bc

ซาตานร้ายสยบรัก (ฉบับฮอตฉ่า)

book_age18+
410
FOLLOW
1.0K
READ
family
opposites attract
like
intro-logo
Blurb

“อิน... อิน”

เขาตบเบาๆ ไปบนใบหน้าซีดเซียวที่มีน้ำตาติดชุ่มเกาะแพขนตางอนยาว แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่รู้สึกตัว ปราปต์เลยรีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองและเธอให้เรียบร้อยก่อนจะอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกที่มีอุณหภูมิอุ่นจัดกลับมาที่รถ

“ทะ... ทำไมเรายังอยู่ที่นี่กันอีกคะ” แม้จะมึนศีรษะไปหมด เนื้อตัวเจ็บระบม ปวดเมื่อย แต่หญิงสาวก็รีบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูจนพบว่ามันเลยเวลาที่ควรจะถึงบ้านใหญ่มาหลายนาทีแล้ว

“แล้วจะให้ไปทั้งที่สภาพคุณเป็นแบบนี้เหรอ เฮอะ ! ชาวบ้านเขาคงคิดว่าไปถูกชำเราที่ไหนมา” พอเขาว่าจบก็เห็น

อุรัตน์นรินทร์ก้มหน้างุด “โดนผัวเอาแค่ไม่กี่นาทีก็เป็นลมล้มพับซะแล้ว ถามจริงเถอะ ตอนเด็กๆ พ่อแม่ไม่ให้ถูกแดดถูกลมบ้างหรือไง ถึงได้อ่อนแอสิ้นดี”

ใบหน้ากลมเกลี้ยงค่อยๆ ช้อนขึ้นแล้วหันไปมองอีกคนอย่างตัดพ้อ ไม่ว่าเรื่องใดเธอก็ผิด ไม่สบายจนเป็นลมไปก็ผิด ถูกเขาทำรักรุนแรงเกินรับไหวก็ผิด ในโลกนี้คงไม่มีอะไรที่ปราปต์จะไม่โยนให้เป็นความผิดบาปของเธออีกแล้วกระมัง

“อินไม่สบาย...”

“ไม่สบายแล้วทำไมไม่รู้จักไปหาหมอ ยังมาทำสนิมสร้อยถอดเสื้อยั่วผัวอยู่บนรถอีก แล้วไม่ต้องมาโทษผมเลยนะ เป็นใครมาเจอคุณถอดเสื้ออวดนมก้อนขาวๆ กลมๆ ให้ดู มันก็ต้องลากคุณเข้าป่าเหมือนผมทุกคนนั่นแหละ”

“ค่ะ อินผิดเอง พี่ออกรถเถอะค่ะ” สุดท้ายเธอก็ตัดปัญหาด้วยการยอมเขาเหมือนทุกที “พี่คงไม่อยากอยู่ใกล้อินนาน ถึงบ้านใหญ่เร็วๆ พี่จะได้อารมณ์ดีขึ้นไงคะ”

ปราปต์หันขวับกลับมาจ้องหน้าภรรยาตัวเองเหมือนเจอคนแปลกหน้า แต่ไหนแต่ไรมาอุรัตน์นรินทร์กล้าประชดประชันเขาแบบนี้ซะที่ไหน !

“ว่าอะไรนะ ?!”

“อ... อินบอกให้พี่รีบออกรถค่ะ พอถึงบ้านใหญ่แล้วจะได้ต่างคนต่างไป ไม่ต้องใช้อากาศร่วมกันให้พี่รู้สึกมีมลพิษยังไงล่ะคะ”

“ถ้าอยู่ใกล้กันแล้วได้รับมลพิษ อย่างนั้นตอนที่ผมฉีดน้ำในตัวผมเข้าไปจนเต็มท้องคุณ คุณน่าจะตายเพราะโดนพิษอุ่นๆ ไปแล้วรู้มั้ย คงไม่มีโอกาสได้มานั่งปากดีประชดผัวอยู่อย่างนี้หรอก”

chap-preview
Free preview
บทที่ 1
อุรัตน์นรินทร์หลุบสายตาลงต่ำอย่างคนเจียมตัว ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เธอเพิ่งผ่านความสุขสมตามกลไกของร่างกายมาหมาดๆ แต่ ณ วินาทีนี้ เธอต้องกลับมาเผชิญหน้ากับปัจจุบันและความเดียวดายอีกครั้ง เมื่อคนที่นอนอยู่ข้างๆ กันเบี่ยงตัวออกห่างแล้วหันหลังให้เหมือนนึกรังเกียจเดียดฉันท์กันจนเหลือทน … แม้จะเป็นเตียงเดียวกันแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนยิ่งห่างไกลออกไปทุกที ถึงอยากจะร้องไห้ ให้กับความน่าเวทนาของตัวเอง แต่กลับไม่มีแม้แต่รอยรื้นของน้ำตา อุรัตน์นรินทร์คิดว่ามันอาจจะเหือดแห้งไปนานแล้ว เธอร้องไห้ เธอเสียใจ จนชินชาและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปเสียแล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ความจริงใจที่เธอมอบให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกลับได้ตอบแทนมาแค่ความรับผิดชอบตามหน้าที่ ที่เขาพึงกระทำต่อเธอผู้เป็นภรรยาเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเธอคอยเตือนตัวเองเสมอว่าถ้าไม่อยากผิดหวัง ก็อย่าได้หวังเป็นดีที่สุด “จะไปไหน ?” เสียงห้าวทุ้มร้องถามเมื่อเธอขยับตัวลุกจากที่นอน ถึงไม่ได้ตะคอกหรือกระชากน้ำเสียง แต่มันกลับทำให้คนฟังเย็นเยียบไปถึงกระดูกสันหลัง เดิมทีอุรัตน์นรินทร์คิดว่าเขาคงหลับไปแล้วเพราะความเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมที่เขาเร่งเร้าทำร่วมกับเธอตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนก้าวล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้ว... “อินจะลงไปอุ่นนมมาให้พี่ดื่ม พี่ปราปต์จะได้หลับสบายทั้งคืน” ปกติเธอจะเอานมที่อุ่นพอควันขึ้นให้ได้กลิ่นหอมของมัน เอามาให้เขาดื่มก่อนนอนเป็นประจำในห้องทำงาน เพราะปราปต์เป็นคนชอบดื่มนมมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าคืนไหนไม่ได้ดื่มมันก่อนที่จะเข้านอน จะทำให้นอนหลับยาก หรือไม่ก็จะตื่นขึ้นมากลางดึก แต่เพราะวันนี้ชายหนุ่มออกจากห้องทำงานตรงมายังห้องนอนเร็วกว่าทุกวัน เธอจึงยังไม่ได้เตรียมไว้ และด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเขาอาจจะนอนหลับไม่สนิท ทั้งที่เวลานอนของเขาก็น้อยนิดอยู่แล้ว เธอจึงตั้งใจว่าจะลงไปที่ห้องครัวเพื่อจัดเตรียมมันไว้ให้สามี “ไม่ต้องลำบากหรอก ดึกมากแล้วนอนเถอะ” ถึงแม้คำพูดของเขาเหมือนจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใย แต่มันช่างไม่เข้ากับน้ำเสียงที่เขาเลือกใช้เลยสักนิด มันแลดูเย็นชาห่างเหินไร้ความรู้สึก เหมือนสิ่งที่เขาทำมันไม่ได้ออกมาจากใจหรือความรู้สึกจริงๆ แต่มันเป็นแค่ประโยคบอกเล่าทั่วไปเท่านั้น “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อินแค่ทำตามหน้าที่... ตอนนี้ยังมีโอกาสได้ทำ ก็ขออินทำมันให้ดีที่สุด” หญิงสาวไม่แม้แต่จะคิดว่าชีวิตคู่ของเธอกับเขาจะอยู่ยืดยาวไปอีกนานแค่ไหน เพราะสิ่งที่เธอจับต้องมันอยู่ตอนนี้ บางเบาและเปราะบางซะยิ่งกว่าแก้วใสที่จิตรกรกำลังบรรจงเป่าให้ขึ้นรูปซะอีก แต่ไม่ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร เธอก็ขอทำวันนี้ตอนที่ยังได้อยู่ข้างๆ เขาให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้หญิงอย่างเธอจะทำได้ “ไม่ต้องห่วงหรอก เรายังมีเวลาชดใช้กรรมร่วมกันอีกนาน หรือไม่...ก็จนกว่าพ่อและแม่ผมจะไม่มีแรงพอที่จะมาบงการชีวิตผมแล้วนั่นแหละ ผมและคุณถึงจะเป็นอิสระจากกัน” อุรัตน์นรินทร์เลือกที่จะเงียบ และไม่โต้เถียงหรือสร้างประเด็นอะไรขึ้นมาอีก เพราะถึงแม้ปราปต์จะเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึม จริงจัง แต่คำพูดของเขาก็เปรียบเสมือนใบมีดที่อาบไว้ด้วยยาพิษเสมอ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้วาจาหรือน้ำเสียงที่รุนแรง แต่มันกลับทำให้คนฟังเจ็บร้าวเหมือนโดนมีดกรีดเข้าไปในอก “ค่ะ พี่ปราปต์ไม่จำเป็นต้องย้ำ อินก็รู้สถานะของตัวเองดี ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่อินเองก็คงจะเป็นแค่คนแปลกหน้าของพี่เท่านั้น” อุรัตน์นรินทร์กำลังกระชับปมผ้าเช็ดตัวที่ตนเองเพิ่งจะควานหาเจอจากปลายเตียงให้แน่นขึ้น เพื่อที่เธอจะได้ลุกไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่โดยที่ไม่อุจาดแก่สายตาคนมองนัก... คงต้องโทษเขานั่นแหละ ที่ทำให้เธอไม่ได้แม้แต่ใส่ชุดนอนตามปกติ วันนี้ไม่รู้ปราปต์เป็นอะไร พอเปิดประตูเข้ามาในห้องได้ คนเอาแต่ใจกลับตรงเข้ามาโอบเธอจากทางด้านหลัง ก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตาซุกไซ้ซอกคอซ้ายทีขวาทีอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ยอมพูดจาอะไรสักคำ แต่ก่อนที่อุรัตน์นรินทร์จะได้ลุกออกไปอย่างที่บอก อยู่ๆ กลับต้องชะงักจากคำพูดของคนเป็นสามีกะทันหัน “คุณยังกินยาคุมอยู่หรือเปล่า” ‘ยาคุม’ คือสิ่งเดียวที่เขากังวล และไม่ลืมที่จะกำชับเธออยู่ทุกวันตั้งแต่แต่งงานกันมา... พอเริ่มปรับรับกับอารมณ์ที่ตีรวนให้ตัวเองรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ลึกๆ ได้ ไม่นานอุรัตน์นรินทร์จึงตอบคำถามให้เขาได้คลายกังวล “ค่ะ ยังทานอยู่ อินรู้ว่าพี่ไม่อยากมีลูกกับอิน” ในใจหญิงสาวภาวนาขออย่าให้สามีพูดหรือถามอะไรต่ออีกเลย แค่นี้... แค่ที่เคยคิดว่าชินชาต่อความเจ็บปวดจนไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นน้ำตาให้ใครได้เห็นอีกแล้ว อยู่ๆ มันกลับจวนเจียนจะไหลออกมาให้เธอได้ขายหน้าอีกจนได้ แม้จะเคยหลอกตัวเองอยู่หลายครั้งหลายหนว่าอาจจะมีสักวันที่เขาจะนึกรักหรือชอบเธอขึ้นมาบ้าง แล้วอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นของเราด้วยกัน แต่ตอนนี้อะไรๆ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเวลาไม่ช่วยอะไรเลย อุรัตน์นรินทร์ไม่รอให้เขาได้พูดอะไรอีก เธอรีบเลี่ยงออกมา เพื่อจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงไปยังชั้นล่าง เพื่อทำในสิ่งที่บอกเขาไว้แต่แรก ไม่ถึงสิบนาทีให้หลังอุรัตน์นรินทร์ก็นำนมอุ่นร้อนหนึ่งแก้วที่เธอทำเองมาให้คนเป็นสามีอย่างเช่นทุกคืน เพราะถึงแม้ปราปต์จะเป็นคนที่ต้องดื่มนมเป็นประจำ แต่ช่วงแรกๆ ที่เธอแต่งงานกับเขา หญิงสาวยังสังเกตเห็นว่านมที่แม่บ้านนำมาให้ทุกคืนจะเหลือตลอด เธอยังเคยลองถามไปว่าทำไมไม่ยอมทานให้หมด ปราปต์พูดแค่ว่า กินมากๆ แล้วมันคลื่นไส้ เธอเลยลองเปลี่ยนยี่ห้อ หรือชนิดของนมดู ปรากฏว่าผลของมันก็เหมือนเดิม คือเขาดื่มมันไม่หมด จนสุดท้ายเธอได้ลองนำน้ำหวานกลิ่นมะลิผสมลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว แต่เธอจำได้ว่าปราปต์ไม่ชอบทานของหวานจึงผสมมันลงไปแค่ให้พอได้กลิ่นอ่อนๆ เท่านั้นผลของมันออกมาดีเกินคาด เพราะนอกจากสามีจะดื่มมันจนหมดแล้ว ทุกคืนเขายังเรียกหามันตอนที่ต้องนั่งทำงานดึกๆ แทนที่จะดื่มแต่กาแฟเหมือนเคย ซึ่งอุรัตน์นรินทร์ไม่ลืมที่จะกำชับแม่บ้านว่าถ้าเมื่อใดที่เขาต้องการให้ใครมาเรียกเธอได้ตลอด เดี๋ยวเธอจะเป็นคนจัดการเอง โดยที่ปราปต์ไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นคนทำ เพราะเขาไม่เคยถาม แม้จะเห็นออกบ่อยครั้งว่าเธอเป็นคนที่ยกมันขึ้นมาเอง และเธอเองก็มองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องบอกเขา ใครจะทำมันก็เหมือนกันขอแค่เขาชอบก็พอ “ดึกป่านนี้แม่พิมพ์ยังไม่นอนอีกหรือไง คุณเองก็ไม่น่าไปกวนแก”ปราปต์คิดว่าหญิงสาวไปเรียกแม่บ้าน หรือเด็กรับใช้คนอื่นขึ้นมาใช้งานตอนกลางดึกจึงติติงไปตามสมควร อุรัตน์นรินทร์ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบ คงเพียงแค่อยากจะตำหนิเธอก็เท่านั้น หญิงสาวเลยเดินเลี่ยงไปที่เตียงตรงฝั่งของตน กำลังจะดึงผ้าห่มนวมผืนหนาขึ้นมาคั่นไว้ที่อกพร้อมล้มตัวลงนอนอยู่แล้ว แต่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “พรุ่งนี้พี่ปราปต์อย่าลืมนะคะ เรามีนัดทานข้าวที่บ้านใหญ่กัน”  “คุณไปคนเดียวไม่ได้เหรอ พรุ่งนี้ผมมีนัด” ปราปต์หันหลังกลับมาพร้อมแก้วนมในมือที่หมดไปเรียบร้อยแล้ว ใจจริงอุรัตน์นรินทร์อยากตอบเขาไปว่าไอ้ลำพังตัวเธอน่ะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ผู้ใหญ่ท่านจะคิดยังไง วันรวมญาติของครอบครัวแท้ๆ ซึ่งจะมีแค่เดือนละสองครั้งเท่านั้น ทุกคนมากันพร้อมหน้า แต่เขากลับปล่อยให้เธอไปคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ส่วนตัวเขามีหน้าที่แค่ไปรับเธอกลับ “เมื่อตอนต้นเดือนพี่ก็ไม่ได้ไปทีนึงแล้ว อินกลัวคุณปู่คุณย่าถามหาพี่ อินไม่รู้ว่าจะตอบท่านว่ายังไงดี” “ก็ตอบเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ ว่าผมติดราชการด่วนหรืออะไรก็ได้แล้วแต่คุณ” เวลาที่ถึงวันรวมญาติของครอบครัว ‘ปรากรณ์’ ทีไร หญิงสาวมีอันให้ต้องลำบากใจเกือบจะทุกครั้งไป ถ้าไม่ติดตรงที่พ่อแม่ของเขา หรือแม้แต่คุณปู่คุณย่าเองทั้งรักและเอ็นดูในตัวเธอมาก อุรัตน์นรินทร์คงขอเลี่ยงไม่ไปเป็นแน่ เพราะการที่ต้องนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวพี่ชาย และพี่สาวของปราปต์ ที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก ซึ่งทั้งคู่มีลูกครอบครัวละสองไปเรียบร้อยแล้ว มันทำให้หญิงสาวอดที่จะรู้สึกลำบากใจไม่ได้ เหตุผลหลักก็เพราะตัวเธอเองที่แต่งเข้ามาเป็นสะใภ้คนเล็กในบ้านปรากรณ์ จะครบปีอยู่เดือนหน้านี้ แต่วี่แววที่เธอจะท้องอย่างที่ทุกคนหวังกลับไม่มีเลย เพราะว่าปราปต์จะไม่ยอมให้เธอท้องเด็ดขาด...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
6.6K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.2K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.2K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.4K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook