“สวัสดีครับ กัปตัน พี่ซัน พี่ขุนเขา คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ? ท่าทางน่าสนุก”
“ไม่มีอะไร ไม่มีเรียนแล้วเหรอทำไมวันนี้มาเร็ว?” ซันเอ่ยถามน้องรหัส แต่หางตาเหลือบไปมองเพลิงซึ่งตอนนี้นั่งยิ้มอยู่อีกมุมของห้อง
“ไม่มีแล้วครับว่างตลอดทั้งบ่ายเลย แล้วพี่คิมหันต์เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก่อนจะห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองก่อนดีไหม?”
“ไอ้เพลิง! มึงหุบปาก! ไม่ต้องปล่อยหมาออกมาวิ่งเล่น”
ซันถลึงตาดุ เตือนไม่ให้เพลิงพูดอะไรไปมากกว่านี้ ขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะได้อ้าปากเถียง ก็มีเสียงกลุ่มคนเดินคุยกันเข้ามาพอดี ทำให้บทสนทนาของพวกเขาจบลงเพียงเท่านั้น เมื่อสมาชิกทีมเข้ามาจนครบการประชุมวางแผนจึงเริ่มขึ้น
..อีกด้าน
@ร้านนมปั่น ในมหาลัย
“เมื่อวานไปไหนมา? ฉันกับพี่ตั้มโทรหาตั้งหลายสาย แถมไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่”
“ห๊ะ! ไปไหน? เปล่านิไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ฉันก็อยู่ในห้องตลอดนะ”
“เหรอ~ แล้วที่ห้องเรียน เมื่อกี้! พี่เพลิงมาหาทำไม?”
“ก็แค่เอาของมาคืน ลืมไว้ที่สนามเมื่อวาน”
“อย่ามาโกหก บอกมาเดี๋ยวนี้เมื่อคืนไปกับพี่เพลิงมาใช่ไหม?”
น้ำเสียงจริงจัง หรี่ตามองจ้องใบหน้าขาวเล็กอย่างจับผิด แม้ว่าเธอจะพยายามปฎิเสธแต่อีกฝ่ายกลับยิ่งเค้นถามหนัก ไม่ต่างจากนักโทษที่ถูกสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น
“แหวะ! หมั่นใส้อีพวกที่ชอบทำตัวไร้เดียงสา แต่มารยาร้ายกว่ากระหรี่ใต้ต้นมะขามซะอีก”
“อย่างว่าแหละ วิ่งแจ้นหาทางเข้าใกล้ผู้ชายขนาดนั้น คงอยากได้จนตัวสั่น”
“ถ้าฉันเป็นผู้ชาย มานอนอ้าขาให้ขนาดนั้น ฉันก็เอานะ”
“แต่ฉันว่าพี่เพลิงเขาก็แค่ฟันแล้วทิ้งไม่ได้สนใจหรอก”
“จะสนไม่สนไม่รู้ แต่ที่รู้คือเขาเป็นผัวกู ถ้าใครคิดจะยุ่งกับผัวกู กูไม่เอาไว้แน่”
บทสนทนาของกลุ่มนักศึกษาสาวรุ่นพี่โต๊ะข้างๆ ทำให้สองสาวนั่งฟังอยู่เงียบๆ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อมาตรงๆ แต่ทั้งคำพูด น้ำเสียงและสายตาที่พวกเธอเหล่านั้นมองมา ก็ทำให้ทั้งคู่รู้ได้ทันที
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าที่พวกพี่กำลังพูดถึงใครคะ?” จุ๊บแจงยืนขึ้น หันไปถามด้วยใบหน้ายิ้ม
“จุ๊บแจง อย่า”
“อุ๊ย!! มีคนร้อนตัวซะแล้ว แต่ เอ๊ะ! หน้าตาอย่างน้องพี่เพลิงคงเอาไม่ลง”
กลุ่มนักศึกษาสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆหัวเราะคิกคักหลังมองจุ๊บแจงด้วยหางตาเหมือนกำลังดูถูก
“หน้าตาแบบพี่ กัปตันก็คงไม่เอาเหมือนกัน จะว่าไปจุ๊บแจงสวยกว่าพวกพี่ๆ ตั้งเยอะนะคะ”
จากตอนแรกห้ามเพื่อนเพราะกลัวมีเรื่องใหญ่โตแต่พอได้ยินคำพูดดูถูก สาวน้อยตัวเล็กก็ถึงกับโมโหขาดลืมสติขึ้นมาทันที
“มึงว่าพวกกูเหรอ? กูจะบอกมึงให้รู้ไว้ว่ากูนี่แหละเมียพี่เพลิง อยู่ให้ห่างผัวกูไม่อย่างนั้น กูเอามึงตายแน่!”
“บอกว่าเขาเป็นผัว ถามเขาแล้วเหรอว่าเขาจะเอาหรือเปล่า?”
“อีเด็กนี่! ปากดีนักนะ”
เพี้ยะ!!
กรี้ดดด
เพี้ยะ!
“ปล่อยนะ อีกระหรี่ จับไว้ไว้สิวะ”
ตุบ!!
ปี๊ดๆ ปี๊ดๆ
หยุด! หยุด!
เสียงนกหวีดถี่สลับกับเสียงตะโกนห้ามดังมาแต่ไกล หวังให้กลุ่มนักศึกษาสาวแยกออกจากกัน หากแต่ไม่ได้เป็นอย่าที่คิด เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงห้ามดังเข้ามาใกล้ สาวตัวเล็กที่กำลังนั่งทับอยู่บนตัวของนักศึกษารุ่นพี่ก็ยิ่งออกแรงจิกผม หง่างฝ่ามือตบใส่ใบหน้าขาวถี่รัว จนกระทั่ง รปภ. เข้ามาดึงร่างของเธอให้ลุกขึ้น
“อีบ้า ฮื้อ~~
แม้จะได้ยินคำด่าจากคู่กรณี แต่เมื่อเห็นสภาพใบหน้าบวมช้ำ ผมเผ้ายุ่มเหยิงซึ่งเกิดจากฝีมือของตัวเองคำด่าพวกนั้นก็เป็นเพียงลมปากไม่ได้มีผลกับเธอเลยสักนิด
“สมน้ำหน้า”
“หยุด! พวกคุณตามผมไปที่ฝ่ายการเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงเข้มดุ ก่อนจะเดินนำกลุ่มนักศึกษาสาวตรงไปที่ตึกขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
..17.30 น
“วันนี้ไม่ไปสนามฟุตบอลเหรอ?”
“ไม่อ่ะ ไม่อยากไป”
สองเพื่อนรักเดินมาตามถนนภายในมหาลัย หลังนั่งฟังอาจารย์ของฝ่ายการบ่นนานกว่าสองชั่วโมง
“จะเล่าให้ฉันฟังได้หรือยัง?” จุ๊บแจงหยุดเดินกอดอกมองเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง
สาวน้อยนิ่งเงียบคิดทบทวนอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟังดีหรือไม่ เพราะด้วยนิสัยขี้โวยวายขี้บ่นการนั่งฟังเสียงแหลมเล็กของเธอนานกว่าชั่วโมงก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
..สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจยอมเล่าให้จุ๊บแจงฟัง เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่สนใจและรับฟังปัญหาของฉันมาตลอด
“แล้วพี่ตั้มล่ะจะทำยังไง? เธอไม่สนใจความรู้สึกพี่เขาบ้างหรือไง?”
“สนใจสิ แต่เรื่องเมื่อคืนฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นสักหน่อย คิดซะว่ามันเป็นแค่วันไนท์แล้วกัน”
“เธอจะวันไนท์กับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับพี่เพลิง เขาเป็นทั้งรุ่นพี่ของพี่ตั้ม เป็นทั้งกัปตันทีมฟุตบอล สาวๆในมหาลัยต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น มีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง?”
จุ๊บแจงพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด สีหน้าของเธอแสดงถึงความไม่พอใจราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของตัวเองก็ไม่ปาน
“ชั่งมันเถอะ ยังไงเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว อีกอย่างฉันคงไม่กลับไปที่ชมรมแล้ว”
“แต่พี่ตั้มยังอยู่ในทีมไม่ใช่เหรอ?”
“อืม ยังอยู่ แต่จบการแข่งรอบนี้ก็คงลาออก เพราะฉันเราสองคนตกลงจะคบกัน”
“ใครจะลาออก ใครจะคบกับใคร?”
0.0!!
รอยยิ้มหวานบนใบหน้าค่อยๆจางหาย เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร หัวใจดวงน้อยเต้นถี่ ยิ่งเสียงฝีดังเข้ามาใกล้หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกมาดิ้นอยู่นอกอก
กึก กึก กึก!
“ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ?”
ตอนนี้ร่างนั้นมายืนอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็ก ขณะที่เธอได้แต่ยืนตัวแข็งก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเอง
“พี่เพลิง ซะ ซ้อมเสร็จแล้วเหรอคะ พอดีวันนี้พระพายไม่ค่อยสบาย จุ๊บแจงกำลังจะพากลับไปพักค่ะ”
“เหรอ? เธอไม่สบาย.. ตรงไหนล่ะ? หื้ม!” ใบหน้าคมก้มต่ำมองใบหน้าขาวซีด รอฟังคำตอบจากปากเล็ก
“ปวดหัวค่ะ พระพายบอกว่าปวดหัวจุ๊บแจงกำลังจะขอพากลับไปพักค่ะ”
จุ๊บแจงจับข้อมือดึงร่างแข็งทื่อเลี่ยงออกไปจากตรงนั้น แต่..
หมับ!
“เดี๋ยว!”
ข้อมือเล็กถูกดึงกลับ พร้อมเสียงเรียก
“พอดีเลย ทุกคนกำลังจะไปเยี่ยมไอ้คิมที่โรงพยาบาล งั้นเธอก็ไปให้หมอตรวจหน่อยแล้วกัน”
ห๊ะ!!
“ไม่ ไม่เป็นไรคะ กลับไปพักสักหน่อย เดี๋ยวก็คงดีขึ้น”
คนตัวเล็กรีบปฏิเสธ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจขณะที่อีกฝ่ายกลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า
“หึ พูดได้แล้วเหรอ? งั้นก็ตอบมา ว่า ใครจะลาออก แล้วใครจะคบกัน?”
“ทะ ทำไมต้องตอบคะ ไม่เกี่ยวกับกัปตันสักหน่อย”
“แน่ใจเหรอ ว่าไม่เกี่ยว?” คิ้วหนาเลิกสูง มุมปากกระตุกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ทำให้คนตัวเล็กเย็นไปถึงกระดูก
“จุ๊บแจงไปด้วยกันนะ”
“ไม่ได้”
“ทำไมละคะ?”
“แค่สมาชิกในทีม ไม่เกี่ยวกับคนนอก” น้ำเสียงเย็นชา ราวกับตอนนี้มีเพียงเธอกับเขาเท่านั้น
“พี่ตั้มล่ะ? พระพายจะไปกับพี่ตั้ม”
ชายหนุ่มหันกลับมามองด้วยความไม่พอใจ