แสงของวันใหม่รอดผ่านกลีบม่านกระทบร่างเปลือยเปล่า คนตัวเล็กซบแนบอกท่อนแขนใหญ่โอบกอดแน่น ลมหายใจแผ่ว ไร้วี่แววจะตื่นจากห้วงของความฝัน
อืออออ~~
=.=
“หายใจ ไม่ออก”
เสียงงัวเงีย มือเล็กดันท่อนแขนใหญ่ออกจากตัวแต่ความรู้สึกอึดอัดบวกกับแรงกอดรัดกลับมากขึ้น
“ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงกระซิบปลุกให้คนตัวเล็กตื่นจากความฝันเงยหน้ามองเจ้าของเสียง
“กะ กัปตัน?!”
“แล้วคิดว่าเป็นใคร? บอกแล้วไงว่าให้เธอพี่”
Rrrr~~~
เสียงมือถือเครื่องเล็กดังขัดจังหวะ
“จุ๊บแจง มีอะไรหรือเปล่า?”
‘พระพายตอนนนี้เธอไหน กี่โมงกี่ยามแล้ววันนี้มีสอบย่อยลืมไปแล้วเหรอ?’
เสียงแหลมเล็กดังรอดออกมาจากปลายสายกระตุ้นให้สาวน้อยตื่นตัวเด้งลุกขึ้นนั่ง
“สอบ!! ลืมไปเลย ตายแน่ ๆ แค่นี้นะเดี๋ยวฉันจะรีบไป”
ผมนั่งมองท่าทางลุกลี้ลุกล้นของผู้หญิงตัวเล็ก ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนในห้อง
“จะรีบไปไหน?”
“ไปสอบนะสิ ถามได้”
มือถือถูกหยิบขึ้นมากดโทรออกด้วยท่าทางใจเย็นต่างจากอีกคนที่วิ่งวุ่นไปทั่วห้องเก็บข้าวของตัวเองใส่กระเป๋า
แกร็ก!!
แต่ยังไม่ทันที่ปลายสายจะกดรับผู้หญิงตัวเล็กก็วิ่งหายออกไปจากห้องเสียแล้ว
..คณะโรงแรมและการท่องเที่ยว
ตึกๆ ตึกๆ
ทางเดินเงียบกริบมีเพียงเสียงจากฝีเท้าเล็กดังถี่สลับกับเสียงหายใจหอบ ใบหน้าขาวอาบพรมไปด้วยเม็ดเหงื่อเสียงหัวใจเต้นรัว
“ขะ ขออนุญาตค่ะ”
ทุกคนหันมามองนักศึกษาตัวเล็ก ก่อนจะหันไปมองอาจารย์ที่นั่งอยู่หน้าห้อง
“มัวยืนทำอะไร มาเอาข้อสอบแล้วไปนั่งทำซะ” คำพูดเรียบง่ายยิ่งทำให้คนที่นั่งอยู่ในห้องมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ เพราะถึงแม้เป็นการสอบย่อยแต่การสอบก็เริ่มมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว อาจารย์ประจำวิชากลับไม่ดุด่าหรือตักเตือนเธอเลยสักคำ
สาวน้อยเดินไปหยิบเอาข้อสอบแล้วเข้าไปนั่งเงียบๆด้วยความแปลกใจไม่ต่างจากคนในห้อง
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตครับ อาจารย์”
ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหล่าเดินเข้ามาในห้อง
“มีอะไรหรือเปล่า? คุณไม่ได้เรียนวิชาผมหนิ”
“ผมเอาของมาให้..” สายตาคมมองไปที่แถวบนของที่นั่ง การกระทำของเขาดึงดูดให้สาวๆภายในห้องหันมองไปตามๆกัน
“หาเรื่องให้ฉันใช่ไหมเนี่ย?”
สาวน้อยพูดกับตัวเอง ก่อนจะเดินก้มหน้าลงมาหาชายตัวโตท่ามกลางสายตาของนักศึกสาวที่กำลังจับจ้องมองเธอด้วยความอิจฉา
“กัปตันมาทำไมคะ?”
“บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ เอานี้ กินซะ”
ยาเม็ดเล็กยัดใส่มือของหญิงสาวพร้อมขวดน้ำ เหมือนกำลังบังคับให้เธอกินมัน
“ยาอะไร?”
“หึ ผู้หญิงมีเป็นร้อย เธอไม่ดีพอให้น้ำเชื้อของฉันฝั่งเข้าไปในมดลูกหรอก”
กรามเล็กบีบแน่นหยิบเม็ดยาเข้าปากกลืนลงท้องแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิมทันที
ผมกลับมาที่สโมสรมองดูตารางการแข่งบนกระดานสีขาวภายในห้อง ทั้งที่ไม่ได้คิดแต่ใบหน้ากับเหตุการณ์เมื่อคืนกลับผุดเข้ามาในหัวของผมไม่ยอมหยุด
“ไอ้เพลิง เมื่อคืนมึงเทพวกกู”
ขุนเขาเดินเข้ามาในห้อง โดยมีภาคินกับซันตามเข้ามาติดๆ
“เมื่อคืนมึงไปไหนมา? ไอ้คิมยังอยู่โรงพยาบาลมึงไม่คิดจะโผล่หัวไม่เยี่ยมมันหน่อยเหรอ?”
“ทำไมต้องไป อยู่กับหมอกับพยาบาลก็ถูกแล้ว ถึงกูไปนั่งเฝ้าข้างเตียง มันก็ลุกขึ้นมาเดินไม่ได้อยู่ดี”
“ไอ้เพลิง!”
“ไอ้คิน ๆ ใจเย็นๆ ก่อน ก็จริงอย่างที่ไอ้เพลิงมันพูดเดี๋ยววันนี้ค่อยไปเยี่ยมก็ได้” ซันรีบคว้าแขนดึงให้เพื่อนนั่งลง
“มีเวลาไปเอากับผู้หญิง แต่ไม่มีเวลาไปเยี่ยมเพื่อน ถ้าไอ้คิมรู้มันคงรู้สึกแย่น่าดู”
“มึงจะหุบปากเองหรืออยากให้กูช่วยปิดปาก ไอ้ภาคิน” เสียงเค้นในลำคอ มองหน้าภาคินที่ตอนนี้มีอารมณ์ความโกรธไม่แพ้กัน
“พอได้แล้ว พวกมึงเป็นเชี่ยอะไรกันวะ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทะเลาะกัน”
“มึงก็รู้ว่ามันโกรธกูเรื่องอะไร แค่ผู้หญิงคนเดียว หึ” ผมหันไปยิ้มให้ขุนเขา ก่อนจะหันมามองหน้าไอ้ภาคินอีกครั้ง
“จริงสิ พวกมึงโอนเข้าบัญชีกูด้วยล่ะ หึ”
คำพูดพร้อมรอยยิ้มกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นมัว ไม่ต่างจากราดน้ำมันลงในกองไฟ
ไอ้เพลิง!
ผลัวะ!!
หมัดใหญ่พุ่งเข้าใส่ใบหน้าคมจนร่างถลาเซไปตามแรงเหวี่ยง
“เดี๋ยว ไอ้คิน!!”
“ไอ้คิน หยุดก่อน”
“ปล่อยกู ไอ้เชี่ยเพลิง กูจะเอาเลือดมึงมาอาบตีนกู”
ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ
ซันกับขุนเขา ดึงภาคินให้ถอยออกมาจากชายตัวโตที่ตอนนี้หัวเราะเสียงดังไม่ต่างจาคนบ้าไร้สติ
“มึงหัวเราะอะไรวะไอ้เพลิง?”
“มึงสองคนเป็นบ้าอะไร กัดกันอย่างกับหมา เกิดอะไรขึ้น?” ซันถามเสียงดัง สีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะหันไปมองหน้าขุนเขาที่ดูเหมือนจะรู้เรื่อง
“ไอ้คินมันก็แค่ทำใจไม่ได้ ที่แพ้ให้กู”
“มึงหุบปากไปเลยไอ้เพลิง มึงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
“มึงไปถามเด็กคนนั้นดูสิ ว่ากูเป็นผู้ชายหรือเปล่า หึ”
สายตาที่ภาคินกำลังมองผมในตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันโกรธผมมากแค่ไหน แต่มิตรภาพระหว่างพวกเราจะไม่พังลงเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวแน่ ๆ อย่างน้อยผมก็คิดแบบนั้น
“ถ้ามึงยังไม่หยุดพูด รับรองว่าหมัดไปมันจะหนักกว่าเดิมแน่”
“กูก็แค่เอาสนุกๆ มึงจะซีเรียสทำไม มึงกูรู้ว่ากูไม่ได้จริงจังหรือว่าสนใจ ทุกอย่างเป็นแค่เกมส์”
“แต่กูบอกมึงแล้ว ว่ากูชอบพระพาย”
“งั้นมึงก็ไปจีบสิ กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
บรรยากาศภายในห้องถูกความเงียบเข้าปกคลุม ทว่าสายตาที่ทั้งคู่มองกันกับเต็มไปด้วยเสียงฟาดฟันดุเดือด ขณะที่ซันกับขุนเขาก็ได้แต่นั่งมองเงียบๆเท่านั้น
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ตอนนี้ภาคินเริ่มใจเย็นลงบางแล้ว แต่ข้างยังมีขุนเขากับซันค่อยนั่งประกบอยู่ไม่ห่าง
“พวกมึง เล่าให้กูฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” ซันถามขึ้นด้วยความสงสัย แม้จะพอรู้อยู่บ้างแต่รายละเอียดก็ยังต้องให้คู่กรณีเป็นคนอธิบาย
“มึงยังจำเรื่องที่พวกเราพนันกันได้ไหม? เมื่อคืนกูจัดการแล้ว”
“มึงอย่าบอกนะว่าคนที่เอากับมึงมื่อคืน.. เป็น..”
เอ่อ!
เชี่ย~~
ซันสบทในลำคอด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะหันไปมองขุนเขากับภาคิน ที่ยังนั่งนิ่งเหมือนรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว
“หึ แพ้มึงอีกจนได้ กูจีบตั้งนานแต่มึงเสือกคาบไปแดกอีกแล้ว แม่ง!”
ติ๊ง!!
ติ๊ง!!
ข้อความแจ้งยอดโอนเข้าบัญชี เมื่อมองดูก็เห็นว่าเป็นยอดโอนมาจากซันกับขุนเขา
“แล้วมึงละไอ้คิน โอนมาสิ กูรออยู่”
เออ!
ติ๊ง!!
ผมยิ้มมองตัวเล็กในบัญชี มันได้มากแต่มันเป็นความสะใจที่เป็นผู้ชนะ
“แล้วมึงจะเอายังไงกับพระพาย?” ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
“เอาอะไร? ก็แค่เอากันสนุกๆ เอาเสร็จก็แค่แยกย้าย ยังไงกูก็ไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย”
“กูหมายถึง ต้องเจอหน้ากันทุกวัน แล้วกฎที่มึงตั้งขึ้นอีก มึงจะทำยังไง? แม่ง! กวนตีนฉิบหาย”
ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเหมือนก่อนหน้านี้
กึก กึก กึก
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากพูด ก็มีเสียงใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในห้องทำให้พวกผมต้องหยุดบทสนทนาไว้เท่านั้น