บทที่ 3.1 - การตัดสินใจ & อดีตร้ายที่หวนกลับคืน (ตกลงรับงาน)

1117 Words
“เอาเป็นว่าคุณเข้าใจเจตนารมณ์ของผมทุกอย่างดีแล้วนะครับ” น้ำเสียงเข้มเอ่ยราบเรียบ หลังจากที่ตอนนี้ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มต่างพากันมานั่งคุยที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงสวนหลังมอ พอเจอคนทักเข้าไปแบบนั้นไอรีนก็ไม่สามารถที่จะโกหกได้ เธอเลยต้องยอมรับออกมาตรงๆ ว่าเธอคือไอรีน ดาวมหา’ลัยของที่นี่ หลายคนอาจจะรู้สึกชื่นชมและพอใจกับตำแหน่งนี้ แต่บอกเลยว่าฉันไม่ “เข้าใจแล้ว” ฉันเอ่ยเสียงนิ่ง ก่อนจะสบตาเขาแล้วพูดต่อ “แต่ขอปฏิเสธ” “ทำไมล่ะครับ คุณไม่อยากเป็นดาราเหรอ หรือว่าคุณกลัวถูกผมหลอก คุณโทร. หาเจ้านายผมได้เลยนะครับ โทร. ไปถามได้เลยถ้ากลัวโดนหลอก” ชายหนุ่มลุกลี้ลุกลนเป็นหนูติดจั่น ไม่ได้เด็ดขาด หากวันนี้เขาไม่สามารถนำคำตอบที่น่าพอใจกลับไปให้เจ้านายของเขาได้ อนาคตการทำงานของเขาต้องดับสูญลงอย่างแน่นอน เพราะว่าก่อนจะมาเจ้านายก็กำชับนักกำชับหนาว่าให้ทำยังไงก็ได้เพื่อเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวยอมมาร่วมงานกับทางบริษัทฯ และคำตอบต้องมีแค่ YES เท่านั้น NO ห้ามเด็ดขาด! “พอ หยุด หยุดพูดแล้วฟังฉัน” ฉันยกมือห้าม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไม่ได้กลัวถูกหลอก แต่ว่าฉันไม่ชอบวงการบันเทิง นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่ตกลง จบไหม?” “ไม่จบ!” เสียงเข้มสวนทันควัน “เอ้า นายนี่ จะเอาไง” ฉันยืนเท้าเอวมองหน้าเขา คนไม่ตกลงยังพยายามอยู่ได้ น่าโมโหชะมัด “โธ่ คุณครับ คิดซะว่าช่วยผมด้วยนะครับ เจ้านายผมเขาต้องการตัวคุณมาก คือต้องแค่คุณคนด้วย แล้วผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้คุณยอมไปกับผม ถ้าไม่ได้คุณไปร่วมงานด้วย เจ้านายไล่ผมออกแน่เลยครับ” แววตาเป็นกังวล ฉันแอบสงสารเขาอยู่เหมือนกันนะ แต่สงสารตัวเองมากกว่าหากต้องไปทำอะไรที่มันฝืนใจ “มันก็เรื่องของคุณค่ะ ฉันไม่เกี่ยว” บางครั้งคนเราก็ต้องใจร้ายกันบ้างแหละ “คุณไอรีน” ชายหนุ่มลากเสียงยาว สีหน้าผิดหวัง “หมดธุระแล้วใช่ไหม ขอตัวนะ” ว่าจบฉันก็หมุนตัวเดินหันหลังกลับทันที สองเท้าก้าวไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเสียงเข้มที่เพิ่งสนทนาด้วยเมื่อครู่ดังขึ้นมาอีกครา และสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาก็ทำให้ฉันสะเทือนใจ “ผมมีน้องสาวครับ และเธอก็กำลังจะตาย” ด้านชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าหยุดการเคลื่อนไหว เขาจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้า “เธอเป็นโรคหัวใจ เธอต้องตายแน่ๆ ครับ ถ้าผมไม่สามารถหาเงินไปรักษาเธอได้” “แล้วนายมาบอกฉันทำไม” ฉันที่ยืนฟังอยู่นานทนไม่ไหวจึงหันหน้ากลับมาพูดกับเขา ใบหน้าคมเข้มมีน้ำตาคลอ ริมฝีปากสั่นระริก มือหนายกมือขึ้นเสยผมตัวเองก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิม “ผมบอกคุณ เพราะคุณเป็นคนเดียวที่จะช่วยน้องสาวผมได้ คุณเป็นคนเดียวที่จะสามารถช่วยให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อ” สีหน้าและแววตาของเขาจริงจัง เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง “ฉันไม่ใช่หมอ ฉันจะไปช่วยอะไรน้องนายได้” “ช่วยได้สิ” ชายหนุ่มยิ้มละมุน “แค่คุณตอบตกลงรับงานนี้” “ทำไม” “เจ้านายผมเขาสัญญากับผมไว้ว่า หากผมทำให้คุณยอมตกลงรับงานนี้ได้ เขาก็จะให้โบนัสกับผมสามเท่า ซึ่งมันมากพอที่ผมจะสามารถนำไปผ่าตัดหัวใจให้กับน้องสาวของผมได้” ยามที่เขาเอ่ยถึงน้องสาว ฉันรู้สึกสงสารเขาจับใจ ไม่เพียงแต่น้ำเสียงที่กลั่นออกมาด้วยความเศร้า หากน้ำตาของลูกผู้ชายก็รินไหลออกมาด้วยเช่นกัน ฉันรู้สึกแย่ไปเลยที่ก่อนหน้านั้นฉันปฎิเสธเขาอย่างไร้เหยื่อใย ทั้งๆ ที่เขาแบกลมหายใจของน้องสาวอยู่บนบ่า “และในทางกลับกัน ถ้าผมทำไม่สำเร็จเจ้านายก็จะไล่ผมออก” คนพูดก้มหน้าลงต่ำ “มันต้องแย่แน่ๆ ถ้าหากว่าผมโดนไล่ออกในขณะที่น้องสาวกำลังรอรับการรักษา” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่น้ำตาของฉันมันไหลออกมา “ผมบอกคุณแค่นี้แหละครับ แต่ถ้าคุณไม่สนใจผมก็คงต้องยอมแพ้ ผม…” ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค ความสงสารที่อัดแน่นอยู่ในใจก็ทำให้ฉันยอมรับข้อเสนอของเขา “ฉันตกลง!” อาจเป็นเพราะ เรื่องราวของผู้ชายคนนี้คล้ายๆ กับเรื่องของฉันในอดีต ใครก็ได้บอกฉันทีว่าฉันโง่หรือบ้า! “แล้วจะเอาไงล่ะที่นี้ ไหนบอกว่าไม่อยากวุ่นวายไง ชีวิตตอนนี้สงบมากใช่ไหมถึงได้ไปรับปากอะไรแบบนั้น” น้ำใสบ่นฉันทันทีที่ฟังเรื่องราวจนจบ งานนี้ฉันไม่เถียงไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่คนตรงหน้าพูดมันเป็นความจริงทุกประการ ชีวิตฉันต้องวุ่นวายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแน่นอน ผิด! ฉันคิดผิดจริงๆ “ลำพังแค่รับบทบาทเป็นดาวมหา’ลัยก็ปัญหาเยอะอยู่แล้ว นี่ยังยกระดับตัวเองเข้าไปสู่วงการบันเทิงอีก เฮ้อ” ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ส่งสายตาเศร้าหงอยให้กับเพื่อนรัก น้ำใสเบ้ปาก “ไม่ต้องมาทำหน้าตาเป็นแมวอมทุกข์เลยนะ หาเรื่องใส่ตัวได้ตลอดเวลาจริงๆ” “ฉันเสียใจเหมือนกัน” ในที่สุดฉันก็พูดออกมา หลังจากที่เงียบไปนาน “แต่ว่าตอนนั้นฉันสงสารเขาจริงๆ นะ ฉันเคยผ่านจุดๆ นั้นมาก่อน ฉันรู้ดีว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน” ฉันแค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกับฉัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันรับปากเขา “เรื่องของแกก็คือเรื่องของแก มันไม่เหมือนกันกับผู้ชายคนนั้นนะ” น้ำใสทิ้งตัวลงข้างฉัน อารมณ์ของยัยเพื่อนซี้กำลังเดือดเลยล่ะ ฉันรู้ดี “มันเหมือนมากนะ เรื่องน้องสาวของเขา เหมือนฉันตอนที่…” ฉันเงียบ ไม่อยากพูดต่อ ลำคอแห้งผากราวกับมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ตรงหลอดลม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD