“ร้านนี้หรือเปล่านะ”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะเงยหน้ามองหาป้ายชื่อร้านซึ่งมันไม่มีเลย เธอมองร้านแถวนั้นบ้าง มีแต่ร้านประจำเธอทั้งนั้น เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ไหนไกลเลย แต่เป็นย่านการค้าหน้ามหาวิทยาลัยนั่นแหละ
ตอนได้พิกัดร้านจากพี่ฉลามมาเธอถึงกับประหลาดใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าร้านสักของพี่ควันหลงจะอยู่แค่หน้ามหาวิทยาลัยนี่เอง แถมเธอยังมาเดินย่านการค้านี้เป็นประจำ ทว่ากลับไม่เคยเจอร้านเขาเลย แต่พอมาเห็นหน้าร้านก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแล้ว ก็ร้านสักของพี่ควันหลงน่ะ นอกจากจะไม่มีป้ายชื่อร้านแล้ว ประตูทางเข้ายังเป็นประตูทึบธรรมดา ๆ ด้วย ไม่มีกระจก ไม่มีข้อความระบุสักนิดว่านี่เป็นร้านอะไร ใครผ่านไปมาก็คงคิดว่าเป็นห้องเก็บของซะมากกว่า
วาโยละความคิดกลับมา จัดแจงเสื้อผ้าหน้าผม หยิบตลับแป้งขึ้นมาเติมลิปสติกเล็กน้อย ส่งจูบเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองหนึ่งทีก่อนเก็บเครื่องสำอางใส่กระเป๋า สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ยื่นมือผลักประตู
กึก
ล็อกแฮะ… เป็นอย่างที่พี่ฉลามพูดจริง ๆ ด้วย
‘ปกติร้านไอ้ควันไม่เปิดรับคนนอกง่าย ๆ มันล็อกประตูไว้ตลอด ถ้าไม่ใช่ลูกค้ามัน มันไม่เปิดประตูให้หรอก’
‘งั้นจะทำยังไงดีคะ พี่ฉลามคงไม่ได้มีกุญแจร้านหรอกใช่ไหม?’ เธอโยนหินถามทางลอบสังเกตสีหน้าพี่ฉลาม เมื่อเห็นว่าเขาทำตาหลุกหลิกเหลือบมองแฟนตัวเอง ริมฝีปากสีสดยกยิ้มบางแวบหนึ่ง ก่อนแสร้งตีหน้าผิดหวัง ‘นั่นสินะ พี่จะไปมีกุญแจร้านพี่ควันได้ยังไงกัน ของสำคัญแบบนั้นเขาคงไม่ให้คนอื่นง่าย ๆ หรอกเนอะ’
‘ฮึ คนอื่นอะไรกัน ฉันกับมันซี้กันอย่างกับพี่น้องคลานตามกันมา พ่อฉันกับพ่อมันก็เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนเชียวนะ กับอีแค่กุญแจร้านมันฉันจะไม่มีได้ยังไง’ ฉลามยืดตัวกอดอกพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ ชบากลอกตาให้กับความซื่อบื้อของแฟนตัวเอง ไอ้นิสัยขี้อวดนี่แก้ยังไงก็แก้ไม่หายสินะ
วาโยยิ้มกว้างเมื่อพี่ฉลามตกหลุมพราง เธอประสานมือไว้ใต้คางมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพสรรค์สร้างตาปริบ ๆ
‘ถ้างั้น… โยขอยืมได้ไหมคะ?’
ฉลามชะงักนิ่ง เหมือนเขาจะคิดขึ้นได้แล้วว่าตัวเองเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดไป อยากจะตบปากตัวเองแรง ๆ สักที
‘มันฆ่าฉันตายแน่ ๆ’
วาโยหยักยิ้มบาง ๆ มองกุญแจในมือ เธอก็แค่ยืมเฉย ๆ แหละน่า ใช้เสร็จจะรีบเอากลับไปคืนทันทีเลย
กริ๊ก
เสียงปลดล็อกประตูดังเบา ๆ พร้อมกับร่างบางแทรกตัวเข้ามาด้านในร้าน เธอปิดประตูให้สนิทเหมือนเดิม เก็บกุญแจใส่กระเป๋าสะพาย หันมองภายในร้าน คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย
ไม่มีใครอยู่งั้นเหรอ…
ภายในร้านสักแห่งนี้ไม่ได้ต่างจากร้านสักทั่วไปเท่าไหร่นัก บนฝาผนังติดรูปรอยสักลวดลายงูดูน่ากลัวแต่ก็สวยงามจนน่าทึ่งอยู่สองสามรูป แสงไฟภายในร้านเป็นแสงวอมไลท์สีนวลแลดูอบอุ่น หากทว่าอุณหภูมิห้องกลับเย็นจัดราวกับตู้แช่แข็ง!
“หนาวชะมัด” ริมฝีปากสีสดบ่นเบา ๆ สองเท้าก้าวเข้ามาในร้านเรื่อย ๆ เธอมองประตูบานหนึ่งซึ่งอยู่ตรงกึ่งกลางร้านพอดี บนประตูมีช่องกระจกเล็ก ๆ เป็นกระจกทึบสีดำสนิทไม่สามารถมองเห็นด้านใน ร่างเพรียวระหงหยุดยืนหน้าประตูค่อย ๆ บิดลูกบิดเปิดออกและพบว่ามันไม่ได้ล็อก
ความเย็นเฉียบสายหนึ่งตีกระทบใบหน้าสวย ขนอ่อนบนผิวหนังลุกชันรับความหนาวจับใจ คิ้วเรียวสวยขมวดเล็กน้อย
เธอเข้าผิดร้านหรือเปล่าเนี่ย นี่ร้านสักหรือตู้แช่ปลาทะเลกันแน่ ทำไมอุณหภูมิมันเย็นจัดเหมือนติดลบขนาดนี้??
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องและพบกับร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังนอนเอนกายอยู่บนเตียงสัก เธอลอบถอนหายใจเบา ๆ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เข้ามาผิดที่ผิดทาง เพราะคนที่เธอกำลังตามหาปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว
ร่างสูงในชุดนักศึกษาไม่เรียบร้อยกำลังเอนกายนอนหลับตาอยู่บนเตียงสัก เขานอนนิ่งมาก นิ่งเหมือนรูปปั้น ถ้าไม่เห็นว่าหน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงหน่อย ๆ เธอคงคิดว่าเขาเป็นหุ่นไปแล้ว
วาโยขยับเดินเข้ามาใกล้ร่างสูงบนเตียง โฟกัสสายตาหยุดอยู่บนเรือนผมสีดำสนิทยาวประบ่าแผ่สยายบนเบาะนุ่มเผยให้เห็นจิวต่างหูเท่ ๆ เด่นชัด ยิ่งเข้าใกล้เขาเธอก็ยิ่งมองเห็นเค้าโครงใบหน้าของเขาได้ชัดขึ้น ความดูดีที่สะกดสายตาเธอตั้งแต่แรกเห็นยังคงดึงดูดหัวใจดวงน้อยได้อย่างดี เธอจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาระดับเกินมนุษย์จนแทบหยุดหายใจ ไล้สายตาจากสันกรามมาถึงลำคอ ลูกกระเดือกนูนเด่นสมชายชาตรี รอยสักลวดลายเท่ ๆ โผล่จากคอเสื้อเล็กน้อย หน้าอกของเขาพายไหล่ผึ่ง ท่อนแขนล่ำสันไม่ได้บอบบางเหมือนชายไทยทั่วไป สายตาซุกซนหยุดลงตรงหน้าท้องแกร่งภายใต้เสื้อนักศึกษาหลุดลุ่ย กระดุมสองสามเม็ดปลดออกเผยให้เห็นลอนกล้ามหน้าท้องเป็นริ้ว ๆ
ความรู้สึกแห้งผากตีวนขึ้นมาจนอดเลียริมฝีปากไม่ได้ ผู้ชายคนนี้งานดีเกรดพรีเมี่ยมเกินไป เธอไม่เคยเห็นใครแซ่บเท่าเขามาก่อนเลย!
หน้าตาหล่อเหลา หุ่นแซ่บน่ากัด แถมยังแผ่กลิ่นอายบุรุษเพศข้นคลั่กแม้เพียงนอนหลับตานิ่ง ๆ
นี่มันไม่ดีต่อใจเธอเกินไปแล้ว!
อยากได้… ผู้ชายคนนี้วาโยอยากได้!
เสียงในใจกู่ร้องออกมาดังลั่น เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกรุนแรงแบบนี้ ตั้งแต่เกิดจนเติบโตมาอายุสิบแปดปี วาโยพบเจอผู้ชายมาแทบจะทุกประเภท ทุกเชื้อชาติ แต่ไม่เคยเจอใครที่ดึงดูดเธอได้ขนาดนี้มาก่อน
หลังเรียนจบไฮสคูลที่อเมริกาวาโยตัดสินใจบินกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองไทย เธอเบื่อหน่ายกับชีวิตต่างถิ่นเต็มทน แม่เธอทนได้ แต่เธอทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เธออยากกลับบ้านเกิด อยากกลับมาสู่อ้อมกอดของพ่อและพี่ชายสุดที่รัก และเพราะการตัดสินใจครั้งนั้นทำให้เธอผิดใจกับแม่บังเกิดเกล้าผู้เลี้ยงดูเธอมาสิบแปดปีเต็ม จนถึงทุกวันนี้ ผ่านมาครึ่งปีแล้วแม่ก็ยังไม่หายงอนเธอเลย
ช่างเรื่องนั้นก่อน กลับมาที่เรื่องของผู้ชายตรงหน้าเธอ วาโยตัดสินใจแล้ว…
ผู้ชายคนนี้… โยจอง!