คิมหันต์ก้มลงมองจุดเชื่อมต่อระหว่างเขาและเธอก่อนที่จะชักแก่นกายออกมาก็ได้มองไปยังแผลเป็นของเธอที่อยู่บริเวณหน้าท้องซึ่งมันคือแผลเป็นจากรอยกระสุนเขาจำมันได้ดี เพราะหลังจากที่เธอผ่านความเป็นความตายตอนนั้นมาก็ฝากรอยแผลเป็นนี่ไว้เตือนใจเธอตลอดเวลาแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเพราะมันมีอีกรอยแผลหนึ่งเพิ่มขึ้นมาซึ่งเป็นทางยาวเหมือนเป็นรอยผ่าตัดใหญ่
" รอยอะไร "
คิมหันต์ถามพร้อมกับยกมือหนาขึ้นไปลูบไล้รอยแผลเป็นนั้นอย่างทะนุถนอม แต่กุลนิดาก็รีบปัดมือของเขาออกราวกับกลัวว่าเขาจะรู้ว่าแผลนี้ได้มายังไง เรื่องนี้เขาจะต้องไม่มีทางรู้เด็ดขาด มันต้องเป็นความลับตลอดไป เธอคงเจอเขาแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น
" เป็นอะไร ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นหรือว่ามีอะไรปิดบังฉันอยู่ เธอรู้ใช่ไหมว่าเธอโกหกไม่เก่งและฉันก็ไม่ชอบคนโกหก เพราะฉะนั้นบอกความจริงมา "
คิมหันต์ถามอย่างคนจับผิดและขู่เอาไว้ก่อน
" ไม่มีค่ะ แล้วก็ปล่อยได้แล้วฉันมาเข้าห้องน้ำนานขนาดนี้เดี๋ยวคนข้างนอกก็มาตามแล้ว "
กุลนิดาบอกเธอหายเข้ามาในห้องน้ำนานเกินไปแล้ว ป่านนี้ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอจะรอเธอนานแค่ไหนแล้ว
คิมหันต์ถอดถอนแก่นกายใหญ่โตออกมาพร้อมกับน้ำรักของเขาที่มันไหลย้อยลงไปกับเรียวขาเล็กของเธอมากมาย เขาจึงเอื้อมมือหยิบทิชชูเพื่อที่จะเช็ดทำความสะอาดให้กับเธอ แต่คนตัวเล็กที่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรก็เลือกทำเองเสียก่อนจนเสร็จสิ้นแล้วรีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็วรวมถึงตัวเขาด้วย
" เธอต้องไปกับฉัน หนี้สินของพ่อเธอยังเคลียร์ไม่จบเลยนะ "
คิมหันต์ที่ไม่รู้จะหยิบยกข้ออ้างอะไรขึ้นมาเพื่อรั้งให้เธออยู่กับเขาก็ได้แต่เอ่ยถึงหนี้สิน 200 ล้านที่พ่อเธอสร้างไว้ที่คาสิโนของเขาเพื่อเอามาแบล็คเมล์เธอซึ่งไม่รู้ว่ายังจะทำได้อยู่หรือเปล่า
" เวลาผ่านมานานขนาดนี้คุณก็ยังเคี่ยวไม่เลิกเลยนะคะ คุณพรากความบริสุทธิ์ไปจากฉันแล้ว มันก็น่าจะหายกันได้แล้วนะคะ เราอย่าเจอกันอีกเลย "
ร่างเล็กบอก สิ่งที่เธอสูญเสียให้กับเขามันเทียบไม่ได้กับเงิน 200 ล้านนั่นหรอก หนี้สินตรงนั้นมันควรจะจบไปแล้วเพราะมันแลกกับอนาคตของเธอทั้งชีวิต
" เธอคิดว่าตัวเธอมีค่าถึงขนาดนั้นเลยหรอ 200 ล้านมันใช้หนี้กันง่ายๆแบบนี้ก็ได้หรอ ง่ายไปไหม "
คิมหันต์พูดออกไปเพื่อบีบบังคับเธอ แม้ในใจจะไม่อยากได้เงินก้อนนั้นเลยก็ตาม
" แล้วคุณจะเอายังไง ฉันไม่มีปัญญาหาคืนคุณหรอกนะคะ คุณก็รู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้มีสมบัติมากมายอะไร "
กุลนิดาบอกกับคนตัวโตออกไปตรงๆ เธอในตอนนี้ไม่ใช่คุณหนูกุลแล้ว ไม่มีคนรับใช้ ไม่มีคนคอยเดินตามและไม่มีคนที่คอยทำให้ทุกอย่างเหมือนแต่ก่อน มีแต่กุลนิดาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่กัดฟันทนความยากจนเลี้ยงลูกสาวมาโดยลำพัง
" ถ้าเธอหาเงินมาคืนยังไม่ครบเธอก็ต้องไปอยู่กับฉันจนกว่าเธอจะใช้หนี้ครบ "
คิมหันต์เสนอทางเลือกให้เธอ แต่เหมือนเธอจะไม่ได้สนใจเลย
" เหอะ ฉันไม่ไป ฉันไม่มีทางกลับไปในนรกนั่นอีก "
กุลนิดาตอบเสียงหนักแน่น
" นรกงั้นหรอ "
" ใช่ นรก ที่คุณหยิบยื่นให้มันคือนรกสำหรับฉัน พอกันทีอย่ามายุ่งกับฉันอีกนะ ขอให้เราจบกันแค่นี้อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย "
ก่อนจะออกไปเธอก็ไม่วายพูดจาถากถางเขาอีก ซึ่งนั่นก็ทำให้คิมหันต์ถึงกับงงงวย เขาดูแลเธอเป็นอย่างดีมากกว่าคนอื่นๆที่อยู่ในคาสิโนเสียอีกแล้วทำไมเธอถึงบอกว่ามันคือนรก
กุลนิดาผลักเขาให้ออกห่าง หลังจากนั้นเธอก็เดินขาสั่นออกมาจากห้องน้ำ เธอเช็คความเรียบร้อยของตัวเองที่หน้ากระจกภายในเวลาอันรวดเร็วและรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสได้ออกไปแล้ว พอออกมาข้างนอกก็รีบมาที่โต๊ะของตัวเองก็เห็นว่าลูกสาวของเธอพร้อมกับอิทธิฤทธิ์กำลังทานอาหารกันอยู่ เธอจึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ใจสั่นเอามากๆ แทบไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
" คุณแม่ขา ทำไมไปนานจังเลยคะ น้องอบอุ่นหิวก็เลยกินก่อน มานั่งเลยค่ะเดี๋ยวน้องอบอุ่นตักอาหารให้ "
เด็กน้อยตัวอ้วนแก้มน่าฟัดน่าหยิกพูดจาอย่างน่ารักกับแม่พร้อมทั้งตักอาหารด้วยมือน้อยป้อมๆให้แม่ แต่นั่นกว่าจะมาถึงจานก็หกแทบหมดแล้วตามประสาเด็กตักอาหารนั่นแหละ กุลนิดามองหน้าลูกสาวพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอไม่มีทางให้เขารู้ว่าน้องอบอุ่นเป็นใคร
" รีบกินกันเถอะลูก แม่รู้สึกไม่ค่อยสบายอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว "
กุลนิดาบอกพร้อมกับมองหน้าลูกสาว เธอเสียใจที่ไม่อาจพาลูกสาวอยู่นานๆได้เพราะกลัวว่าคิมหันต์จะออกมาเจอกับน้องอบอุ่น เอาไว้เธอค่อยกลับไปชดเชยให้ลูกสาวที่บ้านทีหลังดีกว่า
" กุลไม่สบายหรอครับ ไปโรงพยาบาลไหมเดี๋ยวพี่พาไป "
อิทธิฤทธิ์เป็นห่วงกุลนิดาเพราะร้อยวันพันปีแม้ว่าเธอจะป่วยแต่เธอก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยสักคำ แต่มาวันนี้เธอกลับบอกว่าไม่สบายจนอยากกลับบ้านทั้งๆที่วันนี้เป็นวันสำคัญของลูก
" เอ่อ...กุลแค่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะค่ะพี่อิฐ เรารีบกินกันเถอะนะคะจะได้รีบออกไป "
ท่าทางร้อนรนของกุลนิดาทำเอาอิทธิฤทธิ์เริ่มสงสัย หลังจากที่เธอหายไปนานนับครึ่งชั่วโมงพอกลับออกมากลับมีท่าทางที่แปลกไป
กุลนิดานั่งเฝ้าลูกสาวกินข้าวอยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็หันไปสบตากับใครบางคนเข้าที่ตอนนี้ยืนอยู่ห่างๆมองเธอและทุกคนอยู่นิ่งๆ
" เด็ก?? ลูกสาวเธองั้นหรอ? "
คิมหันต์ยืนมองไปยังโต๊ะอาหารตรงนั้นที่มีกุลนิดาพร้อมกับผู้ชายอีก 1 คนและเด็กอีก 1 คน ซึ่งเขาเดาว่านั่นคงจะเป็นครอบครัวใหม่ของเธอหรือเปล่า แต่ที่เขาต้องแปลกใจคือจากที่เขาสัมผัสมาแล้วเธอไม่น่าจะมีอะไรกับใครในก่อนหน้านี้ เพราะสัมผัสแรกของเขามันบ่งบอกถึงความรู้สึกชัดเจน แต่ทำไมสิ่งที่เขาเห็นตอนนี้กลับกลายเป็นว่ากุลนิดากำลังมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ คิมหันต์รู้สึกไม่พอใจกับภาพตรงหน้าและคนอย่างเขาก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นักหรอกนะ เมื่ออยากได้เขาก็ต้องได้และเขาจะไม่มีทางปล่อยกุลนิดาไปไหนอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงเดินเข้าไปหาเธอ และปาระเบิดลูกใหญ่ใส่เธอทันที
" อยู่นี่นี่เอง ใจร้ายจริงๆเดินออกมาไม่รอกันเลยนะ พอฉันแต่งตัวเสร็จหันกลับมาก็ไม่เจอเธอแล้ว "