" อื้อ "
ริมฝีปากของฉันถูกครอบงำด้วยริมฝีปากของใครบางคนที่ฉันไม่เห็นหน้าเขาเพราะฉันลืมตาไม่ขึ้นแล้ว สภาพเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น
" อยู่เฉยๆได้มั้ย เดี๋ยวก็ไม่ให้นอนอีกหรอก "
น้ำเสียงดุๆที่คุ้นหูทำให้ฉันในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นนอนต่อนิ่งๆ เพราะรู้ว่าเป็นเขาแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก
" อึก "
ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแทรกเข้ามาในร่างกายฉัน มันเจ็บ!! แผลเก่ายังไม่หายเลยนะ
" อย่าเกร็งได้มั้ย แค่รอบเดียว "
เสียงละมุนกระซิบข้างหูก่อนที่แขนทั้งสองข้างของฉันจะถูกเขาจับไปโอบรอบคอเขาไว้ ริมฝีปากหนาครอบครองริมฝีปากฉันจนฉันต้องขยุ้มมวลผมเขาเอาไว้เพราะความเจ็บจากเมื่อคืนทำให้ฉันรู้สึกกลัว
" อืม "
เสียงครางพอใจของอีกฝ่ายที่ป้อนรสจูบมาให้ฉันพร้อมกับเบื้องล่างของเขาที่ขยับไปมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ ทั้งที่คิดว่าครั้งนี้จะทำให้ฉันเจ็บหนักกว่าครั้งนั้น แต่มันกลับนุ่มนวลอ่อนโยนละมุนเป็นไหนๆ สองแขนของฉันกอดรอบคอเขาเอาไว้พลางลูบไล้ไปมาตามแผ่นหลัง พร้อมกับเสียงครางแผ่วเบาของตัวเองที่เล็ดลอดออกมาเรื่อยๆ มันรู้สึกดีกว่าครั้งนั้นอีก
" เธอไข้ขึ้นอีกแล้วนะ "
เสียงกระซิบข้างหูของฉันเอ่ยบอกเมื่อทุกอย่างจบลง ตอนนี้ฉันรู้สึกตัวเหมือนกำลังนอนในอ้อมกอดของใครบางคน
" ตื่นมากินยาก่อน "
" ฟางเหนื่อย "
ฉันบอกเขาเสียงเบาทั้งๆที่ใบหน้าแนบกับแผ่นอกของเขา
" อืม งั้นก็นอนเถอะ "
นักรบ...
เป็นเวลาตีสองกว่าๆที่ผมต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเพราะใครบางคนไข้ขึ้น ทั้งๆที่ปลุกให้กินยาแล้วแท้ๆแต่ไม่ยอมกิน ผมเองก็ไม่ขัดใจคนป่วยด้วยสิเลยปล่อยให้นอนต่อ
" อื้อ "
เสียงหงุดหงิดของคนที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับมือเล็กๆที่ปัดผ้าในมือผมที่กำลังเช็ดตัวให้เธอออก ป่วยแล้วฤทธิ์เยอะกว่าตอนปกติอีกแฮะ
เพี๊ยะ!!
" ซี๊ด เจ็บนะ!! "
มือเล็กๆฟาดเข้าให้ที่ใบหน้าของผมจังๆ คนป่วยอะไรแรงเยอะชิบ หรือว่าเธอแกล้งผมวะ
" ฟางนิ่งก่อน เธอตัวร้อนนะ "
ผมเอ่ยบอกเสียงดุก่อนจะรวบข้อมือเธอเอาไว้แล้วเช็ดตัวให้เธอ รอยแดงที่ประปรายตามเนื้อตัวเธอไหนจะรอยเขี้ยวฟันที่ผมฝังบนตัวเธอเอาไว้เมื่อคืนยังคงอยู่ และคงอีกนานกว่ารอยพวกนี้จะหายไป หายแล้วจะทำเพิ่มอีกคอยดู
" เธอเป็นของฉันนะฟาง "
ผมเกลี่ยปอยผมที่ปิดหน้าของคนบนเตียงออกก่อนจะลากนิ้วไปมาตามพวงแก้มขาวเนียน ตอนเด็กครูชอบให้เขียนชื่อติดของของตัวเอง พอโตขึ้นผมเลยมีนิสัยชอบทำสัญลักษณ์ไว้กับของของผม โดยเฉพาะของที่สำคัญๆผมต้องทำสัญลักษณ์ไว้เยอะๆ
" ฟางเจ็บ อึก พอแล้ว ฟางไม่ไหวแล้ว "
ใบหน้าขาวเนียนของคนตรงหน้าขมวดคิ้วก่อนจะส่ายไปมา มือเล็กๆเรียวๆตวัดไปมาอีกครั้งจนผมต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะกระทบกับใบหน้าของผมอีก
" ฝันหรือไงยัยเด็กอวดดี "
ผมเอ่ยเบาๆก่อนจะนอนกอดคนป่วยที่ร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ เพราะผมแก้ออกหมดแล้ว แล้วก็ไม่คิดจะใส่ให้ด้วย
" ทีแบบนี้ทำมาร้อง ทีก่อนจะทำล่ะไม่คิด "
ผมดุคนที่หลับในอ้อมกอดเบาๆพลางลูบผมเธอไปมา ใบหน้าของคนในอ้อมกอดซุกเข้าไปในแผงอกพลางกอดผมเอาไว้แน่น
" ถ้าป่วยแล้วจะน่ารักขนาดนี้ หายป่วยแล้วทำให้ป่วยอีกดีมั้ยวะ "
ผมพรึมพรำกับความคิดของตัวเองเบาๆ ทีคืนนั้นล่ะไม่ยอมกอดไม่ยอมทำอะไรต้องให้บังคับ ทีป่วยแบบนี้แล้วกอดซะแน่นเลย แถมก่อนหน้านี้ยังให้ความร่วมมือดีอีก น่ารักเป็นบ้า
" ยัยเด็กโง่...ทั้งๆที่ตัวเองขาวสะอาดขนาดนั้นริอาจอยากขายตัว มันน่านัก "
ผมคิดถึงเรื่องวันนั้นก็อดโมโหขึ้นอีกไม่ได้ เธอเอาสมองส่วนไหนคิดวะอยู่ดีๆจะมาขายตัว ถ้าเกิดไปเจอพวกโรคจิตขึ้นมาจะทำยังไง หรือถ้าเธอต้องไปอยู่ในสถานบริการต้องนอนกับผู้คนมากหน้าหลายตาแล้วเคยคิดบ้างมั้ยว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรบ้าง มันน่านัก
" เธอเป็นของเล่นของฉัน... "
.
.
.
" อื้อ กี่โมงแล้วเนี่ย "
แสงแดดที่เล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ฉันค่อยๆเปิดตาขึ้น ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นและมองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตาสักนิด
" ที่ไหนเนี่ย แล้วเสื้อผ้าฉันไปไหน "
ฉันเบิกตากว้างเมื่อตั้งสติได้ก็พบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ไว้เมื่อคืนนั้นหายไปเหลือเพียงแค่ร่างกายที่เปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่ม
" เดี๋ยวนะ "
ฉันค่อยๆนึกย้อนไปถึงเมื่อคืนแต่ก็จำได้เพียงเลือนลาง รู้แค่ว่านักรบเป็นอุ้มฉันขึ้นมาและเขาก็จุดจุดจุดกับฉันทั้งๆที่ฉันแทบไม่มีสติ
" ให้ตายเถอะ ทำไมเขาหื่นแบบนี้นะ จะเอาให้คุ้มกับเงินสิบล้านเลยหรือไงกัน "
ฉันบ่นอุบก่อนจะเอนกายลงอีกครั้ง
" ว๊ายย!! "
" นะ นักรบ!! "
การที่ฉันเอนกายลงนอนและดึงผ้าห่มมาปิดร่างเอาไว้ทำให้ขาของฉันไปสัมผัสกับบางอย่างที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่เมื่อเปิดออกดูก็พบว่าเป็นนักรบที่นอนคุดคู้ตัวสั่นหน้าแดงอยู่ใต้ผ้าห่ม