ตอนที่5

1389 Words
ตอนที่ 5 ดารินทร์จำใจทน หญิงสาวหรี่ดวงตาปรับสายตาให้รับแสงแดดที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสีอึมขรึมยันกายลุกขึ้นจากเตียงนอนขนาดห้าฟุตบิดขี้เกียจเสียสองสามที เรือนร่างอวบอิ่มเต็มไปด้วยเนื้อนมไข่ปวดร้าวแทบทั้งตัว ด้วยเหตุถูกนายน้อยอย่าง คุณราอูล ใช้แรงงานเยี่ยงทาสราวกับสาวใช้ส่วนตัวคนหนึ่ง แวมไพร์ฝึกหัดสามเดือนเช่นเธอต้องมาคอยรองรับอารมณ์รวมไปถึงคำพูดถากถางของเขา ดีหน่อยที่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็ไม่สนใจอาการผีเข้าผีออกของเขาอีก และนั่นก็น่าจะทำให้เขารู้ว่าความอดทนของเธอมีขีดจำกัด กระนั้นเขาก็ยังไม่เลิกวอแวรังแกเธอ ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก “ดารินทร์ตื่นหรือยังจ๊ะ” เสียงอาหลิน สาวใช้แวมไพร์เลือดผสมเฉกเช่นเธอเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวภายในบ้านหลังนี้เคาะประตูเรียก ฉุดหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์ “จ๊ะ...ตื่นแล้วจ๊ะอาหลิน มีอะไรหรือจ๊ะ?” ดารินทร์จัดแจงชุดนอนสีหวานให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปบิดประตูลูกบิด “นายน้อยฟาร์อูลเรียกพบน่ะ” “พี่ฟาร์อูลกลับมาแล้วหรอเนี่ย” เธอพึมพำด้วยความดีใจ เดือนกว่าแล้วที่เธอต้องจำใจรองมือรองเท้าราอูลในที่สุดพี่ฟาร์อูลก็กลับมาเสียที “บอกพี่ฟาร์อูลว่ารอเดี๋ยวนะจ๊ะเดี๋ยวฉันตามไป” “กูไม่เอา เรื่องอะไรที่กูจะต้องหอบกระเตงยัยนั่นไปทำงานด้วย!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังลั่นภายในห้องรับประทานอาหารอันโอ่อ่า ใบหน้าหล่อเหล่าของราอูลขมวดคิ้วเป็นปม บ่งบอกถึงอารมณ์ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี “ขออนุญาตค่ะ” ดารินทร์ในชุดเดรสกระโปรงสีดำแนบเรือนร่างเอ่ยขึ้น ใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาหลบสายตาคมกริบ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกขนแขนลุกซู่ เมื่อเผลอไปสบดวงตาคมคายราวกับกริชมองเฉือดเฉือนมาทางเธอ “นั่งลงสิดารินทร์” ฟาร์อูลผายมือให้เธอนั่งลงตรงข้ามราอูล “......” เธอยิ้มรับ ก่อนนั่งลงตรงข้ามแวมไพร์หนุ่มเลือดบริสุทธ์ที่จงเกลียดจงชังแวมไพร์เลือดผสมอย่างเธอ “พี่ว่าจะให้น้องไปศึกษาดูงานที่บริษัทแบ่งเบาภาระเจ้าราอูลมันน่ะ น้องว่าอย่างไร” ฟาร์อูลถามความคิดเห็นหญิงสาวที่เขาเอ็นดูเสมือนน้องสาวคนหนึ่ง “พี่ว่าอย่างไรน้องก็ว่าอย่างนั้นค่ะ” “เธออยากตายในเงื้อมมือฉันใช่ไหมยัยกาฝาก...” น้ำเสียงนั้นเย็นชาหากแฝงไปด้วยความเกลียดชัง “หรือมึงอยากจะไปดูงานที่เม็กซิโกแทนกู กูจะได้ไม่ต้องลำบากเดินทางไกล กูอุตส่าห์ให้ดารินทร์มาช่วยงาน มึงยังจะหาเรื่องน้องอีก อย่างน้อยเธอก็เคยเป็นมนุษย์อาจจะช่วยแนะนำมึงในการใช้ชีวิตทำงานร่วมกับมนุษย์แบบราบรื่นให้มึงก็ได้” ฟาร์อูลเอ่ยแนะนำน้องชายผู้ดื้อด้านหน้าตาย “ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่น้องของกู อย่าเอากูไปเกลือกกลั้วกับพวกเลือดผสมอย่างยัยนี่ มึงรับยัยนี่เข้ามาในตระกูลเองก็ดูแลเอง กูไม่ขอเกี่ยวข้อง” เขาเน้นย้ำทีละคำ ทำเอาคนฟังอย่างเธอรู้สึกเจ็บแปล๊บ “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เริ่มงานเลยละกันนะดารินทร์ พี่ขอตัวไปพักผ่อนก่อน” ฟาร์อูลตัดบท เมื่อรู้ว่ายิ่งต่อความยาวสาวความยืดมีแต่จะทำให้ตนเองหัวเสีย ยิ่งพูดก็มีแต่จะทะเลาะกับไอ้น้องเวรนี่ ก่อนจากฝ่ามือหนายกขึ้นลูบผมยาวสลวยของเธออย่างเอ็นดู “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” หลังจากที่แผ่นหลังของฟาร์อูลเดินลับตาไปแล้ว ดารินทร์จึงผุดลุกจากเก้าอี้นั่งบ้าง “ใครอนุญาตฉันยังพูดไม่จบ” “ค่ะ นายน้อย” อึก! ร่างใหญ่เคลื่อนไหวร่างกายเพียงพริบตาเดียวก็ประชิดร่างเล็กอวบอิ่ม ฝ่ามือแกร่งปรากฎกรงเล็บยาวแหลมสีดำตะปบลำคอขาวนวลแน่นจนเธอหายใจไม่ออก กรงเล็บแหลมคมฝังลงบนเนื้อขาวแรงเสียจนเลือดซิบ ดารินทร์หน้าเสีย “อย่าทำตัวจองหองให้ฉันเห็นอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะหักคอเธอทิ้งเสีย” รอยยิ้มระรื่นยามเธอส่งยิ้มให้เจ้าฟาร์อูลนั่น ทำให้เขารู้สึกเกรี้ยวกราดอยากระบายความรู้สึกนั่นให้มันปะทุออกมาเสียให้หมด ฉันไปทำตัวจองหองกับเขาเมื่อไหร่? เธอคิดในใจ “ค่ะ...นายน้อย” ดารินทร์ตอบรับด้วยสีหน้าสงบนิ่งไร้ท่าทีตื่นตระหนก เพราะเขากระทำเช่นนี้กับเธอบ่อยครั้งแล้วน่ะสิ ยิ่งอ้อนวอนมีแต่จะได้รับการตอบกลับที่รุนแรงและป่าเถื่อน สองพี่น้องฝาแฝดที่นิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว “ฉันหิวพอดีไม่ว่ากันนะถ้าฉันจะดื่มเลือดสกปรกของเธอ” ราอูลแสยะยิ้มมุมปากไม่รอคำตอบรับจากเธอ ดวงตาประกายแพรวพราว มือสากจับคางมนเบนเอียงข้างเผยลำคอขาวระหง คมเขี้ยวแหลมคมฝังลึกลงไปในลำคอขาวผ่อง ดูดดื่มเลือดสดรสชาติหวานหอมออกจากร่างเล็กเนิ่นนานจนเธอรู้สึกอ่อนเพลีย ดวงตาหนักอึ้ง “...” ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มอดกลั้น ก่อนจะทรุดร่างลงกับพื้น “สำออย อ่อนปวกเปียกแบบนี้ยังจะกล้าเข้าตระกูลฉัน” ราอูลมองหญิงสาวคนตรงหน้าด้วยแววตาสมเพช “ไปทำความสะอาดห้องโถงใต้ดินของนายท่าน อย่าขี้เกียจสันหลังยาวไปวันๆ ไป!” เขาออกคำสั่ง มือหนาปาดคราบเลือดสีสดบริเวณมุมปากลวกๆ “ค่ะ...นายน้อย” ดารินทร์นั่งพิงกำแพงด้วยสีหน้าซีดเซียว เขาคนนั้นเล่นดื่มเลือดของเธอไปจนอิ่มแปล้ มีหรือจะทำให้เธอไม่รู้สึกอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง รังเกียจเดียจฉันท์เธอถึงเพียงนี้กลับยอมลดตัวฝังคมเขี้ยวลงบนกายเธอ ช่างย้อนแย้งเสียกระไร “ดารินทร์ทำไมสภาพเป็นแบบนี้” อาหลินสาวใช้ตื่นตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอ “ขาดเลือดนิดหน่อยไม่เป็นไร” เธอยิ้มอ่อนแสร้งแสดงว่าไม่เป็นอะไร “ไม่นิดแล้วนะสภาพแบบนี้ เดี๋ยวฉันไปขอเลือดจากนายน้อยฟาร์อูลให้” อาหลินเอ่ยอย่างรู้ดีว่าทุกครั้งที่เธอต้องดื่มเลือดจะต้องเป็นเลือดของฟาร์อูลเพียงเท่านั้นให้ครบสามเดือน เพราะเขาเป็นคนเปลี่ยนสภาพเธอให้กลายเป็นแวมไพร์ เมื่อครบสามเดือนเธอจึงจะกลายเป็นแวมไพร์เต็มรูปแบบ พละกำลัง ความว่องไว และพลังจิต “ฉันดื่มเลือดในคลังก็ได้อาหลิน” ดารินทร์พูดเสียงแผ่วเบาในลำคอ ดวงตาเริ่มพร่ามัว ริมฝีปากซีดเผือด “โอ้! จะดีหรอนายน้อยใหญ่กำชับมาว่าต้องให้เธอดื่มเลือดของนายน้อยใหญ่เท่านั้น แต่ไม่เป็นไรหรอกครั้งเดียวเอง ฉันจะไปเอามาให้เธอ” ไม่รอช้าอาหลินรีบปราดไปครู่เดียวก็กลับมาพร้อมแก้วบรรจุของเหลวสีแดงเข้ม “เอาค่อยๆดื่ม” “ขอบใจจ๊ะ” ดารินทร์บรรจงริมฝีปากจรดแก้วใสค่อยๆดื่มด่ำรสชาติหวานหอมละมุนของเหลวสีแดงเข้มจนหมดแก้ว ใบหน้าที่เคยซีดเผือดกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “ครั้งนี้นายน้อยราอูลแกล้งเธอแรงไปนะดารินทร์เกือบตายแล้วนะรู้ไหม?” อาหลินพูด เธอก็เป็นแวมไพร์เลือดผสมเฉกเช่นเดียวกับดารินทร์ กลับไม่เคยถูกนายน้อยราอูลรังแกแม้แต่ครั้งเดียว ใยดารินทร์จึงถูกแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ “...” หญิงสาวหน้านิ่ว งุนงงว่าอาหลินรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเขาที่รังแกเธอในครานี้ “ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นหรอก ในบ้านจะมีใครกล้ารังแกเธอนอกจากนายน้อยราอูล” “ฉันขอตัวไปพักก่อนนะอาหลิน ตาฉันจะปิดแล้ว” เสียเลือดไปมากแบบนี้เธอคงยากที่จะฝืนร่างกายลงไปทำความสะอาดตามคำสั่ง ใครใช้ให้เขาดื่มเลือดเธอมากขนาดนั้นกันเล่า “อืม...ไปพักผ่อนเถอะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD