ฟาง...
" แสดงว่าของเล่นชิ้นนี้ไม่ธรรมดาแฮะ "
เสียงผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามนักรบพูดขึ้นก่อนจะยกแก้วเหล้ามากระดกและมองมาที่ฉันยิ้มๆ
" เฮียเจก็รู้ว่าเฮียรบรักของเล่นของตัวเองจะตาย เฮียรบต้องมีพื้นที่ให้อยู่แล้ว ใช่ป่ะเฮีย "
ฉันไม่รู้ว่าต้องดีใจหรือเสียใจดีเมื่อคุณเซียนพูดประโยคนี้ขึ้นมา
รักของเล่นงั้นหรอ?
" ของเล่นของกู กูมีพื้นที่ให้เสมอแหละ "
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับใบหน้านิ่งๆ สายตาที่เขามองมาแม้ไม่ได้หวานหยดย้อยหรือชวนฝันแต่มันก็ทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจจนคิดไปไกลว่าตัวเองสำคัญ
" นี่คุยเรื่องอะไรกันคะ พริสงงไปหมดแล้ว แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ "
เสียงผู้หญิงที่นั่งข้างนักรบเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่งงเพราะฉันเองก็งงเหมือนกัน
" อยากรู้ก็ถามเฮียสิ ถ้าเฮียตอบอะนะ "
คุณเซียนบอกคุณพริสยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมายิ้มบาง ๆ ให้ฉันแล้วยกแก้วเหล้าต่อ
" ไม่มีอะไรหรอกพริส เรื่องของผู้ชายน่ะ "
เพื่อนของนักรบที่เมื่อกี้คุณเซียนเรียกเขาว่าเจหันมาบอกก่อนจะหันกลับไปคลอเคลียกับผู้หญิงข้างๆต่อ ส่วนนักรบก็นั่งฟังเพื่อนๆของเขาคุยกันต่อเงียบๆและฉันที่ทำตัวไม่ถูกก็ได้แต่นั่งนิ่งๆบนตักไม่กล้าขยับไปไหน
" รบจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอคะ แล้วพริสล่ะ "
คุณพริสยืนขึ้นด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยแววตาดุดัน
" ถ้ายังอยากให้ฉันยุ่งกับเธอ ก็อย่าเยอะฉันไม่ชอบ "
น้ำเสียงดุๆของนักรบที่ดังขึ้นข้างๆหูฉันทำให้คุณพริสเงียบไปและทิ้งตัวลงที่เดิมด้วยท่าทางหงุดหงิด
" คืนนี้เราค้างด้วยกันนะคะรบ พริสคิดถึง "
คุณพริสชะโงกหน้าเลยตัวฉันมาก่อนจะหันมาถามนักรบ
" ไม่ว่าง "
คำตอบสั้นๆแบบไม่ได้ใส่ใจของนักรบทำให้คุณพริสชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันมามองฉันด้วยสายตาดุๆอีกครั้ง
" แต่เราไม่ดะ... "
" ฟางไม่สบาย ต้องมีคนดูแล "
น้ำเสียงเรียบนิ่งของนักรบดังขึ้นที่ข้างหูฉันอีกครั้งไม่รอให้คุณพริสพูดจบ เป็นประโยคที่นักรบตอบคุณพริสแต่ทำให้ฉันที่นั่งฟังอย่างเงียบๆถึงกับใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก
" อั้ยย๊ะ อยากรู้จังว่าของเล่นชิ้นนี้มีอะไรดีปกติมึงไม่ค่อยซ่อมของเล่นนี่หว่าถ้าพังก็ทิ้ง "
คุณเจที่นั่งคุยกับคุณเซียนอยู่ถามขึ้นเชิงเล่นๆ ซึ่งตอนนี้ฉันได้แต่นั่งก้มหน้าเกร็งตัวบนตักของนักรบ
" ไม่เสือกสิ "
คุณนักรบว่า
.
.
.
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของผู้ชายสามคนกับสายตาไม่เป็นมิตรของคุณพริสที่ส่งมาให้ฉันตลอดเวลาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด แต่พอนั่งไปสักพักฉันก็รู้สึกง่วงขึ้นมาดื้อๆ หรือเพราะฤทธิ์ยาและพิษไข้ก็ไม่รู้ทำให้ฉันสัปผงกไปหลายที
" ง่วงก็นอน "
ไม่รู้ว่าฉันเบลอจนฟังผิดหรือเพราะพิษไข้ทำให้ฉันได้ยินเสียงกระซิบที่นุ่มละมุนจากนักรบดังขึ้นข้างๆหู
" มะ ไม่เป็นไรค่ะ "
ฉันรู้สึกประหม่่าเล็กน้อยก่อนจะตั้งสติไม่ให้ตัวเองสัปผงก
" เอนตัวลงมา "
ฉันฟังไม่ผิดหรอก น้ำเสียงของเขานุ่มละมุนจริงๆก่อนที่วงแขนแกร่งจะรั้งฉันเอาไว้ให้เอนตัวลงไปซบกับแผ่นอกของเขาแม้จะรู้สึกประหม่าหรือตกใจแต่ฉันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ฉันชอบที่เขาเป็นแบบนี้จัง
" เห็นมั้ยเซียนบอกแล้วว่าเฮียรบรักของเล่นจะตายเฮียเจแมร่งก็ไม่เชื่อเซียน "
" อ้าวใครจะไปรู้ล่ะก็เห็นเขามานั่งตั้งนานแล้วทำเป็นไม่สนใจเขา "
ฉันที่กำลังหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของนักรบได้ยินเสียงผู้ชายสองคนเถียงกันไปมา แต่ก็ไม่ชัดอยู่ดีคงเพราะพิษไข้และฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปเลยทำให้ฉันแทบลืมตาไม่ขึ้นแล้วตอนนี้
" พริสว่าพริสกลับดีกว่าค่ะ "
เสียงกระแทกจากคนที่นั่งข้าง ๆ นักรบเอ่ยขึ้นก่อนที่ฉันจะเห็นภาพเลือนลางของเธอเดินสะบัดเท้าออกไป มองดูก็รู้ว่าคุณพริสไม่พอใจและไม่ชอบฉัน แต่จะทำอย่างไงได้ในเมื่อฉันเองก็ปฏิเสธนักรบไม่ได้เหมือนกัน
" นั่งนี่แหละ ถ้าหลับเดี๋ยวอุ้มกลับเอง "
เสียงละมุนกระซิบบอกฉันราวกับว่าเขารู้ว่าฉันจะกลับไปนั่งที่เดิมก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นจนฉันรู้สึกอุ่นขึ้นมา
" ค่ะ "
ฉันตอบกลับสั้นๆก่อนจะหลับตาลงแบบไม่กังวลอะไรอีก
' ถ้าหลับเดี๋ยวอุ้มกลับเอง '
ประโยคเมื่อกี้ทำให้ฉันอมยิ้มออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่ รู้สึกดีจัง
ฉันหลับไปทั้งๆที่ได้ยินเสียงคนสามคนคุยกันแต่ได้ยินไม่ชัด
กระทั่งเวลาผ่านไปสักพักเสียงของผู้คนด้านนอกก็เริ่มเงียบลง หรือเพราะฉันกำลังเข้าสู่โหมดหลับสนิทก็ไม่รู้
รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อร่างของฉันลอยขึ้นจากพื้นโดยที่มีวงแขนแกร่งของใครบางคนอุ้มไว้ ก่อนจะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆท่ามกลางเสียงเพลงในผับที่ดังกระหึ่ม
ไม่นานฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนอนอยู่บนที่นอนนุ่มๆ ก่อนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างมาป้วนเปี้ยนกับเสื้อเชิ้ตที่ฉันสวมอยู่และไม่นานฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันหลุดออกไปจากตัวฉัน