Killing me [EP 14]
@ผับ S
“หายหน้าหายตาไปเลยนะช่วงนี้” เรอัลถามขณะที่เห็นเพื่อนอีกคนกำลังเดินเข้ามาในโซนวีไอพีของผับ โซนนี้เขาสร้างขึ้นสำหรับสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน เพราะมันสามารถมองเห็นวิวรอบๆ ผับได้ทั้งหมด
“สงสัยติดเด็ก” เควินแซะขณะที่รินเหล้าส่งให้เพื่อนที่พึ่งมา
“ติดเหมือนมึงแหละไอ้เวร”
“มึงสองคนพอๆ กันนั่นแหละ ติดหลีทั้งสอง” กายที่ยืนดูดบุหรี่อยู่ริมต่างหน้าพูดขึ้น ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆ เรอัล
วันนี้มีโอกาสได้รวมกลุ่มอีกวัน ช่วงนี้มีนัดรวมกลุ่มบ่อยเพราะเควินพึ่งกลับมาจากอิตาลีหลังจากไปอยู่นั่นเป็นเวลานานถึง 12 ปี
“กูว่าพวกมึงน่าจะเป็นโรคตับตายก่อนจะได้เมีย” มาร์คคว้าแก้วเหล้าแล้วกระดกลงคอรวดเดียวจนหมดแก้ว
“แหม๋พ่อหนุ่มแฮลตี้ ได้ข่าวว่าอัพรูปนมผู้หญิงลง...ใครวะ” ในกลุ่มตอนนี้มีแค่เควินเท่านั้นที่รู้เรื่อง เพราะเด็กของเควินเป็นเพื่อนสนิทของมะนาวเด็กที่เขากำลังเลี้ยงอยู่
“เพื่อนสนิทของเด็กกูนี่แหละ” เควินพูดขึ้นก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูด
“พวกมึงจะกินไกลกว่านี้ไม่ได้หรอ”
“ทำไงได้เด็กมันว้อน” มาร์คยักไหล่ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบไฟเช็กขึ้นมาจุดก้นบุหรี่ที่คาบอยู่ในปาก
“อย่าให้แม่มึงรู้เชียวนะเว้ย ไม่งั้นงานเข้ามะนาวแน่ๆ” เรอัลเตือนด้วยความหวังดี
“ก็ถ้าพวกมึงไม่ปากโป้งก็ไม่รู้ปะวะ” มาร์คพ่นควันบุหรี่ด้วยความหงุดหงิด เพราะถ้าวันหนึ่งเกิดแม่ของเขารู้เรื่องขึ้นมา คงจะบังคับให้เขาเลิกยุ่งกับมะนาว
“กูรู้ว่าแม่มึงอยากได้ยัยพาขวัญเป็นลูกสะไภ้” เควินเคยเจอกับพาขวัญครั้งหนึ่ง เหมือนพาขวัญเองจะชอบมาร์คเอามากๆ
“แต่กูกับพาขวัญเป็นแค่เพื่อนกัน”
“แล้วฝั่งนั้นเขาคิดกับมึงแค่เพื่อนไหมล่ะ ดูท่าพาขวัญจะชอบมึงเอามากๆ แล้วแม่มึงเองก็ชอบพาขวัญเหมือนกัน”
“เอ้อ!” มาร์คพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด พาขวัญกับเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ เขาไม่เคยคิดกับพาขวัญเกินเลยถึงขั้นนั้นเลย
“แม่มึงก็เป็นแบบนี้แหละ ใครมีผลประโยชน์ด้วยก็จะจับให้มึง” เควินตบไหล่เพื่อนรักด้วยความเห็นอกเห็นใจ
“มึงก็เลิกเป็นอาจารย์แล้วไปทำธุระกิจจริงจังสิ” กายเสนอ
“มึงก็รู้ว่าอาตรีภพไม่ชอบให้กูไปหัวแข็งใส่ กูไม่อยากมีปัญหาเลยไปให้ท่านดูแลไป” มาร์คเคยทำงานร่วมกับตรีภพ จึงรู้ว่าอาของเขาเป็นคนแบบไหน ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จนเกือบทะเลาะกันหลายครั้งเพราะความคิดไม่ตรงกัน เขาเลยตัดปัญหาด้วยการให้ตรีภพเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด ส่วนเขาจะเข้าไปบริษัทบ้างเป็นครั้ง
“กูว่าอาตรีภพมึงนี่ไม่ค่อยน่าไว้ใจ หวังจะฮุบบริษัทรึป่าววะ” เควินกล่าว
“ไม่หรอก บริษัทของพ่อกูยังไงกูก็ไม่ให้ใครเอาไปได้แน่นอน” พ่อของมาร์คเสียไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยโรคมะเร็ง เขากับแม่จึงสานต่อธุรกิจแล้วมีอาตรีภพที่เป็นผู้คอยหนุนหลัง
“งั้นมึงก็รีบหาเมียไปบริหารช่วยสิ” เรอัลพูดติดตลก
“ยากหน่อยนะ เพราะถ้าเมียไม่ถูกใจแม่มึง มันก็จะแย่หน่อย” เควินเสริม
“หุบปากไปเลยพวกมึงสองคน ดูไอ้กายเป็นตัวอย่างบ้าง ไม่เสือกเรื่องของคนอื่น”
“ไอ้นั่นมันไม่สนใจอะไรหรอกนอกจากหว่างขา ฮ่าๆๆๆ”
“เอ๊ะ! ไอ้มาร์ค นั่นเด็กมึงกับเด็กกูรึป่าววะ” เควินชี้ไปที่สองสาวที่นั่งอยู่โซนบาร์ข้างล่าง คนหนึ่งใส่ชุดสีดำรัดรูป ส่วนอีกคนใส่ชุดสีแดงรัดรูปเช่นกัน
สายตาคมตวัดไปที่ชั้นล่างของผับ กรามหนาถึงกับขบแน่นด้วยความไม่พอใจ เด็กที่เขาเลี้ยงไว้แต่งตัวมายั่วผู้ชายที่ร้านเหล้า
“หุ่นดีทั้งสองเลยว่ะ” เรอัลเอ่ยปากชม “ถึงมะนาวจะตัวเล็กกว่า แต่ก็อย่างอื่นก็ไม่เล็กนะ”
“เก็บปากไว้กินข้าวจะดีกว่านะเรย์”
“ชมนิดชมหน่อยทำเป็นหวง”
จะไม่ให้หวงได้ไงวันนี้เธอเป็นคนบอกเขาแท้เองว่าจะไปหาที่คอนโดหลังเลิกงาน แต่กลับใส่สั้นนุ่งน้อยห่มน้อยมายั่วผู้ชายอยู่ร้านเหล้า แบบนี้มันน่าโมโหไหมล่ะ
เขาไม่ได้หึงเธอ แต่เขาไม่ชอบที่เธอนุ่งน้อยห่มน้อยมาร้านเหล้า เด็กในสังกัดของเขาต้องเรียบร้อยและเชื่อฟังเขาคนเดียวเท่านั้น!
“กูว่าน้องเมา” กายเดินมาจับบ่าเพื่อน ที่นั่งนิ่งแต่ภายในกลับเดือดพล่านด้วยความโกรธ
“รู้แล้ว”
“มึงไม่ลงไปดูแลน้องมันหน่อยวะ”
“มาได้ก็ต้องกลับเองได้” เพราะยังไงตอนกลับก็ต้องไปหาเขาที่คอนโดอยู่ดี ค่อยไปสะสางที่นั่นทีเดียวเลย
“ใจร้ายว่ะ ระวังมีผู้ชายมาคาบเด็กในสังกัดมึงไปนะ”
“คาบไปสิ ถ้าคาบไปกูก็แค่ไปคาบคืนมา”
“แล้วถ้าเด็กมึงไม่คืนล่ะ
“หึ...ถ้าไม่คืนได้เห็นดีกับกูแน่” หน้าหล่อหันไปสั่งเด็กนั่งดริ้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างกายกับเรอัล “ชงเหล้าให้หน่อย เอาเข้มๆ”
“ใจเย็นๆ น่า กูรู้ว่ามึงกำลังโมโหให้น้อง แต่ถ้ามึงเมาก่อนคนอื่นไปส่งน้อง กูไม่รู้ด้วยนะ” เรอัลห้ามปรามเพื่อน เพราะตั้งแต่มาถึงมาร์คก็กระดกเหล้าเอาๆ เหมือนกินน้ำเปล่า
“กูไม่ได้โมโห ปกติกูก็กินเหล้าหนักแบบนี้ปะวะ”
เรอัลกับกายไม่เถียงแต่ส่งซิกให้กันเป็นการพยักหน้า เชิงเป็นการบอกว่าอย่าไปห้ามมัน
“ไอ้เคย์ไปไหนวะ” กายถามเมื่อจู่ๆ เพื่อนในกลุ่มอีกคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“กูว่าน่าจะลงไปจัดการแมวของมัน” เรอัลพูดก่อนจะหันหน้าไปบอกมาร์ค “ไอ้เคย์มันไปตามแมวมันแล้ว เมื่อไหร่มึงจะไปตามเด็กของมึง”
“ช่างมันสิ ไอ้เคย์มันเป็นพวกอารมณ์ร้อนปะวะ กูเป็นคนใจเย็น” มาร์คพูดอย่างไม่แยแส ในขณะที่เพื่อนสองคนส่ายหัวไปมาด้วยความเอื่อมระอา
“กูจะคอยดูไอ้พวกใจเย็น”
มาร์คละความสนใจจากเพื่อนสองคน ก่อนจะกระดกแก้วเหล้าอีกรอบ แม้กายของเขาจะเย็นแต่ตอนนี้ข้างในของเขาร้อนราวกับกองไฟที่กำลังลุกไหม้
คอยดูนะกลับไปจะจัดการให้เข็ดเลย!!