๗ หัวใจคนพาล

1706 Words
๗ หัวใจคนพาล หลังจากที่ยั่วประสาทโรสรินทร์จนพอใจ เรวัตก็กลับบ้าน เขาตรงเข้าห้องทำงานแล้วติดต่อกับทนายความส่วนตัว ดวงตาคมกล้าหลุบมองลงไปยังลิ้นชักโต๊ะ อึดใจหนึ่งจึงไขกุญแจแล้วดึงมันออก กรอบภาพบานหนึ่งอยู่ในนั้นกรอบของมันเป็นสีขาว แต่ภาพภายในคือภาพของคนที่เขารัก เรวัตหลับตาลงพร้อมกับภาพความทรงจำครั้งเก่าก่อนที่ค่อยๆ หลั่งไหลราวกับสายน้ำ ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง... “นั่นไง น้องอ้อน อภิญญา ดาวคนใหม่ สวยเนอะ” “ฉันว่าน่ารักมากกว่าสวย แต่ยิ่งมองยิ่งมีเสน่ห์” “นิสัยนางก็น่ารักด้วยนะ ไม่หยิ่ง” “ใช่ น่ารักจริงคนนี้ สวย เรียนดี ขยันด้วย พอเลิกเรียนนางยังทำงานพิเศษต่อ” เสียงพูดคุยเบาๆ ของเพื่อนนักศึกษาทำให้คนที่กำลังนั่งรอใครบางคนอยู่ที่โต๊ะใต้ร่มไม้หน้าอาคารเรียนเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นหน้าของคนที่ถูกกล่าวถึงอย่างชื่นชมเขาก็ส่งยิ้มให้ เรวัตกับอภิญญาเรียนอยู่คณะเดียวกัน นั่นคือคณะบริหารธุรกิจ “ไงเร รออ้อนกับเก๋นานไหม” อภิญญาเอ่ยถาม ดวงหน้างามเจือยิ้มสดใส “ไม่นานหรอก เราเพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เมื่อดาวมหาวิทยาลัยนั่งลง จึงไม่ใช่หญิงสาวเพียงคนเดียวที่ถูกจับตามอง แต่เป็นเรวัตด้วยอีกคน ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งเดือนของมหาวิทยาลัยเช่นกัน แต่ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะไม่ชอบเป็นจุดสนใจของใคร ตรงกันข้ามเขาชอบอยู่เงียบๆ ในที่ของตนเองมากกว่า “อืม...เร เก๋ได้ข่าวว่ามีสาวๆ ตามตื๊ออยู่ใช่ไหม” เก๋กระเซ้าเพื่อนด้วยสายตาขบขัน “เราก็ได้ยินมาเหมือนกันนะ เลือกถูกไหม เราว่าคนที่ชื่อ พรีมน่ารักดี ส่วนรุ่นพี่ปีสามที่ชื่อหยกก็สวย เอาไงดีล่ะเร งานดีทั้งคู่เลยนะเราว่า” อภิญญากับเก๋หัวเราะกันคิกคัก พลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ แต่เรวัตส่ายหน้า วงหน้าหล่อเหลาเจือยิ้มเล็กน้อย “เชียร์กันจัง” เพื่อนทั้งสองไหวไหล่ สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน “แหม จะได้เปิดประสบการณ์ยังไงล่ะ พี่หยกก็ดีนะเร นางดูสวยแซ่บดี” เก๋ชี้ช่อง ทำให้ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในกลุ่มถึงกับถอนหายใจยาวเหยียด ขณะที่เพื่อนทั้งสองเปลี่ยนเรื่องคุย ชวนกันดูอะไรสักอย่างบนหน้าจอสมาร์ตโฟน เรวัตได้แต่มองอภิญญาด้วยสายตาตัดพ้อ เขาชอบหล่อนตั้งแต่เรียนอยู่ปีหนึ่ง แต่จนถึงตอนนี้หญิงสาวก็ไม่รับรู้หรือสนใจว่าเขาคิดอย่างไร แต่กลับไปชื่นชมผู้ชายที่มีอายุมากกว่าให้ช้ำใจเสมอ สิ่งที่ทำให้เรวัตชอบอีกฝ่ายไม่ใช่แค่ความสวย แต่เพราะความน่ารักและจริงใจของหล่อน ทำให้เขาไม่อาจละสายตาและตัดใจจากอภิญญาได้ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยคิดกับเขาเกินกว่าคำว่าเพื่อนก็ตามที ถึงแม้ว่าเรวัตไม่เคยปกปิดความรู้สึก แต่อภิญญาก็ไม่เคยคิดกับเขาเกินเลย จนกระทั่งเรียนจบ ต่างคนต่างแยกย้ายหางานทำ เขาฝึกงานในบริษัทของครอบครัว ส่วนอภิญญาเลือกที่จะทำงานกับบริษัทอื่น กระทั่งถึงวันเกิดของหญิงสาว ชายหนุ่มตัดสินใจขับรถไปยังที่พักของอีกฝ่ายเพื่อทำเซอร์ไพรส์ และตั้งใจบอกความรู้สึกที่มีต่อหล่อนมาเนิ่นนาน แต่กลับต้องใจสลายเมื่อได้ล่วงรู้ความลับที่อีกฝ่ายพยายามปกปิดมาโดยตลอด วันนั้นอภิญญาขึ้นรถไปกับผู้ชายคนหนึ่ง คนคนนั้นดูดี ภูมิฐานและดูเป็นผู้ใหญ่ท่าทางอบอุ่น เขาขับรถตามไปจนถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง แอบมองทั้งคู่นั่งรับประทานอาหารในโรงแรมหรู ทั้งสองนั่งชิดจนแทบเกยตักกัน ถ้าเขาจำไม่ผิดผู้ชายคนนั้นคือนักธุรกิจมีชื่อเสียง ที่สำคัญผู้ชายคนนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว เขาไม่อาจทนมองเฉยๆ ต่อไปได้ จึงคิดหาทางบอกเรื่องนี้กับหญิงสาว เรวัตตั้งใจเข้าไปทักแต่เขาต้องชะงักเมื่อผู้ชายคนนั้นจูบแก้มของอภิญญา เขาคงเข้าไปช่วยหากเพื่อนจะปัดป้อง แต่สิ่งที่เห็นคือหล่อนดูมีความสุขกว่าปกติ ท่าทางเอนตัวซบไหล่ผู้ชายคนนั้นทำให้รู้ว่าสองคนนั้นสนิทสนมกันเกินกว่าคนรู้จักธรรมดา เรวัตติดตามคนทั้งสองจนกระทั่งผู้ชายคนนั้นไปส่งหญิงสาวที่ห้องพัก จึงใช้โอกาสนั้นนัดเจอหล่อน เขาพยายามบอกความจริงเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น แต่คำตอบที่ได้ฟังจากปากของ อภิญญาคือ “เรอย่ายุ่งเรื่องของเราเลย เรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขากับเมียไม่ได้รักกัน แต่งงานกันก็เพราะเรื่องของธุรกิจ อีกไม่นานเขาจะหย่ากัน” วันนั้นเขารู้สึกเหมือนถูกไม้หน้าสามตีแสกหน้า อภิญญาที่เคยรู้จักฉลาดกว่านี้ แต่ดูเหมือนหล่อนกำลังถูกความรักเล่นงานจนมองข้ามความถูกต้อง เขาพยายามอธิบาย แต่สุดท้ายจบลงตรงที่ทะเลาะกัน เขากลับบ้านด้วยความรู้สึกของคนที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ วันนั้นมารดาของเขากำลังจัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้กับโรสรินทร์ ฉลองอายุครบสิบหกปีเต็ม เขาส่งของขวัญให้หล่อนโดยไร้คำอวยพร และขึ้นไปเก็บตัวในห้องนอนท่ามกลางสายตาที่เป็นคำถามของหญิงสาวและมารดา แต่ไม่คิดจะอธิบายให้ใครรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนมาถึง โรสรินทร์ในเวลานั้นคือเด็กที่มารดาของเขารับอุปการะมาตั้งแต่อายุแค่สิบขวบ แม่ของหล่อนทิ้งไป ส่วนพ่อก็หายสาปสูญ โรสรินทร์มีจุดเด่นที่เป็นเด็กผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารักเกลี้ยงเกลา เรียบร้อย พูดน้อย ดูเจียมตัวและมารยาทงาม ทำให้มารดาของเขารักใคร่เอ็นดูเป็นอย่างมาก... เขาจำวันเกิดหล่อนได้แม่นยำ เพราะเป็นวันเดียวกับวันเกิดของอภิญญา และทุกครั้งที่เวียนมาถึงวันนี้ จึงเป็นวันที่ทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวใจ เขาเคยเอ็นดูโรสรินทร์ในฐานะน้องสาว แต่เมื่อเติบโตขึ้นความสนิทสนมที่เคยมีค่อยๆ จืดจาง อาจเป็นเพราะหล่อนเป็นคนเงียบๆ และเขาเองก็ไม่ใช่คนสนุกสนานอะไร คนที่หล่อนติดแจจึงเป็นแม่ของเขา ส่วนเขาเองเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงและมีสังคมของตัวเอง พอเริ่มโตทั้งหล่อนและเขาก็ไม่ค่อยได้เข้าใกล้หรือสุงสิงกันมากนัก เขาจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจหล่อนสักเท่าไร ความห่างเหินทำให้พวกเขากลายเป็นคนแปลกหน้าที่ต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านเดียวกัน ไม่นานนักเขาตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ใช้เวลาเรียนสองปีและทำงานกับบริษัทต่างชาติเพื่อหาประสบการณ์อีกสองปี รวมเป็นสี่ปี จากนั้นจึงเดินทางกลับเมืองไทย เขาออกจะเลือนๆ เรื่องของอภิญญาไปบ้าง และคิดว่าคงลืมรักแรกลงได้ในสักวันหนึ่ง ถ้าไม่เกิดเรื่องบังเอิญเดินชนหล่อนเข้า ในตอนนั้น เขาเพิ่งรู้ว่าไม่เคยลืมหล่อนเลย และการพบเจอกันคราวนี้ ทำให้เขารับรู้ว่าหญิงสาวได้เลิกรากับผู้ชายคนนั้นไม่นานนัก แต่เหตุผลที่ทำให้เขาสามารถกลับไปใกล้ชิดหล่อนได้อีกครั้งนั่นคือลูก อภิญญาตั้งท้องกับผู้ชายคนนั้น แต่คนที่หล่อนรักไม่ยอมรับเด็กในท้อง หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมา แต่ก็อยู่ในช่วงที่ลำบาก เขาจึงยื่นมือเข้าไปโอบอุ้มอย่างเต็มใจ หล่อนเองที่กำลังเคว้งจึงตอบรับไมตรี ทำให้เขาดีใจมาก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา แม่ของเขาแสดงทีท่าเย็นชาตอนที่เขาพาหญิงสาวไปแนะนำในฐานะคนรัก สองอาทิตย์ต่อมาท่านยื่นคำขาดว่าไม่ยอมรับหญิงสาว สิ่งนั้นทำให้เขาเสียใจมากที่สุด จึงตัดสินใจปลูกเรือนหอหลังใหม่ แยกตัวออกจากมารดา เขาไม่สนใจคำคัดค้าน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานและดูแลคนที่เขารัก ระหว่างนั้นมีเรื่องมากมายเข้ามาให้ต้องคิดหนักอยู่หลายครั้ง อภิญญาเองก็ดูเงียบเหงาลงทุกวัน หล่อนอยู่กับเขา แต่หัวใจไม่เคยเป็นของเขา จนวันหนึ่งมีงานเลี้ยงรุ่น เขาพาอภิญญาไปงานนั้น และบอกกับทุกคนว่ากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวรวมทั้งกำลังจะได้เป็นพ่อคน ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ถ้าแม่ไม่เดินทางไปในงานนั้นทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานหลายเดือน ท่านได้พูดบางอย่างกับอภิญญา หลังจากนั้นพวกเขาก็ทะเลาะกัน ก่อนที่หล่อนจะหายตัวออกไปจากงานเลี้ยง เขาออกตามหาคนรักอย่างบ้าคลั่ง อดหลับอดนอนติดต่อกันหลายคืน จนสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุ... แต่หายนะใหญ่สุดในชีวิตยังไม่ใช่ที่เขาเจ็บเจียนตายและต้องสูญเสียคนสำคัญ แต่มันคือการที่ต้องตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองได้แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่รับอุปการะ เป็นช่วงเวลาที่เขาจำอะไรไม่ได้ จึงเป็นสิ่งที่ชวนช็อกไม่น้อยนับแต่ความทรงจำถูกฟื้นคืนมา และต้องมาช็อกซ้ำสองเมื่อรับรู้ว่าเขากับหล่อนมีลูกด้วยกันหนึ่งคนหลังจากหย่าขาดไปได้ไม่ถึงปี เรวัตลืมตาขึ้นจากภวังค์ เขาพยายามคิดถึงช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับโรสรินทร์ แต่กลายเป็นว่าพอเขากลับมาจำได้ ช่วงเวลาของเขากับโรสรินทร์ตอนใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยากลับขาดหาย ไม่ว่าจะพยายามคิดมากแค่ไหนก็คิดไม่ออก แม้บางครั้งจะมีภาพวูบวาบผ่านมา แต่ก็ไม่อาจปะติดปะต่อเป็นชิ้นเป็นอัน ทว่าความทรงจำก่อนหน้านั้นนี่สิ ที่จำได้แม่นยำราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD