ตอนที่12

2293 Words
ตอนที่ 12 พวกกูลล์ออกอาละวาด สีหน้าเคร่งเครียดของสองพี่น้องแวมไพร์ฝาแฝดปรากฎบนใบหน้าหล่อเหลาสีขาวซีดของพวกเขาทั้งสอง หลังจากเมื่อเช้านี้ได้รับรายงานความเสียหายจากการถูกพวกกูลล์ลอบโจมตีไม่ทันได้ระวังตั้งตัว คลับหรูมีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย โรงงานผลิตเครื่องเงินของราอูลเองก็เสียหายไม่น้อยไปกว่ากัน ช่างฝีมือดีหลายรายถูกฆ่า อาวุธพัฒนาใหม่ของเขาหายไปเกือบครึ่งโกดัง ลูกน้องคนสนิทวิ่งเต้นปิดข่าวกันจ้าละหวั่น “มึงคิดว่าเป็นฝีมือของใคร” ฟาร์อูลลอบมองน้องชายที่นั่งเงียบมานาน ไม่ยอมปริปาก ภายใต้ใบหน้าสงบนิ่งด้านในกลับปั่นป่วนยิ่งกว่าพายุทะเลทรายพัดโหมกระหน่ำ “รอคนของกูกลับมารายงานอีกที กูไม่อยากปรักปรำใคร และเรื่องนี้ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับตระกูลเอเธอนอลเป็นอย่างแน่” เขารู้ดีแม้สองตระกูลจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน แต่ไม่มีทางใช้วิธีสกปรกเล่นงานฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ถึงเขาจะไม่ค่อยชอบหน้าไอ้โจชัว แต่คนอย่างมันก็มีศักดิ์ศรีพอจะสู้แบบซึ่งหน้า อย่างเช่นทุกครั้งที่เขาและมันพลัดกันสู้พลัดกันแพ้มาหลายหน “ก็ดีที่มึงคิดได้” “กูไม่ได้โง่...” “นายน้อยครับ...” จามัวร์ มือขวาคนสนิทกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าลำบากใจ “ว่าไง” “มันไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลยครับ ผมเข้าไปดูที่คลับและโรงงาน ไร้กลิ่นอายแวมไพร์มีเพียงผลงานของพวกกูลล์ สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นเผ่ามนุษย์ผมจัดการเงินเยียวยาให้เรียบร้อยแล้วครับ” “คนของรัฐบาลล่ะ?” “เก็บพยานหลักฐานไปแล้วครับ แต่ก็คงไม่ได้อะไรมากเหมือนกันแต่น่าแปลกอยู่อย่างครั้งนี้พวกมันฆ่าทิ้งเฉยๆ ไม่มีร่องรอยการดูดกินเลือด” จาร์มัวยังรู้สึกสยดสยองภาพติดตา กลิ่นคาวเลือดยังติดปลายจมูก ครั้งนี้สภาพศพเละเทะแทบจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ร่างทั่วร่างถูกฉีกทึ่งกระจัดกระจาย โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของตระกูลเอนส์เวิร์ธ นองเลือดผู้บริสุทธิ์มากมาย “มีอะไรหายไปบ้าง” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยถาม มือหนากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด “กระสุนไทเทเนี่ยมที่เราพึ่งพัฒนาสำเร็จหายไปสิบห้าลังครับ ดาบเงินหาย กริชเงินหายไปครึ่งหนึ่งครับรวมไปถึงวัคซีนลดการกระหายเลือดหายไปหมดครับ” จามัวร์รายงานความเสียหายให้ผู้เป็นนายรับทราบ “......” ฟาร์อูลสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูท่าผู้ที่เสียหายมากที่สุดคงจะเป็นราอูล ทว่าเจ้าตัวยังคงสงบนิ่งไม่โวยวาย “ของเกือบทั้งโกดังพวกมันลักลอบขนย้ายโดยไม่ทิ้งร่องรอยได้ไง ถ้าไม่มีหนอนบ่อนไส้ มึงให้คนของเรากลับไปสืบ กูจะเด็ดหัวมัน แม้แต่หญ้าต้นเดียวก็ต้องเช็ค เพิ่มฝีมือดีเฝ้าบริเวณบ้านให้แน่นหนา เดี๋ยวเย็นนี้กูจะออกไปเช็คด้วยตัวเองอีกรอบ” ราอูลกระตุกยิ้มร้ายกาจ แววตาวาวโรจน์ดุจเสือร้ายที่ตื่นขึ้นจากการหลับไหล ครั่นเนื้อครั่วตัวไม่ได้เจอพวกลองดีแบบนี้มานาน “ครับนายน้อย” “เดี๋ยวมึงตามกูมา งานนี้กูทุ่มสุดตัว...” ราอูลผุดลุกเดินออกไปโดยมีมือขวาคนสนิทเดินตามเงียบๆ หญิงสาวออกมาสำรวจความเสียหายของคลับพร้อมพี่ฟาร์อูล มนุษย์หนุ่มหน้าตาคุ้นเคยเดินตรงมาทักทายเธอทันทีจนเธอผงะเล็กน้อย “สวัสดีครับคุณดารินทร์” เตชินมองใบหน้าสวยสะคราญก่อนคลี่รอยยิ้มออกมา “สวัสดีค่ะคุณเตชิน มานานหรือยังคะ?” “พึ่งมาถึงเหมือนกันครับ พึ่งไปเก็บหลักฐานที่โรงงานมา ครั้งนี้พวกมันก่อเหตุอุกอาจนะครับ ช่วงนี้คุณดารินทร์ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี” เขาแนะนำเธอ สายตาคมกวาดมองสภาพภายในร้านพังเสียหายแทบทุกจุด คราบเลือดแห้งกรังกระเซ็นตามผนัง ราวบันได ช่างน่าหดหู่ใจยิ่งนัก “ไม่มีปัญหาค่ะ ดารินทร์มีพี่ฟาร์อูลอยู่ทั้งคนคงไม่ปล่อยให้น้องคนนี้ตายหรอกใช่ไหมคะพี่ฟาร์อูล” ดารินทร์เกาะแขนแกร่งของพี่ชายบุญธรรม “โตแล้วก็ต้องดูแลตัวเองสิ” ฟาร์อูลเอ่ยแหย่หญิงสาวร่างเล็ก น้องสาวบุญธรรมของเขามีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามทั้งมนุษย์หรือแวมไพร์ต่างพากันมาหยอดขายขนมจีบให้อยู่เรื่อย เขาดูออกว่ามนุษย์หนุ่มผู้นี้ก็คงชมชอบน้องสาวของเขาไม่น้อย ดูท่าเขาคงจะต้องไว้หนวดให้ดูน่าเกรงซะแล้ว “ได้ไงคะ พี่ต้องดูแลน้องสิคะ ไม่เช่นนั้นน้องจะฟ้องกรมแรงงานว่าพี่ฟาร์อูลใช้แรงงานเด็ก” “เดี๋ยวนี้ฝีปากไม่เป็นรองใครเลยนะเราคงจะติดจากไอ้ราอูลมาเป็นแน่” ฟาร์อูลยิ้มบาง สายตาประเมินความเสียหายเบื้องหน้าพลางถอนหายใจ ยังพอโชคดีอยู่บ้างที่ผู้จัดการร้านรวมถึงพนักงานบางคนยังรอดชีวิต “เคลียร์พื้นที่ตรึงกำลังคนของเราดูแลคลับของเราให้แน่นหนาขึ้นนะ รีโนเวทรอให้เรื่องซาค่อยกลับมาเปิดใหม่ ระหว่างนี้ก็ถือว่าให้พนักงานพักร้อน ฉันจะจ่ายเงินเดือนคูณสองให้ทุกเดือนจนกว่าคลับจะกลับมาเปิด” “ขอบคุณครับนายน้อย” ชายหนุ่มอาวุโสผู้จัดการร้านก้มโค้งขอบคุณนายน้อย “เดี๋ยวลุงย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่ในบ้านผมชั่วคราวก่อนนะ ผมไม่อยากเสียคนเก่าคนแก่ในตระกูลไป” ฟาร์อูลพูด ชายหนุ่มสูงวัยเป็นแวมไพร์เก่าแก่ที่เคยรับใช้ท่านพ่อท่านแม่ของเขา หากสองท่านตื่นขึ้นมาทราบข่าวเศร้าคงจะหม่นหมองกันน่าดู “ขอบพระคุณครับนายน้อย” มนุษย์หนุ่มพูดคุยกับดารินทร์อย่างเป็นกันเอง เขาให้ความรู้ด้านอาชีพที่เขาทำ อธิบายรายละเอียดบางเรื่องที่เธอไม่ค่อยเข้าใจอย่างใจเย็น ก่อนกลับยังมอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้เธอ “ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนใหม่ครับคุณดารินทร์” เตชินส่งมอบมีดเงินสั้นสลักลายสีประกายแวววับ หญิงสาวมองหน้าผู้เป็นพี่ก่อนเขาจะพยักหน้าเชิงนัยว่าให้รับไว้ จะได้ไม่เสียมารยาท “ขอบคุณค่ะคุณเตชิน ขอตัวก่อนนะคะ” “ครับ” “น้องพี่เสน่ห์แรงไม่เบา” ฟาร์อูลเอ่ยแซวน้องสาวบุญธรรมทันทีที่เข้ามานั่งภายในรถซีดานคันใหญ่ ก่อนถูกเธอมองค้อนทีนึง “เสน่ห์แรงอะไรกันคะพี่ฟาร์อูล คุณเตชินเป็นเพื่อนเฉยๆ ค่ะ” “ให้มันจริงพี่เห็นหมอนั่นมองเราไม่วางตา ตาเป็นประกายวิบวับราวกับแมงเม่าบินเจอกองไฟ” “คำเปรียบเปรยบ่งบอกอายุจริงนะคะพี่ฟาร์อูล” ดารินทร์หัวเราะเยาะออกมา เธอส่ายหน้าขบขันกับคำพูดของพี่ชาย “แน่ละ พี่อายุเยอะกว่าเธอเป็นร้อยปีเชียวนะน้องพี่” “ค่าแวมไพร์รุ่นพี่” “......” ฟาร์อูลทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่อยากยอมรับว่าตนเองนั้นมีอายุยืนยาวมานานนับร้อยปีแล้ว “แล้วกับไอ้ราอูลช่วงนี้พี่ไม่ค่อยเห็นมันรังแกเราแล้วใช่ไหม” “ดีขึ้นเยอะค่ะ” เธอหลุบสายตาเบนมองนอกหน้าต่าง เกรงจะทำให้ผู้เป็นพี่จับจุดสังเกตุสิ่งผิดปกติได้ “ปากมันก็แบบนั้นแหละอย่าไปถือสามันเลยนะ” “พี่ฟาร์อูลคะดารินทร์มีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ” เธอหันหน้ากลับมามองผู้เป็นพี่ด้วยสีหน้าจริงจัง “อืม ว่ามาสิ อะไรที่พี่ให้ได้พี่จะให้” “หลังจากที่นายท่านกับนายหญิงตื่นขึ้น พี่ช่วยย้ายดารินทร์ไปประจำที่เม็กซิโกได้ไหมคะ...” “ทำไมล่่ะ? หรือว่าไม่อยากเจอไอ้ราอูลอย่างนั้นหรอ พี่คิดว่าเรากับมันจะเข้ากันได้แล้วเสียอีก” “กับนายน้อยราอูลไม่มีปัญหาค่ะ ดารินทร์อยากไปฝึกประสบการณ์การทำงานต่างประเทศให้ตัวเองมีพื้นฐานมากขึ้นก็เท่านั้นเอง พี่ฟาร์อูลเนี่ยคิดไปไกลนะคะ” จะให้พูดตามตรงว่าเธออยากหนีหน้าน้องชายฝาแฝดของเขา เธอเบื่อขี้หน้าเขา เกลียดคำพูดคำจาไม่เข้าหูรวมไปถึงการกระทำหยาบช้าต่ำตม ก็เกรงจะทำให้ผู้เป็นพี่ชายหนักใจ “อืม พี่ตกใจหมดนึกว่าไอ้ราอูลมันทำอะไรอีก ได้สิ... ถ้าน้องอยากมีประสบการณ์พี่อนุญาต” “ขอบคุณมากค่ะพี่ฟาร์อูลใจดีกับน้องที่สุดเลย” “ก็เราเป็นน้องสาวของพี่นี่นา เราน่ะดื่มเลือดของพี่ทุกวันจนแทบจะกลายเป็นลูกสาวของพี่ไปแล้ว” มือหนาลูบศรีษระเล็กด้วยความเอ็นดู จริงดั่งที่ชายหนุ่มพูด ทุกวันนี้แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการพึ่งพาเลือดของพี่ฟาร์อูลแล้วก็ตาม เขายังคงยินดีมอบเลือดของเขาให้เธอดื่มกินแทนที่จะให้เธอดื่มเลือดจากคลังของตระกูล บุญคุณของเขาเสมือนบิดาอีกคนของเธอไม่ผิดเพี้ยน “น้องทราบดีค่ะว่าบุญคุณของพี่ใช้ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่หมด” บุญคุณความดีของเขามันเผื่อแผ่ไปให้น้องชายฝาแฝดผู้ดุร้าย ไร้มโนธรรมอีกต่างหาก มิเช่นนั้นเขาคงไม่มีโอกาสได้แตะต้องเรือนร่างของเธอแม้แต่ปลายผม “แค่เป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่แบบนี้ไปตลอดพี่ก็ดีใจแล้ว” ฟาร์อูลมองใบหน้าขื่นขมของน้องสาวบุญธรรมก็พอจะรู้แจ้งว่าเหตุผลในการขอย้ายไปทำงานต่างประเทศของเธอในคราวนี้ ต้องมีเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังอีกเป็นแน่ หากถามก็เกรงว่าเธอจะเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง จึงปล่อยให้เธอได้ใช้เวลาตัดสินใจอีกหน่อยกว่าท่านพ่อท่านแม่จะตื่นขึ้นมาก็อีกสามเดือน ในตอนนั้นถ้าเธอยังดึงดันจะไปเขาก็ตามใจเธอ “ช่วงนี้น้องไม่ต้องเข้าบริษัทนะ พี่ไม่วางใจ” “ช่วงนี้โครงการคอนโดพึ่งลงเสาเอกเสาโท น้องจำเป็นที่จะต้องเข้าไปคุมไซต์งานก่อสร้างค่ะพี่ฟาร์อูล” “งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วย” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่ากังวลไปเลย งานช่วงกลางวันคนพลุกพล่านพวกมันคงไม่กล้าลงมือโจ่งแจ้ง” “เราอย่าประมาทดีกว่า พี่ไปด้วยละกัน” “ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ฟาร์อูล” หญิงสาวมองใบหน้าอบอุ่นของผู้เป็นพี่ชาย เขาไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเธอ กลับยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอในวาระเกือบสุดท้ายของชีวิต ประคบประหงมเธอราวกับไข่ในหิน ดูแลเธอเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง แม้จะพูดให้เธอดูแลตัวเอง การกระทำของเขากลับตรงข้ามกับคำพูด สีหน้าเป็นห่วงจริงจังทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ สถานที่ลับตาภายในโรงแรมร้างไร้ผู้คนแวมไพร์จิตมืดแข็งแกร่งกลุ่มใหญ่ประชุมรายงานความเสียหายของศัตรูจากการโจมตีในครั้งนี้ จ้องมองผลงานชิ้นใหญ่ได้มาฟรีด้วยแววตาสะใจ “นายท่านครับ ผมเก็บพวกกูลล์ขังไว้เรียบร้อยแล้วครับ” แวมไพร์รูปร่างสูงใหญ่เอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม “ดี สร้างพวกกูลล์ขึ้นมาอีก กูต้องการเห็นความสูญเสียมากกว่านี้” ผู้เป็นนายเอ่ยน้ำเสียงเหี้ยม ความแค้นที่เก็บงำมาเนิ่นนานถึงเวลาต้องปลดปล่อยสร้างความชิบหายเสียที “พวกกูลล์ตะกละตะกลาม เราต้องใช้มนุษย์เลี้ยงพวกมันต่อวันไม่ต่ำกว่าห้าสิบคน ขืนเรายังสร้างมันเพิ่มผมเกรงว่าหน่วยงานราชการลับจะสืบคดีคนหายพวกนี้นะครับนายท่าน“ แวมไพร์ทมิฬแสดงสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย หากสร้างพวกกูลล์เพิ่มอีกลูกน้องของเขาก็ต้องไปจับตัวพวกมนุษย์มาเป็นอาหารพวกมันเพิ่มขึ้นอีก แบบนี้ไม่ดีต่อแผนการแน่ ”แค่มนุษย์กระจอกมึงไม่มีปัญญาจัดการรึ?” “รับทราบครับนายท่าน” “แล้วของพวกนี้เราจะทำอะไรกับมันดีครับ” “เอาไปแจกจ่ายให้กองกำลังของเรา ใช้ของมันโจมตีพวกมันคงจะสะใจน่าดู กูจะให้มันลิ้มรสเลือดของการสูญเสีย ดูสิน้ำหน้าอย่างพวกมันจะหาตัวกูเจอหรือไม่ ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า เอาให้มันพินาศราบเป็นหน้ากอง กูถึงจะตายตาหลับ” สิ้นประโยคสุรเสียงหัวเราะพึงใจดังกึกก้องทั่วอาณาบริเวณ “......” “ไปรวบรวมกองกำลังมาอีก กูจะโจมตีพวกมันครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าจะลบชื่อตระกูลพวกมันออกจากจารึกประวัติแวมไพร์ มันผลิตเราขโมย น่าสนุกดีใช่ไหม?” “ครับนายท่าน นายท่านรักษาสุขภาพด้วย” ลูกน้องคนสนิทถอยร่นเบี่ยงกายเดินออกไปทำงานตามคำสั่ง ผู้เป็นนายพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาเฉียบคมฉายแววอาฆาต รอบดวงตาเหี่ยวย่นตามอายุไข ร่องรอยตีนกาบริเวณหว่างคิ้วร่องลึก บ่งบอกถึงชีวิตอันยืนยาว การมีชีวิตยืนยาวไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าตลอดชีวิตจะมีแต่ความสุข ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้เขารู้สึกโดดเดี่ยว โกรธแค้น กับความสูญเสียที่ต้องพลัดพรากจากคนที่เขารัก การถูกแย่งของรักนำพาซึ่งความชิบหายมาสู่ศัตรู ไฟแค้นสุมอกชายชรา เขาปล่อยให้พวกมันมีความสุขกันมามากพอแล้ว เขาจะทำให้พวกมันได้รับรู้ความรู้สึกสูญเสีย ดั่งที่เขาประสบพบเจอ... “กูไม่ยอมตายง่ายๆ จนกว่าจะได้เห็นพวกมันตายลงต่อหน้าทีละคนอย่างทรมาน...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD