๑๓ ระหว่างความฝันกับความจริง

1381 Words
ขณะที่เขาบอกกับคนตรงหน้า ชายหนุ่มกลับคิดถึงมารดา อดีตภรรยาและลูกน้อย เขาบอกกับคนอื่นได้ แต่ตนเองกลับทำไม่ได้ เพราะเขาเองกลับยังถือทิฐิ ไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขา ทั้งที่รู้ว่าทั้งมารดาและโรสรินทร์ทำไปเพราะรักและเป็นห่วงเขามากแค่ไหน รัก... มารดารักเขาแน่ๆ ต่อให้โกรธมากแค่ไหนท่านยังคงรักเขาเสมอ ทว่าใครอีกคนล่ะ รักหรือว่าอะไรกันแน่ จึงยอมให้แม่ของเขาจับแต่งงานกับคนไร้ความทรงจำแบบนั้น ตั้งแต่รู้จักกันมา โรสรินทร์ไม่เคยมีท่าทางอยากมีอยากได้ในของที่ไม่ใช่ของตน หล่อนไม่เคยร้องขอสิ่งใดจากเขาหรือมารดา ไม่ว่าจะเป็นของมีค่าหรือไม่ หล่อนจะอยู่อย่างเจียมตัว ถึงแม้มารดาจะรักหล่อนเหมือนกับลูกอีกคน แต่หญิงสาวไม่เคยยกตนเทียมเขาเลยสักครั้ง ชายหนุ่มยกมือขึ้นคลึงขมับ เป็นเหตุให้อภิญญารู้สึกว่าวันนี้เรวัตดูไม่ปกตินัก จะว่าไปเขาดูไม่ปกติมาโดยตลอดนั่นแหละ คล้ายกับว่ามีบางอย่างติดอยู่ในใจตลอดเวลา ราวกับว่าเป็นเรื่องที่ต้องคิดและตัดสินใจ “ปวดหัวหรือเปล่าคะ อ้อนมียาแก้ปวดนะ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนพูด แล้วส่ายหน้าเบาๆ “ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก” เขาตัดบทพร้อมหลุบตามองจานอาหารของหญิงสาว “อยากสั่งอะไรเพิ่มไหม” หญิงสาวส่ายหน้า หล่อนเองก็อิ่มเสียแล้ว “อ้อนอิ่มแล้วค่ะ” “งั้นเรากลับกันดีกว่า” ชายหนุ่มหันไปเรียกพนักงานคิดเงิน อภิญญาเห็นอาหารในจานของเรวัตพร่องไปไม่มากแต่ไม่พูดอะไร ชายหนุ่มไปส่งหญิงสาวที่โรงแรม ส่วนตัวเขาตรงเข้าบริษัท ทว่าเรื่องของโรสรินทร์ยังไม่หมดไปจากความคิด เย็นนั้น เขาเลิกงานเร็วกว่าทุกวัน เพราะนั่งต่อไปก็ไม่มีสมาธิ แล้วแวะห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เดินเข้าแผนกเสื้อผ้าและของใช้เด็ก เขาเลือกซื้ออยู่เกือบชั่วโมง จากนั้นแวะสั่งอาหารอีกชุดใหญ่ ก่อนบอกกับเด่นให้ตรงไปยังบ้านสวนนนทบุรี เวลาเกือบห้าโมงเย็น คนสวนของบ้านก็เปิดประตูต้อนรับรถหรูจากค่ายดัง โรสรินทร์ที่นั่งอยู่ในห้องโถงกับลูกชายและพี่เลี้ยงเด็กจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปดูที่หน้าบ้าน เมื่อร่างสูงเดินลงมาจากรถยนต์หญิงสาวก็ต้องนิ่วหน้า เพราะชายหนุ่มและคนขับรถของเขากำลังหอบของพะรุงพะรังเดินขึ้นมาบนบ้าน จากที่คิดว่าจะไม่สนใจหรือพูดคุยด้วยแล้วก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “คุณขนอะไรมามากมาย” เรวัตสบตาคนถามแวบหนึ่ง ขณะเดินผ่านหน้าหญิงสาวเข้าไปในบ้าน เมื่อได้เห็นร่างเล็กๆ ที่นั่งเล่นอยู่บนพื้นเขาก็ดีใจ ความอึดอัดสับสนมลายหายในทันที ลูกชายของเขาคือยาวิเศษ “ฉันซื้อเสื้อผ้ากับของเล่นมาให้ลูก แล้วก็พวกนี้เป็นอาหารทั้งหมด ยังอุ่นๆ อยู่เลย” เขาส่งถุงอาหารให้กับหญิงสาว ทำให้โรสรินทร์ที่มองนิ่งๆ จำต้องรับไปด้วยอาการไม่ยินดียินร้าย แววตาที่มองเขาบอกชัดว่าแปลกใจไม่น้อย เขาเองก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูกชั่วคราว จึงเสนั่งลงกับพื้น แล้วดึงเอาของเล่นออกมาอวดลูกชายตัวน้อย “ลูกชายครับ คุณพ่อซื้อของเล่นมาให้หนูด้วยนะครับ แล้วก็นี่ เสื้อผ้า พอน้องรันใส่แล้วต้องหล่อแน่ๆ” โรสรินทร์นิ่วหน้าขณะมองชายหนุ่ม เช่นเดียวกับเด่นที่มองอาการของเจ้านายแล้วหันไปยิ้มให้คนตัวบาง ส่งของที่เหลือให้หล่อนแล้วกลับออกไป หญิงสาวมองข้าวของในมือตนแล้วบอกกับแนนให้ช่วยกันขนถุงอาหารพวกนั้นไปเก็บเอาไว้ในครัว เรวัตหันไปมองด้านหลังของอดีตภรรยาแล้วถอนหายใจยาว หล่อนคงสงสัยว่าทำไมจู่ๆ เขาก็เกิดจะมาทำดีด้วย เขาเองก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ทั้งยังไม่เคยทำแบบนี้จึงค่อนข้างรู้สึกประดักประเดิดไม่น้อยเช่นกัน อาจเป็นเพราะเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมากระมัง เขาทำดีกับคนอื่นได้ แต่กับแม่ของลูก ถ้าไม่นับช่วงเวลาหวานชื่นที่ความทรงจำหายไป เขาก็ไม่เคยทำอะไรดีๆ ให้หล่อนจดจำเลยเช่นกัน แล้วถ้าหล่อนเกิดจะเกลียดเขาขึ้นมา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ชายหนุ่มมองไปยังครัวอีกครั้ง พอดีกับที่ร่างบางเดินกลับออกมา หญิงสาวสบตาเขานิ่ง กระทั่งมาหยุดและนั่งลงบนพื้นข้างๆ คนตัวเล็ก ดวงตาคู่สวยหลุบมองข้าวของที่เขาซื้อให้ลูกชายแล้วผ่อนลมหายใจบางเบา หล่อนไม่ว่าหรอกหากเขาจะซื้อของให้กับลูก แต่เรื่องข้าวปลาอาหารคิดว่าไม่จำเป็น “ขอบคุณที่ซื้อของมาให้ลูกนะคะ แต่เรื่องอาหารความจริงคุณไม่ต้องลำบากก็ได้ ฉันเกรงใจ” เรวัตมองคนที่นั่งตรงข้ามกับเขา ท่าทางของหล่อนยังเย็นชาเหมือนเดิม “ก็ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร ​เห็นว่าเป็นของที่เธอเคยชอบกิน แล้วอีกอย่างก็กำลังมีโพรโมชัน ก็เลยซื้อมาฝากเท่านั้น” ชายหนุ่มปดคำโต มีโพรโมชันเสียที่ไหนกัน... หญิงสาวฟังนิ่ง หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงดีใจมาก ต่อให้เขาซื้อเพราะมันลดราคาหล่อนก็ดีใจ แต่เวลานี้ทุกอย่างดูคล้ายจะเฉื่อยชาไปหมด ความกระตือรือร้นและความยินดีปรีดาที่ได้เจอเขาค่อยๆ มลายหายไปนับแต่วันนั้น เมื่อหญิงสาวยังนั่งเงียบ และตรวจสอบของเล่นว่าปลอดภัยสำหรับลูกหรือไม่ เรวัตก็ใช้ช่วงเวลานั้นพินิจหญิงสาวไปทีละส่วนอย่างช้าๆ เริ่มตั้งแต่ดวงหน้าเรียวเล็กภายใต้กรอบผมตรงสลวยที่ทัดใบหูข้างหนึ่ง และปล่อยให้ระดวงหน้าข้างหนึ่ง ปลายจมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสีอ่อน ผิวหน้าเนียนลออ แม้หญิงสาวจะไม่ได้สวยจัดเหมือนดารา แต่จมูกปากคิ้วคางก็รับกันทุกส่วน ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดี ชายหนุ่มไม่เคยพิศหล่อนจริงๆ จังๆ เลยสักครั้ง นี่คือครั้งแรกที่สังเกต เขาไม่เคยเห็นหล่อนคบใครมาก่อน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาหญิงสาวคอยรับใช้มารดาของเขาอย่างใกล้ชิด และหล่อนก็ไม่ใช่เด็กชอบเที่ยว มีเพื่อนน้อยมาก ไม่ว่าเมื่อไร เขาจึงเห็นหล่อนอยู่กับมารดาเสมอ จนเขานึกเบื่อวิถีชีวิตของหล่อน ทุกอย่างที่ประกอบเป็นโรสรินทร์ ทั้งจืดชืดและน่าเบื่อ แต่วันนี้ เขากลับมองต่างออกไป ความน่าเบื่อที่เขาเคยคิดแท้จริงคือความทุ่มเทที่มีให้กับคนที่รัก เขาเริ่มเห็นสิ่งอื่นที่ปรากฏออกมาจากการกระทำของหล่อน หญิงสาวดูอ่อนโยนอย่างยิ่งเมื่ออยู่กับลูก รอยยิ้มที่มอบให้คนรอบกายนั้นอ่อนหวานชวนมอง ทุกคนในบ้านรักหล่อนและหล่อนก็รักพวกเขา หากหล่อนเปิดโอกาสให้ผู้ชายอื่นสักหน่อย บันไดบ้านก็คงไม่มีโอกาสได้แห้ง เลิกรากับเขามานานนับปีหล่อนเคยคิดมีคนใหม่บ้างหรือไม่ หัวใจของคนเอาแต่คิดเงียบๆ พลันกระตุก หากถึงวันนั้นจริงๆ เขาควรจะต้องดีใจใช่ไหม แต่ทำไมตอนนี้จึงรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด แค่คิดเขาก็ใจหายแปลกๆ อาจเป็นเพราะความฝันครั้งล่าสุด ที่ทำให้เขาไม่อยู่กับร่องกับรอยนัก มันจะจริงไปได้อย่างไรที่เขาดูรักใคร่หล่อนมากขนาดนั้น คงเป็นแค่ฝันนั่นแหละ เขาพยายามบอกตนเองเช่นนั้น แต่คิ้วขมวดพันกันวุ่น เกิดคำถามขึ้นอีกครั้ง แล้วระหว่างความฝันกับความจริง เขาพอใจให้เป็นแบบไหนมากกว่ากัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD