่งทันที และก่อนควันหลงจะทันตั้งตัวโทรศัพท์ในมือก็ถูกกันย์แย่งไป
“เฮ้ย เอาคืนมา” เขาทำสายตาดุดันใส่ แต่มีหรือคนอย่างกันย์จะกลัว
“เอามาส่องก่อนว่าใคร ปกติไอจีมึงปิดไพร์เวทไว้นิ คนที่แอดมาส่วนมากก็เป็นลูกค้าร้านสักมึง อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้ก็ด้วย?”
“ไม่ใช่” เขาตอบกลับทันที
“หืม? มึงรู้จัก?”
“ไม่รู้จัก ถึงบอกว่าไม่ใช่ไง”
“ไหนดูหน้าหน่อยสิ… เฮ้ยย” จู่ ๆ กันย์ตะโกนแหกปากดังลั่นจนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองพวกเขา ไปป์รีบกระโจนมาดูด้วยอีกคน
“วาโยคามิร่า… ไอจีนี้คุ้น ๆ ว่ะ”
“ไม่คุ้นได้ไงอ่ะมึง นี่น้องวาโยดาวคณะเราไง!” กันย์ทำเสียงตื่นเต้นขณะกดเข้าไอจีวาโยแล้วเลื่อนส่องรูปทีละรูป
“เออว่ะ น้องเขาเป็นเน็ตไอดอลด้วยนี่ ใช่คนที่เราเจอที่ผับเมื่อคืนป่ะ โห โคตรสวยเลยมึง สาวสายฝอนี่เซ็กซี่ขยี้ใจสุด ๆ”
“ดูกันพอยัง เอาโทรศัพท์กูคืนมาด้วย” น้ำเสียงเย็น ๆ ดังขัดอารมณ์คึกคักของไปป์กับกันย์ ดวงตาคมจ้องโทรศัพท์ตัวเองในมือกันย์นิ่ง ๆ
“เดี๋ยวก่อนนะไอ้ควัน มึงรู้จักน้องเขาด้วยเหรอวะ?”
“ไม่รู้จัก”
“ตอแหล!” กันย์เท้าสะเอวหรี่ตามองเหมือนเมียกำลังจับผิดผัว “ถ้าไม่รู้จักแล้วอยู่ ๆ น้องเขาจะมาฟอลมึงได้ไง ถึงขนาดตามหาไอจีไพร์เวทมึงเจอเลยนะ”
“กูไม่รู้จัก เลิกพูดมากแล้วเอาโทรศัพท์กูคืนมา!” เขาเริ่มหงุดหงิดแล้ว
“เออ กั๊กกูนะมึง กดรับแม่งเลย” กันย์จิ้มนิ้วรัว ๆ บนหน้าจอ ควันหลงรีบคว้าคืนมาเปิดดู เขาชะงักนิ่งหลับตาสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้ตวัดเท้าเตะตูดเพื่อนรัก
“มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย”
ควันหลงแทบจะกุมขมับเมื่อเห็นว่ากันย์กดรับฟอลวาโยเรียบร้อยแล้ว เขาทำท่าจะกดยกเลิกแต่ถูกกันย์พูดดักคอเอาไว้
“อ๊ะ ๆ กดรับฟอลเขาแล้วกดยกเลิก เสียฟอร์มตายเลยนะมึง เดี๋ยวทางนั้นเขาก็คิดว่ามึงมัวแต่ส่องรูปเขาจนมือลั่นหรอก”
ปลายนิ้วโป้งที่กำลังจะแตะปุ่มอันฟอลนิ่งค้าง เขาตวัดสายตาอาฆาตใส่กันย์ที่นั่งหัวเราะร่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
บ้าบอฉิบหาย…