Chapter 2: ปีกสีแดงราวเพลิง

1765 Words
ฉึก! จู่ ๆ ปลายมีดพกเล่มเล็กที่สาวน้อยหน้าใสดึงออกมาจากด้านหลังก็แล่นเฉียดใบหน้าหล่อจัดของไวน์ลงปักพื้น ซอมพอรีบกระโดดขึ้นคร่อมร่างใหญ่ของไวน์ที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพื้นแล้วถามเขาเสียงเหี้ยมที่สุดเท่าที่สาวน้อยจะทำได้ “แม่ง... หล่อ ๆ อย่างพี่ถ้าอยากได้สาวสักคนไปตกตามผับตามบาร์ก็น่าจะได้ ทำไมถึงมาเที่ยวผู้หญิงแล้วหาเรื่องไม่จ่ายเงินได้วะ? นี่ลงไม้ลงมือกับคนของหนูด้วยหรือเปล่า?” “น้องเองก็หน้าตาน่ารัก ทำไมพูดจาน่าตบปากจังวะ? คำหยาบหลุดออกมาจากปากฟังแล้วความน่ารักหายไปหมดเลย” ชายหนุ่มสวนกลับทันที เพียะ! มือน้อย ๆ ของน้องประทับลงมาบนใบหน้าหล่ออย่างแรง เธอตบไวน์จนเขาหน้าหัน ชายหนุ่มกัดฟันกรอดแล้วหันมาจ้องตาเธอ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กน้อยพ่อจะจับตีก้นให้ลายเลยทีเดียว... หนุ่มหล่อได้แต่คิดในใจแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อประเมินสถานการณ์ ความจริงคน 4-5 คนเขาน่าจะพอสู้ไหว ติดแต่ตรงพวกมันมีปืนด้วยนี่แหละ ประตูทางออกก็ถูกพวกมันปิดอยู่ ถ้าจะหนีก็คงต้องใช้ทางหน้าต่าง แต่จะหนีทำไมวะ? กูไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด แค่ทะเลาะกับยัยคนที่อ้างตัวว่าเป็นเบอร์หนึ่งแค่นั้น แล้วดันมาใส่ร้ายว่ากูจะเบี้ยวเงินอีก ซวยฉิบหาย! “พาสาวขึ้นห้อง กอดนิดหน่อย จูบปาก แล้วบีบนม บวกมาว่าคิดเท่าไหร่ เอาบัตรไปรูดไป๊!” ไวน์ล้วงบัตรเครดิตออกมาแล้วยื่นให้สาวน้อยที่ชื่อแปลกประหลาด ‘ซอมพอ’ เขาได้ยินคนอื่นเรียกเธอว่าอย่างนั้น เด็กสาวยิ้มแล้วหยิบบัตรเครดิตออกมาจากมือเขา ยื่นส่งต่อให้ไอ้หมียักษ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลัง “พูดจาเข้าใจง่ายแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง แต่ตอนนี้แค่เงินอย่างเดียวไม่พอหรอก หนูต้องสั่งสอนให้พี่จำไว้ว่าถ้าก้าวเข้ามาใน Beyond พี่ก็ต้องให้เกียรติคนของ Beyond ถึงคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงบริการพี่ก็ต้องพูดกับเขาดี ๆ ให้เกียรติเขาเหมือนที่พี่ทำกับผู้หญิงคนอื่นข้างนอกสิวะ หรือคิดว่าเป็นผู้หญิงขายบริการจะขึ้นเสียงตบตียังไงก็ได้?” สาวน้อยถามแล้วยื่นมือไปหยิบมีดที่ปักพื้นขึ้นมาจ่อบนใบหน้าหล่อเหลาของไวน์ ”พี่หล่อนะ แต่หน้าตามันดู... สะอาดเกลี้ยงเกลาไปหน่อย หนูขอกรีดหน้าพี่สักแผลได้ไหม? พี่จะได้เท่ ๆ เหมือนพี่หมีไง” ซอมพอถามแล้วยิ้มเหมือนเด็กน้อยซุกซนพลางบุ้ยปากไปทางไอ้หมียักษ์ใหญ่ “เออ... คือ... นายน้อยคะ คุณเขาไม่ได้จะตบตีพี่ค่ะ พวกเราไม่เชิงเถียงกันด้วยค่ะ แค่พูดจาไม่เข้าใจกันนิดหน่อย” เกศเกล้าพยายามอธิบายนายน้อยของเธอให้เข้าใจในสถานการณ์ “เหมือนที่ลูกเกดพูด พี่กับลูกเกดไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเสียหน่อย แค่เข้าใจผิด น้องถอนมีดออกไปได้แล้ว เป็นผู้หญิงยิงเรืออย่าเล่นมีดเล่นปืน และที่สำคัญ ยังเด็กยังเล็กอย่าพูดจาไม่เพราะ” ไวน์สั่งสอนสาวน้อยที่นั่งคร่อมเขาอยู่แล้วตวัดมือใหญ่ขึ้นจับข้อมือเล็กของเธอที่กำมีดอยู่ก่อนจะบีบมันแรง ๆ แล้วดันออก ซอมพอรู้สึกเจ็บที่ข้อมือแต่กัดฟันทนไม่ร้องคร่ำครวญ หนุ่มหล่อที่เธอนั่งคร่อมอยู่มีแรงมากกว่าที่เธอคาดไว้ “หนูจะพูดยังไงก็เรื่องของหนู ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนหนูโว้ย! เสือก!” สาวน้อยเริ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแล้วตะคอกเขาเสียงดัง จุ๊บ! ไวน์เลื่อนใบหน้าหล่อเข้าไปจูบเรียวปากอิ่มที่กำลังขยับด่าเขา ทันทีที่ริมฝีปากหนาร้อนของเขาประกบเข้ากับกลีบปากนิ่มนุ่ม คนทั้งห้องก็เงียบกริบรวมถึงเจ้าของริมฝีปากที่เมื่อครู่ยังด่าเขาไม่หยุด เรียวปากน้องอุ่นนิ่ม หอมหวาน ทำเอาหัวใจของหนุ่มหล่อเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว เชี่ย! กูมีอารมณ์กับเด็กได้ยังไงวะ? แค่จะจูบสั่งสอนที่ปากเก่งแต่ทำไมกูไม่อยากถอนจูบออกเลยวะ? ปึก! ซอมพอเป็นฝ่ายดึงสติกลับมาได้ก่อนและผลักแผงอกหนาของชายหนุ่มออกไปอย่างแรงก่อนที่เธอจะเด้งตัวลุกขึ้นยืน “พวกพี่ยืนอึ้งทำเหี้ยอะไรกันวะ?! มันจูบหนูนะโว้ย! จับมันมาถลกหนัง แล่เนื้อสิวะ! เดี๋ยวนี้!” เด็กสาวตะโกนสั่งลูกน้อง ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ 5-6 คนรีบกรูเข้าไปหาไวน์ แต่หนุ่มหล่อรวดเร็วกว่า เขาจ้องมองทางหนีของตัวเองเอาไว้แล้ว เพล้ง! หนุ่มหล่อทะยานร่างไปยังหน้าต่างบานใหญ่แล้วกระโดดทะลุกระจกออกไปทันที ทิ้งให้กลุ่มคนในห้องอ้าปากค้าง ซอมพอรีบวิ่งตามไปดูที่ขอบหน้าต่าง เธอเห็นร่างเขาพุ่งออกผ่านกระจกที่แตกกระจาย จากนั้นบางอย่างที่เธอเห็นก็ทำให้สาวน้อยอ้าปากค้างตะลึงงัน “เชี่ย! ฉิบหายแล้ว! มันโดดออกทางหน้าต่าง นี่มันชั้นเจ็ดนะโว้ย! ไอ้หนุ่มคนนั้นมันไม่รู้หรือไงวะ? โทรเรียกตำรวจเร็ว โทรหากู้ภัยมาเก็บศพมันด้วย ซวยฉิบ!” หมีที่วิ่งตามนายน้อยมาส่องหน้าดูที่บานหน้าต่างรีบสั่งการลูกน้อง “ดะ... เดี๋ยว! เดี๋ยว! ไม่ต้องโทรหาใครทั้งนั้น พี่หมีส่งคนลงไปดูข้างล่างตึกก่อนว่ามีศพคนตกลงไปตายไหม” ซอมพอสั่งลูกน้องคนสนิท “แต่นายซอมพอ... นี่มันชั้นเจ็ดนะนาย ตกลงไปยังไงไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัสแน่ ยิ่งเรียกกู้ภัยช้า โอกาสรอดของไอ้หนุ่มนั่นยิ่งริบหรี่” หมีท้วงนายน้อย “เออน่า... เชื่อหนู ไม่ต้องโทรเรียกใครทั้งนั้น แค่ส่งคนไปดูแล้วกลับมาบอกหนูด้วยว่าเจอศพพี่คนนั้นไหม” ซอมพอพูดตัดบทแล้วเดินออกจากห้องไป ดูเหมือนไม่มีความตื่นกลัวกับการที่เธอเพิ่งบีบคั้นหนุ่มหล่อคนหนึ่งให้ตกตึกลงไปตายเลยแม้แต่น้อยนิด ทุกคนในห้องต่างหันมามองหน้ากัน “พวกมึงมัวยืนบื้ออะไร? นายน้อยสั่งให้ไปตรวจดูข้างล่างไงว่ามีศพไอ้หนุ่มนั่นไหม ไปได้แล้ว!” หมียักษ์สั่งการย้ำคำนายก่อนจะเดินตามนายออกไปบ้าง นายน้อยซอมพอ รินคำปิน ผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาดใน Beyond สั่งการคำไหน พวกเขาก็พร้อมจะทำตามบัญชา ไม่มีการตั้งคำถามหรือสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะชีวิตของทุกคนที่ Beyond ล้วนฝากฝังและภักดีกับนายน้อยซอมพอแต่เพียงผู้เดียว ************************ ซอมพอนั่งอยู่ในห้องทำงานอันกว้างใหญ่ของเธอแล้วคิดทบทวนในสิ่งที่เห็น ตอนที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากระโจนออกจากหน้าต่างห้องชั้นเจ็ดเธอรีบวิ่งไปดูด้วยเกรงว่าเขาจะเจ็บตัวเพราะทำอะไรโง่งม แต่แทนที่เธอจะเห็นร่างของชายหนุ่มร่วงกระแทกพื้นเธอกลับเห็นบางอย่างที่เป็นแผงใหญ่แผ่ออกมาจากกลางหลังของหนุ่มหล่อ บางอย่างที่สยายออกมีสีแดงเพลิงราวปีกนกยักษ์! เพียงแวบเดียวปีกใหญ่ถูกกระพือแล้วร่างสูงกำยำของหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นก็หายไปในความมืดของค่ำคืน เด็กสาวถอนหายใจแล้วเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานหยิบหนังสือนิทานเก่า ๆ หลายเล่มขึ้นมาวาง แต่ละเล่มล้วนเกี่ยวเนื่องกับครุฑ เมื่อเห็นหนังสือเธอก็คิดถึงพ่อผู้ล่วงลับทันที ................................ “สักวันจะมีผู้ชายที่รักหนูไม่น้อยไปกว่าพ่อ เขาจะคอยปกป้องหนูและดูแลหนู ไม่มีวันที่จะปล่อยให้ภยันตรายใด ๆ มากล้ำกรายหนูได้” พ่อเลี้ยงสิงห์คำเคยบอกซอมพอไว้ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กน้อย “ฮึ! หนูไม่เชื่อ จะมีใครรักหนูไปกว่าพ่อ หนูจะอยู่กับพ่อสิงห์คำจนวันตาย ไม่มีทางอยู่กับคนอื่นเด็ดขาด” ซอมพอในวัยห้าขวบกอดพ่อแน่นแล้วบอกเขา ตอนนั้นพ่อเลี้ยงสิงห์คำได้แต่หัวเราะเสียงใส เอ็นดูในความน่ารักของลูกสาว “พ่อทำสัญญากับพวกเขาเอาไว้แล้วว่าเมื่อหนูอายุครบ 20 ปี พวกเขาสามารถมารับหนูไปดูแลได้ ถึงตอนนั้นถ้าหนูยังไม่มีคนที่ถูกใจพ่อขอให้หนูเปิดใจรับผู้ชายคนนั้นไว้ก็พอ” “เขาหล่อไหมจ๊ะพ่อจ๋า?” เด็กน้อยตากลมตัวอวบอ้วนถามพ่อด้วยความอยากรู้ พอได้ยินคำถามของเด็กน้อยพ่อเลี้ยงสิงห์คำถึงกับกลั้นขำไม่อยู่ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ตัวเท่าลูกหมา คิดเรื่องผู้ชายหล่อไม่หล่อเป็นแล้วเหรอ? อืม... พ่อว่า... หน้าตาก็คงหล่อเหลาเอาการอยู่เพราะทั้งพ่อเขา ปู่เขาก็ดูหน้าตาไม่เลว แต่เอาเป็นว่านอกจากหน้าตาหนูต้องสังเกตตรงนี้...” พ่อเลี้ยงสิงห์คำลูบหัวลูกตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักแล้วหยิบหนังสือนิทานเกี่ยวกับครุฑมาเปิดให้ลูกดู ชายหนุ่มวัยกลางคนชี้ให้ลูกน้อยดูรูปครุฑที่มีหัวเป็นนกยักษ์ มีปีกใหญ่งอกจากทางด้านหลังแต่มีร่างเป็นมนุษย์เพศชายกำยำล่ำสัน “คนที่จะมาดูแลหนูเขามีหัวเป็นนกเหรอพ่อ? ไม่เอาอะ... แบบนี้เวลาหอมแก้มหนูจะงอยจิกแก้มหนูแตกพอดี” เด็กหญิงผู้แก่แดดพูดขึ้นแล้วรีบยกสองมืออวบอ้วนขึ้นปิดแก้มแดงปลั่ง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พ่อไม่ได้ให้ดูที่หัว พ่อให้ดูที่ปีก พ่อของเขา ปู่ของเขาก็มีรูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์ธรรมดา ดังนั้นพ่อคิดว่าหน้าตาเขาก็คงเหมือนเรา ๆ แต่หนูต้องดูที่นี่...” พ่อเลี้ยงสิงห์คำหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีแล้วชี้ไปที่ปีกสีแดงเพลิงของพญาครุฑในหนังสือ “ผัวของลูกต้องมีปีกแบบนี้... สีแดงราวเพลิง... เพราะเขาจะเป็นสายเลือดครุฑผู้ยิ่งใหญ่ ปีกของเขาจะปกป้องหนูจากภัยทั้งปวง จำคำของพ่อไว้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD