ตอนที่11 ไร้เดียงสา?

1357 Words
แสงของวันใหม่รอดผ่านกลีบม่านกระทบร่างเปลือยเปล่า คนตัวเล็กซบแนบอกท่อนแขนใหญ่โอบกอดแน่น ลมหายใจแผ่ว ไร้วี่แววจะตื่นจากห้วงของความฝัน อืออออ~~ =.= “หายใจ ไม่ออก” เสียงงัวเงีย มือเล็กดันท่อนแขนใหญ่ออกจากตัวแต่ความรู้สึกอึดอัดบวกกับแรงกอดรัดกลับมากขึ้น “ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงกระซิบปลุกให้คนตัวเล็กตื่นจากความฝันเงยหน้ามองเจ้าของเสียง “กะ กัปตัน?!” “แล้วคิดว่าเป็นใคร? บอกแล้วไงว่าให้เธอพี่” Rrrr~~~ เสียงมือถือเครื่องเล็กดังขัดจังหวะ “จุ๊บแจง มีอะไรหรือเปล่า?” ‘พระพายตอนนนี้เธอไหน กี่โมงกี่ยามแล้ววันนี้มีสอบย่อยลืมไปแล้วเหรอ?’ เสียงแหลมเล็กดังรอดออกมาจากปลายสายกระตุ้นให้สาวน้อยตื่นตัวเด้งลุกขึ้นนั่ง “สอบ!! ลืมไปเลย ตายแน่ ๆ แค่นี้นะเดี๋ยวฉันจะรีบไป” ผมนั่งมองท่าทางลุกลี้ลุกล้นของผู้หญิงตัวเล็ก ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนในห้อง “จะรีบไปไหน?” “ไปสอบนะสิ ถามได้” มือถือถูกหยิบขึ้นมากดโทรออกด้วยท่าทางใจเย็นต่างจากอีกคนที่วิ่งวุ่นไปทั่วห้องเก็บข้าวของตัวเองใส่กระเป๋า แกร็ก!! แต่ยังไม่ทันที่ปลายสายจะกดรับผู้หญิงตัวเล็กก็วิ่งหายออกไปจากห้องเสียแล้ว ..คณะโรงแรมและการท่องเที่ยว ตึกๆ ตึกๆ ทางเดินเงียบกริบมีเพียงเสียงจากฝีเท้าเล็กดังถี่สลับกับเสียงหายใจหอบ ใบหน้าขาวอาบพรมไปด้วยเม็ดเหงื่อเสียงหัวใจเต้นรัว “ขะ ขออนุญาตค่ะ” ทุกคนหันมามองนักศึกษาตัวเล็ก ก่อนจะหันไปมองอาจารย์ที่นั่งอยู่หน้าห้อง “มัวยืนทำอะไร มาเอาข้อสอบแล้วไปนั่งทำซะ” คำพูดเรียบง่ายยิ่งทำให้คนที่นั่งอยู่ในห้องมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ เพราะถึงแม้เป็นการสอบย่อยแต่การสอบก็เริ่มมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว อาจารย์ประจำวิชากลับไม่ดุด่าหรือตักเตือนเธอเลยสักคำ สาวน้อยเดินไปหยิบเอาข้อสอบแล้วเข้าไปนั่งเงียบๆด้วยความแปลกใจไม่ต่างจากคนในห้อง ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตครับ อาจารย์” ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหล่าเดินเข้ามาในห้อง “มีอะไรหรือเปล่า? คุณไม่ได้เรียนวิชาผมหนิ” “ผมเอาของมาให้..” สายตาคมมองไปที่แถวบนของที่นั่ง การกระทำของเขาดึงดูดให้สาวๆภายในห้องหันมองไปตามๆกัน “หาเรื่องให้ฉันใช่ไหมเนี่ย?” สาวน้อยพูดกับตัวเอง ก่อนจะเดินก้มหน้าลงมาหาชายตัวโตท่ามกลางสายตาของนักศึกสาวที่กำลังจับจ้องมองเธอด้วยความอิจฉา “กัปตันมาทำไมคะ?” “บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ เอานี้ กินซะ” ยาเม็ดเล็กยัดใส่มือของหญิงสาวพร้อมขวดน้ำ เหมือนกำลังบังคับให้เธอกินมัน “ยาอะไร?” “หึ ผู้หญิงมีเป็นร้อย เธอไม่ดีพอให้น้ำเชื้อของฉันฝั่งเข้าไปในมดลูกหรอก” กรามเล็กบีบแน่นหยิบเม็ดยาเข้าปากกลืนลงท้องแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิมทันที ผมกลับมาที่สโมสรมองดูตารางการแข่งบนกระดานสีขาวภายในห้อง ทั้งที่ไม่ได้คิดแต่ใบหน้ากับเหตุการณ์เมื่อคืนกลับผุดเข้ามาในหัวของผมไม่ยอมหยุด “ไอ้เพลิง เมื่อคืนมึงเทพวกกู” ขุนเขาเดินเข้ามาในห้อง โดยมีภาคินกับซันตามเข้ามาติดๆ “เมื่อคืนมึงไปไหนมา? ไอ้คิมยังอยู่โรงพยาบาลมึงไม่คิดจะโผล่หัวไม่เยี่ยมมันหน่อยเหรอ?” “ทำไมต้องไป อยู่กับหมอกับพยาบาลก็ถูกแล้ว ถึงกูไปนั่งเฝ้าข้างเตียง มันก็ลุกขึ้นมาเดินไม่ได้อยู่ดี” “ไอ้เพลิง!” “ไอ้คิน ๆ ใจเย็นๆ ก่อน ก็จริงอย่างที่ไอ้เพลิงมันพูดเดี๋ยววันนี้ค่อยไปเยี่ยมก็ได้” ซันรีบคว้าแขนดึงให้เพื่อนนั่งลง “มีเวลาไปเอากับผู้หญิง แต่ไม่มีเวลาไปเยี่ยมเพื่อน ถ้าไอ้คิมรู้มันคงรู้สึกแย่น่าดู” “มึงจะหุบปากเองหรืออยากให้กูช่วยปิดปาก ไอ้ภาคิน” เสียงเค้นในลำคอ มองหน้าภาคินที่ตอนนี้มีอารมณ์ความโกรธไม่แพ้กัน “พอได้แล้ว พวกมึงเป็นเชี่ยอะไรกันวะ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทะเลาะกัน” “มึงก็รู้ว่ามันโกรธกูเรื่องอะไร แค่ผู้หญิงคนเดียว หึ” ผมหันไปยิ้มให้ขุนเขา ก่อนจะหันมามองหน้าไอ้ภาคินอีกครั้ง “จริงสิ พวกมึงโอนเข้าบัญชีกูด้วยล่ะ หึ” คำพูดพร้อมรอยยิ้มกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นมัว ไม่ต่างจากราดน้ำมันลงในกองไฟ ไอ้เพลิง! ผลัวะ!! หมัดใหญ่พุ่งเข้าใส่ใบหน้าคมจนร่างถลาเซไปตามแรงเหวี่ยง “เดี๋ยว ไอ้คิน!!” “ไอ้คิน หยุดก่อน” “ปล่อยกู ไอ้เชี่ยเพลิง กูจะเอาเลือดมึงมาอาบตีนกู” ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ ซันกับขุนเขา ดึงภาคินให้ถอยออกมาจากชายตัวโตที่ตอนนี้หัวเราะเสียงดังไม่ต่างจาคนบ้าไร้สติ “มึงหัวเราะอะไรวะไอ้เพลิง?” “มึงสองคนเป็นบ้าอะไร กัดกันอย่างกับหมา เกิดอะไรขึ้น?” ซันถามเสียงดัง สีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะหันไปมองหน้าขุนเขาที่ดูเหมือนจะรู้เรื่อง “ไอ้คินมันก็แค่ทำใจไม่ได้ ที่แพ้ให้กู” “มึงหุบปากไปเลยไอ้เพลิง มึงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย” “มึงไปถามเด็กคนนั้นดูสิ ว่ากูเป็นผู้ชายหรือเปล่า หึ” สายตาที่ภาคินกำลังมองผมในตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันโกรธผมมากแค่ไหน แต่มิตรภาพระหว่างพวกเราจะไม่พังลงเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวแน่ ๆ อย่างน้อยผมก็คิดแบบนั้น “ถ้ามึงยังไม่หยุดพูด รับรองว่าหมัดไปมันจะหนักกว่าเดิมแน่” “กูก็แค่เอาสนุกๆ มึงจะซีเรียสทำไม มึงกูรู้ว่ากูไม่ได้จริงจังหรือว่าสนใจ ทุกอย่างเป็นแค่เกมส์” “แต่กูบอกมึงแล้ว ว่ากูชอบพระพาย” “งั้นมึงก็ไปจีบสิ กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” บรรยากาศภายในห้องถูกความเงียบเข้าปกคลุม ทว่าสายตาที่ทั้งคู่มองกันกับเต็มไปด้วยเสียงฟาดฟันดุเดือด ขณะที่ซันกับขุนเขาก็ได้แต่นั่งมองเงียบๆเท่านั้น เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ตอนนี้ภาคินเริ่มใจเย็นลงบางแล้ว แต่ข้างยังมีขุนเขากับซันค่อยนั่งประกบอยู่ไม่ห่าง “พวกมึง เล่าให้กูฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” ซันถามขึ้นด้วยความสงสัย แม้จะพอรู้อยู่บ้างแต่รายละเอียดก็ยังต้องให้คู่กรณีเป็นคนอธิบาย “มึงยังจำเรื่องที่พวกเราพนันกันได้ไหม? เมื่อคืนกูจัดการแล้ว” “มึงอย่าบอกนะว่าคนที่เอากับมึงมื่อคืน.. เป็น..” เอ่อ! เชี่ย~~ ซันสบทในลำคอด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันไปมองขุนเขากับภาคิน ที่ยังนั่งนิ่งเหมือนรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว “หึ แพ้มึงอีกจนได้ กูจีบตั้งนานแต่มึงเสือกคาบไปแดกอีกแล้ว แม่ง!” ติ๊ง!! ติ๊ง!! ข้อความแจ้งยอดโอนเข้าบัญชี เมื่อมองดูก็เห็นว่าเป็นยอดโอนมาจากซันกับขุนเขา “แล้วมึงละไอ้คิน โอนมาสิ กูรออยู่” เออ! ติ๊ง!! ผมยิ้มมองตัวเล็กในบัญชี มันได้มากแต่มันเป็นความสะใจที่เป็นผู้ชนะ “แล้วมึงจะเอายังไงกับพระพาย?” ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ “เอาอะไร? ก็แค่เอากันสนุกๆ เอาเสร็จก็แค่แยกย้าย ยังไงกูก็ไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย” “กูหมายถึง ต้องเจอหน้ากันทุกวัน แล้วกฎที่มึงตั้งขึ้นอีก มึงจะทำยังไง? แม่ง! กวนตีนฉิบหาย” ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเหมือนก่อนหน้านี้ กึก กึก กึก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากพูด ก็มีเสียงใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในห้องทำให้พวกผมต้องหยุดบทสนทนาไว้เท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD